ตอนที่ 2608

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,608 : ผู้ที่พึ่งขึ้นสวรรค์อันน่ากลัว!

 

ตอนนี้ภายในโถงรวมของเหลาอาหารไหลเฟิ่ง มีคนอยู่ราวๆสิบกว่าคนเท่านั้น

 

เห็นได้ชัดว่ามีการกวาดต้อนผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกไป ทั้งจัดโต๊ะเอาไว้โดยเฉพาะ

 

ท่ามกลางผู้คนนับสิบในโถงรวม มีชายเพียงคนเดียวเท่านั้นที่นั่งอยู่บนเก้าอี้

 

เบื้องหลังของมันมีร่าง 3 ร่างยืนตัวตรงราวกับหอกประกบอยู่ด้านหลัง ทั่วร่างแต่ละคนคล้ายมีไอสังหารที่มองไม่เห็นอบอวลอยู่

 

ส่วนชายหนุ่มที่นั่งอยู่เพียงคนเดียวแต่งตัวในชุดลำลอง มันนั่งพิงพนักเก้าอี้หน้าเชิดขึ้นแลดูสง่าผ่าเผยมากไปด้วยความหยิ่งยโสทำราวกับมันเป็นเจ้าผู้ปกครองใต้หล้า

 

ส่วนชายที่ยืนตัวตรงดั่งหอกอันมีกลิ่นอายสังหารแผ่ออกจากร่างนั้น ต่างมาในชุดเกราะสีเงิน เพียงมองก็บอกได้ทันทีว่าเป็นชุดเกราะรูปแบบมาตรฐานของกองทัพมังกรเงิน

 

หากมองไปยังบริเวณหน้าอกของพวกมันจะพบว่า…

 

พวกมันทั้งหมดล้วนเป็น ไป่ฟูฉาง ของกองทัพมังกรเงิน

 

นอกจากนั้นเบื้องหน้าของคนทั้ง 4 ปรากฏร่าง 9 ร่างยืนอยู่ แต่ละคนสวมใส่ชุดเกราะสีดำสนิท ซึ่งเป็นชุดเกราะมาตรฐานของกองทัพมังกรดำของเมืองเฉวี่ยโยว

 

มองไปยังหน้าอกของพวกมันจะพบว่า…

 

ในบรรดา 9 คนที่ยืนเรียงอยู่นั้นมี 2 คนที่มียศไป่ฟูฉาง ส่วนอีก 7 คนนั้นเป็นแค่สือฟูฉางเท่านั้น

 

เป็นทหารทัพมังกรดำทั้ง 9 ที่ถูกกักตัวเอาไว้

 

เช่นนั้นตัวตนของชายหนุ่มชุดลำลองที่นั่งเชิดอยู่บนเก้าอี้หนึ่งเดียวในโถงกลางของเหลาก็ถูกเปิดเผยแล้ว…

 

มันคือแม่ทัพของกองทัพมังกรเงิน..

 

หยางกงผิง!

 

“เป็นเจ้า!!”

 

ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนก้าวเท้าเข้ามาในโถงกลางของเหลาอาหาร เผยโฉมให้ผู้คนนับสิบกว่าชีวิตที่เฝ้ารออยู่เห็น ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งซึ่งเป็นไป่ฟูฉางของกองทัพมังกรเงิน ที่ยืนอยู่เบื้องหลังหยางกงผิงแม่ทัพของกองทัพมังกรเงิน ก็อุทานออกมาดังลั่น…

 

เสียงอุทานของมันยังเต็มไปด้วยความตกใจทั้งเหลือเชื่อ!

 

ทำราวกับได้พบเห็นบางสิ่งอันน่ากลัว

 

และในขณะเดียวกันกับที่ไป่ฟูฉางของกองทัพมังกรเงินอุทานออกมา

 

ต้วนหลิงเทียนที่พึ่งเดินเข้ามาในโถงเหลา ก็หันมองไปทางต้นเสียงอย่างไม่รู้ตัว จึงได้เห็นคนอุทาน และเขาก็จดจำมันได้ในพริบตา

 

มันก็คือชายวัยกลางคน 1 ใน 2 ไป่ฟูฉางที่ต้วนหลิงเทียนพบเห็นที่สระกำเนิดเซียนอมตะ วันแรกที่เขาขึ้นมายังแดนหลิงหลัวเทียน…

