ตอนที่ 1,280 พลิกผัน

“เขาจะมาพาตัวอันอันไป โดยให้เหตุผลว่าคิดถึงบุตรสาวเจ้าค่ะ”

ชิงเล่ยไม่ทราบว่าหลินเป่ยเฉินถามออกมาด้วยเหตุอันใด แต่นางก็พยายามนึกถึงรายละเอียดในวันนั้นให้ได้มากที่สุด

“แล้วท่านเชื่อเขาหรือไม่?”

หลินเป่ยเฉินสอบถาม “เป็นไปได้หรือไม่ที่เขาจะคิดถึงบุตรสาวจริง ๆ?”

“ข้าน้อยย่อมไม่เชื่อคำพูดของเขา”

เมื่อชิงเล่ยพูดถึงอดีตสามี สีหน้าของนางก็มีแต่ความเกลียดชัง

นี่ไม่ใช่การกระทำเพื่อเอาใจหลินเป่ยเฉิน

แต่เป็นเพราะนางถูกบุรุษหนุ่มผู้นั้นย่ำยีหัวใจจริง ๆ นางเคยเห็นธาตุแท้ของเขามาแล้ว และชิงเล่ยก็นึกเสียใจที่ตนเองตัดสินใจแต่งงานกับหลินเฟิงอี้ในอดีต

“นับตั้งแต่ที่อันอันถือกำเนิดเกิดขึ้นมา เขาก็ละทิ้งภรรยาและบุตรสาวของตนเองไปโดยไม่ไยดี เขาเคยบอกด้วยซ้ำว่าต่อให้เราสองแม่ลูกตายข้างถนน เขาก็จะไม่ไยดี แล้วเหตุไฉนอยู่ดี ๆ จึงคิดถึงบุตรสาวขึ้นมา”

ชิงเล่ยตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

หลินเป่ยเฉินสอบถามต่อไป “ถ้าอย่างนั้นท่านพอรู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงต้องการจะพาตัวอันอันกลับไปให้ได้?”

“เรื่องนี้…”

ชิงเล่ยมีสีหน้าฉงนสงสัยขึ้นมาเช่นกัน

หลินเป่ยเฉินถามอีกครั้ง “หากข้าจำไม่ผิด หลินเฟิงอี้เป็นนักรบเทวะของเผ่าเทพพงไพรใช่หรือไม่?”

ชิงเล่ยพยักหน้า “ตัวเขาเองเป็นสาวกเผ่าเทพพงไพรอยู่แล้ว”

“ในเผ่าเทพพงไพรมีเทพเจ้าระดับสูงอยู่หลายท่าน ไม่ทราบว่าเขาเป็นผู้ติดตามของเทพเจ้าตระกูลใด?”

หลินเป่ยเฉินพยายามเค้นข้อมูลให้ได้มากที่สุด

ชิงเล่ยส่ายศีรษะ “นับจากที่พวกเราเลิกรากัน ข้าน้อยก็ไม่เคยคิดสนใจเรื่องของเขาอีกเลย”

หลินเป่ยเฉินพยักหน้าด้วยความเข้าใจ “พวกเราไม่พบเจอศพของอันอันกับเฉียนเซวียนในคฤหาสน์ ข้ามั่นใจว่าพวกนางยังมีชีวิตอยู่ และฆาตกรตั้งใจมาลักพาตัวพวกนางไปโดยเฉพาะ… วางใจเถอะ ข้าจะต้องพาตัวอันอันกลับมาแน่นอน ท่านเชื่อใจข้าหรือไม่?”

