ตอนที่ 2,609 : ต้วนหลิงเทียนลงมือ
“ที่แท้เป็นมัน!?”
ได้ยินคำของไฉหมิงลูกตาของแม่ทัพกองทัพมังกรเงิน หยางกงผิง ก็อดหดหยีลงไม่ได้ ในใจยังสะท้านไปอย่างหนัก!
ครึ่งเดือนก่อน…จงกัง ไป่ฟูฉางของมัน ตกตายไปด้วยน้ำมือของผู้ที่พึ่งขึ้นมายังสวรรค์
ครึ่งเดือนก่อน…หวังเวย สือฟูฉางของมัน ก็ถูกผู้ที่พึ่งขึ้นสวรรค์คนเดียวกันฆ่า!
ในที่สุดหยางกงผิงก็เข้าใจ
ว่าเหตุไฉนแม่ทัพของกองทัพมังกรดำเบื้องหน้า ถึงบอกว่าจะทำให้มันประสบชะตากรรมเดียวกันกับสือฟูฉางใต้บังคับบัญชา…
ที่แท้เป็นเพราะแม่ทัพของกองทัพมังกรดำคนนี้ ก็คือผู้ที่พึ่งขึ้นมายังสวรรค์เมื่อครึ่งเดือนก่อน!
นอกจากนี้ยังเป็นผู้ที่พึ่งขึ้นสวรรค์ที่กองทัพมังกรเงินของมันลอบตามหามาตลอดระยะเวลาครึ่งเดือน!
“พึ่งขึ้นสวรรค์?”
“เซียนอมตะสวรรค์หน้าใหม่?”
ขณะเดียวกันด้านทหารของต้วนหลิงเทียนทั้ง 10ด้านหลัง พอได้ยินคำของไฉหมิงไป่ฟูฉางแห่งกองทัพมังกรเงิน สายตาพวกมันก็มองจ้องไปยังแผ่นหลังในชุดสีม่วงที่ใกล้แค่เอื้อมมืออย่างสะท้านใจ!
หากสิ่งที่ไป่ฟูฉางของกองทัพมังกรเงินนั่นพูดเป็นความจริงล่ะก็…
เช่นนั้นแม่ทัพคนใหม่ของพวกมันก็คือ ผู้ที่พึ่งขึ้นสวรรค์ มายังหลิงหลัวเทียนแห่งนี้เมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว?
“ท่านแม่ทัพ…เป็นผู้ที่พึ่งขึ้นสวรรค์จริงๆหรือ?”
“ยิ่งไปกว่านั้น…ท่านยังมิใช่ผู้ที่กลายเป็นจินเซียนเพราะสระกำเนิดจินเซียน แต่เป็นผู้ที่พึ่งขึ้นสวรรค์จากสระกำเนิดเซียนอมตะ!?”
“เรื่องแบบนี้…จะเป็นไปได้ยังไง?!”
“ไป่ฟูฉางของกองทัพมังกรเงินนั่น มันใช่กล่าวเหลวไหลอยู่หรือไม่?”
…
หลังจากที่เหล่าทหารใต้บัญชาทั้ง 10 ของต้วนหลิงเทียนลอบส่งเสียงคุยกัน พวกมันก็เห็นพ้องต้องกันว่า
ไป่ฟูฉางของกองทัพมังกรเงินนั่นกำลังกล่าววาจาเหลวไหลอยู่แน่นอน!
หากอีกฝ่ายบอกว่าแม่ทัพคนใหม่ของพวกมันเป็นผู้ที่พึ่งขึ้นสวรรค์จากสระกำเนิดจินเซียนพวกมันยังพอจะเชื่อได้…
เนื่องจากผู้ที่ขึ้นสรรค์จากสระกำเนิดจินเซียนนั้น ก่อนจะขึ้นมายังระนาบเทวโลกก็คือตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ เช่นนั้นพอขึ้นมายังระนาบเทวโลก ก็จะกลายเป็นตัวตนขอบเขตจินเซียนทันที
ส่วนผู้ที่ขึ้นสวรรค์จากสระกำเนิดเซียนอมตะนั้น ตอนยังอยู่ในระนาบโลกียะจะเป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะเท่านั้น…
ครึ่งก้าวเซียนอมตะที่ออกมาจากสระกำเนิดเซียนอมตะ ย่อมเป็นได้เพียง เซียนอมตะสวรรค์ เท่านั้น!
