โดยเฉพาะเจี่ยงหมิง ใบหน้าถึงกับงงไปเลย
เกิดอะไรขึ้น?2 ล้านเข้าบัญชีจริงๆเหรอ?
เย่เฉินเป็นผู้ชายจนที่แต่งงานเข้าบ้านฝ่ายหญิงเพื่อเกาะผู้หญิงกินไม่ใช่เหรอ เขาจะมีเงินมากมายขนาดนี้ได้ยังไงกัน?!
คนอื่นๆต่างก็ตระหนักถึงว่าก่อนหน้านี้ตัวเองดูถูกเย่เฉินแล้ว คิดไม่ถึงจริงๆ แม้ว่าเย่เฉินจะเป็นลูกเขยที่แต่งงานเข้าบ้านฝ่ายหญิง แต่จู่ๆก็มีความสามารถที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้
ไม่เพียงแค่บริจาคเงิน 1ล้านจนทำให้คนตกใจแล้ว เพื่อนของเขา ได้ยินว่าเขาบริจาคเงิน 1ล้าน แต่ถึงจะไร้ญาติผูกมิตรกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็ยอมที่จะบริจาคเงินให้ 1 ล้าน นี้เป็นเพื่อนแบบไหนกันแน่?สุดยอดขนาดนี้?
ในเวลานี้ เย่เฉินลุกขึ้นยืน มองไปยังเจี่ยงหมิงที่มีสีหน้าที่ตกใจและสับสนวุ่นวาย พูดว่า : “เจี่ยงหมิง เหมือนว่าโทรศัพท์ของคนอื่นๆจะบันทึกวิดีโอไว้นะ ตอนนี้เงิน 1ล้านของฉันเข้าบัญชีแล้ว งั้นเงิน 1 ล้านของนายล่ะ เมื่อไหร่จะเข้าบัญชี?”
ในเวลานี้เจี่ยงหมิงมึนงงแล้วจริงๆ อย่าว่าแต่ให้เขาบริจาคเงิน 1 ล้านเลย ตอนนี้แม้แต่ 1แสนก็ยังไม่แน่เลยว่าเขาจะหามาได้
ที่ยิ่งสำคัญไปกว่านั้นก็คือ เขายังมีปัญหาใหญ่ที่รอเขาไปสะสางอยู่ ถ้าหากไม่สามารถสะสางปัญหาใหญ่ได้ เขาคงจะถูกสับเป็นหมื่นท่อนแน่
คิดมาถึงตรงนี้ เจี่ยงหมิงก็เข้าใจดี ไม่ว่าจะยังไงตัวเองก็ไม่มีทางชนะ อีกอย่างวันนี้ตัวเองก็เสียหน้าไปแล้ว คิดอยากจะกู้คืนกลับมาก็กู้คืนมาไม่ได้แล้ว
ดังนั้นเขาจึงไม่คำนึกถึงอะไรแล้ว ทุ่มสุดตัว พูดกับเย่เฉินว่า : “เย่เฉิน ในเมื่อนายมีเงินมากมายขนาดนี้ สู้เอาออกมา ให้ฉันช่วยนำไปลงทุนให้ไม่ดีกว่าเหรอ ฉันรับรองว่าในหนึ่งสัปดาห์นายจะได้เป็นสองเท่า! ”
เย่เฉินยิ้มพร้อมพูดว่า : “ทำไมเหรอ?10ล้าน ไม่บริจาคแล้วเหรอ?”
เจี่ยงหมิงพูดอย่างเก้ๆกังๆว่า : “นายพูดตลกแล้ว แม้ว่าฉันจะมีชีวิตที่ดี แต่ก็ไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้นวันนี้เป็นเพราะฉันมีตาหามีแววไม่ ขอให้นายได้โปรดให้อภัย อย่าได้ถือสาคนที่มีความรู้ต้อยต่ำอย่างฉันเลย ”
คนอื่นๆต่างก็เอ่ยปากพูดเยาะเย้ยว่า : “เจี่ยงหมิง นี่นายก็ทำกันเกินไปแล้ว เย่เฉินก็บริจาคเงิน 1ล้านออกมาแล้ว แม้แต่เพื่อนของเย่เฉินก็บริจาคอีก 1ล้านแล้ว นายก็น่าจะรักษาคำพูดของนายหน่อยนะ?แม้ว่านายจะไม่มีเงินถึง 10 ล้าน แม้ว่าจะบริจาค 1ล้าน ก็พอถูๆไถๆไปได้!”