ใบหน้ารูปไข่ของชิงเล่ยแสดงออกถึงความเคารพศรัทธาอย่างสุดซึ้ง นางพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น “ข้าน้อยเชื่อใจท่าน”

“ประเสริฐ ถ้าอย่างนั้นปล่อยให้ข้าจัดการทุกเรื่องราว ท่านอย่าเพิ่งทำสิ่งใด ข้าจะพาท่านกลับไปที่หอการค้าคนแคระเทวะ นับจากนี้ไป ท่านพักอยู่ที่ห้องพักด้านหลังหอการค้าไปก่อน อย่าได้ออกมาจากที่นั่นแม้แต่ก้าวเดียว… แล้วข้าจะจัดการทุกอย่างเอง”

หลินเป่ยเฉินกล่าว

“รับทราบเจ้าค่ะ”

ชิงเล่ยพยักหน้า

หลังจากนั้น หลินเป่ยเฉินก็จัดการทำอยู่สองอย่าง

หนึ่งคือเปิดใช้งานค่ายอาคมรอบคฤหาสน์อีกครั้ง

สองคือแจ้งเตือนให้ฉินโซวรับทราบข่าวร้าย

เมื่อฉินโซวนำลูกสมุนมาที่คฤหาสน์ หลินเป่ยเฉินก็ออกไปรอรับอยู่ที่หน้าประตูพร้อมกับกุมมือชิงเล่ยแนบแน่น และนี่คือครั้งแรกที่พวกเขาต้องย้ายที่อยู่อาศัยออกจากพื้นที่เขต 1 ซึ่งเคยเชื่อว่าเป็นดินแดนที่ปลอดภัยสูงสุด

การเดินทางราบรื่นไร้อันตราย

เมื่อส่งชิงเล่ยเข้าสู่หอการค้าเรียบร้อย หลินเป่ยเฉินก็สั่งให้กงกงคอยลอบดูแลความปลอดภัยให้นาง

ส่วนตัวเขาเดินทางกลับไปที่คฤหาสน์บนภูเขาเซียวฝูเพียงลำพัง

เมื่อกลับมาถึง ฉินโซวกำลังนั่งดื่มสุรารอเขาอยู่ก่อนแล้ว

สีหน้าของชายอ้วนแปลกประหลาดพิกลยิ่งนัก

ไม่ชัดเจนว่าเขาเศร้าใจหรือมีความสุขกันแน่

เมื่อเห็นหลินเป่ยเฉินกลับมา ฉินโซวก็รีบลุกขึ้นยืน กล่าวว่า “ข้าน้อยให้คนตรวจสอบดูแล้ว นี่เป็นฝีมือของคนจากเผ่าเทพตะวันขอรับ พวกเขาใช้วิชาที่เรียกว่ากระบี่สิบสามตะวัน ก่อนอื่น พวกเขาสังหารฮันหลานเป็นคนแรก ฆาตกรน่าจะเป็นคนที่นางรู้จักดี เพราะมันลงมืออย่างกะทันหัน ฮันหลานไม่มีเวลาได้ชักกระบี่จึงได้รับบาดเจ็บสาหัส”

“ส่วนฆาตกรอีกคนหนึ่งรออยู่ด้านนอก เมื่อได้รับสัญญาณ มันก็บุกเข้ามาฆ่าสาวรับใช้ก่อนพาตัวเด็กหญิงทั้งสองคนหลบหนีไป แต่ข้าน้อยยังไม่ทราบว่าฆาตกรมีเจตนาอันใด เป็นไปได้ว่าพวกมันตั้งใจมาลักพาตัวเด็ก ๆ โดยเฉพาะ”

เผ่าเทพตะวัน?

หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วด้วยความมึนงง

เขาไม่เคยมีปัญหากับคนจากเผ่าเทพตะวันมาก่อน

จะไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มคนที่คอยหนุนหลังหลินเฟิงอี้จริง ๆ หรือ?

“ไม่ใช่ฝีมือของเผ่าเทพพงไพรแน่นะ?”

