ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 86-1 ทวนที่เย่อหยิ่งและลูกธนูที่ใจสลาย

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​มือ​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​อยู่​ใกล้​กับ​กระดาษ​แผ่น​นั้น​มาก​ ​จน​เกือบจะ​เอื้อม​ถึง​ขอบ​กระดาษ​แล้ว

​ไม่รู้​ว่า​ถูก​เหงื่อ​ทำให้​เปียก​หรือว่า​มัน​มี​โลหิต​ติด​อยู่​มากเกินไป​ ​ขอบ​กระดาษ​ขาว​แทบจะ​ไม่​คม​เลย​ ​มัน​เหมือนกับ​ขนม​อบ​ที่​ถูก​วาง​ไว้​ข้าง​แม่น้ำ​ตง​เจียง​อัน​ชื้นแฉะ​มา​แล้ว​สาม​วัน

​ใน​วินาที​ที่​นิ้ว​เขา​เอื้อม​จับ​กระดาษ​ขาว​นั้น​ ​รู​สีดำ​ทั้งสอง​บน​กระดาษ​ขาว​นั้น​ก็​พลัน​สว่าง​ขึ้น

​นั่น​คือ​เซียว​จาง​ได้​ลืมตา​ขึ้น​แล้ว

​เขา​ได้สติ​แล้ว

​แน่นอน​ว่า​อาจะ​เป็นได้​ว่า​เมื่อ​ครู่​นั้น​เขา​ไม่ได้​สลบ​เลย

​ใบหน้า​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ไม่ได้​ประหลาดใจ​เลย​ ​น่าจะเป็น​เพราะว่า​เขา​ทราบ​ตั้งแต่แรก​ ​เขา​เอ่ย​ถาม​ ​“​พัก​พอแล้ว​หรือยัง​”

​สวี​โหย​่ว​หรง​ไม่ได้​หันไป​มอง​ ​นาง​มอง​ไป​ยัง​ยอดเขา​นั้น​ที่อยู่​ใน​ท้องฟ้า

​ค่าย​กล​กระบี่​สถานศึกษา​หนาน​ซี​ถูก​ลมปราณ​ที่​หนักแน่น​ดุจ​ขุนเขา​นั้น​กด​ทับ​จน​ใกล้​พื้นดิน​มากขึ้น​ทุกที

​ใบ​เขียว​ของ​ต้น​อู๋ถง​ปลิด​ปลิว​จำนวนมาก​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​ลำต้น​เกิด​เสียงดัง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​เปลือก​ผิว​ของ​ลำต้น​แตก​ออก​จน​เห็น​สีขาว

​เซียว​จาง​มอง​ไป​ยัง​เฉิน​ฉาง​เซิง​ก่อน​เอ่ย​ว่า​ ​“​ไม่เคย​มี​ผู้ใด​กล้า​ดึง​กระดาษ​ใบ​นี้​มาก​่อน​ ​ก่อนหน้านี้​ไม่มี​ ​ตอนนี้​ก็​ยิ่ง​ไม่มี​”

​เสียง​ของ​เขา​เย็นชา​มาก​ ​ไร้​เยื่อใย​ ​เหมือนกับ​แววตา​ของ​เขา

​ก่อนหน้า​นั้น​เขา​คือ​ผู้​แข็งแกร่ง​บน​ประกาศ​เซียว​เหยา​ ​ยิ่ง​รวม​กับ​ชื่อเสียง​เรื่อง​นิสัย​บ้าคลั่ง​กระหายเลือด​ของ​เขา​แล้ว​ ​แน่นอน​ว่า​ไม่มี​ผู้ใด​กล้า​หาเรื่อง​เขา

​หลังจากที่​เขา​บรรลุ​ระดับ​ขั้น​สำเร็จ​ก็​ไม่มี​ผู้ใด​กล้ามา​ท้าทาย​เขา​อีก

​สำหรับ​คำพูด​ที่​มีน​้ำ​เสียง​ข่มขู่​นี้​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ไม่ได้​สนใจ​เลย​ ​ยัง​เอ่ย​ต่อ​ ​“​หาก​ท่าน​ยัง​ไม่ยอม​ตื่นขึ้น​มา​อีก​ ​ข้า​คง​ต้อง​ดึง​กระดาษ​ขาว​นี้​ออก​จริงๆ​”

​เซียว​จาง​เอ่ย​ ​“​ข้าง​่​วง​นิดหน่อย​ ​ให้​พวก​เจ้า​ดึง​สถานการณ์​ไว้​หน่อย​ไม่ได้​เชียว​รึ​ ​ใช้ไม่ได้​จริงๆ​”

