ตอนที่ 1396 ความตายมาเยือน

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

“หากว่าท่านหมิงจีไม่พบว่าร่างของเจ้าใช้ประโยชน์ได้ ในตอนที่เจ้าถูกส่งตัวมาที่ตำหนักตงจี๋ ข้าคงบีบคอหญิงเลวทรามอย่างเจ้าตายไปนานแล้ว”

ในตอนนี้ไร้ประโยชน์แล้ว ไป๋อู๋ห่ายก็ไม่จำเป็นต้องปลอบและเอาใจนางอีกต่อไป

“เลวทรามอย่างนั้นเหรอ!” ไป๋เหยียนเอ๋อร์รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง

ที่แท้ ตั้งแต่ต้นจนจบ นางก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งก็เท่านั้น

ความรักความทะนุถนอมที่ผ่านมาทั้งหมด ล้วนแต่เป็นสิ่งจอมปลอมทั้งสิ้น!

ไป๋เหยียนเอ๋อร์กัดฟันกรอดพลางกล่าว “หมิงจี ข้าจะสู้กับเจ้าอย่างสุดชีวิต!”

เผชิญกับการขัดขืนอย่างสุดชีวิตของไป๋เหยียนเอ๋อร์เช่นนี้ หมิงจีจึงกล่าวเย้ยหยันว่า “อ่อนหัดยิ่งนัก!”

ในตอนนี้เอง น้ำเสียงอันเย็นชาเสียงหนึ่งตะโกนขึ้น “บัวแดงพิฆาต!”

มู่เฉียนซีลงมือแล้ว บัวอัคคีสีแดงฉานโจมตีไปอย่างแรง

ไป๋อู๋ห่ายจะลงมือ แต่กลับถูกหัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินขวางไว้

“หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอิน ท่านเป็นผู้มีจิตเมตตาไม่ใช่หรอกเหรอ เหตุใดถึงทนเห็นข้าดูบุตรสาวข้าตายไปเช่นนี้ได้ล่ะ!”

หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินกล่าว “ข้อตกลงไม่อาจฝ่าฝืนได้!”

ตูม!

เมื่อบัวอัคคีนั้นโจมตีลงไป ไป๋อู๋ห่ายก็ตะโกนขึ้น “ท่านหมิงจี!”

ไป๋อู๋ห่ายถูกหัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินขวางไว้ และคนที่เขาเป็นห่วงนั้นไม่ใช่ไป๋เหยียนเอ๋อร์ แต่เป็นหมิงจี

ในตอนนี้เอง ลำแสงสีดำลำแสงหนึ่งก็พุ่งออกมาจากบัวอัคคีดอกนั้นของมู่เฉียนซี

ร่างที่ถูกห่อหุ้มด้วยหมอกควันสีดำนั้นกล่าวว่า “มู่เฉียนซี เจ้ามันยอดเยี่ยมจริง ๆ ! ข้ากำลังจะทำสำเร็จอยู่แล้วเชียว เจ้าก็เข้ามาขวางข้าจนได้ วันนี้ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้จงได้”

พลังกดขี่ข่มเหงอันแข็งแกร่งแผ่ซ่านออกมา หมิงจีแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้มาก

และแน่นอนว่าที่แห่งนี้คือดินแดนสี่ทิศ ดินแดนแห่งนี้จะยอมให้นางใช้พลังเกินที่จำกัดไว้ได้อย่างไรกันเล่า

ตอนนี้บนท้องฟ้าได้เกิดอัสนีขึ้นแล้ว กฎของดินแดนแห่งนี้กำลังจะลงทัณฑ์ผู้ประหลาดผู้นี้

หมิงจีจำเป็นต้องยับยั้งพลังเอาไว้ “ต่อให้ข้าไม่ใช้พลังทั้งหมดของข้า การฆ่ามดปลวกอย่างเจ้าเพียงคนเดียว กำลังข้ามีเหลือเฟือ!”

ร่างร่างหนึ่งเคลื่อนไหวเข้ามา และเสียงอันชั่วร้ายก็ดังขึ้น

“หมิงจี เจ้ากำลังจะพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือคนงาม เจ้าไม่มีสิทธิ์ลงมือกับนาง!”

“จื่อโยว!” หมิงจีกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงดุร้าย

ตูม!

ครั้นแล้ว ทั้งสองจึงได้ต่อสู้ประมือกันกลางอากาศ คนอื่นจึงไม่ได้รับผลกระทบจากพลังของพวกเขา

ไป๋อู๋ห่ายกล่าว “เหยียนเอ๋อร์ตายแล้ว เจ้าฆ่านางตายแล้ว!”

มุมปากของมู่เฉียนซียกยิ้มเย้ยหยันขึ้น “ใครเป็นคนฆ่านางตาย ข้าว่าเจ้าย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ!”

“ตอนนี้ก็ถึงตาเจ้าแล้ว”

“เจ้ากล้าฆ่าข้าจริง ๆ เหรอ?”

