ตอนที่ 1310 ที่รักที่เอ็นดูของทุกคน

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

เมื่อ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​เด็กน้อย​ทั้ง​สาม​มาถึง​ ​พวก​นาง​ก็ได้​เห็นภาพ​ที่​หลัว​เหม่ยย​วี่​กำลัง​บิด​หู​เฟิง​ฉง​และ​บ่น​อุบ​อย่าง​ไม่หยุดหย่อน

เสี่ยว​อ้าย​โม่​หัน​มอง​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​ด้วย​สายตา​เยาะเย้ยถากถาง​ทันที

เห็นได้ชัด​ว่า​บุรุษ​ตระกูล​เฟิ​งดู​จะ​ตกเป็นเบี้ยล่าง​ของ​ภรรยา​ ​แม้​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​จะ​ไม่มี​สายเลือด​ของ​ตระกูล​เฟิ​งอยู​่​ใน​ร่างกาย​ ​ทว่า​ดู​จาก​ท่าทาง​ที่​จนปัญญา​ของ​เขา​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​เฟิง​ชิง​หลิง​ ​นาง​ก็​ทราบ​ดี​ว่า​เขา​มิใช่​คนที​่​จะ​กลัว​ภรรยา​ ​หากแต่​เป็น​ประเภท​ที่​เอาอกเอาใจ​และ​ตามใจ​ภรรยา​มากกว่า

เมื่อคืนนี้​ ​เสี่ยว​อ้าย​โม่​ก็​เอ่ย​ถาม​มารดา​เช่นกัน​ว่า​หาก​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​และ​เฟิง​ชิง​หลิง​ตกลงปลงใจ​กัน​ ​ทั้งสอง​จะเข้า​พิธีกราบ​ไหว้​ฟ้า​ดิน​ได้​หรือไม่​

คำตอบ​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​คือ​นาง​ไม่​คัดค้าน​หากว่า​ทั้งสอง​จะ​ครองรัก​กัน​ ​ถึงอย่างไร​ ​ตอนนี้​นาง​ก็​เกิด​ใหม่​เป็น​อีก​คน​แล้ว​ ​เสี่ยว​อ้าย​โม่​และ​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​เป็น​บุตร​ของ​นางใน​ชีวิต​นี้​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​ทั้งสอง​จึง​ไม่มี​สายเลือด​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​ตระกูล​เฟิง​ ​หาก​เด็กน้อย​ทั้งสอง​ตกลงปลงใจ​กัน​จริง​ ​มัน​ก็​มิใช่​สิ่ง​ที่​เป็นไปไม่ได้

เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​เข้าใจ​ความหมาย​ใน​สายตา​ของ​เสี่ยว​อ้าย​โม่​เป็น​อย่างดี​ ​ทว่า​เขา​ก็​เพิกเฉย​ต่อนาง​ไป​ ​เขา​เพียง​ชำเลือง​มอง​ไป​ยัง​เฟิง​ชิง​หลิง​ผู้​ซึ่ง​กระตุก​แขน​เสื้อ​ของ​ตน​ด้วย​ใบหน้า​ที่​ประดับ​รอยยิ้ม​เจ้าเล่ห์​และ​ส่าย​ศีรษะ​ด้วย​สีหน้า​ที่​รังเกียจ

ยัย​ทึ่ม​นี่​ ​หาก​ผู้ใด​ตบแต่ง​กับ​นาง​ ​เกรง​ว่านา​งคง​ยึด​เงินทอง​จน​หมด​ไม่มี​เหลือ​เป็นแน่​ ​!​

ณ​ ​บริเวณ​หน้า​เรือน​ของ​เฟิง​ฉง​ ​เมื่อ​เห็น​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​เดิน​ใกล้​เข้ามา​ ​หลัว​เหม่ยย​วี่​ก็​ปล่อยมือ​จาก​หู​ของ​สามี​และ​เดิน​ตรง​ออก​ไป​อย่างรวดเร็ว

