ตอนที่ 1247: เสริมวิญญาณ
เจ้าศาลา มันจะมีอะไรที่สำคัญกว่าการกลืนวิญญาณของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ? ทำไมท่านถึงต้องรีบจากไปนัก ท่านไม่ได้วางแผนว่าจะกลืนวิญญาณของนางงั้นหรือ ? เจี้ยนเฉินถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เสียงของเขาเต็มไปด้วยการเสียดสีขณะที่เขามองไปที่วิญญาณเจ้าศาลา
ถ้าร่างกายจริงของเจ้าศาลาอยู่ที่นี่ เห็นได้ชัดว่าเจี้ยนเฉินจะไม่ยุ่งด้วย แต่น่าเสียดายที่เจ้าศาลาที่เขาเห็นอยู่นี้เป็นเพียงวิญญาณ เจี้ยนเฉินไม่อาจหยุดเขาได้หากว่าร่างโคลนของเขาอยู่ด้านนอก แต่นี่คือทะเลจิตสำนึกของเขา มันเป็นดินแดนของเขา ดังนั้นเจ้าศาลาจึงไม่อาจสร้างปัญหาใด ๆ ให้กับเขาได้ เพียงแค่ให้จิตวิญญาณกระบี่ม่วงฟ้าจัดการ มันก็เพียงพอที่จะทำร้ายเขาได้อย่างรุนแรง
เจ้าศาลาไม่พูดกับเจี้ยนเฉินอีกต่อไป ความสยองขวัญของกระบี่ด้านหลังของเขาจ่อเข้ามาเรื่อย ๆ เขาจึงพยายามที่จะเคลื่อนไหวไปรอบ ๆ วัตถุเซียนที่อยู่ด้านหน้าและหลบหนีออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาเคลื่อนไหว วัตถุเซียนด้านหน้าของเขาก็เปล่งแสงสีทองทำให้เขาไม่อาจเคลื่อนไหวอะไรได้
เจ้าศาลายังไม่ยอมแพ้ เขาพยายามเคลื่อนไหวอ้อมผ่านหลากหลายเส้นทาง แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม เขาถูกหยุดโดยวัตถุเซียนทุกครั้ง ไม่ว่าเขาจะเร็วแค่ไหน ในทะเลจิตสำนึกของเจี้ยนเฉินเขาก็ยังคงไม่อาจผ่านวัตถุเซียนไปได้
เจ้าศาลาทั้งโกรธทั้งเคียดแค้น เขารู้ว่าเจี้ยนเฉินอยู่เบื้องหลังทุกอย่างและเจี้ยนเฉินไม่ต้องการให้เขาไป เจี้ยนเฉินต้องการกำจัดวิญญาณของเขาที่นี่
เจี้ยนเฉิน เจ้ากล้าที่จะลงมือกับข้างั้นรึ ! เจ้าศาลาตะโกนเสียงดังพร้อมกับใบหน้าซีดเผือด เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะล้มเหลวง่าย ๆ อย่างน่าสังเวชแบบนี้ เมื่อทุกสิ่งปรากฏ เจี้ยนเฉินดูเหมือนจะกลายเป็นซับซ้อนกว่าที่เขาจินตนาการไว้ มันทำให้เขาอยู่ในสถานการณ์ที่น่ากลัว
เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างเย็นชา ท่านเจ้าศาลาไม่เคยมีความตั้งใจที่ดี ทันทีที่ท่านเข้ามาถึงในทะเลจิตสำนึก สิ่งที่ท่านสามารถตำหนิได้มีเพียงตนเองว่าไม่อาจแข็งแกร่งมากพอ ทำไมท่านไม่อธิบายถึงการลอบโจมตี ? กระบี่กว้างสองนิ้วปรากฏอยู่ในมือเจี้ยนเฉิน กระบี่ถูกสร้างขึ้นมาจากสำนึกของเขาด้วยพลังของทะเลจิตสำนึก มันสั่นอย่างแรงก่อนที่จะเปล่งแสงสว่างพุ่งเข้าหาวิญญาณเจ้าศาลา
