ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1163 มีความสามารถรอบด้าน
“มีคนมา! เตรียมป้องกันเร็วเข้า! เตรียมป้องกัน!”
แล้วบนเส้นทางนั้นก็วุ่นวายขึ้นมาทันที
ส่วนคนที่อยู่ด้านในรถจี๊ปนั้น หลังจากที่ได้ยินการเคลื่อนไหวแล้ว ก็รีบลงมาจากรถทันทีเช่นกัน ตอนที่พวกเขามาทางด้านหลังรถ ก็เห็นคนนั้นที่ถูกปืนยิงระเบิดสมองก็รู้สึกตกตะลึงไปด้วยเช่นกัน
“เรื่องอะไรกัน? ที่นี่ยังมีคนอื่นอย่างนั้นเหรอ?”
เขาทั้งตกใจทั้งโมโหพลางเอ่ยถามขึ้น
แต่คำถามนี้ ก็ไม่สามารถตอบได้เลย เนื่องจากเวลานี้ คนเหล่านี้ที่เขานำมานั้น ลนลานกันไปตั้งแต่แรกแล้ว ใครจะไปนึกถึงปัญหานี้กัน?
อีกทั้ง เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่พวกเขาจะรู้ว่าคนที่ยิงนั้นเป็นใคร
“วิบูลย์ นายมานี่ รีบโทรไปถามว่าใช่คนกลุ่มนั้นยังกำลังแอบวางแผนกันหรือเปล่า?”
ในรถจี๊ปมีคนหนึ่งลงมาอีกครั้ง
เขาสวมใส่ชุดราชปะแตน อายุก็ดูเหมือนจะ60-70ปีแล้ว หลังจากที่ถือไม้เท้าลงมาจากรถแล้วนั้น เขาก็เอ่ยพูดเตือนคนที่ลงมาก่อนหน้านี้ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความซีดเซียว
ใช่ คนที่บ่อนการพนันนั่น
วิบูลย์ที่ได้รับการเตือนแล้ว ก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วเตรียมจะโทรออก
แต่เวลานี้ ได้ยินเพียงเสียงคมของอาวุธกรีดลงบนอากาศ
“ปึง–”
กระสุนอีกลูกหนึ่งยิงมาอีกครั้ง วิบูลย์ยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง ตรงหน้านั้นเห็นเพียงแค่เลือดสาดกระเซ็น มือที่เขาถือโทรศัพท์อยู่นั้น หลุดลงไปจากแขนของเขา
“อ๊า – -”
นั่นเป็นเสียงร้องที่น่าเวทนาที่สุดในชีวิตของเขา
คนอื่นๆก็ตกตะตึงด้วยเช่นกัน รวมทั้งคนที่ถือไม้เท้าอยู่คนนั้นด้วย หลังจากที่เห็นฉากนี้แล้ว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปมากด้วยเช่นกัน
ปืนไรเฟิล!
นี่คือปืนไรเฟิล!!
อีกทั้ง ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ เขาเห็นแล้ว บนข้อมือของวิบูลย์ที่ถูกยิงจนขาดนั้น นอกจากเลือดที่พุ่งออกมาแล้ว ยังมีบางอย่างที่เป็นสีฟ้ารอบล้อมอยู่ชั้นหนึ่ง เหมือนกับลูกกระสุนแบบใหม่ที่พวกเขาคิดค้นกันขึ้นมา
“เร็วเข้า มีมือปืนลอบยิง ทุกคนรีบหลบเร็วเข้า!!” ในที่สุดเขาเองก็เริ่มลนลานแล้วเช่นกัน โบกไม้โบกมือให้ทุกคนรีบหลบกัน ส่วนตัวเอง ก็หลบเข้าไปในรถอย่างรีบร้อนเช่นกัน
แต่เวลานี้ก็สายเกินไปแล้ว
หลังจากที่มือของวิบูลย์ถูกยิงไปแล้ว
ไม่นานบนถนนรอบภูเขา ก็มีเสียงฝีเท้าที่ดังเป็นระเบียบและสม่ำเสมอดังขึ้นมาจากทางยอดเขา ทุกคนล้วนแต่มองด้วยความตกตะลึง เครื่องหมายที่ติดหมวกสีทองที่ดูอร่ามตาภายใต้แสงอาทิตย์ปรากฏขึ้นเป็นแถวเป็นแนว
มันถูกฝังประดับตรงด้านหน้าหมวกสีเขียวมะกอก ทุกก้าวที่เดินมาข้างหน้า สีทองที่ละลานตาราวกับเทพที่ย่างกายลงมาท่ามกลางแสงอาทิตย์อย่างไรอย่างนั้น ทำเอาทุกคนนั้นตกใจกันเสียจนขวัญหนีดีฝ่อไปหมด!
พระเจ้า นั่นไม่ใช่กองกำลังสงครามพิเศษของประเทศอย่างนั้นหรือ?