“​สวัสดี​เสี่ยว​อวี​้​โม่​ ​ข้า​คือ​ป้า​ของ​เจ้า​…​หลัว​เหม่ยย​วี่​ ​เจ้า​ช่าง​งดงาม​ยิ่งนัก​และ​ดูดี​ยิ่งกว่า​พวก​เด็ก​เหลือขอ​ของ​ข้า​เสียอีก​”

“​…​”

บรรดา​ ​‘​เด็ก​เหลือขอ​’​ ​ที่​หลัว​เหม่ยย​วี่​กล่าวถึง​ทำได้​เพียง​ตกตะลึง​กับ​ภาพ​ที่​เห็น​ มารดา​ของ​พวกเขา​อ่อนโยน​เช่นนี้​ตั้งแต่​เมื่อใด​ ​? ​ทุก​ครา​ที่​พบกัน​ ​นาง​มัก​มอง​พวกเขา​ด้วย​สายตา​รังเกียจ​และ​ทำท่า​ทาง​ราวกับ​ปรารถนา​ที่จะ​อยู่​ห่าง​จาก​พวกเขา​ให้​มาก​ที่สุด​ ​เป็นไปได้​รึ​ไม่ว่า​พวกเขา​ทำ​สิ่งใด​ผิด​ไป​ ​?

“​อวี​้​โม่​คารวะ​ท่าน​ป้า​เจ้าค่ะ​”

ฉิน​อวี​้​โม่​สัมผัส​ได้​ถึง​ความเป็นมิตร​และ​ความอ่อนโยน​ของ​หลัว​เหม่ยย​วี่​ ​นาง​จึง​กล่าวตอบ​ก่อน​ดึง​บุตรน้อย​ทั้งสอง​คุกเข่า​ลง​เพื่อ​โค้ง​คำนับ​ต่อ​หลัว​เหม่ยย​วี่

เด็กน้อย​ทั้งสอง​ก็​เอ่ย​เรียก​ท่าน​ยาย​ด้วย​เสียงหวาน​ ​สีหน้าท่าทาง​ที่​น่ารักน่าชัง​ของ​ทั้งสอง​ทำให้​หัวใจ​ของ​หลัว​เหม่ยย​วี่​แทบ​ละลาย​อยู่กับที่

“​ลุกขึ้น​เถอะ​ ​ไม่ต้อง​มีพิ​ธีรี​ตอง​มาก​ถึง​เพียงนั้น​”

หลัว​เหม่ยย​วี่​ประคอง​ให้​ฉิน​อวี​้​โม่​ลุกขึ้น​มา​และ​มอง​นาง​ตั้งแต่​ศีรษะ​จรด​เท้า​ ​จากนั้น​สายตา​ของ​นาง​ก็​เลื่อน​ไป​ที่​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​และ​เสี่ยว​อ้าย​โม่​อีก​คราก​่อน​ยื่นมือ​ออก​ไป​สวมกอด​ด้วย​ความ​เอ็นดู

“​เสี่ยว​อ้าย​โม่​ก็​งดงาม​นัก​ ​ไม่​ต่าง​จาก​แม่​ของ​เจ้า​เลย​ ​ส่วน​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​เอง​ก็​หล่อเหลา​ไม่​แพ้​กัน​ ​เมื่อ​โต​ขึ้น​ ​เจ้า​จะ​ต้อง​หล่อเหลา​และ​ดูดี​กว่า​บรรดา​ลุง​ ​ๆ​ ​ของ​เจ้า​อย่างแน่นอน​”

หลัว​เหม่ยย​วี่​มอง​เด็กน้อย​ทั้งสอง​ด้วย​แววตา​เอาอกเอาใจ​และ​กล่าว​ชื่นชม​อย่าง​ไม่หยุดหย่อน

“​…​”