วิญญาณเจ้าศาลาอ่อนแออย่างมากหลังจากที่ได้รับความหวาดกลัวจากการต่อสู้ดวงดาวและวิญญาณก็ยังได้รับความเสียหายจากกระบี่ บวกกับความจริงที่ว่าเขาอยู่ในทะเลจิตสำนึกของเจี้ยนเฉิน การเคลื่อนไหวของเขาถูกจำกัด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันการโจมตีเของเจี้ยนเฉิน แม้แต่การหลบหลีกก็เป็นไปไม่ได้
กระบี่เจี้ยนเฉินตัดผ่านวิญญาณเจ้าศาลาทำให้เขาร่ำร้องด้วยความเจ็บปวด วิญญาณของเขายิ่งจางลง
เจี้ยนเฉิน ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าหากยังทำแบบนี้อีก เจ้าศาลาตะโกน เขารู้ว่าเขาต้องเหลือเพียงสายใยวิญญาณในวันนี้
เจี้ยนเฉินไม่พูด มีแสงแห่งความเย็นชาอยู่ในดวงตาของเขา กระบีของเขาฟันไปทางเจ้าศาลาอีกครั้งพร้อมกับแสงที่วาวโรจน์
หลังจากโจมตีไป 3 ครั้ง สุดท้ายวิญญาณเจ้าศาลาก็สลายไปในทะเลจิตสำนึกของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินถอนหายใจและกระบี่ในมือของเขาก็หายไป เขารู้ว่าการทำลายสายใยวิญญาณเจ้าศาลาจะส่งผลต่อความแข็งแกร่งของเขาอย่างแน่นอน เจ้าศาลาต้องการที่จะทำลายวิญญาณของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล แต่เจี้ยนเฉินได้ตัดสินใจว่าจะช่วยเหลือนาง เป็นไปได้อย่างมากว่าเขาจะขัดแย้งกับเจ้าศาลาวิญญาณสวรรค์ในอนาคต ดังนั้นเขาจึงไม่เสียใจที่จะกำจัดร่างโคลนของเขาออกไป
ทันใดนั้นดวงตาของเจี้ยนเฉินก็เยือกเย็น เขาสามารถสัมผัสสายใยวิญญาณของร่างโคลนเจ้าศาลา พลังมันบริสุทธิ์อย่างยิ่ง แต่มีเพียงสายใยวิญญาณเท่านั้น มันไม่ได้มีสติอยู่
เจี้ยนเฉินยินดีอยู่ภายใจ เขาเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่ถูกทำลายในทะเลจิตสำนึกของเขา วิญญาณก็ไม่ได้หายไป มันติดอยู่ในนี้แทน แม้ว่ามันจะมีพลังที่เบาบาง แต่มันก็ยังมีประโยชน์อย่างมากกับเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินเริ่มดูดซับพลังทันที โชคดีที่ของสายใยวิญญาณอ่อนแอ ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงไม่มีพบปัญหาในการดูดซับมัน ไม่นานในพลังงานก็หายไปจากทะเลจิตสำนึก มันได้ถูกหลอมรวมไปอย่างสมบูรณ์
ทันทีความรู้สึกที่เจี้ยนเฉินยากจะพรรณนาก็บังเกิด เขาสามารถรู้สึกได้ว่าวิญญาณของเขาได้รับการปรับแต่งให้มีพลังมากขึ้นกว่าเดิม แม้แต่จิตวิญญาณกระบี่ก็ยังได้รับผลประโยชน์หลังจากที่ดูดซับมัน
เมื่อสัมผัสคืนกลับมา เจี้ยนเฉินก็รู้สึกได้ทันทีว่าเขาสามารถสัมผัสสิ่งรอบตัวได้อย่างชัดเจน แม้ว่าเขาจะไม่ได้สัมผัสมันได้จริง ๆ แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงกลุ่มคนที่อยู่ห่างออกไป 1,000 เมตร
ทันใดนั้นเจี้ยนเฉินก็รับรู้ผ่านสัมผัสของเขาและเขาก็แปลกใจอย่างมาก สัมผัสของเขาก่อนหน้านี้ครอบคลุมเพียงหนึ่งหมื่นกิโลเมตรเท่านั้นแต่ตอนนี้มันครอบคลุมถึงสองหมื่นกิโลเมตร
