ภาค 10 ขี่วายุทะลายคลื่นหมื่นลี้ บทที่ 1013 การกลับมาของประมุข

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

จอมยุทธ์เขาโถงทองหลังจากได้รับข่าวที่เขากว่างเฉิงกำลังจะเปิดสำนักรับลูกศิษย์อย่างเป็นทางการ ต่างก็พากันเงียบขรึม จากนั้นก็เกิดความโกลาหลขึ้น

“หรือเขากว่างเฉิงคิดจะย้ายสำนักทั้งสำนักไปที่เขารอบวงในเขตเพลิงทักษิณ พวกเขาไม่อาจวางค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งในทะเลหวงเจียได้”

มีคนพูดข้อสงสัยออกมา “แต่ต่อให้วางค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งได้ ก็ไม่แน่ว่าจะต้านทานจักรพรรดิเอกภพกับประมุขทักษิณได้กระมัง”

คนที่อยู่ใกล้ๆ กล่าวอย่างใคร่ครวญ “ผู้คนบอกว่าอาวุธเซียนที่จักรพรรดิประกายกาฬได้ทิ้งเอาไว้ก่อนที่จะเสียชีวิต ได้ตกไปอยู่ในมือของเขากว่างเฉิง ทางเขากว่างเฉิงไม่เคยปฏิเสธ หรือว่านี่เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขามีความมั่นใจ”

ผู้คนต่างเล่าลือกันว่าเขากว่างเฉิงได้รับมรดกของจักรพรรดิประกายกาฬ ได้รับอาวุธเซียนในตำนาน เพียงแต่ไม่มีผู้ใดเคยเห็นมาก่อน

ในตอนที่เกิดสงครามใหญ่ขึ้นที่เขากว่างเฉิง พวกเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ผนึกกำลังกันสังหารกวนลี่เต๋อ ผู้วิเศษเซิง เสวียนเฉิงอ๋อง ระกพรตสือ เกิดเป็นผลการรบอันเฉิดฉายที่น่าเหลือเชื่อ

ในตอนนั้นผู้คนต่างคิดว่าเป็นความดีความชอบของอาวุธเซียน แต่ต่อมาเยี่ยนจ้าวเกอถล่มฝั่งทิศใต้ เข่นฆ่ากลับฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ เกิดสงครามสะท้านใต้หล้าขึ้นที่เขามหาวิญญาณและเขารอบวง คนส่วนใหญ่จึงเริ่มมองดูพลังของเยี่ยนจ้าวเกอ

พร้อมกันนั้น ผู้คนก็ระแวดระวังเยี่ยนตี๋กับจอมยุทธ์คนอื่นๆ ในเขากว่างเฉิงมากยิ่งขึ้น

รายละเอียดถูกขุดมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่นในตอนที่เยี่ยนตี๋เพิ่งลอยขึ้นมาบนโลกซ้อนโลก ก็สังหารมู่เสวียนอ๋องในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหกทันที

เมื่อเทียบกันแล้ว ทุกคนก็ค้นพบอย่างสับสนว่า นอกจากเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว เขากว่างเฉิงยังมีบุคคลร้ายกาจไม่ต่ำกว่าหนึ่งคน

ไม่กี่ปีมานี้ จอมยุทธ์เขากว่างเฉิงอายุน้อยเช่นพวกสวีเฟย เซี่ยกวง อิงหลงถู และซือคงจิงออกท่องโลก มีผลงานเฉิดฉายเช่นกัน

ตอนนี้ทุกคนเริ่มชินกับพลังของจอมยุทธ์แห่งกว่างเฉิงแล้ว

ครั้งนี้เมื่อหันกลับมองสงครามที่เขากว่างเฉิงอีกครั้ง คนจำนวนมากก็คาดเดาว่า สงครามครั้งนั้นไม่ได้มีการเข้าร่วมของอาวุธเซียน

พอมองการทะลวงกลับฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่ฝั่งทิศใต้ของเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง เมื่อไม่เห็นร่องรอยของอาวุธเซียน ทุกคนก็เริ่มสงสัย

ข่าวที่สำนักแสงสว่างเคยกระจายออกมา บางทีอาจเป็นของปลอม

สำนักแสงสว่างเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงของสำนักประกายกาฬอย่างแท้จริง แต่ในตอนนั้นพวกเขากับเขากว่างเฉิงมีความสัมพันธ์เลวร้ายยิ่ง ไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่ตั้งใจสร้างข่าวใส่ร้ายป้ายสีออกไป

เพียงแต่ว่าเขากว่างเฉิงไม่เคยปฏิเสธ ดังนั้นที่นี่จะมีอาวุธเซียนที่จักรพรรดิประกายกาฬได้ทิ้งไว้หรือไม่ จึงเป็นปริศนาสำหรับคนจำนวนมากมาโดยตลอด