วาจา​ของ​นาง​ทำให้​เฟิง​หว่าน​หลี​่​ ​เฟิง​ซ่า​และ​เฟิง​ยาง​นึก​สงสัย​ใน​ชีวิต​ของ​พวก​ตน​ขึ้น​มา​ ​ก่อนหน้านี้​ ​สถานะ​ของ​พวกเขา​ใน​ครอบครัว​ก็​ถือว่า​ต่ำต้อย​มาก​แล้ว​และ​ตอนนี้​พวกเขา​คงจะ​อยู่​ใน​สาม​อันดับ​รั้งท้าย​ พวก​ข้า​คง​มิใช่​ลูก​แท้​ ​ๆ​ ​ของ​ท่าน​แม่​เป็นแน่​ ​ไม่มีทาง​เลย​ ​!

หลังจาก​คิดได้​เช่นนั้น​ ​เฟิง​ยาง​และ​เฟิง​ซ่า​ก็​ก้าว​ออก​ไป​ข้างหน้า​อย่างรวดเร็ว​ ​ทว่า​เฟิง​ยาง​กลับเป็น​ฝ่าย​ที่​กล่าว​แทรก​ขึ้น​ก่อน​ ​“​อวี​้​โม่​ ​ข้า​คือ​พี่​สาม​เฟิง​ยาง​ ​ส่วน​นี่​คือ​ภรรยา​ของ​ข้า​นาม​ว่า​โหว​เยว​่​เยว​่​และ​ลูก​ทั้งสอง​คน​ของ​เรา​”

ใบหน้า​ของ​เขา​ประดับ​ด้วย​รอยยิ้ม​กว้าง​เนื่องจาก​กังวล​ว่า​จะ​สร้างภาพ​ลักษณ์​ที่​ไม่ดี​ต่อ​ฉิน​อวี​้​โม่

โหว​เยว​่​เยว​่​คือ​สตรี​เยาว์วัย​ที่​ดู​อ่อนโยน​อย่างยิ่ง​และ​ดู​มีอายุ​อยู่​ใน​ช่วง​ยี่สิบ​ปี​ ​ตระกูล​โหว​เป็น​เพียง​ขุม​กำลัง​ระดับ​สอง​ที่​ไม่​ทรงพลัง​มาก​นัก​ ​เฟิง​ยาง​และ​โหว​เยว​่​เยว​่​ก็​พบกัน​โดยบังเอิญ​เมื่อ​ครั้ง​ที่​ออก​ไป​ฝึกฝน​ใน​โลก​ภายนอก​และ​ตกหลุมรัก​กันตั​้ง​แต่แรก​เห็น​ ​ตระกูล​เฟิ​งก​็​มีทัศ​นค​ติ​ที่​แตกต่าง​ไป​จาก​ตระกูล​ฉิน​และ​ไม่​ดูแคลน​ตระกูล​โหว​เพียง​เพราะ​พวกเขา​อ่อนแอ​เกินไป​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​ ​ทั้งสอง​จึง​ได้​ครอง​คู่​กัน​ในที่สุด

ทั้งสอง​มีบุ​ตร​ด้วยกัน​สอง​คน​ซึ่ง​เป็น​บุตรชาย​อายุ​สอบ​ขวบ​ครึ่ง​และ​บุตรสาว​อายุ​หนึ่ง​ขวบ​ ​ใน​ตอนนี้​ ​โหว​เยว​่​เยว​่​กำลัง​อุ้ม​บุตรสาว​ที่​กำลัง​หลับใหล​ใน​อ้อมกอด​ ​ในขณะที่​บุตรชาย​เกาะ​ริม​เสื้อ​ของ​นาง​ไว้​แน่น​ขณะ​มอง​ฉิน​อวี​้​โม่​ด้วย​แววตา​สงสัย​ใคร่รู้

“​ท่าน​คือ​ท่าน​อา​หรือ​ ​?​”