 

ส่วนไป่ฟูฉางอีกคนนั้น ด้วยความที่มันกล้าใช้ทักษะวิญญาณใส่เขาจึงถูกเขาฆ่าทิ้งไปแล้ว

 

“บังเอิญจริงๆ…พวกเราพบกันอีกแล้ว”

 

ต้วนหลิงเทียนมองไปยังไป่ฟูฉางวัยกลางคนด้วยสายตาลึกซึ้งเอ่ยทักเสียงเบา

 

“ท่านแม่ทัพ!”

 

“ท่านแม่ทัพ!”

 

 

ขณะเดียวกันทหารของกองทัพมังกรดำทั้ง 9 พอเห็นต้วนหลิงเทียนมา สองตาของพวกมันก็ลุกวาวเร่งคารวะทักทายด้วยความเคารพทันที

 

“มัน…มันเป็นแม่ทัพของกองทัพมังกรดำที่มาแทนหวงจี่ปิ่งงั้นหรือ?”

 

ไป่ฟูฉางวัยกลางคนที่อุทานทักต้วนหลิงเทียน จำต้องตกตะลึงพรึงเพริดเมื่อเห็นฉากทหารทั้ง 9ของกองทัพมังกรดำทำความเคารพต้นหลิงเทียน ทั้งยังเรียกหาต้วนหลิงเทียนด้วยความสุภาพว่าท่านแม่ทัพ!

 

มันเองก็ได้ยินเสียงของถงเจิ้งที่ดังขึ้นนอกเหลาเมื่อครู่เช่นกัน

 

ด้วยเหตุนี้มันจึงรับทราบว่าผู้ที่จะก้าวเท้าเข้ามาในเหลาคนแรกก็คือแม่ทัพคนใหม่ของกองทัพมังกรดำที่มาแทนที่หวงจี่ปิ่ง!

 

อย่างไรก็ตามพอมันเห็นบุคคลที่ก้าวเท้าเข้ามาคนแรก และเป็นคนที่มันจดจำได้ไม่ลืม ใจมันก็อดไม่ได้ที่จะสะท้านไปอย่างแรง

 

เพราะมันคิดไม่ถึงจริงๆ

 

ว่าคนที่พึ่งขึ้นมายังหลิงหลัวเทียน จะกลายเป็นแม่ทัพของกองทัพมังกรดำไปได้อย่างไร อีกทั้งไฉนทหารของกองทัพมังกรดำเหล่านี้ถึงได้เคารพนับถืออีกฝ่ายนัก!?

 

ตัวมันก็เป็นทหารของกองทัพมังกรเงินคนหนึ่ง มันย่อมรู้เป็นธรรมชาติ…

 

เป็นไปไม่ได้เลยที่ได้รับความเคารพนับถือขนาดนี้จากทหารกองทัพมังกรดำ เพียงเพราะเป็นแม่ทัพคนใหม่จากการพบเจอป้ายของอดีตแม่ทัพ…!

 

เพราะหากเป็นเช่นนั้น ไม่มีทางเลยที่จะได้รับการยอมรับจากทุกคน

 

หากอยากให้เหล่าทหารยอมรับนับถือได้นั้น มีเพียงแต่ต้องมีพลังฝีมือคู่ควรกับตำแหน่ง!

 

มาตอนนี้ฉากเรื่องราวเบื้องหน้าจึงบอกให้มันทราบเรื่องหนึ่ง…

 

ว่าคนที่อยู่ตรงหน้ามันได้เข้ามาแทนที่แม่ทัพหวงจี่ปิ่งได้อย่างสมบูรณ์!

 

‘จริงสิ ข้าเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว…จะอย่างไรมันก็ฆ่าจงกังได้ง่ายๆ นั่นพิสูจน์ให้รู้ว่าพลังฝีมือของมันไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าจินเซียนทั่วไป! อาศัยพลังฝีมือของมันคิดนั่งตำแหน่งแม่ทัพของกองทัพมังกรดำให้มั่นคงก็ไม่ใช่เรื่องยาก’

 

พอนึกถึงฉากเรื่องราวที่ชายตรงหน้าฆ่าจงกัง ไป่ฟูฉางของกองทัพมังกรเงินได้ง่ายดาย ไป่ฟูฉางวัยกลางคนก็เข้าใจได้ไม่ยาก

 

“เจ้าคือแม่ทัพคนใหม่ของกองทัพมังกรดำที่มาแทนหวงจี่ปิ่ง?”

