ตอนที่ 1258 สตรีงามอันดับหนึ่ง

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

สายตา​คาดหวัง​ของ​ทุกคน​ทำให้​ฉิน​อวี​้​โม่​ตระหนักถึง​ภาระ​อัน​หนักอึ้ง​ที่​ถาโถม​เข้ามา​ ​ซึ่ง​เป็นปัญหา​ที่​แก้​ยาก​ยิ่งกว่า​การ​ทะลวง​พลัง​ที่​ผ่าน​ ​ๆ​ ​มา​เสียอีก

เดิมที​นาง​คิด​ว่าการ​เข้าร่วม​หอ​ชั้นใน​จะ​หมายถึง​การ​ได้​เก็บตัว​และ​ฝึกฝน​อย่าง​เงียบ​ ​ๆ​ ​สัก​ระยะ​ ​ทว่า​ตอนนี้​เกรง​ว่านาง​จะ​ไม่มี​ช่วงเวลา​ฝึกฝน​ด้วยซ้ำ​ ​ใน​ช่วง​หลาย​วันหลัง​จากนี้​ ​นาง​จะ​ต้อง​ใช้เวลา​ไป​กับ​การ​ช่วย​เจียง​จิ้ง​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ฝึกซ้อม​จนกระทั่ง​กลายเป็น​กลุ่ม​ศิลปิน​สตรีที​่​ทำการ​แสดง​ได้​อย่าง​สมบูรณ์แบบ​ ​ก่อนที่จะ​ถึง​ตอนนั้น​ ​ตัวนาง​จะ​ไม่มีเวลา​บ่ม​เพาะ​ฝึก​วิชา​ดังที่​จินตนาการ​ไว้

“​ทุกคน​นั่งลง​ก่อน​เถอะ​”

ฉิน​อวี​้​โม่​กล่าว​และ​ผาย​มือ​เชิญ​ทุกคน​ให้​นั่งลง​ ​ภารกิจ​แรก​คือ​การฟังเสียง​ของ​แต่ละคน​และ​แบ่ง​เนื้อร้อง​ตาม​ความเหมาะสม

ทุกคน​ก็​นั่งลง​และ​ประพฤติ​ตัว​เป็น​อย่างดี​ ​ราวกับ​พบ​อาจารย์​ที่​เหมาะสม​แล้ว

“​ข้า​ได้​ฟัง​ศิษย์​พี่​ทุกคน​ร้องเพลง​แล้ว​ ​ตอนนี้​เรา​มา​แบ่ง​เนื้อร้อง​กัน​ก่อน​เถอะ​”

ฉิน​อวี​้​โม่​มองดู​เนื้อเพลง​ของ​ ​‘​จันทร์กระจ่าง​ฟ้า​จัก​มี​ใน​ยาม​ใด​’​ ​ใน​มือ​และ​ตัดสินใจ​หารือ​กับ​ทุกคน​ก่อน

เจียง​ฉา​และ​ทุกคน​ก็​ไม่​คัดค้าน​ขณะ​รอกา​รม​อบ​หมาย​จาก​ฉิน​อวี​้​โม่​อย่าง​เงียบ​ ​ๆ

“​ข้า​คิด​ว่า​เรา​จะ​ขับร้อง​เพลง​จันทร์กระจ่าง​ฟ้า​จัก​มี​ใน​ยาม​ใด​แบบ​ธรรมดา​ไม่ได้​ ​ข้า​อยาก​จะ​เพิ่ม​ความ​พิเศษ​สักหน่อย​ ​ศิษย์​พี่​เจียง​ฉา​…​ท่าน​รับหน้าที่​บรรเลง​นำ​เพื่อ​ปูพื้น​ฐาน​ทำนองเพลง​ก่อน​ก็แล้วกัน​”

ฉิน​อวี​้​โม่​เริ่ม​แบ่ง​เนื้อร้อง​ตาม​ท่อน​ต่าง​ ​ๆ​ ​ตามที่​นาง​คิด​ว่า​เหมาะสม​ที่สุด​ ​ภายใน​เวลา​สิบห้า​วันนี้​ ​การ​ที่จะ​ขัดเกลา​ฝีมือ​การร้อง​และ​การ​เต้น​ของ​ทุกคน​ใหม่​เป็นเรื่อง​ที่​ยากเย็น​เกินไป​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​นาง​จึง​เลือก​ใช้​วิธีการ​ที่​เรียบง่าย​ที่สุด​ ​สำหรับ​เจียง​ฉา​ที่​ไม่​เหมาะสำหรับ​การร้อง​เพลง​นัก​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​สามารถ​หา​สิ่ง​ที่​เหมาะสม​ให้​กับ​นาง​ได้​นั่น​คือ​การขับร้อง​ประสานเสียง​ซึ่ง​เชื่อ​ว่า​เสียง​ของ​นาง​คงจะ​ควบคุม​ได้