เฟิง​เสี่ยว​เสี่ยว​—​เด็กชาย​อายุ​สอง​ขวบ​ครึ่ง​เอ่ยปาก​และ​กะพริบตา​กลม​โต​ด้วย​ท่าทาง​ที่​ดูจะ​ถูกชะตา​กับ​ฉิน​อวี​้​โม่

“​มานี​่​สิ​ ​มา​ให้​อา​กอด​สักหน่อย​”

ฉิน​อวี​้​โม่​ยื่นมือ​ออก​ไป​ดึง​ร่าง​เฟิง​เสี่ยว​เสี่ยว​เข้ามา​กอด​และ​จิ้ม​แก้ม​นุ่ม​ของ​เด็กน้อย​ด้วย​ความ​เอ็นดู

รูปลักษณ์​ของ​ทายาท​ตระกูล​เฟิ​งดู​ไร้​ที่​ติ​อย่างยิ่ง​ ​เด็กน้อย​เหล่านี้​ดู​จ้ำม่ำ​เจ้าเนื้อ​ ​เพียง​เห็น​แวบ​แรก​ก็​ทราบ​ได้​ทันที​ว่า​พวกเขา​มิใช่​คน​ช่าง​เลือก​และ​สามารถ​เลี้ยงดู​ได้​ง่าย

“​ว้าว​ ​น้องสาว​ของ​ข้า​น่ารัก​มาก​เลย​ ​ท่าน​ป้า​สาม​ ​ข้า​ขอ​อุ้ม​น้อง​จะ​ได้​รึ​ไม่​ ​?​”

เสี่ยว​อ้าย​โม่​มอง​เฟิง​เนี่ยน​เนี่ยน​ใน​อ้อมแขน​ของ​โหว​เยว​่​เยว​่​ด้วย​แววตา​เป็นประกาย​ก่อน​เอ่ย​ถาม​โหว​เยว​่​เยว​่​ด้วย​น้ำเสียง​อ่อนหวาน

“​มาสิ​ ​ป้า​จะ​สอน​วิธี​อุ้ม​เด็ก​ให้​กับ​เจ้า​”

โหว​เยว​่​เยว​่​ก็​ไม่​กลัว​ว่า​บุตรสาว​ใน​อ้อมแขน​จะ​สะดุ้งตื่น​ขึ้น​มา​ ​ถึงอย่างไร​ ​บุตรสาว​ของ​นาง​ก็​มัก​หลับ​ลึก​อยู่​เสมอ​ ​ต่อให้​เป็น​ฟ้าร้อง​ก็​ไม่​สามารถ​ปลุก​นาง​ขึ้น​มา​ได้​

“​เฟิง​ยาง​ ​เจ้า​น้อง​อวดดี​ ​เจ้า​จะ​แนะนำตัว​ก่อน​ข้า​ได้​อย่างไร​กัน​ ​?​!​”

เฟิง​ซ่า​ตะโกน​ด้วย​น้ำเสียง​ฉุนเฉียว​และ​มอง​เฟิง​ยาง​ตาเขม​็ง​ ​เขา​เอ่ยปาก​ช้า​ไป​เพียง​เสี้ยว​วินาที​เท่านั้น​ ​ทว่า​กลับ​ถูก​น้องชาย​แซง​หน้า​ไป​เสียก่อน​ ​ถึงอย่างไร​เขา​ก็​เป็น​พี่​รอง​ ​แล้ว​เขา​จะ​ปล่อย​ให้​น้องสาว​คน​ใหม่​ทำความรู้จัก​กับ​พี่​สาม​ก่อน​ตน​ได้​อย่างไร​ ​?