​มี​เพียง​คน​เสียสติ​อย่าง​เขา​เท่านั้น​ ​ถึง​จะ​กล้า​ใช้​น้ำเสียง​เช่นนี้​เอ่ย​ต่อ​ใต้เท้า​สังฆราช​และ​เทพธิดา​ศักดิ์สิทธิ์

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ยังคง​ไม่สน​ใจ​ ​แล้ว​เอ่ย​ต่อ​ ​“​ต่อให้​พวกเรา​สลับ​กันต​้าน​ ​ก็​ต้อง​มี​ช่วง​ที่​ต้าน​ไม่ไหว​”

​เซียว​จาง​เข้าใจ​ความหมาย​ที่​เขา​สื่อ​ ​พลัน​นิ่ง​ไป

​เฉิน​ฉาง​เซิง​และ​สวี​โหย​่ว​หร​งก​ลับ​ตัดสินใจ​ว่า​จะ​ไม่​ยื้อ​เวลา​ต่อไป​ ​แต่​ตัดสินใจ​เตรียมตัว​ลุย​สังหาร

​พวกเขา​เอา​ความมั่นใจ​มาจาก​ไหน

​“​ในเมื่อ​จะ​ลุย​สังหาร​ ​แน่นอน​ว่า​ก็​ต้อง​ลุย​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​มอง​ไป​ยัง​เขา​ ​ยก​ยิ้ม​ก่อน​เอ่ย​ ​“​อาจจะ​ชนะ​ ​อาจจ​แพ้​ ​ผู้ใด​จะ​รู้กัน​”

​รอยยิ้ม​ของ​เขา​เป็น​เหมือน​เด็กหนุ่ม​ผู้บริสุทธิ์​ ​ไร้เดียงสา​ ​และ​อ่อนโยน

​แต่​เซียว​จาง​กลับ​คิด​ว่าน​่า​กลัว​นัก

​เรื่องใหญ่​อย่างนี้​ ​จะ​ให้​มาสู​้​กัน​เล่น​ๆ​ ​ได้​อย่างไร

​ไม่ว่า​จะ​เป็น​วังถง​หรือว่า​ค่าย​กล​กระบี่​สถานศึกษา​หนาน​ซีล​้​วน​ต้านทาน​บรรพต​เยียน​จือ​ได้​ชั่วขณะ​เท่านั้น

​เขา​ได้รับบาดเจ็บ​สาหัส​ ​แต่​ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​อาณาเขต​เทพศักดิ์​สิทธิ์​คน​ใหม่

​ใน​สถานการณ์​อย่างนี้​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​และ​สวี​โหย​่ว​หรง​ ​กลับ​ตัดสินใจ​ว่า​จะ​ไม่​รอต​่อ​ไป​ ​พวกเขา​จะ​บุก​ลุย​บรรพต​เยียน​จือ​ไป​ตรงๆ​!

​หรือ​พวกเขา​ไม่เข้าใจ​อีกว่า​ ​บรรพต​เยียน​จือ​เป็น​ถึง​ผู้​แข็งแกร่ง​เก่าแก่​ของ​เผ่า​มาร​ ​ต้อง​แข็งแกร่ง​กว่า​ขุนพล​มาร​มาก​อยู่​แล้ว​ ​แม้แต่​ระดับ​ขั้น​อาจจะ​ไม่​ด้อย​กว่า​ราชา​มาร​ด้วยซ้ำ​ ​หรือ​พวกเขา​ยัง​ไม่เข้าใจ​อีกว่า​ ​ใต้เท้า​สังฆราช​แห่ง​เผ่า​มนุษย์​และ​เทพธิดา​ศักดิ์สิทธิ์​รวมถึง​เขา​ที่​เพิ่ง​บรรลุ​ระดับ​ขั้น​อาณาเขต​เทพศักดิ์​สิทธิ์​ใหม่​ๆ​ ​หาก​ใน​วันนี้​ตาย​ทั้งหมด​ ​หน้า​ประวัติศาสตร์​อาจจะ​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​จริงๆ​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​รอ​ได้​อีก​สักหน่อย​ด้วยซ้ำ​ ​เหตุใด​ต้อง​ลุย​ด้วย​ ​เหตุใด​ใน​เวลา​เช่นนี้​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ยัง​ยิ้ม​ได้​อีก​ ​ทั้ง​ยัง​ยิ้ม​ออกมา​อย่าง​บริสุทธิ์​ถึง​เพียงนั้น​ ​สวี​โหย​่ว​หรง​ยัง​มีแก่ใจ​ยืน​ไพล่​สอง​แขน​ชมดาว

