ตอนที่ 1183 ความเปลี่ยนแปลงในดินแดนมหาเทพ

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

การตัดสินใจ​ของ​เยี​่ย​เฟิง​ทำให้​หมิง​จื้อ​เหยี​่​ยน​โล่งใจ​ขึ้น​มา​ ​เดิมที​เขา​กังวล​ว่า​เรื่อง​ใน​อดีต​จะ​ทำให้​เยี​่ย​เฟิง​ระบาย​ความแค้น​ทั้งหมด​ที่​มี​กับ​ตระกูล​หมิง​และ​ลงโทษ​คน​เหล่านั้น​อย่าง​แสนสา​หัส

ทว่า​เขา​กลับ​เลือก​ให้​อีก​ฝ่าย​ชดใช้​โดย​การ​ขอขมา​และ​หลั่ง​เลือด​สาบาน​ว่า​จะ​ยอมจำนน​ ​สำหรับ​ตระกูล​หมิง​ ​มัน​ถือเป็น​ผลลัพธ์​ที่​ดีที​่​สุด​แล้ว

คน​ตระกูล​หมิง​ยอมรับ​ความผิด​ทั้งหมด​จาก​ใจจริง​และ​หมิง​จื้อ​เหยี​่​ยน​ก็​กล่าว​ขอโทษ​ต่อ​เยี​่ย​เฟิง​เช่นกัน​ ​กล่าว​ได้​ว่า​เรื่อง​นี้​ได้รับ​การ​คลี่คลาย​แล้ว

“​อันที่จริง​ ​บิดา​มารดา​ของ​เจ้า​อาจจะ​ยัง​ไม่​ตาย​”

หมิง​จื้อ​เหยี​่​ยน​นึก​บางอย่าง​ขึ้น​ได้​และ​กล่าว​ออก​ไป​ ​ใน​อดีต​เมื่อ​พวกเขา​โจมตี​ตระกูล​ท่าน​ตาของ​เยี​่ย​เฟิง​ ​ใน​ช่วง​สุดท้าย​ ​เยี​่ย​หลาน​พามา​รดา​ของ​เยี​่ย​เฟิง​และ​คนใน​ตระกูล​หลบหนี​ไป​ผ่าน​ทาง​ห้วง​มิติ​บางอย่าง

เวลา​ที่ผ่านมา​เนิ่นนาน​เกือบจะ​ทำให้​เขา​ลืมเลือน​เรื่อง​นี้​ไป​แล้ว​ ​ทว่า​จู่​ ​ๆ​ ​หมิง​จื้อ​เหยี​่​ยน​ก็​นึก​ขึ้น​มา​ได้

“​อะไร​นะ​ ​?​!​ ​หลาน​เอ๋อร​์​ยัง​มีชีวิต​อยู่​งั้น​หรือ​ ​?​!​”

เยี​่ย​ชาง​ไห่​ลุก​พรวด​ขึ้น​ทันที​ ​เขา​ไม่เคย​คาดคิด​เลย​ว่า​เยี​่ย​หลาน​จะ​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ได้

อย่างไรก็ตาม​ ​หาก​เยี​่ย​หลาน​ยัง​มีชีวิต​อยู่​จริง​ ​เหตุใด​เขา​จึง​ไม่เคย​ติดต่อ​กลับมา​และ​ไม่มี​ข่าวคราว​ใด​ ​ๆ​ ​ตลอดเวลา​มากกว่า​พันปี​ ​?

“​ใช่​ ​ใน​ตอนนั้น​ข้า​เห็น​พวกเขา​หลบหนี​ออก​ไป​ ​ข้ามั​่น​ใจ​ใน​เรื่อง​นี้​”

หมิง​จื้อ​เหยี​่​ยน​พยัก​ศีรษะ​ยืนยัน​ด้วย​ความมั่นใจ​ ​ใน​ครานั้น​ ​เขา​เห็น​กับ​ตา​ตัวเอง​ว่า​เยี​่ย​หลาน​นำ​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​หลบหนี​เข้าไป​ใน​รอยแยก​ห้วง​มิติ​บางอย่าง​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​ไม่มี​ข่าวคราว​ใด​เกี่ยวกับ​เยี​่ย​หลาน​ตลอด​ช่วงเวลา​ที่ผ่านมา​ ​เขา​ก็​คง​คิด​ว่า​เยี​่ย​หลาน​กลับมา​ที่นี่​นาน​แล้ว