เด็กหนุ่มถาม

“ไม่ใช่แน่นอนขอรับ”

ฉินโซวตอบด้วยความมั่นใจ

หลินเป่ยเฉินถอนหายใจออกมาด้วยความเศร้า “ต้องขอแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียของพี่ฉินแล้ว”

ฉินโซวพยายามกลั้นยิ้ม “เสียใจอันใดขอรับ? คุณชายควรแสดงความยินดีกับข้าน้อยมากกว่า”

หลินเป่ยเฉินเบิกตาโต

ฉินโซวกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ข้าน้อยมีภรรยาอยู่ทั้งหมดสี่คน ฉู่ฮันหลานเป็นเพียงหนึ่งในนั้น ในเมื่อนางตายแล้ว ข้าน้อยก็สามารถแต่งภรรยาใหม่ได้อีกครั้ง… สำหรับข้าน้อย เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาเลย”

หลินเป่ยเฉินมองหน้าชายอ้วนด้วยแววตาเย็นชา “ท่านนี่มันคนเสเพลไร้หัวใจจริง ๆ”

ฉินโซวรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ก็ยังคงปั้นยิ้ม กัดฟันพูดว่า “ทว่าข้าน้อยก็ต้องขอแสดงความเสียใจต่อคุณชายเช่นกัน ไม่ว่าอย่างไรฆาตกรคงเข้ามาได้เพราะฉู่ฮันหลาน หากไม่ได้เป็นเพราะนาง ฆาตกรก็คงบุกเข้ามาในคฤหาสน์ได้ไม่ง่ายนัก ดีไม่ดีค่ายอาคมก็คงไม่ถูกสลายลงไป… แต่สิ่งที่ข้าน้อยคิดไม่ตกเลยก็คือ เหตุไฉนพวกมันต้องลักพาตัวบุตรสาวของข้าน้อยไปด้วย?”

“ลักพาตัวบุตรสาวของท่าน?”

หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วและมองหน้าชายอ้วน

ฉินโซวอธิบายด้วยสีหน้าจริงจัง “นี่คือคำตอบที่ชัดเจนของเรา พี่สะใภ้ชิงเล่ยหาได้มีศัตรูอันใดและไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับผู้ใดมาก่อน แต่ตระกูลฉินของข้าน้อยบ่มเพาะศัตรูมากมายในหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้น พวกฆาตกรคงเลือกลงมือที่นี่เพื่อโจมตีตระกูลฉิน เพราะว่าคฤหาสน์ตระกูลฉินวางเวรยามอารักขาหนาแน่นมากเกินไป พวกมันจึงหลอกล่อให้ฉู่ฮันหลานสลายค่ายอาคมและบุกเข้ามาลงมือจนสำเร็จ… จริงอยู่ที่พวกมันพาตัวคุณหนูอันอันไปด้วย แต่เป้าหมายหลักนั้นพวกมันคงต้องการเล่นงานตระกูลฉินมากกว่า”

หัวใจของหลินเป่ยเฉินกระตุกวูบ

หรือว่าสิ่งที่เขาคาดเดามาทั้งหมดจะผิดพลาด?

เพราะคำอธิบายของฉินโซวฟังดูมีเหตุผลดีทีเดียว

หากเป็นเช่นนี้ นั่นก็หมายความว่าอันอันถูกจับตัวไปอย่างโชคร้ายเท่านั้นเองหรือ?

“ต้องขออภัยคุณชายเป็นอย่างยิ่งที่ข้าน้อยเป็นต้นเหตุทำให้คุณหนูอันอันต้องถูกลักพาตัวไป”

ฉินโซวกล่าวด้วยสีหน้าแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง “แต่คุณชายไม่ต้องเป็นกังวล ข้าน้อยจะสืบสวนเรื่องราวนี้ให้ถึงที่สุด ข้าน้อยจะต้องมอบคำอธิบายให้แก่คุณชายให้ได้ ข้าน้อยจะพยายามตามหาตัวคุณหนูอันอันกลับมาให้ได้ขอรับ”

หลินเป่ยเฉินจ้องมองใบหน้าของชายอ้วนเขม็งและกระซิบแผ่วเบา “ประเสริฐ… หากมีข่าวอันใดแจ้งให้ข้ารู้ด้วย”