​ทั้ง​ใต้​กล้า​ต่าง​กล่าวว่า​เซียว​จาง​นั้น​คือ​คน​เสียสติ​ ​แต่​เขา​กลับ​พบ​ว่า​เฉิน​ฉาง​เซิง​และ​สวี​โหย​่ว​หรง​ ​บ้าคลั่ง​เสียสติ​กว่า​ตน​มาก

​คำตอบ​ของ​คำถาม​เหล่านี้​คือ​อะไร

​ทันใดนั้น​เขา​ก็​นึกออก

​นั่น​คือ​ความกล้าหาญ​และ​ฮึกเหิม

​ความกล้าหาญ​และ​ฮึกเหิม​ของ​คนหนุ่มสาว

​เขา​แก่​กว่า​เฉิน​ฉาง​เซิง​และ​สวี​โหย​่ว​หรง​หลาย​สิบ​ปี​ ​แต่​สำหรับ​ผู้​บำเพ็ญพรต​แล้ว​ ​ถือว่า​ยัง​เยาว์​นัก

​แววตา​ของ​เขา​พลัน​เปลี่ยนเป็น​คมกริบ​ ​เหมือน​ทวน​เหล็ก​ที่อาบน้ำ​สารท​ฤดู​มา​แล้ว​ ​เยือกเย็น​ยิ่งนัก

​“​อีก​นาน​เท่าใด​”

​เขา​เดิน​ไป​ข้าง​กาย​สวี​โหย​่ว​หร​งก​่อน​เอ่ย​ถาม

​สวี​โหย​่ว​หรง​ตอบ​ ​“​สี่​สิบ​เจ็ด​ลมหายใจ​”

​เสียง​แหบ​พร่า​ของ​เซียว​จาง​ลอด​ทะลุ​กระดาษ​ขาว​ออกมา​อีกครั้ง

​“​ข้า​จะ​ไป​ทะลวง​แนว​ภูเขา​ของ​เขา​เสีย​”

​เขา​ถือ​ทวน​เหล็ก​และ​เดิน​ไป​ทางเหนือ​ของ​รัตติกาล

​เขา​ไม่ได้​มอง​เทือกเขา​เงา​นั้น​ที่อยู่​ใน​รัตติกาล​เหนือศีรษะ​ด้วยซ้ำ

​เทือกเขา​ที่แท้​จริงอยู่​หลาย​ลี้​ด้านนอก​ ​คือ​ที่​ที่​เขา​เตรียม​จะ​เดินทาง​ไป

​หลาย​วันก่อน​ ​เขา​รับรู้​ได้​ถึง​สัญญาณ​ของ​การ​บรรลุ​ระดับ​ขั้น​ ​จึง​ไม่​ลังเล​สักนิด​ที่จะ​จบชีวิต​การลอบสังหาร​บน​ทุ่ง​หิมะ​นี้​ ​ตาม​การนัด​หมาย​เส้นทาง​ใน​ปีนั​้​นคื​อมุ​่ง​ไป​ทางใต้​ ​เห็น​ว่า​ตรงหน้า​ต้อง​ผ่าน​ทุ่งหญ้า​จึง​จะ​พบ​กับ​แผ่นดิน​เผ่า​มนุษย์​ ​แต่กลับ​เห็น​เทือกเขา​ทั้ง​สาม​ที่​นูน​ขึ้น​มาบ​นพื​้​นที​่​รกร้าง​เสียก่อน

​บรรพต​เยียน​จือ​ ​บรรพต​จิ้ง​พัว​ ​บรรพต​อี​ชุน

​เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​ผู้​แข็งแกร่ง​โบราณ​ที่​น่ากลัว​อย่างนี้​ ​เขา​แทบจะ​หนี​ไป​ไหน​ไม่ได้​ ​ตามหลักการ​แล้ว​ต้องตา​ยอย​่าง​ไม่ต้องสงสัย​ ​ผู้ใด​จะ​คิด​เล่า​ว่า​แรงกดดัน​ที่​ไม่เคย​เจอ​มาก​่​อนนี​้​ ​จะ​ให้​เขา​ข้าม​ธรณีประตู​นั้น​ไป​ ​และ​บรรลุ​ระดับ​ขั้น​ได้​ก่อนเวลา​ที่​กำหนด​ ​กว่า​จะ​หนี​มา​ได้​ก็​อันตราย​ยิ่ง​ ​เพียงแค่​ได้รับบาดเจ็บ​สาหัส​เท่านั้น