 

 

‘หยางกงผิง’ แม่ทัพของกอทัพมังกรเงินที่นั่อยู่บนเก้าอี้ มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเย็นชา ถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่แทบจะเป็นการคาดคั้น

 

อย่างไรก็ตามได้ยินคำถามของอีกฝ่าย ต้วนหลิงเทียนเพียงเหลือบมองมันด้วยหางตาเล็กน้อยค่อยละสายตาออกจากมันไปมองถามทหารกองทัพมังกรดำใต้บังคับบัญชาว่า…

 

“พวกเจ้าเป็นอะไรหรือไม่…พวกมันได้แตะต้องพวกเจ้ารึเปล่า?”

 

หลังกล่าวถามจบคำสองตาต้วนหลิงเทียนก็ทอประกายเยียบเย็นเรืองขึ้นวูบหนึ่ง เสียงยังต่ำลง

 

“ท่านแม่ทัพพวกเราสบายดีขอรับ”

 

“พวกเราไม่เป็นไร ท่านแม่ทัพ!”

 

 

ทหารกองทัพมังกรดำใต้บัญชาต้วนหลิงเทียนทั้ง 9ส่ายหัวไปมาก่อนที่จะเริ่มเดินไปหยุดยืนอยู่ด้านหลังต้วนหลิงเทียนเหมือนถงเจิ้ง ค่อยมองจ้องไปยังแม่ทัพของกองทัพมังกรเงินด้วยสายตาราวกับมีสายฟ้าแลบลั่น

 

“ดี…ดี ดีมาก!”

 

หยางกงผิง แม่ทัพของกองทัพมังกรเงินที่ถูกต้วนหลิงเทียนเมินเฉย สีหน้าของมันมืดดำคล้ำลงปานจะคั้นออกมาได้เป็นน้ำหมึก!

 

มันมองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเยียบเย็น กล่าวตะคอกเสียงดังอย่างดุร้ายว่า “ต่อให้เป็นแม่ทัพอันดับ 1 ของกองทัพมังกรดำอย่าง เหอจิ้งคุน ต่อหน้าข้าก็ยังไม่กล้าหยิ่งยโสเหมือนเจ้า!”

 

เหอจิ้งคุนที่ว่าก็คือแม่ทัพของกองทัพมังกรดำที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาแม่ทัพทั้ง 10 จึงได้รับการขนานนามว่าแม่ทัพอันดับ 1 แห่งกองทัพมังกรดำ!

 

แต่เป็นธรรมดาว่าในสายของเหล่าทหารที่ได้ไปรับชมเรื่องราวการต่อสู้ในหุบเขาเทพสงครามวันนี้นั้น นามดังกล่าวได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว

 

เพราะแม่ทัพที่แข็งแกร่งที่สุดของกองทัพมังกรดำตอนนี้ก็คือ ต้วนหลิงเทียน!

 

เป็นธรรมดาที่หยางกงผิงจะไม่ได้รู้เรื่องราวเหล่านี้

 

จนถึงตอนนี้มันยังไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียน แม่ทัพคนใหม่ของกองทัพมังกรดำ จะมีปัญญาเข่นฆ่าสังหารอดีตแม่ทัพของกองทัพมังกรดำอย่างเจี่ยนชิวผิงได้ในกระบี่เดียว!

 

ต้องทราบด้วยว่าผู้ที่มีพลังฝีมือสูงพอจะทำอะไรแบบนั้นได้ ก็คือตัวตนระดับเดียวกันผู้บัญชาการกองทัพมังกรดำ หรือผู้บัญชาการกองทัพมังกรเงินของมัน!

