ฉินอวี้โม่ยังไม่ทันคิดถึงเรื่องนี้ ทว่าเมื่อเถาเซี่ยวเซี่ยวเอ่ยถาม นางก็นึกขึ้นได้เช่นกัน
เมื่อหันหลังกลับไป นางสามารถมองเห็นกลไกที่อยู่ด้านนอก ทว่ากลไกนั้นไม่สามารถสัมผัสได้จากข้างในห้องโถง ดูเหมือนว่ากลไกควบคุมผนึกดังกล่าวจะเปิดได้จากข้างนอกเท่านั้นและผู้ที่อยู่ภายในไม่อาจเปิดมันได้
“ไม่ต้องห่วง ในเมื่อเราเข้ามาได้แล้ว มันก็ย่อมมีทางออกอยู่ ไม่ว่าผู้ใดวางผนึกไว้ที่นี่ จุดประสงค์ก็มิใช่เพียงเพื่อกักขังเราไว้หรอก ข้าเชื่อว่าจะต้องมีจุดประสงค์อื่นอยู่ด้วยแน่”
ฉินอวี้โม่กล่าวพร้อมรอยยิ้มและไม่กังวลจนเกินไป ความคิดของนางเรียบง่ายอย่างมาก นั่นคือในสถานที่ใดที่มีทางเข้า สถานที่นั้นก็ย่อมมีทางออกอยู่เช่นกัน บางทีกลไกอาจถูกซ่อนไว้ที่ใดสักแห่ง เมื่อถึงตอนนั้น ตราบใดที่หามันเจอ พวกนางก็จะออกไปจากที่นี่ได้และกลับไปสู่โลกภายนอกได้อย่างปลอดภัย
ทุกคนเห็นด้วยกับวาจาของฉินอวี้โม่และปล่อยวางความกังวลทั้งหมดขณะเริ่มสำรวจภายในห้องโถง
พวกเขาก็ไม่รีบร้อนที่จะตรวจสอบว่าแร่เหล่านั้นเป็นของแท้หรือไม่ ทว่าเริ่มจากการตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ อย่างระมัดระวังเพื่อดูว่ามีอันตรายใดซ่อนอยู่หรือไม่
เป้าหมายของฉินอวี้โม่ก็คือหินศักดิ์สิทธิ์ห้าสีและนางเดินเข้าไปหยุดตรงหน้ามัน นางเริ่มจากการมองดูอย่างใกล้ชิด เมื่อไม่สัมผัสถึงอันตรายใด นางจึงยื่นมือออกไปแตะมันอย่างแผ่วเบา
นางแตะหินศักดิ์สิทธิ์ห้าสีได้อย่างง่ายดายและดูเหมือนว่าจะไม่มีพลังใดที่คอยคุ้มกันมันอยู่
ในเวลานี้ ฉินอวี้โม่ก็เพียงสัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาลจากหินก้อนนี้และรู้สึกได้ว่าพลังมายาในร่างของตนถูกยับยั้งไว้ในระดับหนึ่ง
เป็นจริงดังที่คิดไว้ มันคือหินที่อัดแน่นไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพธิดาหนี่ว์วา ทว่าการที่มันปรากฏอยู่ที่นี่ดูจะผิดปกติอย่างแท้จริง
คนอื่น ๆ ก็เอื้อมมือออกไปหยิบแร่และอัญมณีหลากหลายชนิดที่อยู่ใกล้ตนซึ่งทั้งหมดล้วนเต็มไปด้วยพลังที่เหนือธรรมชาติ และพวกมันก็เป็นของจริงทั้งหมด
“พี่อวี้โม่ แร่พวกนี้เป็นวัสดุสิ่งหลอมคุณภาพดีทั้งหมด ในเมื่อท่านสามารถหลอมสิ่งที่น่าทึ่งเช่นคฤหาสน์เฟิงหัวได้ ท่านอาจต้องการวัสดุเหล่านี้มากกว่าพวกเรา ท่านนำหินและแร่ทั้งหมดไปเถอะ หลังจากที่ท่านหลอมอุปกรณ์ที่ทรงพลังออกมาได้เป็นจำนวนมาก อย่าลืมแบ่งให้พวกเราบ้างก็พอ ฮ่า ๆ ๆ”
เถาเซี่ยวเซี่ยวยื่นหินลึกลับอายุนับหมื่นปีให้กับฉินอวี้โม่และหัวเราะอย่างร่าเริง
