ในเสียงของหวังเสวียนอวี๋มีความระแวง ตักเตือน และมีความได้ใจอันคลุมเครือ

เพราะเขาชิงสมบัติชิ้นหนึ่งไปก่อนหน้าหลินสวินแล้ว!

เพียงแต่ไม่รอให้หลินสวินอ้าปาก เขาก็ร้องเสียงหลงสะบัดมือโยนบางสิ่งออกไป

เป็นมุกสีแดงเพลิงที่เพิ่งถูกเขาชิงมาเม็ดนั้น

ตูม!

เขาเพิ่งจะสะบัดมือ มุกสีแดงเพลิงเม็ดนั้นก็ระเบิดทันที

หวังเสวียนอวี๋โดนระเบิดจนเปรอะเปื้อนไปหมด ซวนเซถอยหลัง คิ้วผมล้วนไหม้เกรียม ดูสะบักสะบอมผิดปกติ

หลินสวินอึ้งไปก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็เกือบกลั้นขำไม่อยู่ เมื่อครู่นี้เจ้าหมอนี่ยังโอ้อวดอยู่เลย ตอนนี้ประสบเคราะห์เสียแล้ว ช่างน่าสลดใจจริงๆ

แต่ทันใดนั้นในใจหลินสวินพลันสะท้าน ตระหนักได้ว่าสถานการณ์ผิดปกติ

เพราะตอนนี้สมบัติที่ผู้แข็งแกร่งทุกคนพุ่งเข้ามาช่วงชิง หากไม่ได้แปลงมาจากภาพมายา

ก็เหมือนมุกสีเลือดเพลิงเม็ดนั้น เกิดพลังทำลายล้างน่ากลัว สร้างบาดแผลให้ผู้แข็งแกร่งจำนวนไม่น้อย!

ถึงขั้นที่มีคนถูกโจมตีจนเละเทะไปทั้งตัว เลือดอาบน่าอนาถอย่างที่สุด

ในที่นั้นเสียงฮือฮาดังขึ้นทั่วสารทิศ ล้วนทั้งโกรธทั้งตกใจ

เกิดอะไรขึ้น

เป็นศุภโชคที่ปิดผนึกนับหมื่นสมัยมิใช่หรือ เหตุใดจึงกลายเป็นเช่นนี้

“ของปลอม!”

หวังเสวียนอวี๋กัดฟัน สีหน้าอึมครึม

เขาก่อนหน้านี้ใจเย็นและอ่อนโยนมาโดยตลอด มีมารยาทและสุภาพเรียบร้อย แต่ตอนนี้กลับโกรธจนเสียอาการไม่น้อย

สวบ!

ส่วนหลินสวินยิ่งเด็ดขาดกว่า ถอยทัพอย่างไม่ลังเล ย้อนกลับไกลออกไป

เขาสังเกตได้ถึงอันตราย!

แท่นบูชานรกเทพนี่ไม่มีใครรู้ที่มา ที่ถูกมองว่าเป็นศุภโชคพลิกฟ้าซึ่งถูกปิดผนึกไว้ ก็เป็นเพียงแค่การคาดเดาของทุกคนเท่านั้น ถือเป็นเรื่องจริงไม่ได้!

ครั้นเห็นว่าหลินสวินถอย ในใจหลายคนต่างสะท้าน ลังเลเล็กน้อย จากไปเช่นนี้ พวกเขาไม่ยินยอมหรอกนะ

แต่ก็มีคนเลือกที่จะถอยเช่นกัน!

ที่แห่งนี้แปลกประหลาดมาก สมบัติที่แปลงออกมา แต่ละอย่างแม้ยั่วยวนใจมาก อย่างกระถางหยกขาวนั่น หรือโอสถเทพที่ราวกับตะวันม่วงผลนั้น…

แต่ล้วนพิสูจน์แล้วว่านั่นเป็นภาพมายา!

ทั้งหมดนี้เป็นเหมือนหลุมพลาง ทำให้คนหวาดหวั่นในใจ

ตูม!

ทันใดนั้นมีคนทะยานอากาศลงมา กระชับทวนใหญ่เจิดจ้าเล่มหนึ่งผ่าใส่ศีรษะของหลินสวิน ทรงพลังยิ่งยวด แสงมรรคเป็นชั้นๆ สาดส่อง

“อยากไปหรือ ไม่มีทาง!”

