ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 90-2 ชงโจว

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​เฉิน​ฉาง​เซิง​พลัน​นึกถึง​เรื่อง​หนึ่ง​มา​ได้​ ​ตะโกน​เรียน​วานร​ดิน​กลับมา​ ​ออกคำสั่ง​ไป​สอง​สาม​คำ

​ตอนนี้​เผ่า​หมาป่า​ใช้ชีวิต​อยู่​ทางตะวันตก​เฉียง​เหนือ​ของ​ทุ่งหญ้า​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​อยู่​ห่าง​กัน​มาก​นัก​ ​แต่​เขา​กังวล​ว่า​ในอนาคต​ทั้งสองฝ่าย​จะ​มา​พบกัน​อีก​ ​ดังนั้น​จึง​เตือน​ไป​หลาย​ประโยค

​ทุ่งหญ้า​นั้น​เจ๋อ​ซิ่ว​ใช้​เงิน​ซื้อ​ไป​จาก​เขา

​สาม​ปีก่อน​ ​ผู้คน​ต่าง​เฉลิมฉลอง​ข้าม​ปี​ที่​เขา​หลี​ซาน​ ​เจ๋อ​ซิ่ว​พลัน​เอ่ย​ข้อเสนอ​นี้​มา​ ​ช่างทำ​ให้​คน​รู้สึก​ตกใจ​เสีย​จริง

​แน่นอน​ว่า​เฉิน​ฉาง​เซิง​ไม่​คิดเงิน​ ​แต่​เจ๋อ​ซิ่ว​กลับ​ยืนกราน​นัก

​เขา​นำ​เงินเก็บ​ทั้งหมด​หลาย​ปี​ออกมา​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​อาจจะ​ซื้อ​ทุ่งหญ้า​ผืน​นี้​ไม่ได้​ทั้งหมด​ ​แต่​ตัวเลข​ก็​น่าพอใจ​ ​แม้แต่​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ยัง​ส่งเสียง​จิ​๊​ๆ​ ​ชื่นชม

​จนถึง​ตอนนี้​ ​ทุกคน​จึง​ได้​รู้​ว่า​ ​ยาม​ที่​เจ๋อ​ซิ่ว​ยัง​เล็ก​เคย​ถูก​ผู้อาวุโส​ขับไล่​ออกจาก​เผ่า​ ​แต่​ใน​เผ่า​ยังคง​มี​หญิงสาว​และ​เด็กหนุ่ม​คอย​แอบ​ให้​ความช่วยเหลือ​เขา​อยู่

​เขา​อยาก​ตอบแทน​ ​อยาก​จะ​ย้าย​จาก​ทุ่ง​หิมะ​อัน​หนาวเหน็บ​มายัง​สถานที่​ที่​ ​ดีกว่า

​หลาย​ปี​มานี​้​ ​เขา​ใช้ชีวิต​อย่าง​มัธยัสถ์​ ​พยายาม​สังหาร​ศัตรู​เพื่อให้​ได้รับ​ความดี​ความชอบ​ทางทหาร​ ​เพื่อ​เก็บเงิน​นั่นเอง

​ตอนนี้​เขา​ทำได้​แล้ว​ ​และ​เหล่า​ผู้อาวุโส​เหล่านั้น​ใน​สมา​พันธุ์​ผู้อาวุโส​ ​ยัง​จะ​กล้า​ไม่​เคารพ​เขา​อีก​หรือ

​เมื่อ​ครั้ง​การ​สอบ​ใหญ่​ใน​ปีนั​้น​ ​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ใช้​ไก่ย่าง​ครึ่งตัว​ติดสินบน​เจ๋อ​ซิ่ว​ ​ใน​การ​ประลอง​ต่อมา​ ​เจ๋อ​ซิ่ว​รบ​กับ​โก่ว​หาน​สือ​ที่​ระดับสูง​กว่า​ตน​ไป​หนึ่ง​ขั้น​เสีย​จน​มืดฟ้ามัวดิน​ ​เป็นกำลัง​สำคัญ​ให้​เฉิน​ฉาง​เซิง​ใน​ชัยชนะ​ครั้งสุดท้าย​ ​แต่​เขา​เอง​ก็​ต้อง​เสีย​อะไร​ไปมาก​เช่นกัน​ ​ตอน​ถูก​หาม​ออกมา​ร่างกาย​ก็​ชุ่ม​ไป​ด้วย​โลหิต