พลังวิญญาณของข้าน่าจะเกินกว่าพลังวิญญาณของเซียนราชาขั้นสูงสุดแล้ว แต่มันก็ยังอ่อนกว่าเซียนจักรพรรดิเล็กน้อย เจี้ยนเฉินอนุมาน อย่างไรก็ตามเขาก็ส่ายหน้าหลังจากนั้นไม่นาน เขารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องที่จะใช้มาตรฐานแบบนี้ นี่เป็นเพราะในกลุ่มเซียนจักรพรรดิบางคนก็มีพลังวิญญาณอ่อนแอกว่าสัตว์อสูรระดับ 9 จากทวีปสัตว์เทวะ พวกเขายังเป็นเซียนจักรพรรดิ แต่วิญญาณของพวกเขาเป็นจุดอ่อนและไม่มีพลังวิญญาณที่ทรงพลังเลย ตอนนี้เจี้ยนเฉินได้พลังวิญญาณจากเจ้าศาลา แม้ว่ามันจะไม่ทรงพลังเท่ากับสัตว์อสูรระดับ 9 จากทวีปสัตว์เทวะ แต่วิญญาณของเขาก็แข็งแกร่งกว่าหลายเท่า
ไม่คิดว่าเจ้าศาลาได้มอบของขวัญที่ยอดเยี่ยมให้ข้าในเวลานี้ พลังวิญญาณของข้าแข็งแกร่งขึ้นมาก เจี้ยนเฉินคิด เขาอยู่ในอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องกลัวเจ้าศาลาวิญญาณสวรรค์ หากร่างหลักของเจ้าศาลามาหาเขา เขาจะต้องต่อสู้กับเจ้าศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลซึ่งต้องมาหยุดยั้งเขา โดยที่เจี้ยนเฉินไม่ต้องทำอะไรเลย
ในเวลาเดียวกัน เสียงดังกึกก้องภายในศาลาศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าศาลาวิญญาณสวรรค์ พร้อมกับคลื่นพลังที่ระเบิดออกมาราวกับคลื่นยักษ์ที่ถาโถมเข้ามา ทำให้มันสั่นอย่างรุนแรง ผู้เชียวชาญหลายคนที่บ่มเพาะอยู่ต่างก็ตื่นตระหนกและทุกคนก็ออกมาจากห้องด้วยความประหลาดใจ พวกเขาทุกคนเริ่มกระซิบกระซาบกัน
เจี้ยนเฉิน ข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า ข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมานที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่จะสังหารเจ้า เจ้าศาลาตะโกนด้วยความโกรธอยู่ภายในศาลา มีคลื่นพลังที่น่ากลัวแผ่ออกมาจากภายใน ขณะที่เขามุ่งไปทางศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล
นั่นไม่ใช่เจ้าศาลาที่ไม่ได้ปรากฏออกมาสองสามปีแล้วหรอกหรือ ? ทำไมเจ้าศาลาถึงได้โกรธเช่นนั้น…
เจ้าไม่ได้ยินที่เจ้าศาลาสบถถึงผู้คุมกฏของเผ่าเต่า เจี้ยนเฉิน แน่นอนว่าเจี้ยนเฉินคนนี้ต้องทำอะไรบางอย่าง เจ้าศาลาเป็นคนอารมณ์ดี แต่เขาก็กลายมาเป็นเกรี้ยวกราดเพราะเจี้ยนเฉิน ข้าสงสัยว่าเจี้ยนเฉินคนนี้ทำอะไรลงไป…
แปลก จากสิ่งที่ข้ารู้ ผู้คุมกฏเผ่าเต่ามักจะอยู่ในอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล และไม่เคยออกไปที่ไหนเลยในช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาทำให้เจ้าศาลาขุ่นเคืองได้อย่างไรและเขาก็เกรี้ยวกราดอย่างมาก…
