ตอนที่ 1209 ตีตัวออกห่าง

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

หาก​ต้องการ​เลื่อนชั้น​เป็น​ศิษย์​ใน​ของ​นิกาย​หมื่น​กระบี่​ ​ศิษย์​เหล่านั้น​จะ​ต้อง​ผ่าน​การประเมิน​ที่​เข้มงวด​ ​ซึ่ง​ไม่เพียงแต่​เป็นการ​ทดสอบ​ด้าน​พลัง​การต่อสู้​และ​พรสวรรค์​เท่านั้น​ ​ทว่า​ยัง​รวมถึง​บุคลิก​นิสัย​ของ​แต่ละบุคคล​อีกด้วย

สำหรับ​ผู้​ที่​มี​จิตใจ​ชั่วร้าย​ ​ต่อให้​มีพลัง​ที่​แกร่งกล้า​ ​นิกาย​หมื่น​กระบี่​ก็​ไม่ต้องการ​คน​เหล่านั้น​ ​สำหรับ​ศิษย์​ที่จะ​เข้าร่วม​นิกาย​หมื่น​กระบี่​ได้​ ​คุณสมบัติ​แรก​ที่​สำคัญ​ที่สุด​คือ​คน​เหล่านั้น​จะ​ต้อง​มี​ศีลธรรม​ใน​หัวใจ

แน่นอน​ว่าความ​ขัดแย้ง​เล็ก​ ​ๆ​ ​น้อย​ ​ๆ​ ​เช่น​การต่อสู้​ระหว่าง​แต่ละ​ฝ่าย​ของ​หอ​ชั้นนอก​ไม่​ถือเป็น​ปัญหา​ร้ายแรง​ที่จะ​ทำให้​ศิษย์​ขาด​คุณสมบัติ​ที่​พึงมี​ไป

เพราะ​ถึงอย่างไร​ก็​มี​เพียง​การแข่งขัน​เท่านั้น​ที่จะ​ช่วย​ให้​จอม​ยุทธ์​พัฒนา​พลัง​ได้​เร็ว​ขึ้น​และ​มัน​ถือเป็น​สถานการณ์​ที่ยอมรับ​ได้

หลังจาก​รับประทาน​อาหารเช้า​เสร็จสิ้น​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​เถา​เซี่ยว​เซี่ยว​และ​เห​ลิ่ง​ซวง​เสวี​่​ยก​็​กลับ​ไป​ยัง​เรือน​ที่พัก​ของ​พวก​ตน

“​พี่​อวี​้​โม่​ ​ปกติ​แล้ว​เรา​จะ​ไม่​สุงสิง​กับ​คนใน​หอ​ชั้นนอก​ ​ท่าน​จะ​ฝึกฝน​เพียงลำพัง​ใน​ห้องส่วนตัว​หรือ​จะ​ไป​ที่​ลาน​ประลองยุทธ์​เพื่อ​ประมือ​กับ​ศิษย์​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ก็​ย่อม​ได้​ ​มัน​จะ​ไม่มีปัญหา​ใด​ ​ๆ​ ​หอ​ชั้นนอก​ของ​เรา​มี​กฎ​ที่​ชัดเจน​โดย​อนุญาต​ให้​ต่อสู้​กันได​้​ตราบใดที่​ไม่​ทำร้าย​กัน​จน​เป็นอันตราย​ถึง​ชีวิต​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​ ​หาก​ไม่มี​เหตุการณ์​ที่​หนักหนา​จน​เกินไป​ ​ผู้อาวุโส​จะ​ไม่​เข้ามา​ยุ่งเกี่ยว​”

เห​ลิ่ง​ซวง​เสวี​่ย​แยก​กลับ​ไป​ยัง​ห้องพัก​ของ​ตน​ในขณะที่​เถา​เซี่ยว​เซี่ยว​เดินตาม​เข้ามา​ใน​ห้อง​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​อธิบาย​เพิ่มเติม​เกี่ยวกับ​สถานการณ์​ของ​นิกาย​หมื่น​กระบี่