​แต่​ใน​ตอนที่​ผู้คน​ซาบซึ้ง​อย่าง​หา​ใด​เทียบ​ได้​นั้น​ ​เขา​กลับ​คิด​อยู่​เรื่อง​เดียว​…​เพิ่ม​เงิน

​นึกภึง​ภาพ​ฉาก​เหล่านั้น​ใน​วัน​เก่า​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​เอง​ก็​ทอดถอนใจ​ ​ใน​ใจคิด​ว่า​ไม่รู้​ว่า​เขา​ยาม​อยู่​ที่​เขา​หลี​ซาน​เป็น​อย่างไร​ ​สงคราม​ระหว่าง​เผ่า​มนุษย์​และ​เผ่า​มาร​กำลังจะ​เริ่มต้น​ขึ้น​แล้ว​ ​แน่นอน​ว่า​เขา​ต้อง​เดินทาง​ขึ้น​เหนือ​ ​เพียงแต่​หนาน​เค​่อ​เล่า​…​รอยยิ้ม​บน​สีหน้า​ของ​เขา​ค่อยๆ​ ​เลือน​ไป

​เขา​แจ้ง​แก่​ใจ​ใน​บาดแผล​ของ​หนาน​เค​่อ

​เนื่องด้วย​สาเหตุ​หลาย​ประการ​ ​หลาย​ปี​มานี​้​เขา​ไม่​ชื่นชอบ​การ​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ ​มักจะ​เดินทาง​เร่ร่อน​ไป​ทั่ว​ ​จำนวน​ครั้ง​ที่​เดินทาง​ไป​ยัง​เขา​หลี​ซาน​ก็​มาก​ด้วย

​นอกจาก​ผู้คน​ที่อยู่​ใน​สำนัก​ฝึก​หลวง​แล้ว​ ​ก็​ยัง​มี​เด็กหนุ่ม​ที่อยู่​ใน​พรรค​กระบี่​หลี​ซาน​เหล่านั้น​ที่​กล้า​ไม่​ปฏิบัติ​ต่อ​เขา​ดั่ง​ใต้เท้า​สังฆราช​ ​นี่​มัน​ทำให้​เขา​รู้สึก​อิสระ​มาก

​ทุกปี​ศิษย์​พี่​จะ​พา​เขา​ไป​เฉลิมฉลอง​วัน​ข้าม​ปี​ที่ลั​่ว​หยาง​ ​นอกจาก​มี​ปี​หนึ่ง​ที่​เขา​อยู่​ที่​เมือง​เวิ​่น​สุ่ย​ ​เวลา​ที่​เหลือ​ล้วน​เดินทาง​ไป​เขา​หลี​ซาน​พร้อม​สวี​โหย​่ว​หรง

​หลาย​ปี​มานี​้​เขา​เดินทาง​ไป​เขา​หลี​ซาน​ไม่น้อย​กว่า​สามสิบ​ครั้ง

​แต่​ทุกครั้งที่​หนาน​เค​่อ​เห็น​เขา​ ​สีหน้า​บริสุทธิ์​ล้วน​ต้อง​ปรากฏ​รอยยิ้ม​จริงใจ​ออกมา​ ​จับ​แขน​เสื้อ​เขา​ไว้​แน่น​ไม่ยอม​ปล่อย

​แม้กระทั่ง​กลางคืน​ยาม​นอนหลับ​ ​นาง​ยัง​ยืนกราน​ที่จะ​นอน​ใน​ห้อง​เดียว​กับ​เขา​ ​ต่อให้​นอน​บน​พื้น​ ​ต่อให้​สีหน้า​ของ​สวี​โหย​่ว​หรง​เรียบ​นิ่ง​มาก​ก็ตาม

​นี่​คือ​ความเคยชิน​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​สนามม้า​ผา​ชัน​ใน​ตอนนั้น​ ​ชิว​ซานจ​วิน​เอง​ก็​รู้ดี​ถึง​อดีต​นี้

​หนาน​เค​่อ​ยังคง​สับสน​อยู่​ ​เชื่อใจ​ใน​เฉิน​ฉาง​เซิง​มาก​ ​และ​อาลัยอาวรณ์​นัก

