แต่สิ่งที่สำคัญคือ ตัวเองบุ่มบ่ามนำเงิน 10 ล้านออกมา คนมากมายขนาดนี้เห็นเข้า ก็ยากที่จะอธิบายจริงๆ

และก็ยากที่จะอธิบายให้กับเซียวชูหรันด้วย ถึงอย่างไรจำนวนตัวเลขก็เยอะเกินไป จำนวนเงิน 1ล้านนี่แหละสมเหตุสมผลกว่าหน่อย

ดังนั้น เย่เฉินมองไปยังเจี่ยงหมิง ยิ้มเบาๆพร้อมพูดว่า : “ถ้าหากฉันเอาเงิน 1 ล้านออกมาได้จริงๆ นายจะบริจาคเงิน 10ล้าน จริงๆใช่ไหม?”

“ใช่!” เจี่ยงหมิงแทบจะพูดเย่อหยิ่งอย่างฉับพลันทันทีว่า : “คนจนๆอย่างนายแบบนี้ ถ้าหากเอาเงิน 1 ล้านออกมาได้ งั้นฉันบริจาคหนึ่งร้อยล้านก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร!”

เย่เฉินพยักหน้า ยิ้มพร้อมพูดว่า : “สักครู่นะ ฉันจะถ่ายวิดีโอไว้เป็นพยานหลักฐานหน่อย”

พูดจบ ยิ้มพร้อมพูดกับทุกคนว่า : “ขอเชิญทุกท่านหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวิดีโอเพื่อเป็นพยานหลักฐานหน่อย!”

เห็นได้ยินว่ามีการแสดงดีๆมาให้ดู ต่างก็เอาโทรศัพท์ออกมา เปิดฟังก์ชันการบันทึกวิดีโอ

เย่เฉินพูดอย่างไม่แยแสว่า : “ฉันเย่เฉินขอบริจาคเงินจำนวน1ล้านหยวนให้แก่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจินหลิง ขอเพียงแค่ฉันบริจาคเงิน 1 ล้านนี้ เจี่ยงหมิงที่อยู่ข้างๆฉัน จะบริจาคเงิน 10 ล้านหยวน วันนี้ขอให้ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ได้โปรดเป็นพยาน พวกเราสองคนหากมีใครคนใดคนหนึ่งกลับคำพูด เต็มใจที่จะยอมรับการรังเกียจและคำดูถูกของคนจีนทุกคน!”

เจี่ยงหมิงพูดอย่างเยือกเย็นว่า : “ได้สิ แต่ว่านายเอาเงิน 1 ล้านออกมาก่อน ขอแค่นายนำเงิน 1ล้านออกมาได้ ฉันจะรีบนำเงิน 10ล้าน ออกมาบริจาคทันที!”

ตีเจี่ยงหมิงให้ตาย เจี่ยงหมิงก็ไม่เชื่อว่าเย่เฉินจะสามารถนำเงิน 1ล้านออกมาได้

คาดว่าเงินที่เพิ่งจ่ายไป 1แสนหยวนเมื่อตะกี้นั้น ก็น่าจะเป็นเงินเก็บส่วนตัวที่เก็บสะสมมาหลายปีแล้ว

เย่เฉินหยิบกระเป๋าเงินที่ซอมซ่อของตัวเองออกมาเลย หาเช็คจำนวนสองใบที่พอลให้ตัวเองจากข้างในนั่น

ครั้งนี้เขาระวังเป็นอย่างมาก มองดูจำนวนเงินในเช็คอย่างชัดเจน แน่ใจว่าเช็คที่อยู่ในมือของตัวเองเป็นจำนวน 1ล้าน ถึงจะหยิบเช็คออกมา

หลังจากที่หยิบออกมาแล้ว เขาก็ส่งมอบเช็คไปให้ป้าหลี่เลย เอ่ยปากพูดว่า : “ป้าหลี่ เช็คเงินสดใบนี้สามารถไปขึ้นเงินสด 1 ล้านกับธนาคารได้ตลอดเวลาเลยนะ คุณรับไว้เถอะ”

เจี่ยงหมิงเบะปาก พูดเย้ยหยันอย่างไม่หยุดหย่อน : “แค่หยิบกระดาษขาดๆออกมา แล้วพูดว่าเป็นเช็คเงินสดจำนวน 1ล้าน นายมาเล่นตลกอะไรกับฉันเหรอ?”