ฉินโซวจัดการเก็บศพของฉู่ฮันหลาน เช่นเดียวกับศพของสาวรับใช้ชิงเฉา

หลินเป่ยเฉินนั่งอยู่เพียงลำพังหน้าคฤหาสน์หลังงามและเริ่มต้นใช้ความคิด

ความเฉยชาของฉินโซวต่อการตายของภรรยาทำให้หลินเป่ยเฉินต้องมองชายอ้วนในมุมใหม่

คนประเภทนี้เขาจะไปใกล้ชิดด้วยไม่ได้เด็ดขาด

สำหรับความตายของสตรีที่นอนอยู่ข้างหมอน ซ้ำยังให้กำเนิดบุตรีกับเขาถึงหนึ่งคน ฉินโซวกลับไม่อาลัยอาวรณ์เลยสักนิด

นี่นับเป็นคนประเภทใดกัน?

“ดูเหมือนว่าการให้ชิงเล่ยทำงานในหอการค้าคนแคระเทวะคงไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาวซะแล้วสิ ฉินโซวไม่สนใจแม้แต่ความตายของภรรยาตนเอง แสดงให้เห็นว่าเป็นคนที่มีจิตใจอำมหิตยิ่งนัก เราคงต้องรีบหาทางรักษาโรคบุปผามรณะให้ได้โดยเร็วที่สุด เมื่อเราค้นพบยารักษาโรคแล้ว เราก็จะมีอำนาจมหาศาลอยู่ในมือ…”

หลินเป่ยเฉินเริ่มรู้สึกร้อนใจมากขึ้น

โชคดีที่เฉียนหลงสามารถเชื่อใจได้

บัดนี้ ขีดความศรัทธาในการแบ่งปันสัญญาณไวไฟของหมอนั่นขึ้นเต็มหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว

หลินเป่ยเฉินนำโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดแอปไป่ตู้ แมปและพิมพ์ชื่อของอันอันลงไปในตำแหน่งที่ต้องการค้นหา

แต่ว่า…

‘การค้นหาล้มเหลว’

‘ไม่พบคำค้นหาที่ต้องการ’

หลินเป่ยเฉินถึงกับตกตะลึง

เขาพยายามลองดูใหม่อีกครั้ง

แต่ผลลัพธ์ยังคงเป็นเหมือนเดิม

แอปไป่ตู้ แมปไม่สามารถหาตัวอันอันได้?

เป็นไปได้อย่างไร?

หรือเพราะว่าอันอันถูกฆ่าตายแล้ว?

หรือว่า… ตำแหน่งที่อันอันถูกจับตัวไปในขณะนี้ อยู่นอกเหนือขอบเขตการค้นหาจากโทรศัพท์มือถือของเขา?

ไม่ว่าเป็นด้วยเหตุอันใดก็ถือว่ามีปัญหาทั้งสิ้น

หากเป็นด้วยเหตุผลประการหลัง นั่นก็หมายความว่าการลักพาตัวอันอันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ กำไลผลึกแก้วกิเลนรุ่นที่สามของหลินเป่ยเฉินก็เกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อย

จังหวะการสั่นสะเทือนเช่นนี้แจ้งเตือนว่าผู้ที่ติดต่อเข้ามาเป็นคนแปลกหน้า…

ใครบางคนส่งข้อความมาหาเขา

หลินเป่ยเฉินรีบกดดูข้อความโดยเร็ว

เป็นข้อความจากนักเวทชราแห่งเผ่าเทพพงไพรที่เคยมาพบกับหลินเป่ยเฉินก่อนหน้านี้นั่นเอง

‘นายท่านอยากพบเจ้า’

เป็นข้อความเรียบง่ายเพียงประโยคเดียว

แต่ข้อความประโยคต่อมานั้นทำให้หลินเป่ยเฉินต้องผุดลุกขึ้นยืนทันที

‘เด็กหญิงที่เจ้ากำลังตามหาอยู่ในมือของพวกเรา!’