หลังจากที่​เยี​่ย​หลาน​และ​คน​เหล่านั้น​หายตัว​ไป​ ​กลิ่นอาย​ที่​เขา​สัมผัส​ได้​ซึ่ง​เป็น​กลิ่นอาย​ของ​การ​ที่​สายเลือด​เผ่า​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​ถูก​ปลุก​ขึ้น​มาก​็​ได้​หายสาบสูญ​ไป​เช่นกัน​และ​ใน​ตอนนั้น​เขา​ก็​คิด​ว่า​ผู้​ที่​ปลุก​สายเลือด​นั้น​ขึ้น​มาก​็​คือ​เยี​่ย​หลาน​ ​ทว่า​ตอนนี้​เขา​เพิ่ง​ได้​ทราบ​ว่า​แท้ที่จริง​แล้ว​ผู้​ที่​ปลุก​สายเลือด​ของ​เผ่า​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​ขึ้น​มา​ได้​ก็​คือ​เยี​่ย​เฟิง

“​พวกเขา​จะ​ไป​ที่ใด​ได้กัน​..​ ​พวกเขา​หาย​ไป​ที่ใด​ ​?​”

เยี​่ย​ชาง​ไห่​นึก​กังวล​ขึ้น​มา​ ​ตลอด​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​ ​สถานการณ์​ใน​ฝั่ง​ของ​เยี​่ย​หลาน​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​คงจะ​ไม่​ราบรื่น​แน่​ ​มิเช่นนั้น​พวกเขา​ก็​คงจะ​ไม่​หายเงียบ​ไป​เช่นนี้​และ​ไม่​ส่งข่าว​คราว​ใด​ ​ๆ​ ​กลับมา

“​ท่าน​ปู่​ ​อย่า​กังวล​ไป​เลย​ขอรับ​ ​มัน​ถือเป็น​ข่าวดี​สำหรับ​เรา​ ​ตราบใดที่​ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​เรา​ก็​มีโอกาส​ตามหา​พวกเขา​ได้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ด้วย​ความสามารถ​ของ​ท่าน​พ่อ​ ​ไม่ว่า​ตอนนี้​เขา​จะ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​อยู่​ที่ใด​ ​ข้า​เชื่อ​ว่า​พวกเขา​จะ​ต้อง​ไม่เป็นอันตราย​อย่างแน่นอน​”

เยี​่ย​เฟิ​งก​ล่าว​ปลอบประโลม​เยี​่ย​ชาง​ไห่​ทว่า​ใน​ใจ​ของ​เขา​ก็​เริ่ม​ไตร่ตรอง​ว่า​บิดา​ของ​ตน​หาย​ไป​ที่ใด

หลังจากนั้น​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ส่ง​เฟ​ยอ​วิ​๋น​และ​คน​ของ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ออกจาก​เมือง​เซิ​่ง​หลิง​ ​ในเมื่อ​วิกฤต​ได้รับ​การ​สะสาง​แล้วก็​ถึง​เวลา​ที่​พวกเขา​จะ​ต้อง​เดินทาง​กลับ​อาณาเขต​ของ​ตน

“​อวี​้​โม่​ ​หาก​มีโอกาส​ ​เจ้า​จะ​ต้อง​ไป​เยี่ยม​พวกเรา​ที่​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​อีกครั้ง​นะ​”

เฟย​โม่​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​มอง​ฉิน​อวี​้​โม่​ด้วย​ความ​ไม่เต็มใจ​นัก​พร้อมกับ​กล่าว​กำชับ​เสียงดัง​ออกมา

“​ไม่ต้อง​ห่วง​ ​ข้า​ไป​แน่​”

ฉิน​อวี​้​โม่​พยัก​ศีรษะ​ตอบรับ​ ​เพียงแต่​นาง​ทราบ​ดี​ว่า​อาจ​ไม่มี​โอกาส​กลับ​ไป​ที่​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ได้​อีก​ ​ทันทีที่​สถานการณ์​ของ​ดินแดน​มหาเทพ​ได้รับ​การ​คลี่คลาย​ ​นาง​จะ​ต้อง​เดินทาง​ไป​ที่​โลก​แห่ง​เทพ​ต่อไป

หลังจาก​ส่ง​ทุกคน​กลับ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​กลับ​ไป​ที่​เมือง​เซิ​่ง​หลิง

