ในเวลานี้ ผลลัพธ์สุดท้ายปรากฏต่อหน้าผู้อาวุโสทุกคนและว่านจินแล้ว ทว่าสีหน้าของพวกเขาก็แสดงถึงความไม่อยากเชื่ออย่างชัดเจน ไม่ว่าจะคาดเดาไว้อย่างไร พวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าผลคะแนนจะออกมาเป็นเช่นนี้
บนบันทึกคะแนนในตอนนี้มีรายชื่อเพียงเก้าชื่อเท่านั้น นอกเหนือจากสมาชิกเจ็ดคนในกลุ่มเดียวกับฉินอวี้โม่ก็ยังมีอีกสองชื่อที่ถูกคาดการณ์ไว้แล้ว นั่นคือว่านหลิงเอ๋อร์และฉินเสี่ยวเยี่ยน
รายชื่อเหล่านี้ถือว่าอยู่ในความคาดหมายของว่านจิน เพียงแต่ผลคะแนนของพวกนางที่ออกมากลับเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคิดฝัน
ในบรรดาสตรีทั้งเก้า สตรีที่มีคะแนนความนิยมเท่ากันพอดิบพอดีถูกแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม
“ศิษย์พี่ว่านจิน รีบประกาศผลคะแนนเร็วเข้าเถอะ พวกเรารอจนทนไม่ไหวแล้ว !”
ศิษย์คนหนึ่งกล่าวออกไปอย่างอดไม่ได้และต้องการทราบผลคะแนนความนิยมของแต่ละคน
ผู้อาวุโสหลายคนก็พยักศีรษะให้กับว่านจินเบา ๆ จากนั้นเขาก็เหาะลงจากแท่นยกสูงพร้อมกับผลลัพธ์ในมือ
“ทุกคน ผลคะแนนความนิยมรายบุคคลในครานี้เหนือความคาดหมายไปมากทีเดียว ข้าจะเริ่มจากการประกาศอันดับที่สี่ก็แล้วกัน”
รายชื่อที่อยู่ในแต่ละกลุ่มต่างก็มีคะแนนที่เท่ากันและมีเพียงคนเดียวที่ได้รับคะแนนมากกว่าผู้อื่น เพราะเหตุนั้น อันดับคะแนนความนิยมในครานี้จึงมีเพียงสี่อันดับเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทุกคนไม่ทราบถึงความจริงข้อนี้ พวกเขาจึงคิดไปว่าว่านจินเพียงต้องการเริ่มประกาศจากอันดับที่สี่
“ผู้ที่ครองอันดับสี่มีอยู่สี่คนด้วยกัน ได้แก่ เจียงฉา ลั่วซือ ลั่วฉิงและว่านหลิงเอ๋อร์ !”
ว่านจินไม่รอช้าและประกาศรายชื่อของทั้งสี่ออกไปทันที ทว่านั่นทำให้ทุกคนชะงักนิ่งไปชั่วขณะ
“อะไรกัน ? เป็นไปได้อย่างไร ? ว่านหลิงเอ๋อร์ได้เพียงอันดับสี่อย่างนั้นหรือ ?”
ในการประกวดของศิษย์สตรีคราก่อน ว่านหลิงเอ๋อร์ได้รับคะแนนความนิยมเป็นอันดับที่สอง ทว่าครานี้นางกลับตกลงไปอยู่ที่อันดับสี่รวมกับคนอื่น ๆ จึงถือว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจอย่างมาก ถึงอย่างไรคราก่อนนางก็ได้รับคะแนนสูงกว่าลั่วซือและอีกสองคนถึงหลายสิบคะแนน
“อันดับที่สี่ก็ถือว่าดีแล้ว ครานี้ผลงานการแสดงของเจียงฉาและคนอื่น ๆ น่าทึ่งมาก เจียงฉาก็ได้อันดับที่สี่มิใช่หรือ ?”