“หนูอ้วนเถาพูดถูก แร่พวกนี้เป็นวัตถุที่ไร้ประโยชน์ในมือของเราและสามารถขายเพื่อแลกเงินตราได้เท่านั้น ทว่ามันจะเกิดผลประโยชน์มากที่สุดเมื่ออยู่ในมือของเจ้า…ศิษย์น้องอวี้โม่ เจ้านำแร่พวกนี้ไปหลอมอาวุธอุปกรณ์เถอะ เมื่อหลอมของดีได้สำเร็จ ขอเพียงอย่าลืมที่จะเสนอขายให้พวกเราก่อน”
เถียนซินกล่าวเสริมขึ้นมาและเห็นด้วยกับวาจาของเถาเซี่ยวเซี่ยว ทุกคนในที่แห่งนี้ล้วนไม่ขาดแคลนทรัพย์สินเงินทอง แม้แร่ทั้งหมดจะมีมูลค่าที่สูงลิ่ว มันก็ไม่สามารถทำให้พวกนางขัดแย้งหรือแตกหักกันเองได้ แม้แต่หินศักดิ์สิทธิ์ห้าสีที่แอบแฝงไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพธิดาหนี่ว์วาก็จะถูกยกให้กับฉินอวี้โม่เช่นกัน
เพราะถึงอย่างไร หากมิใช่เพราะฉินอวี้โม่ พวกนางก็มิอาจคาดเดาได้เลยว่าจะเอาตัวรอดมาจนถึงตอนนี้ได้หรือไม่ นับประสาอะไรกับการลงมาใต้บ่อน้ำแห้งและได้พบกับสมบัติเหล่านี้
ยิ่งไปกว่านั้น การใช้เวลาร่วมกันตลอดหลายวันที่ผ่านมาทำให้พวกนางตระหนักแล้วว่าฉินอวี้โม่มิใช่คนที่จะคิดถึงเพียงแต่ผลประโยชน์ของตนเอง ในภายภาคหน้า หากนางหลอมสิ่งใดที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับพวกนาง ฉินอวี้โม่จะนึกถึงสหายเหล่านี้ก่อนใครอย่างแน่นอน
“เอาล่ะ ในเมื่อยืนกรานกันเช่นนี้ ข้าก็จะไม่ปฏิเสธ”
ฉินอวี้โม่พยักศีรษะและเก็บแร่ทั้งหมดไว้ในคฤหาสน์เฟิงหัวทันที
ภายในห้องโถงห้องนี้ มีแร่และอัญมณีต่าง ๆ กว่าหลายร้อยชิ้นที่กระจัดกระจายอยู่รอบ ๆ ซึ่งล้วนเป็นของหายากทั้งสิ้น สำหรับแร่บางชนิด หากหลอมพวกมันเข้ากับคฤหาสน์เฟิงหัว พวกมันสามารถช่วยให้คฤหาสน์เฟิงหัวพัฒนาต่อไปอีกขั้นซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อฉินอวี้โม่อย่างยิ่ง
สำหรับน้ำใจของเถียนซินและคนอื่น ๆ ในครานี้ เมื่อได้ออกไปจากที่นี่ ฉินอวี้โม่ก็ตั้งใจที่จะหลอมอาวุธที่เป็นประโยชน์ให้กับพวกนาง
อย่างไรก็ตาม กล่าวได้ว่านิกายหมื่นกระบี่และคนเหล่านี้เป็นคนที่จิตใจดีโดยธรรมชาติ มิใช่เรื่องง่ายเลยที่ใครจะสงบสติอารมณ์อยู่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าหินศักดิ์สิทธิ์ห้าสีในตำนาน หากทราบถึงพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในหินดังกล่าว ต่อให้เป็นจอมยุทธ์ที่ทรงพลังที่สุดในดินแดนก็ไม่มีทางยอมมอบหินก้อนนี้ให้กับฉินอวี้โม่ง่าย ๆ ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงเถียนซินและคนอื่น ๆ ที่ยกหินศักดิ์สิทธิ์ห้าสีให้กับฉินอวี้โม่อย่างไม่ลังเลเช่นนี้
“ที่นี่ไม่มีอะไรอื่นนอกจากแร่พวกนี้เลยหรือ ?”