หลายคนเดา ผู้อาวุโสและผู้อาวุโสประจำศาลาก็คุยกันอย่างเงียบ ๆ ในโถงศักดิ์สิทธิ์ ส่วนหนึ่งพวกเขาเกลียดชังเจี้ยนเฉิน แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่งชื่นชมเขาอย่างลับ ๆ เขาเคยล่วงเกินเจ้าศาลาเทพเจ้าอสรพิษมาก่อนและตอนนี้ก็เจ้าศาลาวิญญาณสวรรค์ ความกล้าหาญของเขาช่างน่าชื่นชมจริง ๆ ที่ทำให้เซียนจักรพรรดิทั้งสองไม่พอใจ
เจ้าศาลาบึ่งไปยังอาณาเขตศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ขณะที่แผ่จิตสังหารที่ท่วมท้น ใบหน้าของเขามืดหม่นอย่างมากจากความเกลียดชังลึกลงไปถึงกระดูกต่อเจี้ยนเฉินที่เผาไหม้อยู่ภายใน เจี้ยนเฉินสังหารร่างโคลนของเขา ไม่เพียงแต่มันจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับความแข็งแกร่งของเขาที่เขาสามารถใช้ได้ แต่ยังทำให้จิตใจของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักและยากต่อการฟื้นตัว สิ่งที่ทนไม่ได้ของเขาก็คือเขาถูกโจมตีโดยจอมยุทธ 16 ดาว ในฐานะเซียนจักรพรรดิ มันเป็นเรื่องน่าอายที่สุดสำหรับเขา
ฮึ่ม เจี้ยนเฉิน เจ้าคิดว่าภาพมายาในทะเลจิตสำนึกนั่นจะทำให้ข้ากลัว ? ข้าไม่ได้หลอกง่ายเหมือนเด็ก ภาพนั้นเหมือนจริงมากราวกับว่าข้าได้อยู่ที่นั่นจริง ๆ แต่มันก็เป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เป็นไปไม่ได้หรอกที่จอมยุทธที่น่าสะพรึงกลัวเหล่านั้นจะมีอยู่จริงในโลก โดยที่เลือดเพียงหยดเดียวก็สามารถฆ่าเซียนจักรพรรดิได้ ? แล้วมันมีมากแค่ไหนกัน ? มันเป็นเรื่องตลกที่ข้าเชื่อเรื่องนั้นว่ามันเป็นเรื่องจริง เจ้าศาลาพูดขณะขบกราม เขาอยู่ระหว่างความโกรธและความอับอาย เมื่อคิดว่าตัวเขาที่เป็นเซียนจักรพรรดิกลับหวาดกลัวภาพมายาที่เหมือนจริงนั้น นั่นเป็นความอัปยศของเขาจากใจลึก ๆ
อย่างไรก็ตามเมื่อเขามาถึงรอยต่อของอาณาเขต เขาก็เริ่มลังเล เขาไม่ได้รีบเร่งนัก
ถ้าข้าเข้าไปในอาณาเขตศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลในตอนนี้ ข้าจะเป็นคนผิดสัญญา ในเวลานั้นข้าจะถูกเจ้าศาลาหยุดก่อนที่ข้าจะได้เห็นเจี้ยนเฉิน ตอนนี้วิญญาณของข้าได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นข้าจึงไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของหญิงคนนั้น เจ้าศาลาสงบลงและคิดในใจ เขาเริ่มลังเล
เจ้าศาลาวิญญาณสวรรค์ เจ้าตั้งใจที่จะรุกล้ำอาณาเขตศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลหรือไม่ ? ขณะที่เขาลังเลก็มีเสียงที่เยือกเย็นดังออกมาจากด้านตรงข้ามเขา ร่างของนางพร่ามัว แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้หญิง นางยืนห่างออกไป 10 เมตรในอาณาเขตศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลและหันหน้าเข้าหาเจ้าศาลาวิญญาณสวรรค์