และยังต้องเป็น เซียนอมตะสวรรค์จันทร์แดง!
ที่สำคัญที่สุดคือ…
ไป่ฟูฉางของพวกกองทัพมังกรเงินไม่เพียงแต่จะพูดว่า แม่ทัพคนใหม่ของพวกมันเป็นผู้ที่พึ่งขึ้นสรรค์และออกมาจากสระกำเนิดเซียนอมตะเท่านั้น แต่ยังเข่นฆ่าไป่ฟูฉางของกองทัพมังกรเงิน…หลังออกจากสระกำเนิดเซียนอมตะได้ทันทีเมื่อครึ่งเดือนก่อนอีกด้วย!
ในเวลาครึ่งเดือน หากผู้ที่พึ่งขึ้นสวรรค์จากสระกำเนิดเซียนอมตะสามารถทะลวงขั้น จนกลายเป็นเซียนอมตะสวรรค์จันทร์แสดได้ ก็นับว่าเป็นอัจฉริยะปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวแล้ว
แต่ต่อให้เป็นอัจฉริยะปีศาจขอบเขตเซียนอมตะสวรรค์จันทร์แสด ก็ไม่มีทางมีพลังฝีมือทัดเทียมกับแม่ทัพคนใหม่ของพวกมันได้แน่นอน!
พวกมันได้เห็นพลังฝีมือของแม่ทัพคนใหม่มากับตา ถึงแม้อาจจะเทียบผู้บัญชาการไม่ได้แต่ก็ไม่มีทางอ่อนด้อยกว่าแน่นอน…
ด้วยเหตุนี้ทหารใต้บัญชาของต้วนหลิงเทียนทั้ง 10จึงไม่มีใครเชื่อคำพูดของไป่ฟูฉางกองทัพมังกรเงินอย่างไฉหมิงเลยสักคน
“ผู้ที่พึ่งขึ้นสวรรค์”
“ยังเป็นคนที่พึ่ขึ้นสวรรค์มาเมื่อครึ่งเดือนก่อน?”
ด้านนอกเหลาอาหารไหลเฟิ่ง ผู้ที่มามุงชมต่างก็ได้ยินคำพูดของไป่ฟูฉางกองทัพมังกรเงิน ไฉหมิงชัดเจน
“ไป่ฟูฉางของกองทัพมังกรเงินผู้นั้น…มันสติเลอะเลือนไปแล้วหรือ?”
“ข้าว่ามันสติเลอะเลือนไปแล้วจริงๆ…ผู้ที่พึ่งขึ้นสวรรค์มาเมื่อครึ่งเดือนก่อน จะไปเป็นแม่ทัพของกองทัพมังกรดำได้อย่างไร?”
“นั่นสิ! ถึงแม้คนผู้นี้จะไปพบเจอป้ายประจำตัวของอดีตแม่ทัพหวงจี่ปิ่งเพราะมีโชค จนได้รับตำแหน่งแม่ทัพมา…แต่ทหารของกองทัพมังกรดำนั่นจะแลดูเคารพนับถือมันขนาดนี้ได้หรือ?”
“ใช่ สามารถทำให้เหล่าทหารเคารพนับถือได้ขนาดนี้ เห็นชัดว่า…พลังฝึกปรือของมันอย่าน้อยๆต้องบรรลุขอบเขตจินเซียน!”
…
เหล่าผู้ที่มามุงชมเรื่องราวนอกเหลาก็เริ่มคุยกันยกใหญ่ และพวกมันก็คิดเหมือนทหารใต้บัญชาต้วนหลิงเทียนทั้ง 10 ว่าไป่ฟูฉางของกองทัพมังกรเงินนั่นพูดเหลวไหล
เพราะสิ่งที่ไฉหมิงพูดมันเป็นไปไม่ได้!
ในขณะที่ทหารใต้บัญชาต้วนหลิงเทียนทั้ง 10 และเหล่าผู้ที่มามุงชมกำลังเชื่อว่าไป่ฟูฉางไฉหมิงของกองทัพมังกรเงินนั้นกล่าวเหลวไหล…
“ฮ่าๆๆๆ…!!”