 

เช่นนั้นมันจึงคิดว่า

 

เป็นไปไม่ได้เลยที่ตัวตนทรงพลังถึงขนาดนั้นจะลดตัวไปเป็นแม่ทัพคนหนึ่งของกองทัพมังกรดำ…

 

“โชคดีที่เจ้าไม่ได้แตะต้องคนของข้า…”

 

เผชิญหน้ากับหยางกงผิงที่แลดูโกรธเป็นฟืนไฟ ต้วนหลิงเทียนยังคงแลดูสงบ กล่าวคำตอบไปด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “หาไม่แล้ววันนี้เจ้าตาย…”

 

โชคดีที่เจ้าไม่ได้แตะต้องคนของข้า…

 

หาไม่แล้ววันนี้เจ้าตาย!

 

ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนพูดวาจาประโยคดังกล่าวออกมา โถงเหลาก็เปลี่ยนเป็นเงียบงันทันใด

 

กระทั่งนอกเหลาเองก็เงียบกริบ!

 

นั่นเพราะทุกเรื่องราวและถ้อยคำที่เกิดขึ้นในโถงเหลา ผู้คนก็ได้ยินชัดหู ได้เห็นคาตา…

 

พอได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียน พวกมันจึงอดตกตะลึงไม่ได้!

 

“แม่ทัพคนใหม่ของกองทัพมังกรดำ…จักดุร้ายเกินไปไหม?”

 

นี่คือความคิดที่ผุดขึ้นในใจของพวกมันโดยไม่ได้นัดหมาย

 

ต้องทราบด้วยว่าแม่ทัพของกองทัพมังกรเงินอย่าง หยางกงผิง ที่นั่งอยู่ในโถงเหลานั่น ไม่ใช่มีฐานะเป็นแค่แม่ทัพของกองทัพมังกรเงินธรรมดาๆเท่านั้น…

 

เพราะนอกเหนือจากเป็นแม่ทัพของกองทัพมังกรเงินแล้ว มันยังมีอีกฐานะก็คือ น้องเขยของผู้บัญชาการกองทัพมังกรเงิน!

 

ด้วยเหตุนี้เอง ในอดีตกระทั่งแม่ทัพอันดับ 1 ของกองทัพมังกำดำเหอจ้งคุน ยามพบหน้ามันยังต้องไว้หน้ามันหลายส่วน ไม่กล้าตอแยหยางกงผิงมากเกินไป…

 

เช่นนั้นแล้วทุกคนจึงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับท่าทีของแม่ทัพคนใหม่ของกองทัพมังกรดำอย่างต้วนหลิงเทียนนัก!

 

“เจ้าว่าอะไรนะ?!”

 

ภายในโถงกลางของเหลา หยางกงผิงถึงกับทะลึ่งพรวดลุกขึ้นจากเก้าอี้!

 

มองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ลูกตายังฉายแววเยียบเย็น เผยจิตสังหารอำมหิต “กระทั่งเหอจิ้งคุนยังไม่กล้าพูดแบบนี้กับข้า…เจ้าเบื่อชีวิตแล้วรึไง!?”

 

ต้วนหลิงเทียนไม่ได้สนใจเจตนาฆ่าฟันของหยางกงผิงแม้แต่น้อย ยังคงกล่าวออกไปเสียงเบาว่า…

 

“เรื่องวันนี้ เจ้าเพียงตัดแขนตัวเองทิ้งข้างหนึ่งก็ถือว่าจบกัน…แต่ถ้าเจ้าไม่ลงมือเองจนต้องให้ถึงมือข้า มันคงไม่จบง่ายๆแค่แขนข้างเดียว ถึงตอนนั้นเจ้ามีชะตาเหมือนสือฟูฉางในกองทัพมังกรเงินคนนั้น เพราะข้าจะทำลายแขนขาเจ้าอย่างละข้าง!”

 

ในวาจาเผยความหมายชัดเจน

 

เจ้า หยางกงผิงจงทำลายแขนตัวเองข้างหนึ่งเสีย เรื่องวันนี้ถึงจะจบ

 

แต่ถ้าเจ้าไม่ลงมือด้วยตัวเอง ข้าจะทำลายแขนกับขาเจ้าอย่างละข้าง!

 

“ดุดัน! ช่างดุดันครอบงำผู้คนนัก! แม่ทัพคนใหม่ของกองทัพมังกรดำช่างดุร้ายเหลือเกิน นั่นมันหยางกงผิงเชียวนะ…แต่ดูเหมือนมันจะไม่กลัวปัญหาแม้แต่น้อย!”

