ตอนที่ 1381 ความแปลกของพิฆาตวิญญาณ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

กู้ไป๋อีกล่าว “ตามข้าไปที่แคว้นเทพฟ้านอิน!”

“ท่านหัวหน้าตำหนัก ตอนนี้โอรสศักดิ์สิทธิ์ฟ้านอินยังไม่กลับแคว้น แม้แต่หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาอยู่ที่ไหน ประมุขน้อยน่าจะยังอยู่ในแดนเหนือขอรับ!”

“ได้ยินมาว่าสถานที่เหนือสุดแห่งแดนเหนือมียอดฝีมือของสำนักต่าง ๆ จำนวนมากกองตายอยู่ที่นั่น แถมสภาพศพยังน่าสังเวชมากด้วยขอรับ ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นฝีมือของใคร”

เหล่าบรรดาลูกน้องต่างรายงานข่าวที่รู้มาให้เขาทราบอย่างละเอียด

“น่าสังเวชเพียงใด?” กู้ไป๋อีกล่าวถาม

“ยอดฝีมือผู้นั้นใช้กระบี่ แต่กลับดูไม่เหมือนใช้กระบี่เลย ทั่วทั้งสนามรบนองเลือด แล้วก็…”

หลังจากฟังการรายงานข่าวของพวกเขาเสร็จสิ้น ในใจของกู้ไป๋อียิ่งทวีความเย็นยะเยือกขึ้นเรื่อย ๆ

เขานึกถึงคนผู้หนึ่งขึ้นมาในทันที จิตวิญญาณกระบี่! เจ้าพิฆาตวิญญาณ!

การหายตัวไปของซีเอ๋อร์ต้องเกี่ยวกับเขาแน่นอน

กู้ไป๋อีรีบลุกจะเตรียมตัวออกไปตามหามู่เฉียนซี ทว่าเหล่าบรรดาบ่าวรับใช้ก็รีบห้ามเขาทันที

“ท่านหัวหน้าตำหนักขอรับ ประมุขน้อยบอกว่าท่านบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ท่านพักฟื้นรักษาร่างกายก่อนเถอะขอรับ อย่า…”

ทว่า พวกเขาจะห้ามกู้ไป๋อีได้เหรอ? ห้ามไม่ได้อยู่แล้ว ทำได้เพียงแค่มองดูร่างในชุดขาวอันตรธานหายไป

หลังจากที่มู่เฉียนซีกินอิ่มท้องแล้วนางก็ไม่กล้าวางใจนอนหลับได้ แม้ว่าจะปิดผนึกกระบี่มังกรเพลิงเอาไว้แล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลหรือไม่

“ฮือ ๆ ๆ! นายท่าน นายท่านทิ้งข้าไว้ก่อนก็ได้ หาที่ซ่อนข้าเอาไว้ก่อนก็ได้”

มังกรเพลิงสื่อสารกับมู่เฉียนซีทางจิต

มู่เฉียนซี “เจ้าน่าจะรู้จักเจ้าพิฆาตวิญญาณนั่นดีกว่าข้านะ! หากเขารู้ว่าข้าทิ้งเจ้าไป คาดว่าข้าต้องตายเร็วเป็นแน่”

“แล้วจะทำเช่นไรดีขอรับ?” มังกรเพลิงกล่าวด้วยความกลัดกลุ้มใจ

“มังกรเพลิงอย่างข้ามันไร้ประโยชน์เองขอรับที่สู้พิฆาตวิญญาณไม่ได้!”

“ค่อย ๆ คิดหาทางไปทีละขั้นก็แล้วกัน!”

ทันใดนั้นเอง สัญชาตญาณของมู่เฉียนซีก็บอกนางว่าอันตรายกำลังเข้ามาใกล้ตัว!

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ มู่เฉียนซีเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง

ไม่นานนัก นางก็เอายาพิษที่สะสมเอาไว้เหล่านั้นออกมาและโรยไปทั่วทั้งห้อง

ดวงตาสีแดงเลือดดุจดั่งอัญมณีคู่นั้นมองมู่เฉียนซีอย่างพิจารณาและกล่าวว่า “แมวน้อย หนีเร็วเหมือนกันนะ!”

มู่เฉียนซี “เจ้าคนหลอกลวง สลัดหนีไม่พ้นจริง ๆ!”

“ต่อให้เจ้าปิดบังกลิ่นอายเจ้าสวะไร้ประโยชน์นั่นไป แต่ตราบใดที่ข้าต้องการหาเจ้าข้าก็หาเจออยู่ดี ตอนนี้เจ้ายอมเชื่อฟังข้าแต่โดยดีเถอะนะ อย่าได้เปลืองแรงหนีอีกเลย!”

มุมปากของพิฆาตวิญญาณยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่ามู่เฉียนซีไม่อาจหนีรอดไปจากเงื้อมมือของเขาได้แน่นอน

“ข้ายอมรับนะว่าเจ้าแข็งแกร่งมาก ต่อให้ข้ามีสิบชีวิตข้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าอยู่ดี แต่ตราบใดที่เจ้ายังคงกลัวพิษของข้า เช่นนั้นมันก็ยังไม่ถึงจุดจบของชีวิตข้า”

เสียง ปัง! ดังขึ้นหนึ่งครา มู่เฉียนซีกระโดดไปทางหน้าต่างมุ่งหน้าออกไปนอกเมือง

สีหน้าของพิฆาตวิญญาณแข็งทื่อไป ก่อนจะรู้สึกว่ามีพิษมากมายหลายชนิดในร่างกายเขากำลังก่อกวนความเคลื่อนไหวของเขาอยู่

“บัดซบ! ร่างบ้า ๆ นี่!” พิฆาตวิญญาณสบถคำด่าออกมา จากนั้นก็ตามนางไป

มู่เฉียนซีใช้ความเร็วที่สุดเพื่อจะหนีพิฆาตวิญญาณไปให้ไกล นางหายใจออกมาด้วยความโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง พิษของนางได้ผลดีกว่าที่นางจินตนาการเอาไว้มาก

นางหนีออกมานอกเมืองอย่างราบรื่น มู่เฉียนซีกล่าว “หากพิฆาตวิญญาณรับรู้กลิ่นอายของเจ้าไม่ได้ แล้วเขาจะตามหาข้าเจอได้ยังไง?”

“ขะ ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันขอรับ!” มังกรเพลิงตอบ

“มีเพียงสามเหตุผลเท่านั้น เหตุผลแรกเขาใช้วิชาสะกดรอยตามข้า!”

“นายท่าน ไม่ใช่ขอรับ พิฆาตวิญญาณเข้าใจในวิชาสะกดรอยตาม ข้าเองก็เข้าใจเหมือนกัน! ข้ารับประกันได้ว่าเขาไม่ได้ใช้วิธีนี้”

“หรือว่าพลังจิตของเขาปกคลุมพื้นที่ได้กว้าง!”

“พลังของพิฆาตวิญญาณอ่อนแอกว่าเมื่อก่อนมาก ทำเช่นนี้ไม่ได้แน่นอน”

สีหน้าของมู่เฉียนซีเคร่งขรึมขึ้น “งั้นก็มีความเป็นไปได้อย่างเดียวแล้ว พิฆาตวิญญาณมีสายข่าวกรองที่แข็งแกร่งมาก นับตั้งแต่ข้าเข้ามาในเมือง ก็มีคนรู้แล้วว่าข้าอยู่ที่ไหน”

“เอ่อ…มีความเป็นไปได้! ข้าเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน!” มังกรเพลิงกล่าวด้วยความไม่แน่ใจ

นี่คือความเป็นไปได้ที่สุดแล้ว นั่นก็หมายความว่าคนที่อยู่ในเมืองนั้นเปิดโปงนาง

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ต้องยึดครองที่แห่งนี้แล้ว

มู่เฉียนซีหยิบแผนที่แดนเหนือออกมากาง และเดินมุ่งหน้าไปที่เทือกเขาอันกว้างใหญ่ ป่าสัตว์วิญญาณที่กว้างใหญ่อันดับสามแห่งแดนเหนือ

ในระหว่างทางที่มู่เฉียนซีหนี มังกรเพลิงก็กล่าวขึ้นมาว่า “พิฆาตวิญญาณมีบางอย่างที่แปลก ๆ ไปขอรับ!”

มู่เฉียนซีกล่าวถาม “มีสิ่งใดที่แปลกเหรอ?”

“เขาเป็นจิตวิญญาณกระบี่ พิษของนายท่านไม่มีผลต่อเขาสิถึงจะถูก! อย่างเช่น สมมุติว่านายท่านวางยาพิษข้า ข้าก็ไม่มีทางโดนพิษของนายท่าน”

“อีกอย่าง เมื่อก่อนนิรันดร์ก็เคยวางยาพิษกับพิฆาตวิญญาณเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ผล พิฆาตวิญญาณหลอกนายท่านหรือไม่ว่าเขาโดนพิษ?”

เมื่อนึกได้เช่นนี้ มังกรเพลิงก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาแล้วจริง ๆ

หากไพ่ใบสุดท้ายของนายท่านใช้ไม่ได้ผล แล้วจะทำเช่นไรดีล่ะ

มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าแน่ใจว่าเขาโดนพิษจริง ๆ”

มังกรเพลิงกล่าวด้วยความสงสัย “แปลกมาก”

“พิษใช้ได้ผลก็นับว่าเป็นเรื่องดี ตอนนี้รีบหนีก่อนเถอะ!”

มู่เฉียนซีรู้สึกได้ว่ากลิ่นอายอันตรายกำลังเข้ามาใกล้อีกครั้งแล้ว ยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ!