ภายในโถงกลางของเหลาอาหารไหลเฟิ่ง แม่ทัพของกองทัพมังกรเงิน หยางกงผิง อยู่ๆก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น!
อยู่ๆหยางกงผิงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาแบบนี้แน่นอนว่ามันสามารถดึงดูดความสนใจของทุกคนยกเว้นต้วนหลิงเทียนได้สำเร็จ!
สายตามันมองจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนเขม็ง กล่าวออกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า
“ย่ำจนรองเท้าสึกไม่พบพาน บทจะเจอกลับเจอง่ายๆ!”
“ไอ้หนู หากเจ้าหดหัวซ่อนตัวอยู่แต่ในทัพมังกรดำข้าอาจไม่รู้เลยว่าเจ้าอยู่ในกองทัพมังกรดำ…แต่ตอนนี้ในเมื่อเจ้าพาตัวเองมาส่งถึงหน้าประตูบ้านข้า เช่นนั้นก็จงติดตามข้ากลับไปยังกองทัพมังกรเงินแต่โดยดีเถอะ!!”
ในขณะที่เสียงกล่าวของหยางกงผิงดังออกมาชัดถ้อยชัดคำนั้น สายตาที่มันใช้มองต้วนหลิงเทียนก็ลุกวาวจ้า ประหนึ่งมันได้เห็นสมบัติล้ำค่าหาใดเสมอเหมือน…
และในสายตาของมัน ต้วนหลิงเทียนก็เป็นดั่งสมบัติล้ำค่าหาใดเสมอเหมือนจริงๆ
เพราะมันรู้ดีว่า…
แม่ทัพมังกรดำหนุ่มเบื้องหน้านี้ มีวรยุทธ์อมตะอันยอดเยี่ยมรวมถึงเวทย์พลังอันเลิศล้ำ ทำให้อาศัยพลังฝึกปรือขอบเขตเซียนอมตะสวรรค์จันทร์แดง แต่กลับบรรลุขอบเขตพลังฝีมือของตัวตนระดับจินเซียน!
หากมัน หยางกงผิง สามารถช่วงชิงวรยุทธ์อมตะกับเวทย์พลังที่อีกฝ่ายฝึกปรือมาได้ล่ะก็ มิใช่ว่าความแข็งแกร่งของมันจะพุ่งทะยานเหมือนดั่งฝันเลยหรือไร?!
อีกทั้งหากผู้บัญชาการกองทัพมังกรเงิน พี่ชายภรรยาของมันได้รับวรยุทธ์อมตะกับเวทย์พลังของชายหนุ่มเบื้องหน้าไป ไม่ใช่ว่าพลังฝีมือจะก้าวหน้าจนกลายเป็นตัวตนอันร้ายกาจไร้ผู้ใดในเมืองเฉวี่ยโยวทาบติดเลยหรือ?
ถึงตอนนั้นพี่เมียมันสามารถเดินทางไปยังมณฑลจิ่วโยว เพื่อพบกับผู้พิทักษ์มณฑล วิ่งเต้นช่วงชิงตำแหน่งเจ้าเมืองเฉวี่ยโยวมาครอง!
มันเองก็ยังไม่ลืม
ว่าตอนที่มันเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้พี่เมียอันเป็นผู้บัญชาการของกองทัพมังกรเงินฟังเมื่อครึ่งเดือนก่อน อีกฝ่ายถึงกับตื่นเต้นยกใหญ่!
ด้วยเหตุนี้ตลอดระยะเวลาครึ่งเดือนที่ผ่าน กองทัพมังกรเงินของพวกมันจึงออกตระเวนตามหาเบาะแสของบุคคลที่พึ่งขึ้นสวรรค์นั่นมาอย่างเอาเป็นเอาตาย
แต่มันไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ
ว่าผู้ที่พึ่งขึ้นสวรรค์คนนั้น จะไปเข้าร่วมกับกองทัพมังกรดำและกลายไปเป็นแม่ทัพคนใหม่
“…แต่ตอนนี้ในเมื่อเจ้าพาตัวเองมาส่งถึงหน้าประตูบ้านข้า เช่นนั้นก็จงติดตามข้ากลับไปยังกองทัพมังกรเงินแต่โดยดีเถอะ”
แทบจะในเวลาเดียวกันกับที่หยางกงผิงพูดประโยคดังกล่าวจบคำ
ฟู่ววว!!