คนผู้นี้คือฮวาเทียนไห่สัตว์ประหลาดยุคโบราณแห่งเผ่าแรดพยัคฆ์

ก่อนหน้านี้เขาถูกหลินสวินบีบให้หลีกทางก็เจ็บแค้นใจอยู่แล้ว เดิมทีคิดจะฉวยโอกาสแก้แค้นหลินสวินตอนช่วงชิงศุภโชค

ใครจะคิดว่าสถานการณ์แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว ตอนนี้เห็นว่าหลินสวินจะหนี เขาจึงเลือกลงมืออย่างไม่ลังเล!

แน่นอนว่าไม่ได้จะเอาชีวิต แต่จะกักตัวหลินสวินไว้ที่นี่ ไม่ให้เขาหนีไปไหน!

เช่นนี้หากหลังจากนี้เกิดเหตุอะไร ก็สามารถดึงหลินสวินลงน้ำไปด้วยได้

ความตั้งใจนี้ไม่เรียกว่าไม่เหี้ยมไม่ได้

หลินสวินแววตาเย็นชา ต่อยหมัดหนึ่งออกไป

ตูม!

ในเสียงปะทะน่ากลัว ทวนใหญ่เจิดจ้าร้องครวญ ฮวาเทียนไห่ถูกโจมตีจนร่างกระเด็นไปไกลสิบกว่าจั้ง เงาร่างโซซัดโซเซ ทรมานจนแทบจะกระอักเลือด

“ไม่เลว มิน่าถึงกล้าพุ่งมาอย่างไม่กลัวตาย”

นี่นับว่าทำให้หลินสวินคาดไม่ถึงอยู่บ้าง พลังหมัดนี้ของเขาใช่ว่าทุกคนจะสามารถสกัดได้

แต่คำพูดนี้เมื่อเข้าหูของฮวาเทียนไห่แล้ว กลับเหมือนการเย้ยหยันอย่างที่สุด ทำให้เขาอัดอั้นจนหน้าแดง เดือดดาลเป็นอย่างยิ่ง

แต่หลินสวินคร้านจะสนใจเขา พุ่งไปข้างหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว

สถานที่นี้แปลกประหลาดเกินไป ทำให้เขายังรู้สึกออกจะกระสับกระส่าย

“สหาย ในเมื่อมาแล้ว เหตุใดต้องเร่งรีบจากไป”

ทันใดนั้นแสงโลหิตสายหนึ่งดิ่งลงมาขวางทางหลินสวิน แปรเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มชุดเลือด รูปลักษณ์งดงามอย่างยิ่ง

เขามีเอกลักษณ์อย่างมาก ดวงตาราวกับเพชรสีเลือดใสโปร่งแสง ผมยาวสีเลือดทั้งศีรษะทิ้งตัวกลางหลัง เงาร่างสง่าผ่าเผยอย่างมาก

เขายืนอยู่ตรงนั้นอย่างสบายๆ เงาร่างราวกับแม่น้ำสีเลือดกำลังพลิกม้วน เดี๋ยวปรากฏเดี๋ยวเลือนราง มีอานุภาพชวนให้หวาดหวั่นใจ

“ทุกท่านโปรดหยุดก่อน ข้าอยากนั่งถกมรรคกับทุกท่านที่นี่”

ในเวลาเดียวกัน ในพื้นที่อื่นๆ ตรงหน้าผู้แข็งแกร่งทุกคนล้วนปรากฏเงาร่างสีเลือดเงาหนึ่ง รูปลักษณ์ล้วนเหมือนชายชุดเลือดคนนี้ราวกับพิมพ์เดียวกัน แม้แต่กลิ่นอายยังเหมือนกัน!