ฉินอวี้โม่และสหายบางส่วนยังคงเก็บแร่และอัญมณีต่าง ๆ ในขณะที่เสิ่นเสี่ยวไห่และคนที่เหลือเริ่มมองหาสิ่งอื่น
อย่างไรก็ตาม ทุกคนต่างก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าในห้องโถงแห่งนี้ไม่มีสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากหินและผลึกหลากหลายชนิด
“หากไม่มีสิ่งอื่น แล้วพลังที่ทำให้หมู่บ้านกล้วยไม้เมฆาตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้คืออะไรกันแน่ ? ยิ่งไปกว่านั้น หากผนึกนี้ถูกสร้างขึ้นโดยยอดฝีมือในยุคโบราณ เหตุใดมันจึงมีพลังงานสีดำประหลาดแผ่ออกมาได้ ?”
ฉินอวี้โม่รู้สึกสับสนมึนงงและสังหรณ์ใจว่าที่นี่ควรจะมีสิ่งอื่นที่มิใช่แร่เหล่านี้
“ดูนี่เร็ว มีกล่องอะไรอยู่ตรงนี้ !”
ในเวลานี้ จู่ ๆ เถาเซี่ยวเซี่ยวก็ตะโกนขึ้นมาเมื่อนางหยิบแร่ขนาดเท่าครึ่งร่างมนุษย์ออกมาและพบกับกล่องสีเข้มที่อยู่ในรอยแยกข้างใต้
กล่องใบนี้ดูธรรมดาและเก่าแก่โบราณเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีลวดลายแปลกตาหลายเส้นจารึกอยู่บนนั้นซึ่งเสริมให้มันดูลึกลับน่าค้นหามากขึ้น
“ในกล่องจะต้องมีสมบัติซ่อนอยู่แน่”
สวีเยว่และเถียนซินเดินเข้ามาก่อนเอื้อมมือหมายจะไปหยิบกล่องใบนั้นออกมา
แต่ทว่า ทันทีที่มือของพวกนางสัมผัสเข้ากับกล่อง มันก็เกิดปฏิกิริยาสะท้อนกลับอย่างรุนแรงขึ้นมาจนร่างของทั้งสองกระเด็นออกไปไกล
“โอ๊ยย ! นี่มันกล่องบ้าอะไรกัน ?!”
ร่างของเถียนซินกระเด็นออกไปชนเข้ากับม่านป้องกันและล้มลงบนพื้น นางตะโกนออกมาขณะถูเอวบางที่บาดเจ็บเล็กน้อยและขมวดคิ้วมุ่น
“ดูเหมือนจะมีผนึกบางอย่างอยู่รอบกล่องใบนี้”
เมิ่งจวินผู้มีสายตาเฉียบแหลมสังเกตเห็นความผิดปกติของมันและเห็นว่ามีผนึกที่เลือนรางบางอย่างปรากฏอยู่รอบกล่องใบนั้น คาดการณ์ได้ว่าพลังของผนึกนั้นคือสิ่งที่ทำให้สวีเยว่และเถียนซินกระเด็นปลิวออกไป
“อย่าเปิดกล่องเด็ดขาด !”