 

“ในสายตาข้านี่ไม่ใช่ร้ายกาจอันใด…แต่รนหาที่ตายแท้ๆ”

 

“แตฟังจากที่มันพูด นั่นมันอะไรกันแน่…มันเคยทำลายแขนกับขาสือฟูฉางของทัพมังกรเงินมาแล้วหรือ?”

 

 

เหล่าผู้ชมที่มามุงดูนอกเหลาอดไม่ได้ทีจะจ้อกันดังระงม

 

ภายในเหลาอาหารเอง ทหารของกองทัพมังกรดำทั้ง 10 ที่ยืนอยู่ด้านหลังต้วนหลิงเทียนก็หันหน้ามามองกันด้วยสายตาแตกตื่น

 

คิดไม่ถึงจริงๆ

 

ว่าแม่ทัพของพวกมันจะถึงขั้นเคยไปทำลายแขนกับขาของสือฟูฉางกองทัพมังกรเงินอย่างละข้างมาด้วย!

 

“ทำลายแขนขาสือฟูฉางกองทัพมังกรเงินข้า?”

 

ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียนลูกตาของหยางกงผิงก็หดเล็กลงทันที ในใจพลันหนึ่งถึงเรื่องหนึ่งก่อนใดอื่น

 

เมื่อราวๆครึ่งเดือนก่อน ตอนที่คนของมันรับหน้าที่ดูแลจัดการเรื่องราวที่สระกำเนิดเซียนอมตะนั้น…ได้ปรากฏเซียนอมตะสวรรค์หน้าใหม่ที่ต้องสงสัยว่าจะถือครองวรยุทธ์อมตะและเวทย์พลังเลิศล้ำอยู่ขึ้นมา!

 

ผู้ที่พึ่งขึ้นสวรรค์คนนั้น ไม่เพียงแต่จะทำลายแขนขาสือฟูฉางของกองทัพมังกรเงินมันไปอย่างละข้าง ยังกระทั่งเข่นฆ่าไป่ฟูฉางของมันไปทั้งคน…!

 

มันลองคิดทบทวนดูรอบแล้วรอบเล่าก็พบว่า…

 

ตั้งแต่ที่มันกลายมาเป็นแม่ทัพของกองทัพมังกรเงิน ก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าจะมีเซียนอมตะสวรรค์หน้าใหม่ที่พึ่งขึ้นสวรรค์มาคนไหนจะมีพลังสามารถถึงขั้นเข่นฆ่าไป่ฟูฉางได้!

 

“ท่านแม่ทัพ!”

 

ในขณะที่หยางกงผิงกำลังอื้ออึง ไป่ฟูฉางคนหนึ่งของกองทัพมังกรมันที่ยืนอยู่ด้านหลังนามไฉหมิง ก็เอ่ยบอกหยางกงผิงออกมาพอดี “ชายหนุ่มคนนี้…ก็คือคนที่ฆ่าจงกังเมื่อครึ่งเดือนก่อน! มันเป็นเซียนอมตะสวรรค์หน้าใหม่ที่พึ่งขึ้นมายังหลิงหลัวเทียนของเรา และมันยังทำลายแขนกับขาของหวังเวยอีกด้วย!!”

 

จงกัง!

 

หวังเวย!

 

ทันทีที่ไฉหมิงกล่าวเรื่องนี้ออกมา ลูกตาของไป่ฟูฉางอีก 2 คนด้านข้างก็อดหดเล็กลงไม่ได้

 

ตั้งแต่ที่ไฉหมิงเห็นร่างชายหนุ่มนี่เข้ามาแล้วอุทานออกเสียงดังพวกมันก็แปลกใจอยู่แล้วเชียว

 

ว่าไฉหมิงมันไปรู้จักแม่ทัพคนใหม่ของกองทัพมังกรดำได้ยังไง…

 

ตอนนี้พอมาได้ยินคำพูดของไฉหมิง พวกมันก็ตระหนักเรื่องราวได้ทันที

 

ที่แท้แม่ทัพคนใหม่ของกองทัพมังกรดำ ก็คือผู้ที่พึ่งขึ้นสวรรค์อันน่ากลัวเมื่อครึ่งเดือนก่อน!