วิบูลย์ลืมแม้แต่ความเจ็บปวด หลังจากความรุนแรงนี้ เขาก็กอดเอาข้อมือที่มีเลือดไหลพุ่งไม่หยุดของตัวเองเอาไว้ แล้วหนีเข้าไปในรถด้วยความกลัวจนฉี่ราด
“คนตระกูลเทวเทพมาแล้ว ทุกคนรีบถอย ถอย!!” เสียงร้องเรียกที่ตื่นตกใจ ดังก้องไปทั่วทั้งภูเขา
คนตระกูลเทวเทพ?
ไม่ผิด กองกำลังสงครามพิเศษ โดยพื้นฐานแล้วก็เป็นตัวแทนของตระกูลเทวเทพ
เนื่องจากว่าก่อนที่ม็อกโกจะสละชีวิต ก็เป็นผู้บัญชาการระดับสูงสุดของกองทัพนี้
และขุนนายในตอนนั้น ก็นำกองทัพนี้ด้วยเช่นกัน!
วิบูลย์รู้สึกเสียใจภายหลังมากที่มาที่นี่ และแทบอยากจะหายตัวไปจากที่นี่เสียตอนนี้เลย
แต่น่าเสียดายที่มันสายเกินไปแล้ว เขายังไม่ได้มุดเข้าไปในรถจี๊ป กองกำลังที่กล้าหาญนั้นก็แผดเสียงก้องมาแล้ว ตอนที่พวกเขายืนอยู่ด้านบนภูเขา เห็นพวกคนช่วยของประเทศชาติกลุ่มนี้วางแผนคิดที่จะหนี ทันใดนั้นเอง แรงกระสุนก็ยิงเปิดออกมาทั้งหมด – –
“ปัง ปัง ปัง – -”
“อ๊า!”
“อื้อ – -”
“…….”
ไม่มีใครสามารถบรรยายฉากนี้ได้
เนื่องจากกำลังที่ยิ่งใหญ่กวาดล้างอิทธิพลที่เสื่อมโทรม ดูแล้วน่าเวทนามากจริงๆ และไม่มีความเป็นมนุษย์เลยด้วยเช่นกัน
แต่หากมีคนรู้ว่าสัตว์เหล่านี้ทำเรื่องอะไรมาบ้าง บางที พวกเขาก็จะไม่คิดแบบนี้ พวกเขาเห็นฉากนี้แล้ว ก็จะรู้สึกว่าเป็นการระบายความโกรธได้มาก เมื่อคนไม่ดีได้รับบทลงโทษก็จะรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก
หลังจากที่แสนรักสังหารคนเหล่านี้ทั้งหมดแล้วนั้น ถึงได้ลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ในมือถือปืนไรเฟิล แล้วเดินมาตรงหน้ารถจี๊ปคันนั้น
“ว….วสุ?”
เทคนิคการยิงปืนของกองกำลังพิเศษดีมาก กวาดหมดทุกคน แต่เพียงหนึ่งเดียวก็คือรถจี๊ปคันนี้ยังคงสมบูรณ์แบบอยู่
แสนรักเดินเข้ามา เห็นชายวัยกลางคนที่กำลังหดศีรษะตัวสั่นเหมือนกับสุนัขอยู่ในรถ เขาหัวเราะเยาะออกมา แล้วมองไปยังร่างของคนที่อยู่ข้างๆเขา
นั่นคือใคร?
แสนรักไม่เคยเจอมาก่อน
แต่เขาเพียงกวาดสายตาไปมองเขาแวบเดียวนั้น จากที่คนๆนี้ถือไม้เท้าอยู่นั้นนิ้วหัวแม่มือหายไป และหลังจากที่เขาเห็นเขาในเวลานี้แล้วก็ไม่มีอาการที่ดูตื่นตระหนกอย่างไรเลยด้วยเช่นกัน
รู้สถานะของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ที่แท้ก็เป็นคนแก่ๆที่ไม่ตายนี่คอยควบคุมอยู่เบื้องหลังนี่เอง”
แสนรักไม่ได้มีอารมณ์ฉุนเฉียวเช่นกัน และแม้กระทั่ง อาการที่แสดงออกมาของเขาไม่ได้มีความประหลาดใจเลยแม้แต่นิดอีกด้วย หลังจากที่คาดเดาคนๆนี้ได้แล้ว เขาก็ยืนอยู่ข้างนอกรถแล้วจ้องมองเขาด้วยสายตาที่เยือกเย็นแล้วเอ่ยพูดขึ้นมา
บุคคลนี้ถึงได้ลนลานขึ้นมาแล้ว
“คุณรู้จักผม?”
“คุณไม่คู่ควรหรอก!”ชายหนุ่มที่ไม่ได้แสดงอาการใดออกมานั้นเริ่มก้มหน้าลงแล้วบรรจุกระสุนในปืนไรเฟิลของตัวเอง
เมื่อเทียบกับกระสุนธรรมดาแล้ว หัวสีทองแดงนี้ตัวกระสุนนั้นยาวและบางกว่าอยู่ไม่กี่เซ็น อีกทั้งตรงส่วนท้ายของมันก็ยังเพิ่มเส้นสีฟ้าล้อมรอบอีกด้วย มีความสวยงามอีกด้วย
คนๆนี้สีหน้าซีดขึ้นมาทันที