เพียงชั่วพริบตาในที่นั้นเงียบเชียบไปทั้งแถบ สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปโดยพลัน

ชายชุดเลือดคนนี้ ก่อนหน้านี้ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน เขาเป็นใคร

“ในแดนนรกแห่งนี้ล้วนเป็นอาณาเขตของข้า และสถานที่ที่ทุกท่านยืนอยู่ก็คือสถานที่หลับใหลของข้า”

ทันใดนั้นชายชุดเลือดนับร้อยคนพูดขึ้นพร้อมกัน เสียงต่ำลึก แฝงความแหบพร่าอันเป็นเอกลักษณ์กระแทกใจคน!

เขาเหมือนเป็นคนคนเดียว แต่กลับมีพลังแยกร่าง!

ท่ามกลางสายตาตกใจและสับสนของทุกคน มุมปากของชายชุดเลือดยกยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ชั่วร้ายน้อยๆ กล่าวว่า “พวกเจ้าสามารถเรียกข้าว่า… บุตรนรก”

บุตรนรก!

คำสั้นๆ เพียงสองคำ ทำให้ในใจทุกคนต่างสั่นสะท้าน

เงาร่างชุดเลือดนั่นแปรเปลี่ยนเป็นละอองแสงอย่างไร้สุ้มเสียง ควบรวมเข้าด้วยกันและกลายเป็นคนผู้หนึ่งยืนอยู่บนโต๊ะหิน

เขาบิดขี้เกียจ พูดอย่างเอื่อยเฉื่อย “ทุกท่านไม่ต้องตกใจ ข้าหลับใหลมาหมื่นสมัย ตื่นมาครั้งแรกก็ได้เจอกับสหายยุทธ์ทุกท่าน พาให้ปลื้มปริ่มอย่างมาก ย่อมจะไม่ฆ่าคน”

ดวงตาโลหิตของเขาราวกับเพชร แต่ผู้แข็งแกร่งทุกคนที่ถูกเขากวาดตามอง สีหน้าล้วนเปลี่ยนแปลงไม่นิ่ง

พวกเขาต่างทุ่มเทผ่านความยากลำบาก เสี่ยงชีวิตกว่าจะมาถึงที่นี่ ใครจะคิดว่าศุภโชคพลิกฟ้าที่ว่านั้นไม่มีแล้ว กลับเจอบุตรนรกที่แปลกประหลาดอย่างที่สุดคนหนึ่ง!

นี่ทำให้อารมณ์ของทุกคนต่างย่ำแย่มาก

“สมบัติเมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น”

มีคนส่งเสียงเย็นเยียบออกมา

บุตรนรกขานรับว่าอ้อ แล้วพลิกมือเรียกกาทองแดงสีเลือดใบหนึ่งออกมา แผ่ละอองแสงงดงามขุ่นมัว แล้วกล่าวว่า “สมบัติเหล่านี้ล้วนถูกปิดผนึกอยู่ใน ‘กาหลอมจิตจักรพรรดินรก’ ของข้า สิ่งที่สหายยุทธ์ทุกท่านเห็นเมื่อครู่นี้ เป็นเพียงแค่ปรากฏการณ์ประหลาดที่แปลงมาจากสมบัติเหล่านั้นก็เท่านั้น”

นิ้วมือของเขาเรียวยาวขาวผ่อง กาทองแดงที่ประคองอยู่ในฝ่ามือมีแสงมรรคเวียนวน ไอขุ่นมัวปกคลุม ดูลึกลับอย่างที่สุด ดึงดูดความสนใจจากทุกคนทันที

กาหลอมจิตจักรพรรดินรก!

นี่จะต้องเป็นสมบัติที่ไม่ธรรมดาชิ้นหนึ่งอย่างแน่นอน

สิ่งที่ทำให้ทุกคนหวั่นไหวกว่าคือ หากสิ่งที่บุตรนรกคนนี้พูดเป็นความจริง สมบัติต่างๆ ที่พวกเขาเห็นก่อนหน้านี้ ตอนนี้ล้วนถูกปิดผนึกอยู่ในกานี่!

“เช่นนี้ ศุภโชคพลิกฟ้าที่อยู่ที่นี่ไม่ได้มีอยู่จริงหรือ”

ทันใดนั้นหวังเสวียนอวี๋เอ่ยขึ้น สีหน้าได้กลับคืนสู่ความสงบแล้ว

บุตรนรกยิ้ม “ศุภโชคล้วนอยู่ในกาครอบครองของข้า เหตุใดจึงบอกว่าไม่มี ข้ารู้ว่าทุกท่านล้วนมาเพื่อแสวงหาศุภโชค ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ขอให้ทนรอสักประเดี๋ยว นั่งคุยกันก่อน”

เขาสะบัดแขนเสื้อ เมฆเลือดแต่ละก้อนปรากฏขึ้นตรงหน้าผู้แข็งแกร่งทุกคน

“เชิญทุกท่าน” เขาผายมือแสดงความจริงใจ

ทุกคนมองหน้ากัน ลังเลไม่แน่ใจ

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้านับว่ามีความสงสัยหลายอย่างอยากคุยกับสหายยุทธ์”

หวังเสวียนอวี๋นั่งลงเป็นคนแรก ท่าทางสง่าและใจเย็น

บุตรนรกพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “สหายยุทธ์มีเนตรสมบัติเอกอุ มีมหาโชควาสนาเคียงคู่ หนในภายหน้าต้องไม่จำกัดแน่”

หวังเสวียนอวี๋ประสานหมัด “สหายยุทธ์ชมเกินไปแล้ว”

คนอื่นๆ เห็นเช่นนี้ก็ทยอยนั่งลง พวกเขาเองก็อยากรู้คำตอบและความจริงบางอย่าง

“ขออภัย ข้าจะออกไปก่อน”

จู่ๆ หลินสวินก็พูดขึ้น ทำให้เกิดความฮือฮาขึ้นในที่นั้นระลอกหนึ่ง สายตาต่างมองไปทางเขา

บุตรนรกอึ้ง เอ่ยพูดว่า “สหายยุทธ์กลัวว่าข้าจะมีเจตนาไม่ดีหรือ เจ้าวางใจเถอะ ตอนนี้ข้าเพิ่งตื่นจากการหลับใหล แค่อยากคุยกับทุกคนเท่านั้น”

หลินสวินพูด “ข้ามีธุระ ไม่ว่างอยู่เป็นเพื่อน”

พูดจบเขาก็เตรียมจะเดินไป

ในดวงตาบุตรนรกมีประกายศักดิ์สิทธิ์ไหลวน ยิ้มพูดว่า “สหาย หากเจ้าอยู่ต่อข้าจะมอบสิ่งนี้ให้กับเจ้า”

เพิ่งสิ้นเสียงปะการังเลือดต้นหนึ่งก็ปรากฏกลางอากาศ บนกิ่งแขวนผลที่สะดุดตาราวกับตะวันม่วงลูกหนึ่ง

ทุกคนนัยน์ตาหดรัดทันที

พวกเขามั่นใจว่าโอสถเทพต้นนี้ไม่ใช่ภาพมายา!

ทันใดนั้นหลายคนต่างนึกเสียใจ ถ้ารู้เช่นนี้ก็คงจะแสร้งเล่นตัวเหมือนอย่างหลินสวิน!

เหนือความคาดหมายของทุกคน หลินสวินยังคงปฏิเสธอย่างไม่ลังเล

บุตรนรกเก็บรอยยิ้มตรงมุมปากแล้วพูดว่า “สหายยุทธ์ ดูออกว่าพลังต่อสู้ของเจ้าไม่ธรรมดาอย่างมาก เอาอย่างนี้ นอกจากผลนรกตะวันม่วงนี้ ข้าจะให้เจ้าอีกอย่าง”

เสียงวู้มดังขึ้น คัมภีร์หนังสัตว์ม้วนหนึ่งปรากฏขึ้น แผ่กลิ่นอายที่คลุมเครือและกว้างใหญ่ ทันทีที่ปรากฏอากาศ เสียงประหนึ่งเสียงสวดท่องธรรมพลันลอยออกมา

ราวกับเหล่าอริยะท่องธรรม!

ทุกคนในที่นั้นฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง หลายคนต่างอิจฉาตาร้อน

ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็มั่นใจว่า สิ่งที่บุตรนรกพูดเมื่อครู่นี้ไม่ใช่เรื่องเท็จ ศุภโชคทุกอย่างที่นี่ล้วนอยู่ในครอบครองของเขา!