​นาง​แจ้ง​แก่​ใจดี​ว่า​ผู้ใด​ดี​กับ​ตน

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ดี​กับ​นาง​จริงๆ

​ทั้งสอง​ก็​เหมือน​พี่ชาย​น้องสาว​จริงๆ

​เฉิน​ฉาง​เซิง​แจ้ง​แก่​ใจ​ใน​อาการ​ของ​นาง​ ​ให้​นาง​อยู่​ที่​เขา​หลี​ซาน​ก็​เพื่อ​หวัง​ว่า​ประมุข​พรรค​กระบี่​หลี​ซาน​จะ​สามารถ​รักษา​นาง​ให้หาย​ได้

​เขา​ยังคง​ติดตาม​อาการ​ของ​นาง​มาต​ลอด​ ​เมื่อ​วันเฉลิม​ฉลอง​ข้าม​ปี​ใน​ปีนี​้​ ​เขา​ก็​ทราบ​ดี​ว่า​ ​อาการ​ของ​นาง​ใกล้​จะ​หาย​ดี​แล้ว

​นี่​หมายความว่า​ ​นาง​ใกล้​จะ​ได้สติ​ขึ้น​มา​แล้ว

​หาก​ถึง​ตอนนั้น​ ​นาง​จะ​ทำ​อย่างไร​ ​แล้ว​เขา​ควร​ทำ​อย่างไร

​หลังจาก​ครุ่นคิด​อยู่นาน​ ​เขา​ทิ้งจดหมาย​ไว้​ให้​โก่ว​หาน​สือ​หนึ่ง​ฉบับ​ ​บอกว่า​หาก​หนาน​เค​่​อมี​สัญญาณ​ว่า​จะ​ตื่น​มา​ ​ก็​ให้​เปิด​จดหมาย​ฉบับ​นี้​ออก

​ไม่รู้​ว่า​ตอนนี้​ ​จดหมาย​ฉบับ​นั้น​ยังอยู่​ดี​หรือไม่

​…​…

​…​…

​กิเลน​เมฆา​อัคคี​รอนแรม​หลาย​พัน​ลี้​ ​กระ​เรียน​ขาว​คือ​วิหค​เซียน​ที่​เร็ว​ที่สุด​ ​หาก​ยินดี​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​และ​สวี​โหย​่ว​หรง​สามารถ​ตรง​กลับ​เมืองหลวง​ได้​เลย​ ​แต่​ที่​พวกเขา​หยุด​ลง​ระหว่าง​ ​ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​ท้องฟ้า​เบื้องหน้า​เกิด​เปลวเพลิง​สีแดง​ขึ้นสาย​หนึ่ง​หรือไม่

​เปลวเพลิง​สีแดง​นั้น​เหมือน​ไม่มี​อยู่​จริง​ ​แต่กลับ​ผนึก​ปราณ​โลหิต​นับไม่ถ้วน​และ​จิต​สังหาร​เข้าด้วยกัน​ ​มี​เพียง​ผู้​ที่​บรรลุ​ระดับ​ขั้น​อาณาเขต​เทพศักดิ์​สิทธิ์​เท่านั้น​ที่จะ​มองเห็น​ได้​ด้วย​ตาเปล่า

​เฉิน​ฉาง​เซิง​และ​สวี​โหย​่ว​หรง​ห่าง​จาก​ธรณีประตู​นั้น​เพียง​ช่วง​หนึ่ง​เท่านั้น​ ​แต่​ฐานะ​ของ​พวกเขา​พิเศษ​นัก​ ​เดิมที​ก็​เป็น​นักปราชญ์​ ​ทั้ง​ยัง​มี​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​อยู่​กับ​ตัว​อีก​ ​ดังนั้น​จึง​รับรู้​ได้

​บน​ที่​รกร้าง​นั้น​เต็มไปด้วย​ผู้คน​ ​มอง​จาก​ด้านบน​ ​ก็​คือ​จุด​ดำ​ๆ​ ​ที่​หนาแน่น​ ​มองดู​แล้ว​เหมือน​มด​ ​แต่​ความจริง​มิใช่​อย่างนั้น

​กระ​เรียน​ขาว​มอง​ไป​ยัง​เปลวเพลิง​ไร้​รูป​สาย​นั้น​ ​แววตา​ปรากฏ​ความหวาดกลัว​ออกมา​ ​กิเลน​เมฆา​อัคคี​กลับ​ดูกระ​ตือ​รือ​ร้น​ขึ้น​มา​ ​ปีก​สอง​ข้าง​กระพือ​ไว​กว่า​เดิม

​บน​ที่​รกร้าง​เต็มไปด้วย​กองทัพ​ใหญ่​ของ​ชง​โจว​ ​เวลานี้​กำลัง​ฝึก​ทัพ​อย่าง​ตื่นตัว​ ​มี​ลมปราณ​แข็งแกร่ง​พุ่ง​ขึ้น​ฟ้า​จาก​กองทหาร​บ่อยๆ​ ​บ้าง​ก็​เห็นได้ชัด​ว่า​เป็นฝี​มือ​ของ​ค่าย​กล​ ​บ้าง​ก็​กลับเป็น​ผู้​บำเพ็ญพรต​ที่​เชี่ยวชาญ​การ​ใช้​กระบี่​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​สามารถ​กระทั่ง​มองเห็น​เกราะ​เพลิง​อัคคี​ของ​พรรค​ซาน​หยาง​ที่​มุม​ตะวันตกเฉียงใต้​ของกอง​ทัพ​ได้​ด้วยซ้ำ

​อานุภาพ​ค่าย​กล​เช่นนี้​น่ากลัว​อย่างยิ่ง​ ​แม้แต่​เขา​และ​สวี​โหย​่ว​หร​งก​็​มิ​อาจ​เผชิญหน้า​ได้

​ในที่สุด​เฉิน​ฉาง​เซิง​ก็​เห็น​ขุนพล​ที่อยู่​ข้างหน้า​สุด​ท่าน​นั้น

​ลมปราณ​ของ​นายพล​ผู้​นั้น​ทรงพลัง​มาก​จริงๆ​ ​แล้ว​เขา​เป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​รวบรวม​ดวงดาว​ ​และ​คิด​ว่า​เขา​ควรจะเป็น​ขุนพล​เทพ​ของ​จวน​ทหาร​ชง​โจว

​ลมพายุ​พัดผ่าน​พื้นที่​รกร้าง​ว่างเปล่า​ ​ปัดเป่า​เสีย​จน​ธงรบ​ของ​ต้า​โจว​ส่งเสียง​ดัง​ ​และ​ก็​ทำให้​อาภรณ์​ของ​เหล่า​นักรบ​ขยับ​ตาม​ไป​ด้วย

​แขน​เสื้อ​ของ​นายทหาร​ท่าน​นั้น​ปลิว​ไป​ตาม​แรงลม​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​แขนขาด​ไป​ข้าง​หนึ่ง

​เขา​คือ​เซ​วีย​เหอ

​ใน​คืน​แห่ง​การเปลี่ยนแปลง​ของ​สุสาน​เทียน​ซูนั​้น​ ​พี่ชาย​ของ​เขา​ ​ขุนพล​เทพ​เซ​วี​ยสิ​่ง​ชวน​ ​ถูก​โจง​ทง​วางยาพิษ​จนตาย​ ​ต่อมา​ราชสำนัก​และ​กองทหาร​ได้​กวาดล้าง​อย่าง​เยือกเย็น​ ​เขา​เอง​ก็​ไม่รอด​ ​ถูก​ยึดอำนาจ​ทางการทหาร​ไป​ ​ถูก​ขัง​อยู่​ใต้ดิน​ตรอก​กองทัพ​เหนือ​ซือ​เจิ​้ง​ ​จนกระทั่ง​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​ม่อ​อวี​่​ ​และ​เจ๋อ​ซิ่ว​สังหาร​โจง​ทง​ใน​วันนั้น​ ​จึง​ได้​เห็น​เดือน​เห็น​ตะวัน​อีกครั้ง