หลายคนคิดว่าผลลัพธ์เช่นนี้ไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด กล่าวได้ว่าสาเหตุที่เจียงฉาและสหายได้รับคะแนนมากเป็นพิเศษเพราะพวกนางแสดงผลงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม แม้การแสดงของว่านหลิงเอ๋อร์จะน่าทึ่งเช่นกัน ทว่าโดยรวมแล้วกลุ่มของนางก็ยังด้อยกว่ากลุ่มของเจียงฉาและสหายพอสมควร
ยิ่งไปกว่านั้น ว่านหลิงเอ๋อร์ก็เป็นที่ชื่นชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้วซึ่งแตกต่างไปจากเจียงฉาและสหายที่สามารถทำลายภาพลักษณ์เดิมได้อย่างสิ้นเชิงและทำให้ทุกคนตื่นตาอย่างไม่น่าเชื่อ นับว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกนางจะได้รับคะแนนความนิยมที่เพิ่มมากขึ้น
“ทั้งสี่ได้รับคะแนนความนิยมเท่ากัน ซึ่งก็คือยี่สิบเจ็ดคะแนน”
ผลคะแนนของทั้งสี่ถูกประกาศออกมาและการที่แต่ละคนได้รับยี่สิบเจ็ดคะแนนจากผู้ตัดสินทั้งหมดห้าร้อยคนก็ถือว่าเป็นคะแนนที่ไม่สูงนัก
“แม่เจ้า อันดับสี่รึ ! ไม่เลวเลย คราก่อนข้าได้อันดับที่สิบหก”
ลั่วฉิงกล่าวด้วยความตื่นเต้นดีใจ นางคิดไม่ถึงเลยว่าครานี้นางจะครองอันดับสี่ได้ แม้มีผลคะแนนที่เท่ากับคนอื่น ๆ อีกสามคน มันก็เป็นอันดับที่ดีกว่าคราก่อนมาก ยิ่งไปกว่านั้น การที่ได้คะแนนเท่ากับว่านหลิงเอ๋อร์ก็ทำให้นางรู้สึกตื่นเต้นอย่างที่สุด
“เจียงฉา เจ้าก็ได้อันดับสี่ พวกเราได้คะแนนเท่ากันเลย”
ลั่วซือกล่าวพร้อมเข้าไปเกาะแขนเจียงฉา การที่ได้รับคะแนนเท่ากันกับสหายเป็นความรู้สึกที่ดีมากทีเดียว เพียงแต่นางยังคาดเดาไม่ได้ว่าเจียงจิ้งและหลี่ก่วนก่วนจะได้รับคะแนนเท่าใด สำหรับฉินอวี้โม่และเหลิ่งซวงเสวี่ย พวกนางไม่กังวลจนเกินไป เพราะต่อให้คิดด้วยนิ้วเท้า พวกนางก็ทราบได้ว่าคะแนนความนิยมที่ทั้งสองได้รับจะต้องสูงมากอย่างแน่นอน…
“เอาล่ะ ต่อไปข้าจะประกาศอันดับที่สาม”
ว่านจินโบกมือให้กับทุกคนเพื่อส่งสัญญาณให้เงียบเสียงลงอีกครั้ง
“อันดับที่สามในครานี้ก็มีอยู่ด้วยกันสองคนซึ่งได้รับคะแนนไปคนละสามสิบหกคะแนน”
ผู้ที่ครองอันดับสามก็มีมากกว่าหนึ่งคนเช่นกันซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมายของทุกคน
“เสี่ยวหลี่ เจียงจิ้ง ดูเหมือนว่าหนึ่งในพวกเจ้าคงจะได้อันดับรั้งท้ายเป็นแน่”
ลั่วฉิงเกาะแขนของหลี่ก่วนก่วนและเจียงจิ้งพร้อมกล่าวเชิงหยอกเย้า
ผู้ที่ได้รับคะแนนความนิยมเป็นอันดับสามมีด้วยกันสองคนซึ่งยังเหลืออันดับที่หนึ่งและสอง เวลานี้ยังเหลือรายชื่ออีกห้าคนที่ยังไม่ถูกประกาศออกมา ทุกคนทราบดีว่าฉินอวี้โม่และฉินเสี่ยวเยี่ยนไม่มีทางรั้งท้ายอย่างแน่นอน และความนิยมของเหลิ่งซวงเสวี่ยเองก็ถือว่าไม่เลวเช่นกัน เพราะเหตุนั้น อันดับรั้งท้ายจึงจะต้องตกเป็นของเจียงจิ้งหรือไม่ก็หลี่ก่วนก่วนเท่านั้น
“ไม่ บางทีอันดับหนึ่งหรือสองอาจมีสองคน ส่วนพวกเราทั้งสองก็ครองอันดับสาม”
เจียงจิ้งกลอกตาไปมาเล็กน้อยและหลี่ก่วนก่วนก็หยิกแขนลั่วฉิงอย่างแรง หากพวกนางคนใดคนหนึ่งต้องตกเป็นอันดับที่ห้าเพียงคนเดียว มันคงจะน่าอับอายไม่น้อย
“ความคิดของพวกเจ้าช่างฟังดูสวยหรู…”
ก่อนที่ลั่วฉิงจะกล่าวจนจบประโยค นางก็ได้ยินสองชื่อมาจากปากของว่านจินซึ่งก็คือชื่อของหลี่ก่วนก่วนและเจียงจิ้งนั่นเอง
“เอ่อ…”
ลั่วฉิงถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ นี่ข้ากลายเป็นตัวตลกเสียเองรึนี่ ?