“คัมภีร์โบราณเล่มนี้เขียนขึ้นโดยมหาอริยะคนหนึ่งในแดนนรกของข้า ในนั้นมีการหยั่งรู้และประสบการณ์ต่างๆ ที่มหาอริยะท่านนี้ได้รับตอนแสวางหามรรคาอมตะ”

ทันทีที่คำพูดนี้ของบุตรนรกดังขึ้น ผู้แข็งแกร่งบางส่วนอดสูดหายใจเฮือกไม่ได้

คัมภีร์ที่อริยะเขียนขึ้นจะธรรมดาได้อย่างไร

อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับประสบการณ์และนัยเร้นลับของการบำเพ็ญมรรคาอริยะ ไม่ว่ากับผู้แข็งแกร่งระดับราชันคนใดก็ล้วนเป็นสิ่งล่อใจที่ไม่อาจต้านทาน!

ใครจะคิดว่าหลินสวินกลับยังคงปฏิเสธ ทั้งไม่เกรงใจเลยสักนิด “สหายยุทธ์คิดว่าของเพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้ข้าเปลี่ยนใจได้หรือ”

มอบน้ำใจโดยไร้ที่มา ไม่ใช่คนชั่วช้าก็เป็นโจร!

คนอื่นๆ อาจละโมบกับความล้ำค่าและหายากของศุภโชคนี้ แต่หลินสวินกลับยิ่งตระหนักได้ว่าสถานการณ์ผิดปกติอยู่บ้าง

เพียงแต่การกระทำเช่นนี้ของเขากลับทำให้คนไม่น้อยประหลาดใจ เทพมารหลินนี่ก็เสแสร้งเกินไปแล้ว นั่นเป็นถึงคัมภีร์โบราณเล่มหนึ่งกับโอสถเทพต้นหนึ่งเชียวนะ แค่ให้เจ้าอยู่คุยเท่านั้น เหตุใดจึงต้องวางท่าปฏิเสธขนาดนั้น

“หลินสวิน บุตรนรกเจตนาดี เจ้ากลับปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่เห็นแก่ไมตรีเกินไปหน่อยหรือเปล่า”

ฮวาเทียนไห่เอ่ยอย่างเย็นชา “หรือพูดอีกอย่างว่า เจ้าไม่ได้เห็นบุตรนรกอยู่ในสายตาหรือ”

ไอสังหารวาบผ่านในดวงตาดำของหลินสวิน เงาร่างหายไปกลางอากาศ

แย่แล้ว!

สีหน้าของฮวาเทียนไห่เปลี่ยนไปโดยพลัน เพิ่งคิดจะลุกขึ้นพลังหมัดพร่างพราวก็ทะลวงอากาศกระแทกเข้ามาแล้ว

กร๊อบ!

ภายใต้การรีบเร่งรับมือของฮวาเทียนไห่ แม้จะต้านการจู่โจมนี้ได้แต่ตรงไหล่ก็ยังถูกโจมตีจนกระดูกหักเลือดไหลอาบ กระเด็นออกไปทั้งร่าง

“เจ้ากล้าลงมือหรือ!?”

เขาตะเบ็งเสียงอย่างเดือดดาล

ไม่เพียงแค่เขา คนอื่นๆ ในนั้นก็คิดไม่ถึงว่าหลินสวินคิดจะลงมือก็ลงมือทันที พาให้คนตั้งตัวไม่ทัน

พรูด!

ประกายคมราวกับแสงเคลื่อนวาบไหว เสียงตะเบ็งด้วยความโกรธของฮวาเทียนไห่ยังไม่ทันจบ ศีรษะของเขาก็หลุดออกจากบ่าแล้ว

นี่ คือพลังของกระบวนเฉือนไม่เที่ยงแท้!

ก่อนหน้านี้หลินสวินคร้านจะถือสาคนผู้นี้จริงๆ ใครจะคิดว่าเขากลับจ้องเล่นงานตนครั้งแล้วครั้งเล่า เช่นนี้จะทนได้อย่างไร

คนอื่นๆ อาจคิดว่าเขาจะกลัวบุตรนรกที่ว่านั่น ยามนี้ย่อมไม่กล้าลงมือตามใจ

น่าเสียดายที่พวกเขาต่างคิดผิด!

……………..