“​เฟิง​ซ่า​ ​เจ้า​ทึ่ม​เอ๋ย​ ​ทำ​อะไร​ของ​เจ้า​กัน​ ​?​ ​น้องสาว​ของ​ข้า​กลัว​หมด​แล้ว​ ​!​”

เห​อปี​้​เยว​่​ก้าว​เข้ามา​หยิก​เอว​ของ​สามี​ทันที​ ​ทว่า​ใบหน้า​ประดับ​ด้วย​รอยยิ้ม​กว้าง

“​น้อง​อวี​้​โม่​ ​อย่า​กลัว​ไป​เลย​ ​พี่​รอง​ของ​เจ้า​ไม่​ค่อย​รู้เรื่อง​รู้​ราว​น่ะ​ ​อย่า​ถือสา​เขา​เลย​ ​ข้า​คือ​พี่สะใภ้​คน​รอง​ของ​เจ้า​ ​นาม​ว่า​เห​อปี​้​เยว​่​ ​หาก​ต้องการ​สิ่งใด​ก็​มาหา​ข้า​ได้​ทุกเมื่อ​ ​หลังจากที่​ผ่าน​ระยะเวลา​มา​เนิ่นนาน​ ​ในที่สุด​พวกเรา​ก็ได้​พบกัน​ ​เพราะฉะนั้น​เรา​ก็​ควรจะ​สนิทสนม​กัน​ไว้​ ​ไม่ต้อง​เกรงใจ​ล่ะ​ ​อีก​อย่าง​…​เจ้า​ชอบ​กิน​อะไร​ ​?​ ​เจ้า​แพ้​อาหาร​อะไร​หรือไม่​ ​?​ ​และ​ปกติ​เวลาว่าง​เจ้า​ชอบ​ทำ​อะไร​ ​?​”

เห​อปี​้​เยว​่​จับมือ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​กล่าว​ด้วย​ความ​กระตือรือร้น​อย่าง​ไม่​ปิดบัง

ไม่ว่า​ใน​ตระกูล​โหว​หรือ​ตระกูล​เหอ​ ​พวก​นาง​ก็​เป็น​บุตรสาว​เพียง​คนเดียว​และ​ไม่เคย​มีน​้​อง​สาว​มาก​่อน​ ​พวก​นาง​ทราบ​ถึง​เรื่องราว​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​อดีต​และ​รู้สึก​สงสาร​บุตรสาว​ของ​เฟิง​หย่า​เป็นอย่างมาก​ ​อีกทั้ง​ยัง​ได้​ปฏิญาณ​ไว้​ใน​ใจ​ว่า​หาก​ได้​พบ​กับ​น้องสาว​ที่​พลัดพราก​ ​พวก​นาง​จะ​ปฏิบัติ​ต่อนาง​เช่น​น้องสาว​แท้​ ​ๆ​ ​ของ​ตน​และ​เอาอกเอาใจ​ให้​ดีที​่​สุด

ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ทักทาย​ทั้งสอง​พร้อม​รอยยิ้ม​และ​มี​ความเข้าใจ​เกี่ยวกับ​พี่ชาย​และ​พี่สะใภ้​เพิ่มมากขึ้น

โหว​เยว​่​เยว​่​เป็น​สตรีที​่​สุขุม​ ​พูดน้อย​และ​อ่อนโยน​มากกว่า​ ​ในขณะที่​เห​อปี​้​เยว​่​เป็น​สตรีที​่​ตรงไปตรงมา​และ​อารมณ์ร้อน​ ​เฟิง​ซ่า​และ​เฟิง​ยาง​เอง​ก็​มี​ลักษณะนิสัย​ที่​แตกต่าง​กัน​เล็กน้อย​ ​แม้​ทั้งสอง​จะ​มีบุ​คลิก​ที่​ตรงไปตรงมา​และ​กระตือรือร้น​เหมือนกัน​ ​ทว่า​เฟิง​ยาง​ก็​ดูจะ​อ่อนไหว​มากกว่า

เป็นจริง​ดัง​สำนวน​ที่ว่า​ไว้​ ​‘​มิใช่​คน​พวก​เดียวกัน​ย่อม​ไม่​ไป​สุมหัว​อยู่​ด้วยกัน​’​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​สมาชิก​ของ​ตระกูล​เฟิง​ล้วน​รู้สึก​ถูกชะตา​และ​ชื่นชอบ​ฉิน​อวี​้​โม่​เป็นอย่างมาก