​เมื่อ​เขา​โดยสาร​ว่าว​ข้าม​ผ่าน​เทือกเขา​ ​มองเห็น​เฉิน​ฉาง​เซิง​และ​สวี​โหย​่ว​หรง​ ​จิตใจ​เขา​ก็​ผ่อนคลาย​ลง​ ​บาดแผล​และ​ความเหนื่อย​ล้า​ทางจิตใจ​ระเบิด​ขึ้น​พร้อมกัน​ ​จึง​สลบ​ไป​ทันที

​พัก​ไป​ครู่ใหญ่​ ​บาดแผล​ยัง​ไม่​สมาน​ ​แต่​ได้สติ​กลับมา​มาก​แล้ว

​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​การปรากฏ​ตัว​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​และ​สวี​โหย​่ว​หรง

​นักปราชญ์​ทั้งสอง​ท่าน​ผู้​มีส​ถานะ​สูงสุด​ของ​เผ่า​มนุษย์​มารับ​เขา​กลับ​ไป​พร้อมกัน

​นี่​ช่าง​เป็นเรื่อง​ที่​น่าภาคภูมิใจ​ยิ่งนัก​ ​ต่อให้​เป​็​คนที​่​เย่อหยิ่ง​อย่าง​เขา​ก็​ยัง​คิด​อย่างนี้

​ด้วยเหตุนี้​ ​เขา​จึง​ยินดี​ที่จะ​สู้​อีกครั้ง

​แต่​เขา​บอกว่า​ข้า​จะ​ไป​ทะลวง​แนว​ภูเขา​ของ​เขา​ ​ไม่ได้​เอ่ย​ว่า​ข้า​ทะลวง​แนว​ภูเขา​ของ​เขา​แล้ว

​เขา​ไม่มี​ความมั่นใจ​ว่า​จะ​สามารถ​ทำลาย​การป้องกัน​ของ​บรรพต​เยียน​จือ​ได้​ ​ไม่​มั่นใจ​แม้แต่​ว่า​จะ​สามารถ​มีชีวิต​ต่อไป​ได้

​ลม​พัด​แรง​ ​กระดาษสี​ขาว​ส่งเสียงกรอบแกรบ ​ดูเหมือน​จะ​ไม่​ค่อย​เป็นมงคล​เท่าใด​นัก

​แต่​เงา​ร่าง​ของ​เขา​ไม่ได้​หดหู่​มาก​นัก

​เพราะ​ทวน​เหล็ก​ตรง​แน่ว​ ​พู่​สีแดง​สยาย​ปลิว

​เพราะ​จิตวิญญาณ​แห่ง​การต่อสู้​ของ​เขา​ท่วมท้น​นัก

​…​…

​…​…

​สวี​โหย​่ว​หรง​ถอน​สายตา​กลับมา​ ​มอง​ไป​ยัง​รัตติกาล​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไป​หลาย​ลี้​ ​ก่อน​เอ่ย​ ​“​โอกาส​มี​เพียง​ครั้ง​เดียว​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​เข้าใจ​เจตนา​ของ​นาง

​บาดแผล​ฉกรรจ์​ของ​เซียว​จาง​สามารถ​รับ​การ​โจมตี​รุนแรง​ได้​อีก​แค่​ครั้ง​เดียว​เท่านั้น​ ​ต่อให้​อีกหน่อย​เขา​ยัง​มี​แรง​เหลือ​รบ​ ​ก็​ไม่​อาจ​แข็งแกร่ง​กว่า​ครั้งนี้​แน่

​หรือ​อาจ​กล่าว​ได้​ว่า​ ​หาก​พวกเขา​ต้องการ​ตี​แตก​ตรงๆ​ ​ทำลาย​บรรพต​เยียน​จือ​ ​ก็​มีโอกาส​เพียง​ครั้ง​เดียว

​ลม​รัตติกาล​กระทบ​หน้า​ ​หนาว​เล็กน้อย​ ​ไม่​ถึงกับ​บาด​หน้า​เหมือน​ดาบสั้น​ ​กลับ​คล้าย​น้ำ​ใน​ลำธาร​เมือง​ซี​หนิง​ใน​ช่วงต้น​ฤดูใบไม้ผลิ​มากกว่า

​มือซ้าย​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​กำหมัด​แน่น​ ​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​ที่​แปร​เป็น​ไข่มุก​ศิลา​ตก​จาก​แขน​เสื้อ​ ​มา​อยู่​ใน​อุ้งมือ​เขา​แล้ว

​เมื่อ​รับรู้​ได้​ถึง​น้ำหนัก​ของ​ไข่มุก​ศิลา​ใน​มือ​ ​อารมณ์​ของ​เขา​ก็​หนักอึ้ง​ ​สูด​หายใจ​ยาว​หนึ่ง​ที​ ​ก่อน​จะ​สงบ​ลง​ได้

​…​…

​…​…