ในเมื่อ​ไม่มี​เรื่อง​วุ่นวาย​ใด​อีก​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​จึง​ตัดสินใจ​เข้าสู่​สภาวะ​เก็บตัว​บ่ม​เพาะ​ทันที

หลังจากที่​ชี้แจง​เรื่อง​นี้​กับ​เยี​่ย​หลาน​ ​ฉิน​อี้​เฟย​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​นาง​ก็​เข้าไป​ใน​คฤหาสน์​เฟิง​หัว​โดยตรง​ ​จากนั้น​เมื่อ​ปรับ​กระแส​เวลา​ให้​หนึ่ง​วัน​ของ​โลก​ภายนอก​เท่ากับ​หนึ่ง​ปี​ใน​คฤหาสน์​เฟิง​หัว​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​เริ่ม​ทำการ​บ่ม​เพาะ​พลัง

ใน​โลก​ภายนอก​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​โลก​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​หรือ​ดินแดน​มหาเทพ​ ​ทุกอย่าง​ล้วน​ดำเนิน​ไป​อย่าง​เงียบสงบ​เป็นการชั่วคราว

ภยันตราย​ที่ซ่อน​ไว้​ของ​ทั้งสอง​ดินแดน​ได้​ถูก​สะสาง​แล้ว​และ​วิกฤต​สุดท้าย​คือ​รอยแยก​ที่สามา​รถ​ทำให้​ดินแดน​มหาเทพ​ล่มสลาย​ไป​ ​ตราบใดที่​พลัง​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​พัฒนา​ไป​ถึง​ขอบเขต​เทพ​สวรรค์​ขั้นสูงสุด​ ​นาง​มั่นใจ​ว่า​จะ​กำจัดภัย​ร้าย​นั้น​ได้​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​ ​สิ่ง​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ใน​ตอนนี้​คือ​การ​ทะลวง​พลัง​ให้​ได้​โดยเร็ว​ที่สุด

เวลา​ผ่าน​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ​และ​ภายใน​ชั่วพริบตา​ ​เวลา​ใน​โลก​ภายนอก​ก็​ผ่าน​ไป​หนึ่ง​ปี​แล้ว

ตลอด​ช่วง​หนึ่ง​ปี​ที่ผ่านมา​ ​ไม่มี​เรื่องใหญ่​หรือ​ร้ายแรง​ใด​เกิดขึ้น​ใน​โลก​ภายนอก​ ​ฉิน​อี้​เฟย​และ​เสี่ยว​โร่​วก​็​อาศัย​อยู่​ใน​โลก​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​เพื่อ​บ่ม​เพาะ​พลัง​และ​ไม่ได้​เดินทาง​กลับ​ไป​ที่ดิน​แดน​มหาเทพ

สำหรับ​โลก​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​ ​ใน​ตอนนี้​ก็​มี​ขุม​กำลัง​ใหญ่​อยู่​เพียง​สอง​แห่ง​เท่านั้น​ ​นั่น​คือ​ขุม​กำลัง​ที่​เป็นการ​รวมกลุ่ม​ระหว่าง​ตระกูล​จำนวนมาก​ใน​เมือง​เซิ​่ง​หลิง​ ​และ​อีก​ขุม​กำลัง​หนึ่ง​ก็​คือ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน

เมื่อ​สอง​ขุม​กำลัง​อยู่​ใต้​การปกครอง​ของ​ผู้นำ​ที่​ดี​และ​ทุกอย่าง​เงียบสงบ​ ​ความขัดแย้ง​และ​การต่อสู้​ใน​โลก​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​จึง​หมด​ไป​โดยปริยาย​และ​สถานการณ์​มั่นคง​ขึ้น​มาก

ใน​วันนี้​ ​ฉิน​อี้​เฟ​ยกำ​ลัง​หารือ​เรื่อง​ต่าง​ ​ๆ​ ​กับ​เฟ​ยอ​วิ​๋น​ใน​ห้อง​หนังสือ​เมื่อ​ได้รับ​ข่าว​จาก​ดินแดน​มหาเทพ

“​อี้​เฟย​ ​เสี่ยว​อวี​้​โม่​อยู่​ที่ใด​รึ​ ​?​”

เจ้าของ​เสียง​ที่​ดัง​มาจาก​อุปกรณ์​สื่อสาร​คือ​เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​—​จ้าว​สำนัก​หมื่น​กระบี่​นั่นเอง​ ​ก่อนหน้านี้​เขา​พยายาม​ติดต่อ​ฉิน​อวี​้​โม่​ทว่า​ไม่​สามารถ​ติดต่อ​นาง​ได้​เลย​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​เขา​จึง​ตัดสินใจ​ที่จะ​ติดต่อ​หา​ฉิน​อี้​เฟย