สีหน้าจองเจี่ยงหมิงดูแย่อย่างมาก แต่เรื่องก็มาถึงตอนนี้แล้ว แม้ว่าเขาจะโดนตีจนใบหน้าแดงก่ำ ก็ไม่กล้าจะเสแสร้งอีกแล้ว
ถึงอย่างไรคนเหล่านี้ก็ได้ถ่ายวิดีโอไว้แล้ว ถ้าหากเวลานี้ตัวเองยังเสแสร้ง เมื่อวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ต่อไปตัวเองก็คงไม่มีหน้าของความเป็นคนแล้วจริงๆ
เพราะงั้นเขาจึงทำได้เพียงทุ่มสุดตัว ตบหน้าตัวเองอย่างหนักๆสามสี่ครั้ง พูดอย่างรู้สึกผิดว่า : “ฉันยอมรับ ฉันสมควรตาย ฉันเสแสร้ง ฉันไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนี้กลับว่าทำเป็นหน้าใหญ่ใจโต ขอโทษนะครับ!”
เมื่อพูดคำพูดนี้ออกมา ในใจของเจี่ยงหมิงก็หดหู่อย่างมาก
เขาคิดว่า จ้าวโจ๋วเยว่ที่เมื่อกี้เตรียมจะลงกองทุนกับตัวเอง และเพื่อนอีกสองคน เห็นตัวเองเผยตัวในตอนนี้ คงจะไม่มาเล่นกับตัวเองอีกอย่างแน่นอน
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ตัวเองก็ไม่รู้จริงๆว่าจะไปหาเงินมาจากที่ไหนเพื่อจะซื้อPhaetonให้หม่าจงเหลียงแล้ว
คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็ไม่มีหน้าที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว รีบลุกขึ้นยืนทันที พูดอย่างลุกลี้ลุกลนว่า : “ขอโทษทุกคนด้วย ฉันจะมีธุระที่ต้องทำ ขอตัวก่อน……”
พูดจบ ก็ลุกขึ้นยืนวิ่งออกไปทางข้างนอกเลย
เมื่อทุกคนเห็นเขาวิ่งออกไปด้วยท่าทางที่อับอาย ในใจก็เกิดความเกลียดชัง เมื่อกี้เสแสร้งได้ไหลลื่นขนาดนั้น ตอนนี้กลับวิ่งไปออกอย่างกับหมายังไงอย่างนั้น!เงินก็ไม่บริจาคสักบาทเดียว ทำให้คนรู้สึกขยะแขยงจริงๆ
จ้าวเห้าเห็นเขาวิ่งออกไป อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจพร้อมพูดว่า : “เย่เฉิน ไม่ควรจะให้เขาหนีไปนะ!ควรจะให้เขาอยู่ที่นี่ บีบบังคับให้เขาบริจาคเงิน!”
เย่เป็นยิ้มอย่างไม่แยแส : “งั้นฉันก็กลายเป็นคนชั่วแล้วน่ะสิ?ไม่เป็นไร ให้เขาไปเถอะคนที่ชั่วร้ายจะต้องมีคนที่ชั่วร้ายกว่ามาทำให้ทนทุกข์ ”
จ้าวโจ๋วเยว่ที่ชอบเอาเปรียบมองเจี่ยงหมิงที่วิ่งออกไป เกิดความเครียดในใจ กลัวว่าตัวเองจะขอเมียไม่ได้ รีบลุกขึ้นยืนแล้วไล่ตามไป
เขาเพิ่งจะไป เจิ้งเสียงสุนัขรับใช้ก่อนหน้านี้ของเจี่ยงหมิง ก็พูดอย่างดูถูกว่า : “ถือว่าฉันมองเจี่ยงหมิงคนนี้ออกแล้ว ชอบเสแสร้งเกินไป!แม่งเอ้ย ชนรถPhaetonของคนอื่นคุกเข่าร้องไห้เหมือนหมา มาถึงที่นี่ ยังมีหน้ามาบอกว่า Phaetonเป็นของตัวเอง เป็นขยะจริงๆ ต่อไปฉันจะต้องสลัดพวกเสแสร้งแบบนี้ออกไปให้หมด!”
ทุกคนต่างตกใจ รีบไล่ถามว่า : “ชนรถPhaetonของคนอื่นแล้ว?มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?!”
——