การ​เก็บตัว​ใน​เรือน​เพื่อ​ฝึก​วิชา​และ​การ​ไป​ที่​ลาน​ประลองยุทธ์​เพื่อ​ประมือ​กับ​ผู้อื่น​คือ​สอง​วิธี​ที่จะ​พัฒนา​ความแข็ง​แกร่ง​ได้​เร็ว​ที่สุด​ ​สำหรับ​สถานการณ์​ใน​ปัจจุบัน​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​การ​ไป​ที่​ลาน​ประลองยุทธ์​เพื่อ​ประมือ​กับ​ศิษย์​คนอื่น​ ​ๆ​ ​และ​หา​โอกาส​ใน​การ​ทะลวง​พลัง​จะ​เป็น​ทางเลือก​ที่​ดีที​่​สุด

แม้​เถา​เซี่ยว​เซี่ยว​จะ​มีอายุ​เพียง​ยี่สิบ​เอ็ด​ปี​ ​นาง​ก็​บรรลุ​ขอบเขต​เทพ​เซียน​หนึ่ง​ดารา​แล้ว​ ​และ​โดยปกติ​นาง​มัก​ใช้เวลา​เก็บตัว​อยู่​ใน​ห้อง​เพื่อ​ฝึกฝน​ด้วยตัวเอง​และ​แทบจะ​ไม่​ออก​ไป​ที่​ลาน​ประลองยุทธ์

ในทางตรงกันข้าม​ ​เห​ลิ่ง​ซวง​เสวี​่​ยมั​กป​รากฏ​ตัว​อยู่​ที่​ลาน​ประลองยุทธ์​เป็นประจำ​และ​ผู้​ที่​เป็น​คู่มือ​ให้​กับ​นาง​ได้​ก็​มี​เพียง​ไม่​กี่​คน​เท่านั้น​ ​แม้แต่​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​ ​เถี​ยน​ซิน​และ​อีก​หลาย​คน​ก็​ยัง​มิใช่​คู่มือ​ของ​นาง

นั่น​คือ​สาเหตุ​ที่​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​และ​เถี​ยน​ซินแส​ดง​ทัศนคติ​ท่าทาง​เช่นนั้น​ต่อ​ฉิน​อวี​้​โม่

หลังจาก​พูดคุย​กัน​พักใหญ่​ ​เถา​เซี่ยว​เซี่ยว​ก็​ขอตัว​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​ของ​ตน​เพื่อ​ฝึกฝน​พร้อม​กล่าวว่า​จะ​ไม่​ออกมา​ใน​อีก​เจ็ด​วันข้างหน้า​ ​และ​หาก​ฉิน​อวี​้​โม่​มีเรื่อง​ด่วน​ใด​หรือ​ต้องการ​สิ่งใด​ใน​ระหว่าง​นี้​ ​นาง​ก็​สามารถ​เข้าไป​หา​เมิ​่ง​ฝาน​ได้

ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ไม่ได้​รบกวน​สหาย​ร่วม​เรือน​ทั้งสอง​และ​เก็บตัว​อยู่​ใน​ห้อง​ของ​ตนเอง​เป็น​พักใหญ่​ก่อน​เดินเท้า​ไป​ยัง​ทิศทาง​ของ​ลาน​ประลองยุทธ์

นาง​ได้​พบ​กับ​คน​มากหน้าหลายตา​ใน​ระหว่างทาง​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​เมื่อ​คน​เหล่านั้น​สังเกตเห็น​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​พวกเขา​ก็​เลือก​ที่จะ​หลบเลี่ยง​ออก​ไป​และ​ไม่​เข้ามา​ทักทาย​ ​ในขณะเดียวกัน​ ​บางคน​ก็​มอง​นาง​ด้วย​สายตา​เหยียดหยาม​และ​เพียง​พ่นลม​หายใจ​อย่าง​เย็นชา​เมื่อ​เดินสวน​ทาง​กัน