เจียง​ฉา​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ทันที​และ​ลอง​เอื้อน​เสียง​ด้วย​รูปแบบ​ที่​สนุกสนาน​ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่นาง​รู้สึก​ตื่นเต้น​และ​ชื่นชอบ​เป็นอย่างมาก

“​ศิษย์​พี่​เจียง​จิ้ง​ ​เสียง​ของ​ท่าน​ฟัง​ดู​องอาจ​ห้าวหาญ​และ​เหมาะสำหรับ​ท่อน​แรก​ ​เพราะฉะนั้น​ ​เนื้อร้อง​สอง​ประโยค​แรก​จะ​เป็น​หน้าที่​ของ​ท่าน​”

ฉิน​อวี​้​โม่​หันไป​หา​เจียง​จิ้ง​และ​มอบหมาย​ท่อน​ ​‘​จันทร์กระจ่าง​ฟ้า​จัก​มี​ใน​ยาม​ใด​ ​ยก​จอก​สุรา​ขึ้น​ถาม​ต่อ​ฟ้า​ ​มิ​อาจ​รู้​ ​ว่าวิ​มาน​บน​สรวงสวรรค์​ ณ​ ​ยาม​นี้​เป็น​ปี​ไหน​’​ ​ให้​กับ​นาง

เจียง​จิ้ง​พยัก​ศีรษะ​ด้วย​ความตื่นเต้น​ทันที​ ​คำร้อง​เหล่านี้​เป็น​ท่อน​ที่นาง​ขับร้อง​ได้ดี​ที่สุด​ ​นาง​จึง​มั่นใจ​ว่า​จะ​ไม่มีปัญหา​ใด

ฉิน​อวี​้​โม่​แบ่ง​เนื้อร้อง​ใน​ท่อน​อื่น​ ​ๆ​ ​ให้​กับ​ทุกคน​ ​ทว่า​ยัง​ไม่มี​ท่อน​ใด​สำหรับ​ตนเอง

“​ศิษย์​น้อง​อวี​้​โม่​ ​แล้ว​เจ้า​จะ​ร้อง​ท่อน​ใด​หรือ​ ​?​”

สายตา​ของ​ทุกคน​เลื่อน​ไป​ที่​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​ต้องการ​ทราบ​ว่านาง​เตรียม​สิ่งใด​ไว้​ให้​กับ​ตนเอง

“​อีกไม่นาน​ทุกท่าน​ก็​จะ​ได้​ทราบ​เอง​”

ฉิน​อวี​้​โม่​ยก​ยิ้ม​มุม​ปาก​และ​กล่าว​กระตุ้น​ความสงสัย​ใคร่รู้​ของ​ทุกคน​ ​ทว่า​เจียง​จิ้ง​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ไม่เข้าใจ​ความหมาย​ของ​นาง​เท่าใด​นัก​…

เจียง​จิ้ง​และ​สหาย​ไม่​กล่าว​สิ่งใด​มาก​นัก​ขณะ​เริ่ม​ฝึกซ้อม​ท่อน​ร้อง​ที่​ได้รับ​มอบหมาย​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ช่วย​พวก​นาง​ปรับ​ทำนองเสียง​อีกครั้ง​จน​ดู​เป็น​มืออาชีพ​มากยิ่งขึ้น

​ ​ ​

ภายใน​คฤหาสน์​เฟิง​หัว​ ​บรรดา​อสูร​มายา​มองดู​ฉิน​อวี​้​โม่​ที่​จัดสรร​การร้อง​เพลง​ได้​อย่าง​เป็น​มืออาชีพ​ด้วย​ความ​ฉงน​สงสัย​ ​ใน​ความทรงจำ​ที่ผ่านมา​ ​ดูเหมือนว่า​ผู้​เป็น​นาย​ของ​พวก​มัน​จะ​ไม่เคย​ศึกษาศาสตร์​เหล่านี้​ ​แล้ว​เหตุใด​นาง​จึง​ดู​เป็น​มืออาชีพ​ยิ่งนัก​ ​?