เย่เฉินยิ้มพร้อมพูดว่า : “นายไม่เชื่อใช่ไหม?หากไม่เชื่อนายก็ตรวจสอบดูสิ!”

เจี่ยงหมิงพูดอย่างเยือกเย็นว่า : “ฉันไม่เชื่อแน่นอน ตอนฉันเด็กก็เล่นเกมเศรษฐี ธนบัตรของเล่นหนึ่งใบก็แม่งหลายล้าน ไม่อย่างนั้นฉันก็เอาธนบัตรสักกี่บาทจากในนั้นออกมาบริจาคเงิน?อีกอย่าง ฉันก็ไม่ใช่คนของธนาคาร ฉันจะรู้วิธีการตรวจสอบเช็คว่าจริงหรือปลอมได้อย่างไร?”

เย่เฉินยิ้มอย่างจนใจ พยักหน้าพร้อมพูดว่า : “ในเมื่อนายมีทะเยอทะยานอย่างไม่สิ้นสุด ไม่เห็นโลงศพ ไม่​หลั่งน้ำตา งั้นฉันจะช่วยนายให้สมหวัง”

พูดจบ เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรศัพท์หาพอลแล้ว

เมื่อพอลรับสาย ก็พูดอย่างเคารพนับถืออย่างมากว่า : “อาจารย์เย่”

เย่เฉินหัวเราะพร้อมพูดว่า : “พอลมีเรื่องหนึ่ง ที่จะต้องขอรบกวนคุณหน่อยแล้ว”

พอลรีบพูดทันทีว่า : “เชิญพูดเลยครับ อาจารย์เย่”

เย่เฉินพูดว่า : “เช็คเงินสด 1 ล้านนั่นที่คุณให้ผม ผมทำมันหายแล้ว คงจะขึ้นเงินไม่ได้แล้ว ดังนั้นรบกวนคุณ โอนเงินสดมาให้ผม 1ล้าน ได้ไหม?รอหลังจากที่พบเจอเช็คเงินสดนั่นแล้ว ผมจะคืนเช็คให้กับคุณ”

พอลหัวเราะพร้อมพูดว่า : “ได้สิครับ คุณส่งเลขบัญชีมาให้ผมนะ ผมจะโอนให้คุณตอนนี้เลย ถ้าเช็คใบนั้นคุณหาเจอแล้ว ก็ไม่ต้องคืนให้ผมแล้วนะ!”

เย่เฉินหัวเราะพร้อมพูดว่า : “พอล คุณทำงานได้มีหลักการจริงๆผมชื่นชมในตัวคุณมาก”

พอลหัวเราะพร้อมพูดว่า : “อาจารย์เย่ คุณเกรงใจกันเกินไปแล้ว คุณส่งเลขบัญชีมาให้ผมนะ ผมจะโอนไปให้คุณเดี๋ยวนี้เลย”

เย่เฉินพูดว่า : “คุณหาเลขบัญชีบริจาคเงินของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจินหลิงเลย แล้วโอนเงิน 1ล้านไปยังบัญชีของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจินหลิง”

พอลถามอย่างตกใจว่า : “อาจารย์เย่ คุณจะโอนเงินบริจาคให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเหรอ?”

“ใช่” เย่เฉินพูดอย่างราบเรียบว่า: “ผมเติบโตขึ้นมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า”

พอลรีบพูดทันทีว่า : “เป็นแบบนี้นี่เอง!อาจารย์เย่คุณวางใจเถอะ ผมจะโอนเงินให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเดี๋ยวนี้เลย ผมจะโอนไป 2ล้าน อีก 1ล้าน ถือเป็นความตั้งใจเล็กๆน้อยๆของผม!”

———