“​อวี​้​โม่​กำลัง​เก็บตัว​บ่ม​เพาะ​อยู่​ขอรับ​ ​ท่าน​ลุง​เหล​ยมี​เรื่อง​อะไร​อย่างนั้น​หรือ​ ​?​”

ฉิน​อี้​เฟย​รับรู้​ได้​ถึง​ความเร่งด่วน​ใน​น้ำเสียง​ของ​เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​และ​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย

“​เกิด​ความเปลี่ยนแปลง​ใน​เมือง​ราชวงศ์​และ​สถานการณ์​ก็​ดู​ไม่ดี​นัก​”

เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​ไม่​ปิดบัง​จาก​ฉิน​อี้​เฟย​และ​รีบ​เปิดเผย​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ทันที

เมื่อ​ไม่​กี่​วันก่อน​ ​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​อย่างกะทันหัน​ใน​เมือง​ราชวงศ์​ของ​มณฑล​กลาง​ ​สภาวะ​พลัง​ใน​เมือง​ค่อย​ ​ๆ​ ​สลาย​หาย​ไป​และ​รอยแยก​ก็​ขยาย​ใหญ่​ขึ้น​อย่างรวดเร็ว

จาก​การคำนวณ​เวลา​ก่อนหน้านี้​ ​พวกเขา​ควรจะ​มี​เวลา​เหลือ​อีก​หลาย​ร้อย​ปี​ ​ทว่า​จู่​ ​ๆ​ ​ก็​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​และ​อาจ​ไม่มีเวลา​มาก​เช่นนั้น​อีกต่อไป

ทุกคน​ก็ได้​ทำการ​วิเคราะห์​และ​อนุมาน​กัน​อีกครั้ง​ก่อน​ได้​ข้อสรุป​ว่า​ภายใน​เวลา​เพียง​ไม่​กี่​ปี​ ​รอยแยก​ประหลาด​นี้​จะ​ดูดกลืน​สภาวะ​พลัง​ของ​ดินแดน​มหาเทพ​ได้​ทั้งหมด​และ​ทั้ง​ดินแดน​จะ​มี​จุดจบ​เพียง​อย่าง​เดียว​ ​นั่น​คือ​การ​ล่มสลาย

“​เสี่ยว​โม่​เอ๋อร​์​กำลัง​อยู่​ใน​ช่วง​ของ​การ​ทะลวง​พลัง​ ​เกรง​ว่านา​งคง​จะ​ไม่​ออกมา​ใน​เร็ว​ ​ๆ​ ​นี้​ขอรับ​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​กะทันหัน​เช่นนี้​ใน​เมือง​ราชวงศ์​ได้​อย่างไร​กัน​ ​?​”

ฉิน​อี้​เฟย​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ ​ก่อน​เก็บตัว​เพื่อ​ทะลวง​พลัง​ก่อนหน้านี้​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ไม่ได้​ระบุ​ไว้​ว่า​จะ​ใช้เวลานาน​เพียงใด​ ​ใน​ระหว่าง​การ​เก็บตัว​ของ​นาง​ ​นาง​ก็​คงจะ​วาง​ข่าย​อาคม​ป้องกัน​ไว้​รอบ​บริเวณ​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​การตาม​หา​คฤหาสน์​เฟิง​หัว​ใน​ตอนนี้​ก็​ยัง​ทำไม​่​ได้​ด้วยซ้ำ​ ​นับประสา​อะไร​กับ​การ​เข้าไป​ใน​คฤหาสน์​เฟิง​หัว​เพื่อ​ติดต่อ​กับ​นาง

“​เรา​สงสัย​ว่า​มี​ใคร​บางคน​ค้นพบ​รอย​แรก​ประหลาด​นั้นและ​แอบ​ทำ​อะไร​บางอย่าง​กับ​ผนึก​ของ​มัน​ ​ทว่า​เรา​ก็​ยัง​ไม่​มั่นใจ​นัก​”

เหลย​เจี​้​ยน​เชิงกล​่าว​ถึง​การ​ค้นพบ​ก่อนหน้านี้​ ​มัน​เป็น​สิ่ง​ที่​หลง​อวี​้​เทียน​ค้นพบ​โดยบังเอิญ​ทว่า​ยัง​ไม่แน่​ชัด​นัก​ว่า​เป็นฝี​มือ​ของ​ผู้ใด