“เห็นรึไม่ ? ข้าบอกแล้ว เราสองคนอาจจะได้ครองอันดับสามด้วยกัน”
เจียงจิ้งโผเข้ากอดหลี่ก่วนก่วนก่อนกระโดดโลดเต้นไปมาอย่างมีความสุข ความนิยมของพวกนางสูงกว่าว่านหลิงเอ๋อร์และเจียงฉาเสียอีกซึ่งเป็นสิ่งที่พวกนางไม่เคยกล้าคิดฝันมาก่อน
เพราะถึงอย่างไร ว่านหลิงเอ๋อร์และเจียงฉาก็มีรูปลักษณ์ที่งดงามมากกว่า และในการประกวดคราก่อน ๆ พวกนางก็ได้รับคะแนนความนิยมที่สูงกว่าคนทั้งสองมาก การที่ผลลัพธ์ออกมาเช่นนี้จึงถือว่าเหนือความคาดหมายของเจียงจิ้งและหลี่ก่วนก่วนไปอย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตามผลงาน มันก็ถือว่าไม่น่าแปลกใจนัก การฟ้อนรำที่งดงามชวนตะลึงของหลี่ก่วนก่วนทำให้นางได้รับความชื่นชมอย่างล้นหลาม และการแสดงของเจียงจิ้งที่ถ่ายทอดความอ่อนโยนออกมาก็ทำให้ทุกคนตกตะลึงและหลงใหลได้ไม่ยาก การที่ทั้งสองได้คะแนนมากกว่าสหายทั้งสามเช่นนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่เข้าใจได้
ตอนนี้คะแนนของสตรีทั้งหกคนรวมกันเป็นหนึ่งร้อยแปดสิบคะแนนและยังเหลือคะแนนอีกสามร้อยยี่สิบคะแนน
“หรืออันดับสองจะมีสองคนเช่นกัน ?”
สายตาของทุกคนเลื่อนไปหยุดที่ว่านจินอีกครา ไม่ว่าฉินอวี้โม่ ฉินเสี่ยวเยี่ยนหรือเหลิ่งซวงเสวี่ย พวกนางไม่มีทางได้อันดับรั้งท้ายอย่างแน่นอน ความเป็นไปได้สูงที่สุดในตอนนี้คืออันดับสองมีมากกว่าหนึ่งคนเช่นกันและอันดับหนึ่งจะต้องตกเป็นของฉินอวี้โม่ หรือไม่ก็ฉินเสี่ยวเยี่ยน
“ถัดไปข้าจะประกาศอันดับสอง ทุกคนคาดเดาถูกแล้ว อันดับสองมีสองคนเช่นกันและแต่ละคนได้รับคะแนนไปเก้าสิบหกคะแนน”
แต่ละคนได้รับคะแนนไปเก้าสิบหกคะแนน นั่นหมายความว่าผู้ที่คว้าอันดับหนึ่งในครานี้ได้รับคะแนนความนิยมไปถึงหนึ่งร้อยยี่สิบแปดคะแนนจากผู้ตัดสินทั้งหมดห้าร้อยคน ผลคะแนนเช่นนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก แม้แต่ฉินเสี่ยวเยี่ยนที่ได้รับความนิยมสูงสุดมาเสมอก็เคยได้รับคะแนนสูงสุดเพียงหนึ่งร้อยสิบคะแนนเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนผู้ที่ถูกคัดเลือกในการแข่งขันคะแนนความนิยมครานี้ก็มีเป็นจำนวนน้อยที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น ในการแข่งขันคราก่อน ๆ มีผู้เข้าร่วมอย่างน้อยสิบห้าถึงสิบหกรายชื่อ และแต่ละคนได้รับคะแนนไปมากกว่าสิบคะแนน กล่าวได้ว่าการแข่งขันครานี้ดุเดือดกว่ามาก
“คนแรกที่ได้เก้าสิบหกคะแนนคือศิษย์น้องเหลิ่งซวงเสวี่ยผู้ซึ่งเข้าร่วมกับหอชั้นในของพวกเราได้เพียงไม่นาน มาแสดงความยินดีให้กับนางกันเถอะ”
ชื่อของเหลิ่งซวงเสวี่ยถูกประกาศออกไปก่อนและผลคะแนนของนางก็เป็นสิ่งที่ทุกคนคาดไว้
ถึงอย่างไรเหลิ่งซวงเสวี่ยก็มีทั้งรูปลักษณ์และอากัปกิริยาที่ไม่ด้อยไปกว่าฉินเสี่ยวเยี่ยน เพียงแต่นางยังด้อยกว่าฉินอวี้โม่อยู่เล็กน้อย การขับร้องบทเพลงอย่างไพเราะและการแสดงอันสง่างามทำให้บุรุษหลายคนสมัครใจเป็นสาวกผู้ติดตามของนาง
เหลิ่งซวงเสวี่ยยกยิ้มมุมปากเพียงเล็กน้อยและคะแนนที่ได้รับมิใช่เรื่องสำคัญสำหรับนาง ถึงอย่างไรการที่นางเข้าร่วมการประกวดของศิษย์สตรีตั้งแต่แรกก็เป็นเพราะถูกชักชวนมา เพราะเหตุนั้น นางจึงตัดสินใจมาร่วมสนุกกับเจียงฉาและสหายคนอื่น ๆ …
“ศิษย์พี่ว่านจิน แล้วอีกคนล่ะ ?”
ทุกคนแสดงความยินดีกับเหลิ่งซวงเสวี่ยก่อนกลับไปมองที่ว่านจินเป็นตาเดียว ผู้ที่ได้อันดับสองยังมีอีกหนึ่งคน ตราบใดที่ได้ทราบว่านางคือผู้ใด รายชื่อของผู้ที่คว้าอันดับหนึ่งด้วยคะแนนหนึ่งร้อยยี่สิบแปดคะแนนก็จะเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนไปโดยปริยาย