บทที่ 1336 เจอเพื่อนเก่า

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1336 เจอเพื่อนเก่า

“นี่คุณ…?”

“เฮ้อ คุณนายครับ ไม่ต้องกังวลไปนะครับ ท่านประธานจะไม่มีทางนั่งเฉยๆไม่สนใจอย่างแน่นอน ตอนนั้นคุณยังไม่ฟื้น หลังจากทันทีที่เขารู้เรื่องนี้เขาก็ถามด็อกเตอร์โดโมโตะถึงวิธีการแก้ไขแล้ว”

ดลธีบอกความจริงของเรื่องนี้ด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็เดินออกไป

สุดท้ายก็มอบเรื่องของคณาธิปให้ดลธีจัดการ

บริษัทกลับอยู่ภายใต้การจัดการของแสนรัก แสงดาวกลับเข้ามาทำงานอีกครั้งในตำแหน่งรองประธาน เธอจะมาดูแลบริษัทระหว่างที่คณาธิปเข้ารับการรักษา

จัดการเรียบร้อย

สิ่งที่แปลกเล็กน้อยก็คือก่อนหน้านี้ที่แสงดาวเสนอให้คณาธิปพักผ่อน เขาปฏิเสธ

แต่ตอนนี้พอถึงคราวที่แสนรักเป็นคนจัดการ เขากลับไม่ได้ต่อต้านใดๆ เขาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีตั้งแต่ที่ดลธีกลับมา

ได้ข่าวเช่นนั้นเส้นหมี่ซึ่งอยู่ไกลถึงญี่ปุ่นก็รู้สึกสบายใจ

ในเวลานี้การรักษาของเธอก็ประสบความสำเร็จอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน สายตาดีขึ้นเรื่อยๆ เลือดกำเดาไหลก็ไหลแล้ว ผิวหนังก็ดีขึ้นเรื่อยๆ

“พี่ชาย ฉันคิดว่าใกล้จะหายดีแล้ว”

วันนี้ในกระจกในห้องพักผู้ป่วย เธอเห็นผิวกลับมาเนียนละเอียดผ่านกระจก ก็ดีใจจนวิ่งออกไปหาชายที่อยู่ด้านนอกอย่างมีความสุข

ชายหนุ่มกำลังทำอาหารเช้าให้เธอ

พอเห็น ริมฝีปากบางก็โค้งแสดงรอยยิ้มที่ผ่อนคลายออกมา

“อืม โอเค มีอะไรหรือเปล่า? อยากออกไปเที่ยวข้างนอกแล้วเหรอ?”

“ได้มั้ย?”

เมื่อเห็นว่าชายคนนี้เดาความคิดของตนได้ในทันที เส้นหมี่ก็ไม่ปิดบัง เธอเอาแขนโอบเอวของฝ่ายชายแล้วซบอกถามอย่างอัดอั้น

แสนรักขำเล็กน้อย

เพราะเธอในแบบนี้ดูเหมือนกับเด็กน้อยจริงๆ เหมือนหนูรินจังลูกสาวของพวกเขา

แต่หลังจากคิดๆดูแล้วตั้งแต่ที่เธอมาที่นี่ เธอไม่เคยได้ออกไปไหนเลย ผ่านมาสองสามเดือนแล้ว คิดๆดูแล้วเธอก็น่าจะเบื่อแล้วจริงๆ

สุดท้ายแสนรักก็ตัดสินใจพาเธอไปเดินเล่น

โชกิ โดโมโตะได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้ห้าม แต่กำชับว่าตอนที่ออกไปต้องระวังอย่าให้เส้นหมี่ได้รับบาดเจ็บโดยเฉพาะแผลทางผิวหนัง

ต้องรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ในช่วงพักฟื้น แบคทีเรียในร่างกายกำลังค่อยๆยาถูกฆ่า จึงไม่สามารถรับเชื้อโรคใหม่ๆเข้าไปได้

มิฉะนั้นผลที่ตามมายากที่จะคาดเดาได้

แสนรักได้ฟัง ในชั่วพริบตาเขาก็อยากที่จะยกเลิก

เขาไม่สามารถรับความเสี่ยงนั้นได้

แต่ตอนที่เขากลับไปห้องพักผู้ป่วย เห็นหญิงสาวที่เปลี่ยนชุดสวมเสื้อสวยรออยู่ตรงนั้น เขาก็ทนไม่ไหวอีก

“เรียบร้อยแล้วรึยัง? ด็อกเตอร์โดโมโตะว่ายังไงบ้าง?”

“ไม่เป็นไร แค่ให้เธอระวัง อย่าทำให้ตัวเองมีแผล”

แสนรักตอบเรียบๆ

จากนั้นเขาก็หยิบกุญแจรถจูงมือหญิงสาวออกไป

ครึ่งชั่วโมงต่อมาในสวนสาธารณะไม่ไกลจากโรงพยาบาล แสนรักจอดรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูพาเส้นหมี่ลงมา

เส้นหมี่ “…”

อยากจะหัวเราะ

ผู้ชายคนนี้ตกลงกันไว้ว่าจะไปห้างไม่ใช่เหรอ? มาทำอะไรในสวนสาธารณะที่ดูไม่มีอะไรแห่งนี้ ที่นี่จะต่างอะไรกับสวนหย่อมเล็กๆชั้นล่างของโรงพยาบาล?

เธอไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

แต่คนที่ฉลาดเป็นกรดอย่างเธอก็เข้าใจถึงความตั้งใจของชายคนนี้ได้ ในตอนนั้นเองเธอจึงปล่อยให้เขานำทางไปโดยไม่พูดอะไร จากนั้นสองสามีภรรยาก็เดินไปตามทางที่มีต้นไม้เรียงรายไปสักพัก

“พี่คะ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เราเดินจูงมือกันเลยนะคะ”

“อืม”

ชายหนุ่มก็สังเกตเช่นกัน

ดังนั้นฝีเท้าของเขาจึงช้ามาก

ตลอดชีวิตของเขา ทุกวันเขาวุ่นกับการดูแลหิรัญชากรุ๊ปจนไม่มีเวลาพัก พอไปถึงตระกูลเทวเทพก็ต้องทำงานหนักทุกวันเพื่อชะตากรรมของตระกูล

อันที่จริงนี่เป็นครั้งแรกที่เขามีจังหวะชีวิตและวิธีการแบบนี้ เขารู้สึกว่าในตอนนี้ใจของเขาอ่อนนุ่มเป็นพิเศษ ซึ่งเขาก็ชอบมันมาก

ดูเหมือนว่าในที่สุดก็มาถึงเวลาที่เขาตะได้ใช้ชีวิตตามที่ฝัน

แต่ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดิน…

“อรรตพล?”

เขามองดูชายชราที่กำลังเข็นรถเข็นด้วยความประหลาดใจ ฝีเท้าหยุดลง

เส้นหมี่ก็อึ้งเช่นกัน

ใช่ คนคนนี้คืออรรตพล เขาแก่ขึ้นมาก ผมเป็นสีขาวทั้งหมด ใบหน้าซูบผอมมาก แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกตะลึง

สิ่งที่ทำให้พวกเขายากที่จะเชื่อก็คือผู้หญิงที่ดูซีดเซียวที่นั่งอยู่ในรถเข็นที่เขากำลังเข็น ตอนนี้เธอแหงนหน้าเหม่อมองท้องฟ้าอย่างไร้ความรู้สึกและจิตวิญญาณ ปากกำลังพึมพำอยู่กับตัวเอง

เส้นหมี่ “…”

นี่…แครอทไม่ใช่เหรอ?

“รัก? ทำไม…คุณมาอยู่ที่นี่ได้?” อรรตพลก็จำพวกเขาได้เช่นกัน ชั่วขณะที่หลังจากที่เขาหยุด ใบหน้าชราที่ซูบผอมมีสีหน้าตกตะลึง

แสนรักพยักหน้า

“อืม พวกเรามาทำธุระที่นี่ เธอเป็นอะไรรึเปล่า?”

เขาเหลือบมองผู้หญิงบนรถเข็น

ส่วนมือที่กุมมือเส้นหมี่อยู่ข้างๆกำแน่นขึ้นเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว และพาเธอไปหลบข้างหลังเขา

นี่กลายเป็นการตอบสนองอย่างแรกของเขา ราวกับว่าคนตรงหน้าเขา ตราบใดที่มีคนปรากฏตัวต่อหน้าเขา ราวกับว่าไม่ว่าพวกเขาจะเคลื่อนไหวอย่างไรก็จะเข้ามาทำร้ายผู้หญิงข้างๆเขา

อรรตพลเห็น ก็เหลือบมองลูกสาวในรถเข็นแล้วฝืนยิ้ม

“ไม่มีอะไรหรอก หลังจากที่ปีนั้นเธอได้ข่าวเรื่องอุบัติเหตุ สุดท้ายเธอก็กลายเป็นอีกคนหนึ่ง ดังนั้นเธอหมกมุ่นกับวิจัยหายาเพื่อช่วยคุณ สุดท้ายห้องทดลองระเบิดรอดชีวิตมาได้ก็กลายเป็นแบบนี้หลายปีแล้ว”

“…”

จู่ๆบนเส้นทางที่มีต้นไม้เรียงรายอากาศก็เงียบสงบลง