เสียงประหนึ่งเปลวเพลิงลุกโหมพลันดังขึ้น เป็นพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดที่หยางกงผิงลอบโคจรสั่งสมเอาไว้ได้ระเบิดปะทุออกมาจนส่งเสียงดัง ยังปกคลุมไปทั่วร่างของมันจนคนคล้ายกลับกลายเป็นก้อนเพลิง!
แลดูสง่างามน่าเกรงขามประหนึ่งเทพสงคราม!
ตูมมม!!
ทันใดนั้นเอง หยางกงผิงพลันยกเท้าขึ้นเล็กน้อยค่อยกระทืบลงพื้นเหลาอย่างแรง พาลให้ห้วงอากาศรอบๆสะท้านสะเทือนบังเกิดเป็นคลื่นลมรุนแรงซัดถล่มออกไปปานมหาพายุ พัดโต๊ะเก้าอี้มากมายในเหลาให้ล้มระเนระนาดเกลื่อนกลาด!
ปงง!!
พริบตาต่อมาร่างหยางกงผิงที่กระทืบเท้าส่งแรง ก็พุ่งกระโจนออกไปราวพยัคฆ์หมาป่า มือของมันพุ่งออกไปอย่างดุดัน หากแต่เป็นกระบวนท่าคว้าจับที่ไม่ได้เผยจิตสังหารแต่อย่างใด เห็นชัดว่ามันคิดจะจับกุมตัวต้วนหลิงเทียนเท่านั้น!
แน่นอนว่ามันไม่คิดสังหารต้วนหลิงเทียน!
เพราะสำหรับมันแล้ว การจับผู้ที่พึ่งขึ้นสวรรค์คนนี้กลับไปยังค่ายทัพมังกรเงินเป็นๆ ย่อมมีประโยชน์กว่าเข่นฆ่าอีกฝ่ายพันหมื่นเท่า!!
ด้วยวิธีนี้ มันกับพี่เมียจึงจะมีโอกาสได้รับวรยุทธ์อมตะและเวทย์พลังอันน่ากลัวที่อีกฝ่ายครอบครอง!
สำหรับฐานะในปัจจุบันของอีกฝ่ายที่เป็นถึงแม่ทัพของกองทัพมังกรดำนั้น มันไม่ได้สนใจแม้แต่นิดเดียว เพราะหลังมันจับตัวอีกฝ่ายกลับไปแล้ว อย่างมากพี่เมียของมันอันเป็นผู้บัญชาการกองทัพมังกรเงินก็แค่ออกไปไกล่เกลี่ยกับผู้บัญชาการกองทัพมังกรดำเท่านั้น
“ท่านแม่ทัพระวัง!”
“ท่านแม่ทัพระวัง!”
…
เมื่อเห็นหยางกงผิงโจนทะยานออกไปเจียนบรรลุถึงหน้าต้วนหลิงเทียน ทหารทัพมังกรดำทั้ง 10 ใต้บัญชาของต้วนหลิงเทียนก็พึ่งรู้สึกตัว พวกมันต่างร่ำร้องเตือนออกมาเสียงดังอย่างไม่รู้ตัว
พวกมันพอเห็นหยางกงผิงโจนทะยานเข้ามาอย่างดุดันเข้าหน่อย ก็สติเตลิดจนลืมเลือนไปเสียสิ้น…
ว่าแม่ทัพของพวกมันนั้น มีพลังฝีมือเหนือล้ำสุดที่แม่ทัพอีก 9 คนที่เหลือของกองทัพมังกรดำจะเทียบติด…
ทว่าหยางกงผิงผู้นี้ พลังฝีมือยังไม่สู้ ‘เหอจิ้งคุน’ แม่ทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาแม่ทัพของกองทัพมังกรดำ หากไม่นับแม่ทัพของพวกมันด้วยซ้ำ!