ทว่า เขาแก้พิษของมู่เฉียนซีได้แล้ว นางต้องเร็วกว่านี้ ต้องเร็วกว่านี้…

หนีอย่างบ้าคลั่งมาตลอดทาง ตอนนี้ร่างของมู่เฉียนซีอาบท่วมไปด้วยเหงื่อ นางถูกพิฆาตวิญญาณบีบบังคับอย่างจนตรอกที่สุด

นางยังเอาศักยภาพของตัวเองออกมาอย่างต่อเนื่อง นางหนีเอาชีวิตรอดด้วยความเร็วที่เกิดขีดจำกัดของตัวเองแล้ว แต่ระยะห่างของทั้งสองก็ยังคงใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ อยู่ดี

จะยอมให้ผีร้ายอย่างพิฆาตวิญญาณตามทันไม่ได้เด็ดขาด!

มังกรเพลิงที่ถูกปิดผนึกเอาไว้ในน้ำแข็งทำได้เพียงสื่อสารกับมู่เฉียนซีผ่านทางจิตบอกให้มู่เฉียนซีอดทนสู้ “นายท่านสู้ ๆ! นายท่านสู้ ๆ!”

มองดูด้านหน้า มู่เฉียนซีเข้ามาใกล้เทือกเขาอันกว้างใหญ่แล้ว แต่เมื่อหันมองดูด้านหลังก็มองเห็นร่างในชุดแดงแล้วเช่นกัน

นั่นหมายความว่าระยะห่างของพวกเขานั้นอยู่ไม่ไกลแล้ว!

ต้องเร็วกว่านี้อีก!

และในตอนนี้เอง พลังวิญญาณทั่วฟ้าดินต่างหลั่งไหลเข้าสู่ร่างของมู่เฉียนซีอย่างบ้าคลั่ง

นางที่มีพลังวิญญาณขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดจุดสูงสุดก็ทะลวงพลังระดับเก้าได้สำเร็จแล้ว!

พลังวิญญาณของมู่เฉียนซีถึงขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า ความเร็วก็ยิ่งเร็วเพิ่มมากขึ้น นางจึงทิ้งระยะห่างจากพิฆาตวิญญาณได้ไกลมากขึ้น

ตัวนางเองก็แปลกใจมากเช่นกัน “ถูกพิฆาตวิญญาณตามไล่ล่า ข้าก็ทะลวงพลังวิญญาณระดับเก้าได้แล้วเหรอนี่!”

มังกรเพลิงกล่าวด้วยความดีใจว่า “ยินดีด้วยนายท่าน นายท่านทะลวงพลังระดับเก้าได้แล้ว!”

แต่ถึงแม้ว่าจะทะลวงพลังวิญญาณขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าได้ นางก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพิฆาตวิญญาณอยู่ดี!

“นายท่าน เร็วเข้า!”

มู่เฉียนซีโคจรพลังวิญญาณมากเพียงพอที่จะพุ่งเข้าไปในเทือกเขาอันกว้างใหญ่ ป่าไม้พืชพันธุ์เขียวชอุ่มเช่นนี้เป็นสถานที่ที่หลบซ่อนตัวได้ดีมากทีเดียว

มู่เฉียนซีระมัดระวังมาตลอดทาง ไม่ทิ้งร่องรอยใดเอาไว้แม้แต่น้อย

กลิ่นอายอันตรายนั้นค่อย ๆ จางหายไปแล้ว มังกรเพลิงก็โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง ก่อนจะกล่าวถามว่า “นายท่าน นี่เราหนีพ้นจากพิฆาตวิญญาณแล้วใช่ไหมขอรับ?”

มู่เฉียนซีกล่าว “จะง่ายเช่นนั้นได้ยังไงกันล่ะ ก็แค่ถ่วงเวลาเอาไว้ได้เพียงชั่วคราวก็เท่านั้น”

“อาถิง! รีบตื่นขึ้นมาได้แล้ว มิเช่นนั้นข้าต้องถูกเจ้าพิฆาตวิญญาณนั่นฆ่าตายเป็นแน่”

มู่เฉียนซีผ่อนลมหายใจลง จากนั้นก็ใช้พลังจิตตรวจดูอาถิงที่อยู่ในมิติ

แต่ก็จนปัญญา เพราะอาถิงไม่ตอบสนองเลยแม้แต่น้อย!

ขืนยังแกล้งตายอยู่เช่นนี้ พวกเขาทั้งสองคงต้องตายจริง ๆ แน่

นางเดินผ่านต้นไม้ใบหญ้าอย่างระมัดระวังที่สุด ไม่กล้าเคลื่อนไหวอะไรที่มากเกินไปเลยแม้แต่น้อย

มู่เฉียนซีหลบซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาอันกว้างใหญ่แห่งนี้เป็นเวลาสามวันเต็มโดยที่พิฆาตวิญญาณหาตัวนางไม่เจอ

แต่เช้าตรู่ในวันต่อมา กลิ่นอายอันตรายนั้นก็เข้ามาใกล้นางอีกครั้ง มันเร็วอย่างน่าประหลาดใจมาก!