ฉิน​อวี​้​โม่​ทราบ​ดี​ว่า​ผู้​ที่​เลือก​หลบเลี่ยง​ออก​ไป​น่าจะเป็น​คนที​่​มี​จุดยืน​เป็นกลาง​โดยที่​ไม่​ฝักใฝ่​ฝ่าย​ใด​ ​ส่วน​ผู้​ที่​แค่น​เสียง​อย่าง​ไม่​ปิดบัง​คือ​คน​ของ​ฝ่าย​เถี​ยน​ซิน​และ​สวี​เยว​่​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ทุกคน​กำลัง​ตีตัวออกห่าง​จาก​นาง

อย่างไรก็ตาม​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ไม่สน​ใจ​แม้แต่น้อย​ ​หลังจาก​ปฏิเสธ​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​อย่าง​ไม่​ไว้หน้า​ใน​คราก​่อน​ ​นาง​ก็​คาดเดา​ผลลัพธ์​เช่นนี้​ไว้​แล้ว​ ​ถึงอย่างไร​นาง​ก็​ไม่​คิด​จะ​อยู่​ที่​หอ​ชั้นนอก​นาน​นัก​ ​ตราบใดที่​คน​เหล่านี้​ไม่​เข้ามา​หาเรื่อง​หรือ​สร้าง​ปัญหา​กวนใจ​ก่อน​ ​นาง​ก็​จะ​เพิกเฉย​ต่อ​พวกเขา​ไป​โดยตรง​ ​ทว่า​หาก​ผู้ใด​กล้า​ก่อกวน​ใจ​ ​นาง​ก็​จะ​ไม่​ปรานี​เช่นกัน

ลาน​ประลองยุทธ์​ของ​หอ​ชั้นนอก​ตั้งอยู่​ถัดจาก​ลาน​จัตุรัส​และ​เป็น​ลาน​กว้าง​ที่​มี​ขนาดใหญ่​มาก

ในเวลานี้​ ​จอม​ยุทธ์​จำนวนมาก​กำลัง​รวมตัวกัน​อยู่​ที่​ลาน​ประลองยุทธ์

ศิษย์​นอก​หลาย​คน​มาที​่​นี่​เพื่อ​เรียนรู้​วิชา​จาก​คู่ต่อสู้​และ​พัฒนา​ฝีมือ​ไป​พร้อม​ ​ๆ​ ​กัน​ ​สำหรับ​ฝ่าย​ของ​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​และ​เถี​ยน​ซิน​ซึ่ง​เป็น​ศัตรู​คู่อริ​กัน​ ​พวก​นาง​ก็​ชอบ​ที่จะ​ท้า​ประลอง​กัน​เป็นครั้งคราว​ส่งผล​ให้​ลาน​ประลอง​ของ​หอ​ชั้นนอก​มีชีวิตชีวา​ยิ่งนัก

ฉิน​อวี​้​โม่​ก้าว​เข้าไป​ใน​บริเวณ​ลาน​ประลอง​โดย​ไม่​ดึงดูดสายตา​ของ​ผู้ใด​นัก

เวลานี้​ ​จอม​ยุทธ์​สอง​คน​กำลัง​ประชัน​ฝีมือ​กัน​อย่าง​ดุเดือด​บน​สังเวียน​และ​เป็น​ที่​สนใจ​ของ​สายตา​ทุก​คู่

ความแข็ง​แกร่ง​ของ​ทั้งสอง​บรรลุ​ขอบเขต​เทพ​เซียน​สอง​ดารา​แล้ว​และ​ถือเป็น​ศิษย์​อันดับ​ต้น​ ​ๆ​ ​ใน​บรรดา​ศิษย์​นอก​ทั้งหมด​ ​คน​หนึ่ง​มาจาก​ฝ่าย​ของ​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​ในขณะที่​คู่ต่อสู้​มาจาก​ฝ่าย​ของ​เถี​ยน​ซิน