“ทำไมข้าจะไม่กล้า พวกเจ้าแพ้แล้ว! เพียงแต่ว่าเจ้าได้ตายช้าหน่อย ส่งตัวผู้อาวุโสสูงสุดออกมาเดี๋ยวนี้”

ไป๋อู๋ห่ายหัวเราะขึ้น “ฮ่า ๆ ๆ! หากเจ้ากล้าฆ่าข้า และหากข้าตาย เจ้าก็ไม่มีวันหาเขาเจอตลอดชีวิต”

มู่เฉียนซีรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมาก “เช่นนั้นข้าก็ฆ่าเจ้าก่อนก็แล้วกัน!”

“กระบี่เล่มนี้เป็นถึงกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์เชียวนะ เจ้าคิดดีแล้วใช่หรือไม่!” มู่เฉียนซีง้างมือขึ้น และกระบี่มังกรเพลิงก็ทาบลงบนคอไป๋อู๋ห่าย

ร่างของไป๋อู๋ห่ายสั่นเทาเล็กน้อย กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์เป็นถึงกระบี่พิฆาตวิญญาณ หากต้องตายภายใต้กระบี่เล่มนี้ ดวงวิญญาณก็จะต้องถูกกลืนกิน

ดวงจิตดับสลาย ไม่อาจเกิดใหม่ได้อีก!

“เจ้า…เจ้าอย่าขยับนะ ขะ ข้า…ข้าจะมอบตัวเขาให้เจ้า ข้ายอมมอบตัวเขาให้เจ้าแล้ว!”

“ใครก็ได้! เอาตัวเขามา”

ชายวัยกลางคนในชุดคลุมยาวสีดำผู้หนึ่งถูกคนนำตัวเข้ามา ดวงตาคู่นั้นของเขาจ้องมองไปที่มู่เฉียนซีเขม็ง

แววตาอันชั่วร้ายคู่นั้นทำให้นางรู้ว่าคนผู้นี้คือผู้อาวุโสสูงสุด มู่เฉียนซีจึงกล่าวขึ้นว่า “นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าเจ้าจะไม่หนี”

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว “ทั้งสองตำหนักได้ลงนามตกลงกันถึงเพียงนี้แล้ว หากตำหนักตงจี๋พ่ายแพ้ ข้ายังจะหนีไปที่ใดได้อีก”

มู่เฉียนซีกล่าวกับไป๋อู๋ห่ายว่า “เจ้าแน่ใจเหรอว่านี่เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องโกหกหลอกลวง?”

ไป๋อู๋ห่ายยังไม่ทันตอบ ผู้อาวุโสสูงสุดก็กล่าวขึ้นมาว่า “คำสาปแฝงร่างสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวในสามเดือนเท่านั้น นับจากครั้งก่อนมันเพิ่งจะผ่านมาแค่กี่วันเอง ข้าไม่มีความสามารถเปลี่ยนได้หรอก”

ฟึ่บ! จากนั้น กระบี่ของมู่เฉียนซีก็พุ่งไปที่ผู้อาวุโสสูงสุดทันที

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว”

ผู้อาวุโสสูงสุดรีบหลบหลีก มู่เฉียนซีไม่คิดจะใช้กระบี่มังกรเพลิงฆ่าผู้อาวุโสสูงสุด เพราะหากใช้กระบี่มังกรเพลิงฆ่าเขา วิญญาณของเขาก็จะถูกกลืนกินจนหมดสิ้น

“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”

มังกรน้ำแข็งตัวหนึ่งพุ่งออกไป ผู้อาวุโสสูงสุดหลบหลีกอีกครั้ง

และในตอนนี้เอง มู่เฉียนซีก็พุ่งเข้าไปใกล้ตัวผู้อาวุโสสูงสุดแล้ว

“ทักษะโยวหลัว!”

พลังธาตุวารีได้ก่อตัวขึ้นเป็นกระแสน้ำวน พลังอันแข็งแกร่งควบแน่นอยู่ในทักษะวิญญาณนี้

และผู้อาวุโสสูงสุดที่เผชิญหน้ากับทักษะวิญญาณอันทำลายล้างนี้ของมู่เฉียนซี ในตอนนี้สีหน้าของเราก็เผยรอยยิ้มแปลกประหลาดออกมาแล้ว

“มู่เฉียนซี วันนี้คนที่ตายก็คือเจ้า!”

ทันใดนั้นเอง ลำแสงสีม่วงเข้มก็ปรากฏขึ้น และปกคลุมไปทั่วบริเวณรอบตัวมู่เฉียนซี

คนของแคว้นเทพฟ้านอินถูกพลังนี้กระแทกจนกระเด็นออกไป ลำแสงสีม่วงเข้มนี้ปกคลุมเฉพาะคนของตำหนักตงจี๋และคนของตำหนักเป่ยหานเท่านั้น

“เจ้ามันรนหาที่ตายเอง!” กระบี่เล่มหนึ่งพุ่งออกไป จากนั้นมังกรเพลิงสีแดงฉานตัวหนึ่งก็พุ่งตามออกไป

“อู๋ตี้ เสี่ยวหง! จัดการตาเฒ่านี้ให้ข้า!”

ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!

หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินกล่าว “นึกไม่ถึงเลยว่าตำหนักตงจี๋ของพวกเจ้าจะกล้าผืนกฎลงมือเช่นนี้!”

มู่เหล่ากล่าว “ศึกครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับข้อตกลง องค์หญิงของพวกข้าแค่ต้องการกำจัดพวกกบฏก็เท่านั้น”

“ฆ่ามู่เฉียนซีเดี๋ยวนี้! มู่เฉียนซีคือบุตรสาวของมู่เฟิงอวิ๋นผู้ทรยศในตอนนั้น!”

คนเหล่านั้นต่างก็มุ่งเป้าพุ่งไปที่มู่เฉียนซี บุตรสาวของมู่เฟิงอวิ๋น ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!

พวกตำหนักตงจี๋จะลงมือ คนที่เป่ยกงจั๋วส่งมาเหล่านั้นก็ไม่อยู่เฉยแน่นอน ไม่นานนักทั้งสองฝ่ายก็เริ่มต่อสู้กันทันที

กองกำลังของทั้งสองฝ่ายเท่า ๆ กัน แต่ตำหนักเป่ยหานแข็งแกร่งกว่ามาก อย่างไรเสียก็มีหอหมอปีศาจกับจื่อโยวและพวกคอยสนับสนุนอยู่

นางเปิดเผยตัวตนออกมาแล้ว เรื่องนี้ผู้อาวุโสสูงสุดไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ตอนนี้สิ่งที่มู่เฉียนซีต้องทำก็คือกำจัดผู้อาวุโสสูงสุดให้ได้

มู่เฉียนซี อู๋ตี้ และเสี่ยวหงห้อมล้อมผู้อาวุโสสูงสุด นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้อาวุโสสูงสุดจะสามารถต้านทานได้

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวเย้ยหยันว่า “มู่เฉียนซี เจ้าแปลกใจหรือไม่ว่าพวกนั้นรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าคือบุตรสาวของมู่เฟิงอวิ๋น?”

“มังกรวารีพิฆาต!” มู่เฉียนซีคิดเพียงแค่ว่าต้องกำจัดเขาให้ได้ และไม่อยากฟังเขาพูดจาไร้สาระแต่อย่างใด

“หากไม่ใช่เพราะว่าข้าแอบซ่อนตัวอยู่นานก็คงจะไม่รู้ว่าเจ้ามีความสามารถมากเพียงใด แม้แต่เงาขององค์หญิงหลินหลางก็รู้ถึงตัวตนของเจ้า แต่เขาก็ไม่ยอมบอกเจ้า” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวเย้ยหยัน “แต่ต่อให้เขาอยากปกป้องเจ้ามากเพียงใด มันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี! ตอนนี้ข้าสื่อสารกับองค์หญิงหลินหลางผ่านคนของนาง นางต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจะฆ่าเจ้าให้ได้แน่นอน ส่วนเรื่องกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ที่นางปรารถนามาโดยตลอดที่อยู่ในมือเจ้าตอนนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย”

หลังจากที่ได้เห็นเป่ยกงจั๋วส่งคนมาช่วยตำหนักเป่ยหาน ผู้อาวุโสสูงสุดก็รู้แล้วว่าองค์รัชทายาทเป่ยกงไม่ได้อยู่ข้างเขาแล้ว

ฉะนั้น เขาจึงต้องประจบประแจงองค์หญิงหลินหลาง เช่นนี้เขาถึงจะมีทางรอด

หากองค์หญิงหลินหลางกำจัดมู่เฉียนซีได้ และได้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ไปครอบครอง เขาก็จะได้รับความดีความชอบอันใหญ่หลวง

จิตสังหารของมู่เฉียนซีรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ “ตาเฒ่า ความตายมาเยือนอยู่ตรงหน้าแล้ว ยังจะพูดมากความอีก”

“บัวแดงพิฆาต!”

“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”

พลังการทำลายล้างของน้ำแข็งและอัคคีทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดบาดเจ็บสาหัส!

พรวด!

ร่างสีขาวสว่างวาบขึ้น กรงเล็บอันแหลมคมของอู๋ตี้ข่วนจนแขนของผู้อาวุโสสูงสุดขาดวิ่น

อ๊า! เสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดทรมานดังลั่นขึ้น เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดออกมา

“เพลิงเผาสวรรค์!” เปลวไฟของเสี่ยวหงพุ่งกวาดไปที่ขาทั้งสองข้างของเขาจนกลายเป็นขี้เถ้าขึ้นเล็กน้อย

อ๊า ๆ ๆ! ผู้อาวุโสสูงสุดที่เหลือแขนเพียงแค่ข้างเดียวตอนนี้ร่างของเขาลงไปเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นดินแล้ว

เขาจะไม่ตาย! ไม่ยอมตายเด็ดขาด! อีกไม่นานองค์หญิงหลินหลางก็มาแล้ว มู่เฉียนซีจะต้องตายอย่างไร้ที่ฝังแน่นอน

.