ถึงอย่างไร​ก็​มี​เพียง​ไม่​กี่​คนที​่​ทราบ​เกี่ยวกับ​เส้นทาง​ไป​ที่นั่น​และ​พวกเขา​จับตาดู​สถานการณ์​อยู่​เสมอ​ ​หาก​มี​คน​บุกเข้าไป​จริง​ ​ไม่มีทาง​เลย​ที่​พวกเขา​จะ​ไม่​สังเกตเห็น

ยิ่งไปกว่านั้น​ ​การ​ที่สามา​รถ​ทำลาย​ผนึก​รอบ​ ​ๆ​ ​รอยแยก​นั้น​ได้​ ​คน​ผู้​นั้น​จะ​ต้อง​แข็งแกร่ง​มาก​อย่างแน่นอน​ ​ทว่า​ยอด​ฝีมือ​ที่​ทรงพลัง​มาก​ถึง​เพียงนั้น​ปรากฏตัว​ใน​ดินแดน​มหาเทพ​ตั้งแต่​เมื่อใด​กัน​ ​?

“​เป็น​เช่นนั้น​นี่เอง​”

ฉิน​อี้​เฟย​เข้าใจ​ได้​ทันที​และ​ไตร่ตรอง​ครู่หนึ่ง​ก่อน​กล่าว​ ​“​ก่อนหน้านี้​ที่​เสี่ยว​โม่​เอ๋อร​์​เข้าสู่​สภาวะ​เก็บตัว​ ​นาง​คาดการณ์​เวลา​ไว้​เพียง​คร่าว​ ​ๆ​ ​และ​อาจจะ​ออกมา​ใน​อีกไม่ช้า​ ​ท่าน​ลุง​เหลย​ไม่ต้อง​กังวล​ไป​ขอรับ​และ​ฝาก​บอก​ท่าน​ลุง​หลง​เช่นกัน​ ​ศิษย์​พี่​ฉิน​เฟิง​ ​เรา​ไปดู​สถานการณ์​ที่นั่น​กัน​ก่อน​เถอะ​”

เยี​่ย​เฟิง​ทราบ​ถึง​สถานการณ์​นี้​เช่นกัน​ ​ถึงแม้ว่า​พวกเขา​จะ​ช่วย​อะไร​ได้​ไม่​มาก​นัก​ ​ทว่า​เมื่อ​พวกเขา​มุ่งหน้า​ไป​ที่​เมือง​ราชวงศ์​เพื่อ​ตรวจดู​สถานการณ์​ด้วยตัวเอง​ ​หาก​พบ​ว่า​มี​คน​พยายาม​ทำลาย​มัน​จริง​ ​ๆ​ ​พวกเขา​ก็​อาจ​ช่วยกัน​หาทาง​จับตัว​คน​ผู้​นั้น​ได้

“​ตกลง​”

เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​ไม่มีทาง​เลือก​นอกจาก​ต้อง​ตอบ​ตกลง​ ​เวลานี้​เขา​อยู่​ที่​เมือง​ราชวงศ์​เช่นกัน​ ​พวกเขา​พยายาม​สืบ​เรื่อง​นี้​มา​พักใหญ่​แล้ว​ทว่า​ยัง​ไม่​พบ​เบาะแส​ของ​ผู้ร้าย​ที่​พยายาม​สร้าง​ความเสียหาย​แม้แต่น้อย​

เมื่อ​เยี​่ย​เฟิง​และ​ฉิน​อี้​เฟ​ยมา​ถึงที่​นี่​ ​การ​ที่​มีพ​วก​เขา​อยู่​อาจจะ​ช่วย​ให้​มี​ความคืบหน้า​บางอย่าง​ก็​เป็นได้

จากนั้น​ฉิน​อี้​เฟย​และ​เยี​่ย​เฟิ​งก​็​แจ้ง​ข่าว​กับ​คนใน​เมือง​เซิ​่ง​หลิง​ก่อน​เดินทาง​ไป​ยัง​ดินแดน​มหาเทพ​ด้วยกัน

ใน​อีก​ฟาก​หนึ่ง​ ​ภายใน​คฤหาสน์​เฟิง​หัว​ ​การ​ทะลวง​พลัง​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​เข้าสู่​ช่วงเวลา​สำคัญ​แล้ว