ส่วน​บรรดา​ผู้ชม​ที่นั่ง​เรียงราย​ด้านล่าง​สังเวียน​และ​ส่งเสียง​โห่ร้อง​ให้กำลังใจ​ทั้งสอง​ก็​เป็นสมาชิก​จาก​ทั้งสองฝ่าย​ ​รวมถึง​คนอื่น​ ​ๆ​ ​อีก​จำนวน​หนึ่ง

เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​ ​เถี​ยน​ซิน​และ​สวี​เยว​่​ล้วน​นั่ง​อยู่​กับ​ฝ่าย​ของ​ตน​โดย​มี​ผู้ติดตาม​จำนวนมาก​รายล้อม​รอบตัว

“​พี่​อวี​้​โม่​ ​มานั​่ง​ตรงนี้​เถอะ​”

ณ​ ​มุม​หนึ่ง​ไม่​ไกล​ออก​ไป​ ​สาม​พี่น้อง​ตระกูล​เมิ​่​งกำ​ลัง​นั่ง​อยู่​ด้วยกัน​และ​รับ​ชม​การต่อสู้​บน​สังเวียน​ ​เมิ​่งจ​วิน​ผู้​ซึ่ง​มีอายุ​น้อยที่สุด​เป็น​คน​แรก​ที่​สังเกตเห็น​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​โบกมือ​เรียก​ให้​นาง​ไป​นั่ง​ด้วยกัน

ฉิน​อวี​้​โม่​พยัก​ศีรษะ​และ​เดิน​ตรง​เข้าไป​หา​สาม​พี่น้อง​ก่อน​นั่งลง​อย่าง​สบาย​ ​ๆ

“​พี่​อวี​้​โม่​ ​ท่าน​มาที​่​นี่​เพื่อ​รับ​ชม​เรื่อง​สนุก​ ​ๆ​ ​หรือ​วางแผน​ที่จะ​ประมือ​กับ​คนอื่น​ด้วย​ล่ะ​ ​?​”

เมิ​่งจ​วิน​เอ่ย​ถาม​อย่าง​สงสัย​ใคร่รู้​ ​แม้​ยัง​ไม่ทราบ​ถึง​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​เขา​ก็​แอบ​ตั้งหน้าตั้งตา​และ​คาดหวัง​ไว้​มาก

“​ข้า​ขอ​รอดู​สถานการณ์​ต่อไป​ก่อน​จะ​ดีกว่า​”

ฉิน​อวี​้​โม่​กล่าว​พร้อม​รอยยิ้ม​ ​นาง​ไม่รีบร้อน​และ​วางแผน​ที่จะ​รับ​ชม​สถานการณ์​ต่อไป​สัก​ระยะ​ก่อน​ตัดสินใจ

“​คง​เป็นเรื่อง​ยาก​ที่จะ​ตัดสิน​ผล​แพ้ชนะ​ระหว่าง​ทั้งสอง​คน​นั้น​”

เมิ​่ง​เถี​ยน​ผู้​ซึ่ง​มักจะ​ไม่​เอ่ยปาก​พูด​จับจ้อง​ไป​ยัง​การต่อสู้​บน​สังเวียน​และ​กล่าว​แสดงความคิดเห็น​ของ​ตน

ความแข็ง​แกร่ง​ของ​ทั้งสอง​แทบจะ​เท่าเทียมกัน​ ​เว้นแต่​จะ​นำ​ไพ่ตาย​ออกมา​ใช้​ ​ผลลัพธ์​ใน​การ​ดวล​ฝีมือ​ของ​ทั้งสอง​ก็​มี​เพียง​ผลลัพธ์​เดียว​เท่านั้น​ ​นั่น​ก็​คือ​การ​เสมอกัน