แต่ทั่วทั้งเขากว่างเฉิงกลับทราบว่า เยี่ยนจ้าวเกอได้มรดกของจักรพรรดิประกายกาฬจากด้านในสุสานจักรพรรดิประกายกาฬจริงๆ

ขณะนี้ทุกคนต่างคิดถึงเรื่องนี้

“ไม่ใช่อาวุธเซียน ได้ยินว่ายังเป็นแค่ตัวอ่อนอาวุธเซียน” แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์ยามนี้ค่อยส่ายหน้า

คนอื่นๆ ได้ยิน คิ้วต่างขมวดขึ้นมา “ตัวอ่อนอาวุธเซียนคิดจะกลายเป็นอาวุธเซียน ต้องเดินบนเส้นทางที่ยาวไกล นั่นเดิมทีเป็นของวิเศษที่มีแต่จักรพรรดิเซียนจริงแท้ซึ่งได้ผลักเปิดประตูเซียนจึงจะสามารถหลอมสร้างได้ คนธรรมทั่วไปต่อให้ได้มา ก็ไม่อาจหลอมเซ่นมันให้สำเร็จได้กระมัง”

แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์กล่าวอย่างแช่มช้า “ตามปกติแล้วสมควรเป็นเช่นนี้”

นางมองทิศทางของเขากว่างเฉิงที่อยู่ทางขอบฟ้า

“ข่าวที่ลือกันมาบอกว่า นอกจากเขากว่างเฉิงเตรียมจะจัดพิธีเปิดสำนักที่เป็นทางการแล้ว ยังบอกด้วยว่าพ่อลูกตระกูลเยี่ยนบัดนี้ได้ปีนขึ้นสะพานเซียนแล้ว”

คนที่อยู่รอบๆ พยักหน้าพร้อมกัน ถอนใจชมเชย แต่ก็มีสีหน้าซับซ้อนเล็กน้อย

ผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ แทบจะเห็นเยี่ยนจ้าวเกอเพิ่งมาถึงทะเลหวงเจียบนโลกซ้อนโลก จากนั้นก็เดินมาถึงวันนี้ด้วยตาตัวเอง

ในเวลาสั้นๆ สิบกว่าปี เขาได้เดินผ่านเส้นทางที่คนจำนวนมากเดินไม่จบไม่สิ้นตลอดชีวิต เมื่อเทียบกับอายุขัยที่ควรมีของระดับพลังฝึกปรือในตอนนั้นแล้ว เวลาที่ใช้ถือว่าสั้นถึงขีดสุด

มีคนพูดว่า “ดูจากพลังของเยี่ยนจ้าวเกอในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้าย วันนี้เขาปีนขึ้นสะพานเซียน ถ้าหากว่าวางค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งในเขารอบวงเพื่อต่อสู้กับประมุขทักษิณ บางทีอาจมีโอกาสรักษาชีวิตได้ แต่เมื่อต้องปะทะกับจักรพรรดิเอกภพกำเนิด เกรงว่าจะเอาไม่อยู่”

“ที่อยู่ซึ่งระบุบนเทียบเชิญที่มอบให้พวกเราคือเขากว่างเฉิงบนดินแดนจิตคุณธรรมในทะเลหวงเจีย” แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์เอ่ยอย่างแช่มช้า

จอมยุทธ์ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้มองหน้ากันเอง “ไม่มีค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้ง อาวุธเซียนยังเป็นแค่ตัวอ่อน เช่นนั้นสมควรทำอย่างไร”

คนหนึ่งในนี้สุดท้ายก็หัวเราะอย่างขื่นขม “ถ้าจักรพรรดิเอกภพกลับมา จักรพรรดิแพรก็สมควรกลับมาด้วยกระมัง แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าถึงตอนนั้นจักรพรรดิแพรจะลงมือหรือไม่”

นอกจากพวกแม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์ที่อยู่บริเวณพรมแดนของทั้งสองเขตแล้ว เขากว่างเฉิงย่อมต้องส่งเทียบเชิญไปที่เขาโถงทองด้วย

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ยจะกลับเขาโถงทองตอนไหน แต่ว่าโดยมารยาทแล้ว เขากว่างเฉิงย่อมต้องส่งคำเชื้อเชิญไป

ในสถานการณ์คล้ายๆ กัน ยังมีผาบัวแดงบนยอดเขาอัศจรรย์ในเขาคุนหลุนด้วย

จักรพรรดิแพรยังไม่กลับมา ฟู่ถิงเข้าฌานไม่อาจออกมาข้างนอกได้

แต่ว่าจอมยุทธ์ยอดเขาอัศจรรย์ที่ก่อนหน้านี้ได้รับคำสั่งของจักรพรรดิแพร หลังจากได้รับเทียบเชิญแล้ว ก็บอกกล่าวทันทีว่าถ้าถึงเวลาจะมีตัวแทนรับคำเชิญไปร่วมพิธีที่เขากว่างเฉิง