แน่นอน​ว่า​ฉิน​อวี​้​โม่​ไม่​อธิบาย​สิ่งใด​และ​นึกถึง​ยุค​ที่​ตน​จาก​มา​ ​ใน​ช่วงเวลา​นั้น​ ​นาง​มักจะ​จับจอง​ไมค์​ใน​การร้อง​คาราโอเกะ​และ​ไม่ยอม​วาง​จน​ถูก​สหาย​ที่​มี​เพียง​น้อย​นิด​ตำหนิ​ต่อว่า​อยู่​เรื่อย​ ​ใน​ภายหลัง​ ​นาง​ก็​ฝึกฝน​จน​ชำนาญ​ใน​ด้าน​การร้อง​เพลง​จน​จัด​อยู่​ใน​ระดับ​กึ่ง​มืออาชีพ​และ​มี​ความสามารถ​เช่น​ที่​เห็น​ใน​ตอนนี้

หลังจาก​จัดแบ่ง​เนื้อร้อง​และ​ปรับ​ทำนอง​ ​ทุกคน​ก็​เริ่ม​ฝึกซ้อม​ร่วมกัน​ ​พวก​นาง​ใช้เวลา​ตลอด​ช่วง​บ่าย​ใน​การฝึกซ้อม​กัน​และ​เริ่ม​ประสานเสียง​กัน​ถึง​ระดับ​ที่​ไม่​ทำให้​ผู้ฟัง​ปวดหัว​อีกต่อไป​ซึ่ง​ถือว่า​ประสบความสำเร็จ​มาก​ทีเดียว

“​ข้า​ไม่เคย​คิด​เลย​ว่า​จะ​สามารถ​ร้องเพลง​เช่นนี้​ได้​”

เจียง​ฉา​และ​คนอื่น​ ​ๆ​มอง​ฉิน​อวี​้​โม่​ด้วย​แววตา​ชื่นชม​ยิ่งกว่า​เดิม​ราวกับ​ได้​พบ​อาจารย์​สอน​ร้องเพลง​ที่​สมบูรณ์แบบ​และ​เคารพ​นาง​มากขึ้น​เรื่อย​ ​ๆ

ฉิน​อวี​้​โม่​เพียง​ยิ้ม​ตอบ​พวก​นาง​ก่อนที่​ทุกคน​จะ​มุ่งหน้า​กลับ​ไป​ยัง​หอพัก​อย่าง​มีความสุข

ภายใน​หอพัก​สตรี​ ​เจียง​ฉา​และ​ทุกคน​ชวน​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​เห​ลิ่ง​ซวง​เสวี​่ย​ไป​ที่​ห้องพัก​ของ​ตน​เพื่อ​รับประทาน​หม้อ​ไฟ​ร่วมกัน​ท่ามกลาง​บรรยากาศ​ที่​รื่นเริง

ระหว่าง​ที่​พวก​นาง​พูดคุย​กัน​อย่าง​สบาย​ ​ๆ​ ​เสียงเคาะ​ประตู​ก็​ดัง​ขึ้น

หลังจาก​เปิด​ประตูออก​ไป​ ​ทุกคน​ก็​พบ​กับ​หวัง​เผยย​วี่​ผู้​ซึ่ง​เคย​ประจันหน้า​กัน​ก่อนหน้านี้​ ​ด้านหน้า​ของ​นาง​คือ​สตรี​งาม​นาง​หนึ่ง​ที่​ดู​มีอายุ​อยู่​ใน​ช่วง​ยี่สิบ​ห้า​ถึง​ยี่สิบ​หก​ปี​ซึ่ง​สวม​อาภรณ์​ยาว​สีขาว​ที่​แผ่​กลิ่นอาย​ของ​เทพ​เซียน​ออกมา​เล็กน้อย​ ​นาง​คือ​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​—​สตรี​งาม​อันดับ​หนึ่ง​ของ​หอ​ชั้นใน​ภายใน​นิกาย​หมื่น​กระบี่​นั่นเอง

“​เจ้า​ทั้งสอง​คือ​ศิษย์​น้อง​ที่​เข้ามา​ใหม่​สินะ​”

ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​ไม่​แสดงท่าที​เป็นปฏิปักษ์​ใด​ ​ๆ​ ​ต่อ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​เห​ลิ่ง​ซวง​เสวี​่ย​ ​นาง​เพียง​ยิ้ม​ให้​กับ​ทั้งสอง​และ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ไพเราะ​น่าฟัง

“​ข้า​คือ​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​และ​ถือเป็น​ศิษย์​พี่​ของ​เจ้า​ทั้งสอง​ ​ในอนาคต​หาก​พวก​เจ้า​เผชิญ​กับ​ปัญหา​ใด​ใน​หอ​ชั้นใน​ ​พวก​เจ้า​ก็​มาหา​ข้า​ได้​ทุกเมื่อ​”

นาง​กล่าว​แนะนำตัว​เอง​อย่าง​เป็นมิตร​และ​ดู​เข้าถึง​ได้​ไม่ยาก

ฉิน​อวี​้​โม่​ลุกขึ้น​และ​แนะนำตัว​เอง​เช่นกัน​ ​ในเมื่อ​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​ผู้​นี้​ไม่​แสดง​ความ​เป็นปฏิปักษ์​ใด​ ​ๆ​ ​นาง​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​เสียมารยาท​ต่อ​อีก​ฝ่าย

“​เผยย​วี่​ ​สำหรับ​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ภัตตาคาร​วันนี้​ ​ข้า​ได้ยิน​เรื่องราว​จาก​หลู​เยี​่​ยน​แล้ว​ ​เจ้า​ควร​ขอโทษ​ศิษย์​น้อง​ทั้งสอง​ ​ถึงอย่างไร​เจ้า​ก็​เป็น​คนที​่​เข้าไป​ก่อกวน​ศิษย์​น้อง​ทั้งสอง​ก่อน​”

ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​หันไป​กล่าว​กับ​หวัง​เผยย​วี่​เพื่อให้​นาง​ขอโทษ​ขอ​โพย​ฉิน​อวี​้​โม่​สำหรับ​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้น​ก่อนหน้านี้

“​ข้า​ขอโทษ​…​”

หวัง​เผยย​วี่​ไม่เต็มใจ​นัก​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​นาง​ไม่กล้า​ขัดคำสั่ง​ของ​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​และ​จำต้อง​เอ่ย​ออก​ไป​อย่าง​ห้วน​ ​ๆ

“​ศิษย์​พี่​สุภาพ​เกินไป​แล้ว​ ​มัน​เป็น​เพียง​เรื่องเล็ก​ ​ๆ​ ​น้อย​ ​ๆ​ ​เท่านั้น​และ​ไม่ต้อง​เก็บ​มาคิด​หรอก​เจ้าค่ะ​”

ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ให้เกียรติ​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​พอสมควร​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​สตรี​ผู้​นี้​แตกต่าง​ไป​จาก​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​ใน​หอ​ชั้นนอก​ ​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​เป็น​สตรี​ดอกบัว​ขาว​ที่​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด​ ​แต่​สำหรับ​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​ผู้​นี้​นั้น​เห็นได้ชัด​ว่านาง​ไม่สน​ใจ​สิ่งใด​มาก​นัก​และ​เพียง​แสดงออก​ตามที่​คิด

“​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​ ​อยาก​จะ​กิน​หม้อ​ไฟ​กับ​พวกเรา​หรือไม่​ ​?​”

เจียง​จิ้ง​เอ่ย​ชวน​และ​ไม่​แสดง​ความ​เป็นปฏิปักษ์​ต่อ​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​เช่นกัน​ ​นอกเหนือจาก​หวัง​เผยย​วี่​ที่​มักจะ​หาเรื่อง​มาก​วน​ใจ​ ​ความสัมพันธ์​ของ​ศิษย์​ใน​ส่วนใหญ่​ก็​ถือว่า​อยู่​ใน​ระดับ​ที่​ดี​ ​แม้แต่​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​ที่อยู่​กลุ่ม​เดียว​กับ​หวัง​เผยย​วี่​ ​พวก​นาง​ก็​เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน​กับ​ศิษย์​คนอื่น​ ​ๆ​ ​เมื่อ​เกิดเรื่อง​กับ​โลก​ภายนอก

“​ไม่ดี​กว่า​ ​ข้า​เพียง​ได้ยิน​ว่า​ศิษย์​น้อง​ที่​เข้ามา​ใหม่​สอง​คน​อยู่​ที่นี่​จึง​อยาก​จะ​มาทัก​ทาย​เท่านั้น​ ​พวก​เจ้า​เชิญ​กิน​ต่อไป​เถอะ​ ​เรา​จะ​ไม่​รบกวน​แล้ว​”