“​อีกไม่นาน​การต่อสู้​ก็​คงจะ​ยุติ​ลง​”

เมิ​่ง​ฝาน​กล่าว​ขึ้น​เช่นกัน​และ​คาดเดา​ว่า​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​และ​เถี​ยน​ซิน​จะ​สั่ง​หยุด​การต่อสู้​นี้​ในไม่ช้า

เป็นจริง​ดังที่​คิด​ไว้​ ​ทั้งสอง​คน​บน​สังเวียน​ติด​อยู่​ใน​สภาวะ​ชะงักงัน​นาน​กว่า​สอง​ก้านธูป​ก่อน​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​และ​เถี​ยน​ซิน​จะ​แผดเสียง​ขึ้น​เพื่อ​หยุด​การต่อสู้​อย่าง​พร้อมเพรียงกัน

ทั้งสอง​คน​บน​สังเวียน​ก็​มองหน้า​กัน​ด้วย​ความ​ไม่​อยาก​เชื่อ​ก่อน​เหาะ​ลง​จาก​สังเวียน​และ​แยกย้าย​กลับ​ไป​ยัง​ฝ่าย​ของ​ตน​อย่างรวดเร็ว

“​เอาล่ะ​ ​วันนี้​พอ​แค่นี้​ก่อน​ก็แล้วกัน​ ​!​”

เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​ยืน​ขึ้น​และ​ชำเลือง​มอง​ไป​ที่​เถี​ยน​ซิน​ ​เห็นได้ชัด​ว่าวา​จา​ที่​กล่าว​ออก​ไป​เมื่อ​ครู่​เป็น​สิ่ง​ที่นาง​จงใจ​กล่าว​กับ​อีก​ฝ่าย

“​เหอะ​ ​วันนี้​ข้า​จะ​ปล่อย​พวก​เจ้า​ไป​ก่อน​ ​!​”

เถี​ยน​ซิน​แค่น​เสียง​อย่าง​เย็นชา​ออกมา​ ​จากนั้น​นาง​ก็​หันหลัง​กลับ​และ​เตรียม​นำ​สมาชิก​ของ​ฝ่าย​ตน​ออก​ไป

ทว่า​ทันทีที่​นาง​หันไป​และ​สังเกตเห็น​ฉิน​อวี​้​โม่​ผู้​ซึ่ง​นั่ง​อยู่​ใน​มุม​หนึ่ง​พอดิบพอดี​ ​สีหน้า​ของ​เถี​ยน​ซิน​ก็​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​

“​นัง​บ้านนอก​ ​เจ้า​มาทำ​อะไร​ที่นี่​ ​?​ ​ลาน​ประลองยุทธ์​มิใช่​ที่​ที่​มด​ตัว​กระจ้อย​จาก​ดินแดน​ระดับ​ต่ำ​อย่าง​เจ้า​จะ​มา​เหยียบย่ำ​ได้​ ​อย่า​หาเรื่อง​ให้​ตัวเอง​อับอายขายหน้า​จะ​ดีกว่า​ ​!​”

นาง​ก้าว​เข้าไป​หา​ฉิน​อวี​้​โม่​เล็กน้อย​และ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​เย้ยหยัน​อย่าง​ไม่​ปิดบัง​ ​ในเวลานี้​ ​นาง​กำลัง​อารมณ์เสีย​อยู่​พอดิบพอดี​และ​เมื่อ​เห็น​ฉิน​อวี​้​โม่​ปรากฏตัว​มาตรง​หน้า​ ​นาง​จึง​มอง​ฉิน​อวี​้​โม่​เป็น​เหยื่อ​ระบาย​อารมณ์​ของ​นาง​ไป​โดยปริยาย