ในขณะเดียวกันกับที่ทหารใต้บัญชาทั้ง 10 อุทานเตือนออกมาอย่างลืมตัว
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
…
บังเกิดเสียงกระบี่หอนดังขึ้น
ภายใต้สายตาของทุกคน ต้วนหลิงเทียนที่ยืนอยู่อย่างสงบนั่น อยู่ๆก็ปรากฏแสงสว่างสีขาวสาดส่องออกมาจากร่างกาย เป็นรังสีกระบี่ที่เปล่งแสงสว่างอย่างน่าอัศจรรย์มากมายกำลังพวยพุ่งออกมาจากร่างเขา!
มองไปปราดเดียวก็บอกได้ว่ารังสีกระบี่เหล่านี้มีมากมายนับพัน!
และในขณะที่ความสนใจของทุกคนถูกรังสีกระบี่นับพันที่พวยพุ่งขึ้นจากร่างต้วนหลิงเทียนดึงดูดความสนใจไปนั้นเอง
“อ๊าคคคค….!!!”
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดจับใจหนึ่งพลันดังขึ้น
เรียกว่าเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดโหยหวนนี่ ช่างชวนให้ผู้คนหัวใจสะท้านนัก พากันขนลุกเกรียวขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง…
ปงงงง!!
เสียงสนั่นลั่นดังขึ้นอีกครั้ง และคราวนี้ผู้ชมทั้งหลายก็แลเห็นกันชัดเจน
แขนขวาของหยางกงผิงแม่ทัพของกองทัพมังกรเงิน ที่พุ่งไปด้วยกระบวนท่าคว้าจับต้วนหลิงเทียนเมื่อครู่ตอนนี้ได้ขาดด้วนเสมอไหล่!
และในเวลาเดียวกันกับที่แขนขวาของมันถูกตัดขาดเสมอไหล่ มันก็ถูกเท้าขวาต้วนหลิงเทียนยกขึ้นถีบยันเข้ากลางยอดอกอย่างแรง จนคนกระเด็นปลิดปลิวไปราวลูกเกาทัณฑ์พ้นคันศร!
เห็นได้ชัดว่าเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจนเสียงหลงเมื่อครู่ เป็นของหยางกงผิงนี่เอง
“อย่า—”
หยางกงผิงที่ถูกต้วนหลิงเทียนยันยอดอกจนร่างตีหลังกาไปไม่เป็นท่า ยังทันเห็นว่าบัดนี้มีรังสีกระบี่ชุดหนึ่งกำลังพุ่งเข้าหาแขนที่ถูกตัดของมัน ทำให้หน้ามันอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนสีกลับกลาย ร่ำร้องออกมาเสียงหลงอีกรอบ!
ถึงแขนมันจะถูกตัดขาด แต่ตราบใดที่ยังไม่ถูกทำลายจนเสียหาย มันก็สามารถนำกลับมาต่อได้
แต่หากถูกทำลายไปล่ะก็มันได้กลายเป็นไอ้ด้วนแล้วจริงๆ!
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
…
รังสีกระบี่ชุดดังกล่าวพุ่งกวาดไปดั่งห่าตั๊กแตนบุกนา พริบตาก็สับสะบั้นแขนข้างที่ขาดของหยางกงผิงจนกลับกลายเป็นละอองเลือด คงเหลือไว้แต่มือข้างหนึ่ง…
สาเหตุที่ไฉนฝ่ามือข้างนี้ไม่ถูกทำลาย เพราะมันสวมไว้ด้วยถุงมือ…
ถุงมือที่ว่าก็คือยอดสมบัติสวรรค์ของหยางกงผิง
“อั๊ค!”
หยางกงผิงที่ได้รับบาดเจ็บพอเห็นว่าแขนขวาของมันถูกป่นเป็นละอองเลือดไปต่อหน้าต่อตามันก็อดไม่ได้ที่จะกระอักเลือดสีคล้ำดำแดงออกมา…
“กงผิง!!”
ในขณะที่หยางกงผิงกระอักเลือด เสียงสตรีอันเกรี้ยวกราดเดือดดาลหนึ่งพลันดังขึ้น!
ทุกคนรู้สึกเสมือนมีประกายแสงวาบหนึ่งพุ่งผ่านหน้าไปแวบๆ เป็นสตรีร่างมหึมาคนหนึ่ง หากทว่าคล่องแคล่วว่องไวราวกระต่ายเปรียว ได้พุ่งไปรับร่างหยางกงผิงที่ปลิดปลิวกระเด็นเอาไว้ได้ทันท่วงที!