ไม่ได้มีแค่ในเขตตะวันอาคเนย์เท่านั้น ขุมกำลังที่ปกติแล้วมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิง ต่างได้รับเทียบเชิญ

หลิวเซี่ยงถง ประมุขพรรคเขามกรกตแห่งเขากระท่อมฟ้าในเขตมหานภากลาง ก็ได้รับการเชื้อเชิญเช่นกัน

กลับเป็นลูกศิษย์ของประมุขอุดรในเขตราตรีอุดร พวกเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ได้มีการพิจารณาแล้ว

กวนอวี่ลั่วหลานสาวของประมุขอุดรมีความสนิทสนมกับเฟิงอวิ๋นเซิงลูกศิษย์ของเขากว่างเฉิง แต่นี่เป็นความสัมพันธ์ส่วนตัว

นางมีสถานะพิเศษเกินไป ไม่ว่ากระทำเรื่องใด มักจะถูกผู้อื่นมองว่าเป็นความคิดของประมุขอุดร

ทว่าประมุขอุดรและจักรพรรดิแพรไม่ได้มีความขัดแย้งกับประมุขทักษิณ

ถ้าหากเป็นแค่เฟิงอวิ๋นเซิงคนเดียว บางทีเขาอาจจะเห็นแค่สถานะที่เฟิงอวิ๋นเซิงเคยช่วยหลานสาวของตัวเองมา ลงมือคุ้มครองคน แต่ถ้าต้องการให้เขาช่วยเยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิงเพราะสาเหตุนี้ ยืนอยู่ตรงกันข้ามกับจักรพรรดิเอกภพกำเนิด เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่าไม่อาจทำถึงขั้นนั้นได้

การส่งเทียบเชิญให้อารามคงมายา ต่อให้เชิญกวนอวี่ลั่ว ผลลัพธ์กลับไม่มีทางบอกได้ และอาจทำให้อีกฝ่ายลำบากใจ

เฟิงอวิ๋นเซิงไม่อยู่พอดี สุดท้ายเขากว่างเฉิงจึงตัดสินใจไม่ส่งเทียบเชิญให้แก่อารามคงมายา

แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอก็ยังส่งจดหมายไปเป็นการส่วนตัว ขอให้กวนอวี่ลั่วช่วยค้นหาทิศทางของเฟิงอวิ๋นเซิงในฝั่งเหนือ

ด้วยเหตุนี้ จึงค่อยลบความกระอักกระอ่วนที่อีกฝ่ายควรจะมาเขากว่างเฉิงหรือไม่ออกไปได้

กลับเป็นเขตสารทอิสาน ทางตำหนักขุยสายฟ้า เยี่ยนจ้าวเกอได้ส่งเทียบเชิญไป ส่วนหลิวเจิงกู่จะตอบรับคำเชิญหรือไม่ เช่นนั้นต้องดูความต้องการของเขาแล้ว

เทียบกับแขกที่เขากว่างเฉิงเชื้อเชิญด้วยตัวเองแล้ว ผู้คนที่ได้รับข่าวสารล้วนฮึกเหิม

คนหนุ่มสาวจำนวนนับไม่ถ้วนไปจนถึงจอมยุทธ์พเนจรที่มีชื่อเสียง ต่างก็เงยหน้าเฝ้ารอวันที่เขากว่างเฉิงจะเปิดสำนักอย่างเป็นทางการ

หลังจากสงครามสะท้านใต้หล้าที่เขามหาวิญญาณและเขารอบวงในตอนนั้นของเยี่ยนจ้าวเกอ คนจำนวนนับไม่ถ้วนก็รอคอยวันนี้มาโดยตลอด

ในอีกด้านหนึ่ง บนยอดเขาอนัตตาในเขตมหานภากลาง และเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ในเขตเพลิงทักษิณ ย่อมได้รับข่าว

นอกจากนี้แล้ว เขาทุ่งวิจิตรแห่งเขตกระฟ้าประจิม ไปจนถึงเขาสามขาในเขตตะวันอาคเนย์ และสำนักนับไม่ถ้วนในเขตเพลิงทักษิณ ต่างได้รับข่าวเช่นกัน

คนจำนวนนับไม่ถ้วนกัดฟันด้วยความแค้น

เนินต้นจักรพรรดิที่มีคนบาดเจ็บล้มตายด้วยมือเยี่ยนจ้าวเกอสาหัสที่สุดยิ่งมีอารมณ์รุนแรง

ในตอนที่จิตใจของผู้คนลุกโชนด้วยเปลวไฟ ต่างรู้สึกได้ว่าเขาลีลาหงส์ที่ตนอยู่สั่นไหวรอบหนึ่ง

ท้องฟ้าทิศเหนือ ทะเลเพลิงบังตะวัน มีหงส์แสดงลีลา

จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิต่างฮึกเหิม

ประมุขทักษิณจวงเซินในที่สุดก็ขับเขตเพลิงทักษิณแล้ว!

………………..