“​ไม่มี​กฎเกณฑ์​ใด​ที่​หักห้าม​มิ​ให้​ข้ามา​ที่นี่​ ​อีก​อย่าง​…​เถี​ยน​ซิน​ ​อย่า​เพิ่ง​กล่าว​วาจา​มั่นใจ​ไป​นัก​เลย​ ​แม้​ข้า​จะ​เป็น​มด​ปลวก​จาก​ดินแดน​ระดับ​ต่ำ​จริง​ ​ๆ​ ​ทว่า​คน​บางคน​ก็​มีค่า​ไม่​เท่า​มด​ปลวก​ด้วยซ้ำ​ ​!​”

เดิมที​ฉิน​อวี​้​โม่​ไม่ต้องการ​สนใจ​คน​เหล่านี้​ ​ทว่า​ในเมื่อ​เถี​ยน​ซิน​กล่าว​วาจา​ยั่วยุ​นาง​ก่อน​ ​นาง​ก็​ไม่​เกรงกลัว​แม้แต่น้อย​และ​ยืน​ขึ้น​พร้อม​กล่าว​เหน็บแนม​ตอบโต้​อย่าง​ไม่​ไว้หน้า

“​นัง​ด้วง​บ้านนอก​ ​เจ้า​ว่า​อย่างไร​นะ​ ​?​!​”

เมื่อ​ได้ยิน​วาจา​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​สีหน้า​ของ​เถี​ยน​ซิน​ก็​บิดเบี้ยว​เหยเก​มากขึ้น​เรื่อย​ ​ๆ​ ​ขณะ​จ้อง​ฉิน​อวี​้​โม่​ตาเขม​็ง​และ​แผ่​แรงกดดัน​ออก​ไป

“​ข้า​เพียง​พูดความจริง​ ​ทำไม​กัน​ ​?​ ​รับ​ความจริง​ไม่ได้​และ​รู้สึก​อับอาย​ขึ้น​มางั​้​นรึ​ ​?​”​

ฉิน​อวี​้​โม่​ยก​ยิ้ม​มุม​ปาก​และ​ไม่​คิด​ที่จะ​อ่อนข้อ​ให้​อีก​ฝ่าย

“​ฮ่า​ ​ๆ​ ​ๆ​ ​น่าขัน​ยิ่งนัก​ ​มด​ตัว​น้อย​จาก​ดินแดน​ระดับ​ต่ำ​อย่าง​เจ้า​มีสิทธิ์​อะไร​มา​พูด​กับ​ข้า​เช่นนี้​ ​?​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​…​ในเมื่อ​มาถึง​ลาน​ประลอง​แล้ว​ ​เจ้า​กล้า​รับคำ​ท้า​และ​ต่อสู้​กับ​คน​ของ​ข้า​รึ​ไม่​ ​?​”

เถี​ยน​ซินหัว​เราะ​ด้วย​ความโกรธแค้น​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​แรงกดดัน​ของ​ตน​ทำ​อะไร​ฉิน​อวี​้​โม่​ไม่ได้​ ​นาง​ก็​เปล่งเสียง​ออก​ไปมาก​ขึ้น

“​แน่นอน​ว่า​ไม่มีปัญหา​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​มิใช่​ทุกคน​ที่จะ​มีคุณ​สมบัติ​พอที่​จะ​ท้า​ดวล​กับ​ข้า​ได้​ ​เหตุใด​เจ้า​ไม่​ลอง​ประมือ​กับ​ข้า​ดู​ล่ะ​ ​?​ ​อยาก​เห็น​นัก​ว่า​อัจฉริยะ​ของ​ดินแดน​ระดับสูง​เช่น​เจ้า​จะ​มีฝีมือ​สัก​เพียงใด​ ​!​”

คำ​ว่า​ ​‘​อัจฉริยะ​’​ ​ถูก​เน้นย้ำ​อย่างชัดเจน​ ​ทว่า​เป็นน้ำ​เสียง​ที่​แสดงถึง​การ​เยาะเย้ยถากถาง​อย่างเปิดเผย