แม้​ไม่มี​ความบาดหมาง​และ​มี​ความสัมพันธ์​ที่​ปกติ​ต่อกัน​ ​การ​นั่ง​รับประทาน​อาหาร​ร่วมกัน​ก็​เป็น​สิ่ง​ที่​ดูจะ​สนิทสนม​กัน​มากเกินไป​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​ ​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​จึง​กล่าว​ปฏิเสธ​ออก​ไป​โดยตรง

“​ถ้าเช่นนั้น​ก็​เชิญ​เถอะ​ ​แต่​ขอบ​อก​ไว้​เลย​ว่า​ใน​อีก​สิบห้า​วันข้างหน้า​ ​เรา​จะ​ทำให้​พวก​เจ้า​ต้อง​ตกใจ​แน่​ ​!​”

ลั​่ว​ซือ​อด​กล่าว​ออก​ไป​ไม่ได้

“​ตกลง​ ​เรา​จะ​รอดู​”

ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​กล่าวตอบ​พร้อม​รอยยิ้ม​ก่อน​หันหลัง​จากไป​พร้อมกับ​หวัง​เผยย​วี่​และ​คนอื่น​ ​ๆ​

ฉิน​อวี​้​โม่​และ​ทุกคน​ก็​กลับ​เข้าไป​ใน​ห้องพัก​และ​รับประทาน​หม้อ​ไฟ​กันต​่อ​ไป

“​ศิษย์​น้อง​อวี​้​โม่​ ​แม้​พวกเรา​ศิษย์​ใน​จะ​มีเรื่อง​ขัดแย้ง​หรือ​ดวล​ฝีมือ​กัน​เป็นครั้งคราว​ ​เรา​ก็​มี​หลักปฏิบัติ​ที่​สำคัญ​นั่น​คือ​เรา​จะ​สามารถ​รังแก​กันเอง​ได้​เท่านั้น​ ​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ไม่มี​สิทธิ์​มารัง​แก​เรา​ ​ต่อให้​เป็น​ศิษย์​บุรุษ​ก็ตาม​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​ ​แม้​เรา​จะ​มี​ความสัมพันธ์​เชิง​คู่แข่ง​กับ​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​ ​แต่​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​พวกเรา​ก็​ถือว่า​ไม่เลว​ร้าย​”

เจียง​ฉา​และ​สหาย​อธิบาย​กับ​ฉิน​อวี​้​โม่​อย่างละเอียด​เพื่อให้​พวก​นาง​จดจำ​เรื่อง​นี้​ไว้​สำหรับ​อนาคต​ข้างหน้า

“​เรา​เข้าใจ​แล้ว​”

ฉิน​อวี​้​โม่​และ​เห​ลิ่ง​ซวง​เสวี​่​ยพ​ยัก​ศีรษะ​และ​รู้สึก​พึงพอใจ​กับ​การ​ที่​ศิษย์​สตรี​ของ​หอ​ชั้นใน​เข้ากันได้ดี

“​อีก​อย่าง​…​ตอนนี้​กลุ่ม​ของ​เรา​เป็น​กลุ่ม​เจ็ด​คน​แล้ว​และ​ใช้​ชื่อ​เดิม​ไม่ได้​อีกต่อไป​ ​เรา​คิด​ชื่อ​กลุ่ม​ใหม่​กัน​เถอะ​”

หลี​่ก​่​วนก​่​วน​ซึ่ง​นิ่งเงียบ​อยู่นาน​กล่าวถึง​สิ่ง​ที่​ถือว่า​สำคัญ​เป็นอย่างมาก

“​ชื่อ​เดิม​ของ​พวก​ท่าน​คือ​อะไร​หรือ​ ​?​”

ฉิน​อวี​้​โม่​เอ่ย​ถาม​ด้วย​ความใคร่​รู้​ ​พิจารณา​จาก​ลักษณะนิสัย​ของ​เจียง​ฉา​และ​สหาย​ทั้ง​สี่​ ​เชื่อ​ว่า​ชื่อ​กลุ่ม​ของ​พวก​นาง​จะ​ไม่​ทำให้​นาง​ ​‘​ผิดหวัง​’​ ​อย่างแน่นอน​ ​!