ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1202 เสาหลักล้มลง
ทำไม?
ทำไมเขาถึงต้องทำอย่างนี้ ปากบอกไม่ใช่หรอว่าจะดูแลคุ้มครองประเทศนี้ คุ้มครองคนที่นี่?
ทำไมเขายังจะต้องทำเรื่องแบบนี้ กระดาษก๊อปปี้แผนที่ทหารนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าได้เอาแผนที่ขายให้กับทหารศัตรู เขาทำอะไรลงไปถึงได้ขายแผนที่นี้
“ที่ฮั่นจิงมีแม่น้ำฮั่นจิง ตอนนั้นเขาไปพักสงบ แม่น้ำยังคงเป็นของประเทศเรา แต่พอหลังจากสู้รบครั้งนั้น แม่น้ำก็กลายเป็นของฮั่นจิง
“ทำไมกัน?”
“เพราะเขาแพ้ในยุทธการครั้งนั้นแล้ว”
คนของศาลทหารพูดอย่างเสียดสี
แสนรักมึนตึบ
เขามีสิทธิ์อะไร?
นั่นเป็นอาณาเขตของประเทศ เขามีสิทธิ์อะไรทำแบบนี้?!!
ตาของเขาแดงกล่ำ มีความผิดหวังที่เห็นได้ชัด เขาถึงขนาดได้ยินเหมือนเสียงอะไรประทะอยู่ในร่างกาย เสียงนั้นดังทำให้เขาแทบจะยืนทรงตัวไม่อยู่นั้นเทียว
“บอกผมสิครับว่าทำไมถึงทำแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่มั้ย ไม่ใช่ใช่มั้ย?”
เขาค่อยๆเดินมาที่ด้านหน้าของนายท่านที่ได้ถูกคุมตัวไว้ และถามด้วยความหวังสุดท้าย
แต่นายท่านนี้ กลับก้มหน้าลง ไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะมองหน้าเขา
“แม่น้ำนั้น…..เป็นน้ำเค็ม ไม่มีประโยชน์อะไรต่อประเทศเราเลย และกลุ่มทหารของฉันก็เฝ้ารักษาป้องกันที่นั่น สามวันสามคืน จนกระทั่งไม่สามารถยึดฝ่ายตรงข้ามนั้นได้ ฉันก็เลย……ไม่อยากให้กลุ่มทหารบาดเจ็บล้มตายต่อไปอีก”
“ดังนั้นปู่เลยให้คนอื่นแทนหรอ ปู่ มีสิทธิ์อะไรทำอย่างนี้ ปู่ทำอย่างนี้มันจะต่างอะไรกับขายชาติให้ศัตรูล่ะครับ อาณาเขตเป็นของประเทศ ไม่ใช่ของปู่ไชยันต์”
“ตอแหลทั้งเพ! ตอนนั้นแม่น้ำนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเทศใด เป็นเพราะชนะธิตต้องให้ฉันรบ ฉันเลยพาเหล่าทหารไปรบ ฉันไม่ได้ขายชาติให้กับศัตรู ฉันแค่ทำการเลือกโดยอิงจากผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายแค่นั้น”
อาจจะเป็นเพราะคำว่า “ขายชาติให้กับศัตรู”ทิ่มแทงใจเขา นายท่านนี้เลยพูดโต้กลับ
แสนรักชะงัก
และเมื่อได้สติก็ให้โกรธขึ้น!
“แล้วการเลือกของปู่คือการขายแผนที่ทางการทหารของตัวเองหรอครับ เพื่อให้เข้ากันกับการแสดงของปู่ ปู่ให้ทัพหน้าทั้งหมดของปู่ตายอยู่ที่นั่น ปู่บอกว่าไม่อยากให้กองทหารต้องเจ็บตายเป็นจำนวนมาก แล้วพวกเขาละครับ พวกเขาเป็นอะไร พวกเขาไม่ใช่ชีวิตหรอกหรอ?”
ในที่สุดเขาก็ประทุขึ้น
เขาโมโห ผิดหวัง เสียใจ จนกระทั่งสุดท้าย เขาชี้ไปที่เสียงร้องของเขา ทั่วทั้งร่างของเขาแทบไม่มีเสียงออกมา มีก็แต่ร่างกายที่สั่นเทา
แล้วก็ใบหน้าอารมณ์ดุร้ายนั้นอยากที่จะใช้ปืนยิงเขา
ใช่ ตอนนี้เขาอยากที่จะฆ่าเขาจริงๆ
เขาไม่รู้เลยหรอว่าตัวเองได้ทำอะไรลงไป จนตอนนี้ยังกล้าที่โต้กลับเขาอีก!