“​เอาล่ะ​ ​เอาล่ะ​ ​เรา​เข้าไป​พูดคุย​กัน​ข้างใน​เถอะ​ ​อย่า​ไป​เซ้าซี้​น้อง​ของ​พวก​เจ้า​มาก​”

เฟิง​ฉง​ก้าว​ออกมา​ข้างหน้า​และ​กล่าว​ขึ้น​เพื่อให้​ทุกคน​เข้าไป​พูดคุย​กันต​่อ​ภายใน​เรือน

ที่นี่​คือ​อาณาเขต​ที่พัก​ชั้นใน​ ​นอกเหนือจาก​ตระกูล​เฟิ​งก​็​ไม่มี​ผู้ใด​เข้ามา​ที่นี่​ได้​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​ ​พวกเขา​จึง​ไม่​กังวล​ว่า​ตัวตน​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​จะ​ถูก​เปิดเผย​หรือ​มี​ผู้ใด​ค้นพบ​เข้า

ทุกคน​พยัก​ศีรษะ​และ​เดิน​ตรง​เข้าไป​ด้วยกัน

ภายใน​โถง​กว้าง​ ​เฟิง​หย่า​และ​ฉิน​หลิง​เซียว​กำลัง​นั่ง​อยู่​ทาง​ด้าน​ซ้าย​ ​เฟิง​เหลียน​เฉิง​ก็​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​หลัก​ตรงกลาง​ ​ในขณะที่​เฟิง​หว่าน​หลี​่​และ​หลิน​หว่าน​หว่าน​นั่งลง​ใน​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง

เมื่อ​เห็น​ทุกคน​เดิน​เข้ามา​ ​เฟิง​หว่าน​หลี​่​และ​หลิน​หว่าน​หว่าน​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​ทันที

เมื่อครู่นี้​ ​เฟิง​หย่า​และ​ฉิน​หลิง​เซียว​ก็ได้​ยิน​วาจา​ของ​ทุกคน​ข้างนอก​และ​รู้สึก​ประทับใจ​กับ​ปฏิกิริยา​ของ​ทุกคน​มาก

เดิมที​พวก​นาง​กังวล​ว่า​ตระกูล​เฟิง​จะ​ไม่​ยินดี​กับ​การก​ลับ​มา​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​ทว่า​เห็นได้ชัด​แล้ว​ว่า​พวก​นาง​กังวล​ไป​เอง​ทั้งสิ้น

“​อวี​้​โม่​ ​เมื่อคืน​หลับ​สบายดี​หรือไม่​ ​?​”

เฟิง​เหลียน​เฉิง​ผู้​ซึ่ง​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​หลัก​เอ่ย​ถาม​ด้วย​ท่าทาง​ที่​เอ็นดู​หลานสาว​อย่างมาก

“​ท่าน​ตา​ ​ข้า​หลับ​สบายดี​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​ไม่ได้​หลับ​สบาย​เช่นนี้​มานาน​แล้ว​”

ฉิน​อวี​้​โม่​ยิ้ม​ให้​กับ​เฟิง​เหลียน​เฉิง​และ​กล่าว​ตาม​ความจริง​ ​ภายใน​จวน​ตระกูล​เฟิง​ ​นาง​มีความรู้สึก​ผูกพัน​บางอย่าง​และ​รู้สึก​ว่า​เป็น​ส่วนหนึ่ง​กับ​ที่นี่​ซึ่ง​ช่วย​ให้​นาง​ผ่อนคลาย​ได้​โดย​สมบูรณ์​และ​หลับสนิท​อย่างไร​้​กังวล

“​นั่น​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​ ​เอาล่ะ​ ​คน​ของ​นิกาย​หมื่น​กระบี่​และ​นิกาย​พันปี​ศาจ​ก็​คงจะ​มาถึง​ในไม่ช้า​”