จู่ ๆ ฉินอวี้โม่ก็ตะโกนเสียงดังขณะเดินเข้าไปใกล้รอยแยกนั้นและแผ่พลังมายาออกไปเพื่อเสริมพลังให้กับผนึกของกล่อง
“เกิดอะไรขึ้นหรือ ?”
ทุกคนแสดงสีหน้างุนงงขณะมองฉินอวี้โม่ด้วยความสับสน อย่างไรก็ตาม เสิ่นเสี่ยวไห่และเมิ่งเถียนก็เหมือนจะเข้าใจคำพูดของนางขณะถ่ายทอดพลังมายาออกไปเพื่อช่วยฉินอวี้โม่เสริมพลังของผนึกนั้นอย่างไม่ลังเล
“พลังงานสีดำที่อยู่ในร่างของพวกท่านมีแหล่งกำเนิดมาจากกล่องนี้ หากไม่เชื่อก็ลองสังเกตดูดี ๆ ว่ารอบกล่องมีพลังงานสีดำล้อมรอบอยู่หรือไม่”
ฉินอวี้โม่กล่าวพร้อมชี้ไปยังกล่องสีดำสนิท แม้เห็นได้ไม่ชัดเจนนัก ทว่าหากเพ่งพินิจดูอย่างใกล้ชิด ทุกคนก็จะสามารถมองเห็นพลังงานสีดำทะมึนที่ไหลเวียนอยู่รอบ ๆ และมันคือพลังประหลาดเดียวกันกับที่ครอบงำสติรับรู้ของผู้คน
“ใช่จริง ๆ ด้วย จะต้องมีอสูรร้ายบางชนิดที่ถูกปิดผนึกอยู่ในกล่องนี้เป็นแน่ !”
เถาเซี่ยวเซี่ยวสังเกตเห็นพลังงานสีดำเช่นเดียวกันและพยักหน้าหงึกหงักพร้อมตั้งข้อสันนิษฐานของตน นางเชื่อว่าข้างในกล่องตรงหน้าจะต้องมีสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวที่ถูกปิดผนึกไว้อย่างแน่นอน
“ฮ่า ๆ ๆ แม่สาวน้อย เจ้าฉลาดดีจริง ๆ”
ทันใดนั้น น้ำเสียงแหบพร่าก็ดังขึ้นในหูของทุกคนและมันดังมาจากข้างในกล่องสีดำนั่นเอง
ผนึกเดิมที่ฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ พยายามเสริมให้มันแข็งแกร่งพังทลายลงทันที จากนั้น กล่องสีดำก็พุ่งออกมาจากรอยแยกและลอยตัวกลางอากาศ พลังงานสีดำยังคงไหลเวียนรอบ ๆ มันและพยายามครอบงำร่างกายของทุกคนจนพวกเขาได้รับผลกระทบกันอย่างมาก
“เข้าไปในคฤหาสน์เฟิงหัวเร็วเข้า !”
ฉินอวี้โม่ตอบสนองอย่างรวดเร็วและชี้นำให้เถียนซินและคนอื่น ๆ เข้าไปซ่อนตัวในคฤหาสน์ของตน ซึ่งสุดท้ายก็เหลือเพียงนางในบริเวณห้องโถงแห่งนี้
“ตอบสนองได้เร็วดีนี่ แม่สาวน้อย เจ้าอยากจะเป็นศิษย์ของข้าผู้นี้หรือไม่ ?”
น้ำเสียงแหบพร่าและลึกลับดังขึ้นอีกครา ทว่าครานี้มันเจือด้วยความพึงพอใจที่มีต่อฉินอวี้โม่ เห็นได้ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้พบเห็นสตรีที่มีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็วเช่นนี้มานานแล้ว
“ฮ่า ๆ ๆ หากต้องการจะเป็นอาจารย์ของข้า ข้าก็ต้องทราบก่อนว่าท่านเป็นใคร”
ฉินอวี้โม่หัวเราะเบา ๆ และไม่มีทีท่าตื่นตระหนกแม้แต่น้อย