หน้าของแสนรักเริ่มทะมึนขึ้นเรื่อยๆ
ไม่มีใครสามารถที่จะเข้าใจความรู้สึกของเขานี้ได้
เพราะว่าก่อนหน้านี้เขาเป็นนักธุรกิจ พูดไม่ค่อยน่าฟัง นักธุรกิจก็คือเห็นแก่ได้
แต่หลังจากที่ได้มาที่นี่ เขาได้ขับไล่เขา เพราะความรู้สึกไม่สุขใจในตอนนั้น แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าช่วงเวลาที่ได้ใกล้ชิดกันทุกวัน ความคิดของคนสูงวัยคนนี้ได้ซึมซับเข้าไปในหัวสมองของเขาเรียบร้อยแล้ว
อย่างเช่นตอนที่เขาฆ่าคนของสมรมวัลย์อย่างบ้าคลั่ง เขายอมที่จะตายดีกว่า ยอมที่จะให้มาแตะความเสถียรภาพของการทหาร
แล้วก็อย่างเช่นครั้งแรกที่ไวท์ พาเลซอำนาจรัฐยุ่งเหยิง เขายอมที่จะถอยออกก้าวนึงก็เพื่อให้ประเทศนี้ไม่ตกอยู่ในความตื่นตระหนก
แล้วก็มาถึงตอนที่ช่วงนี้พวกเขาได้กำจัดอิสริยาภรณ์สิบดาวสิ่งที่เขาจะสื่อให้เขายังไม่ชัดเจนพออีกหรอ
เขายอมที่จะให้หลานชายคนโตของตัวเองแกล้งตาย เพื่อศัลยกรรมใบหน้าเป็นคนอื่น
เขายอมที่จะให้ตัวเองเป็นอัมพาต ยอมเล่นละครฉากใหญ่ สิ่งพวกนี้ก็เพื่อกำจัดคนเหล่านั้นเพื่อให้ประเทศรุ่งเรืองไม่ใช่หรอ
ทำไมก่อนหน้านี้เขาถึงได้เลอะเทอะอย่างนี้?
หรือเขาไม่รู้ว่านั่นเป็นโทษประหาร นั่นเป็นการขัดต่อความเลื่อมใสและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในฐานะที่เขาเป็นทหาร เขาไม่รู้เลยหรือไง
แสนรักทั้งโกรธทั้งเจ็บปวดอย่างขีดสุด สุดท้ายแล้วเขาพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำนึงจริงๆ
ไชยันต์ก็ไม่พูดอะไรอีก
ได้แต่ยืนด้วยใบหน้าซีดเซียวอยู่ตรงนั้น จนกระทั่งสุดท้าย คนของพวกศาลทหารก็เตรียมพาตัวเขาไป เขาถึงได้เห็นหลานชายที่โมโหสุดขีดจับที่โต๊ะอยู่
“แกพูดถูก ฉันมีความผิดจริงๆนั่นแหละ จริงๆแล้วหลายปีที่ผ่านมาฉันมักจะตื่นกลางดึกเพราะเรื่องนี้ ดังนั้นครั้งนี้แกก็ไม่ต้องช่วยฉันนะ แกจัดการตระกูลเทวเทพให้เรียบร้อย ควรที่จะกลับไปที่ไหนก็กลับไปที่นั่น”
“……..”
หนึ่งนาทีเต็มๆ
เส้นหมี่ที่อยู่โอบเด็กสามคนเอาไว้แน่นอยู่ชั้นบน ถึงเอามือปิดปากร้องไห้เมื่อเห็นผู้ชายที่อยู่ด้านล่าง และในขณะนั้นก็ผลักโต๊ะที่อยู่ด้านหน้าออก!
“เพล้ง!”
“ไชยันต์ ทำไมถึงไปรีบๆตายนะ?!”
——
ตระกูลไชยันต์ก็เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน
เส้นหมี่ต้องพาเด็กทั้งสามย้ายออกในคืนเดียวกัน เพราะไชยันต์ถูกนำตัวไปแล้ว เดอะวิวซีก็ต้องถูกเก็บ และคนที่อยู่ในเมืองหลวงก็ไม่อาจยอมรับคนที่เคยถูกพวกเขานับถือและคุ้มครองว่าเป็นคนขายชาติ
พวกเขาเริ่มโจมตีคนของตระกูลเทวเทพ แล้วก็ล้อมรอบเดอะวิวซีไว้
เส้นหมี่ไม่มีทางเลือก ทำได้แค่ตกกลางคืนถึงพาพวกเด็กๆย้ายออกไป และในเวลานี้สิ่งที่เธอกังวลมากที่สุดคืออาการปวดหัวของแสนรักกำลังเริบขึ้นอีก
เขาเริ่มที่จะไม่นอนเลยตลอดทั้งคืน จนทำให้สภาวะจิตใจของเขานั้นแย่ถึงขีดสุด
แต่ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว เขาก็ยังคงหาแผนรับมือ บางทีพอเขานั่งลงที่หน้าคอมก็นั่งอยู่หลายชั่วโมง
“ท่านประธานครับ สถานการณ์นับวันยิ่งไม่ดีเลย ทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเทวเทพถูกยึดเข้าหลวง ทางสมรมณ์วัลย์กับลำธารณีณก็เหมือนกัน เอ่อแล้วก็วันนี้ตอนเช้ารองผู้นำเดชาก็ถูกนำตัวไปเหมือนกัน ท่านประธานครับ เป้าต่อไปของพวกเขาจะเป็น….คุณหรือเปล่า?”
ตอนที่ดลธีมารายงานให้ฟังอีกครั้งนึง ทั้งสีหน้าของเขาก็ซีดเซียว