​ต่อมา​เพราะ​พระราชวัง​หลี​ออกหน้า​ ​เขา​จึง​ได้รับ​การปลดปล่อย​อีกครั้ง​ ​แต่กลับ​ไม่ได้​รับ​อนุญาต​ให้​อยู่​เมืองหลวง​ได้​ ​และ​ไม่ได้​รับ​อนุญาต​ให้​กลับ​ไป​ชง​โจว​ ​ราชสำนัก​ลด​อำนาจ​เขา​ไป​เป็นรอง​แม่ทัพ​ที่​หวง​โจว​ ​ยังดี​ที่​ได้​พบ​ขุนนาง​ไม่เลว​ที่นั่น​ ​ทุกคืน​วัน​ว่ายน้ำ​ปีน​เขา​ ​ขับ​ลำนำ​ต่อ​บทกลอน​ ​ถึงแม้​จะ​ไม่​สุข​จน​เกินไป​ ​แต่​ก็​ถือได้ว่า​เป็น​ชีวิต​ที่​สงบ

​จนกระทั่ง​ถึง​ปีนั​้​นลม​ฝน​ได้มา​ถึง​ ​การต่อสู้​ของ​ศิษย์​และ​อาจารย์​ใน​สำนัก​ฝึก​หลวง​เริ่ม​ขึ้น​ ​ได้​ทำให้​หอ​เฟิ​่ง​หลิน​กลายเป็น​ซากปรักหักพัง​ ​ในที่สุด​สถานการณ์​ก็​เปลี่ยนไป

​หลังจากนั้น​ฝ่า​บาท​ได้​เปลี่ยน​การปกครอง​ใหม่​ ​ฟื้นฟู​กลุ่ม​ขุนนาง​เก่า​จาก​ราชวงศ์​ก่อน​ ​เซ​วีย​เห​อก​็​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ ​ยัง​ถูก​ส่ง​ไป​สอน​ที่​สำนัก​เด็ด​ดารา

​ช่วง​สาม​ปี​ใน​สำนัก​เด็ด​ดารา​ ​เซ​วีย​เหอ​ได้​ศึกษา​ตำรา​สงคราม​อย่างหนัก​ ​และ​ค้นพบ​ความก้าวหน้า​ครั้ง​ใหญ่​ใน​การ​บำเพ็ญพรต​ของ​เขา​ ​เขา​บรรลุ​ถึงขั้น​รวบรวม​ดวงดาว​อย่าง​ไม่รู้​เนื้อ​รู้ตัว​เลย

​ฝ่า​บาท​จักรพรรดิ​ย้าย​เขา​ไป​ยัง​ชง​โจว​ ​รับช่วง​ต่อ​จาก​พี่ชาย​ของ​เขา​ ​และ​กลายเป็น​ขุนพล​เทพ​ของกอง​ทหาร​ชง​โจว

​…​…

​…​…

​เกิด​เสียงดังปัง

​เซ​วีย​เหอ​คุกเข่า​ลง​กับ​พื้น​ ​หัวเข่า​กระแทก​เสีย​จน​หิน​สีเขียว​แตก​ออก

​ดวงตา​ของ​เขา​แดงก่ำ​ ​ร่างกาย​สั่นเทา

​ความ​ผ่าเผย​หนักแน่น​เมื่อยา​มอ​อก​คำสั่ง​กองทัพ​ใหญ่​นับ​หมื่น​ก่อนหน้า​ ​ไม่รู้​ไป​หล่น​ไป​อยู่​ที่ใด​แล้ว

​เซ​วียฮู​หยิน​เล็ก​นำ​บุตรชาย​อายุ​แปด​เก้า​ขวบ​สอง​คนคุก​เข่า​อยู่​เบื้องหลัง​เขา

​ตระกูล​เซ​วี​ยสอน​สั่ง​เข้มงวด​ ​คุณชาย​น้อย​ทั้งสอง​ไม่เข้าใจ​เหตุใด​บิดา​ต้อง​เสีย​อาการ​เช่นนี้​ ​แต่​ก็​ไม่กล้า​เอ่ย​คำ​ใด

​เซ​วียฮู​หยิน​เล็ก​กลับ​คาดเดา​ได้​ถึงที่​มา​ของ​ชายหนุ่ม​หญิงสาว​คู่​นี้​ ​ที่​คุกเข่า​นั้น​คือ​ความยินยอมพร้อมใจ​ ​กังวล​เพียง​ว่า​ตน​จะ​แสดงออก​อย่าง​เคารพ​ไม่​มาก​พอ