ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 100 หวังผ้อมาแล้ว

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​ขุนพล​มาร​สอง​ท่าน​บน​ทุ่งหญ้า​ ​ยัง​มี​วุฒิสมาชิก​เผ่า​มาร​และ​เจ้าชาย​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ ​ล้วน​ดู​เคร่งขรึม​ผิดปกติ

​เจตจำนง​กระบี่​ที่​หลงเหลือ​ ​ยังคง​ลอย​อยู่​เหนือ​ยอดเขานั​่​วรื​่อ​หลั่ง

​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​ยื่นมือ​ออก​ไป​จับ​กลางอากาศ​ ​แล้ว​เอา​มา​อัง​ที่​จมูก​ ​ดอม​ดม​อย่างระมัดระวัง

​ประมุข​พรรค​หลี​ซาน​บรรลุ​ระดับ​ขั้น​ตั้งแต่​เมื่อ​สิบ​กว่า​ปีก่อน​แล้ว​ ​แต่​ไม่ได้​รับ​ความสนใจ​มาก​นัก​ ​ใน​สายตา​ของ​คน​จำนวนมาก​ ​นักพรต​ชรา​ผู้​ไม่เคย​จาก​พรรค​ไป​ไหน​ท่าน​นี้​ ​เพียง​อาศัย​สุดยอด​วิชา​ของ​พรรค​กระบี่​หลี​ซาน​และ​การ​บากบั่น​บำเพ็ญ​เพียร​เป็นเวลา​หลาย​ร้อย​ปี​ ​จึง​จะ​สามารถ​บรรลุ​ถึงขั้น​อาณาเขต​เทพศักดิ์​สิทธิ์​ ​ซึ่ง​จริงๆ​ ​แล้ว​ไม่​นับเป็น​อะไร​ได้

​ใคร​จะ​คิด​เล่า​ว่า​ ​วิถี​กระบี่​จาก​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​เขา​จะ​น่า​ตื่นตกใจ​เช่นนี้​ ​ชนิด​เดิน​มาถึง​หน้า​ขั้น​ที่สอง​รอง​จาก​ขั้น​หลุดพ้น​แล้ว

​เหมา​ชิว​อวี​่​จ้องมอง​ประมุข​พรรค​หลี​ซาน​พลาง​ว่า​ ​“​วันนี้​ต้อง​ลำบาก​ท่าน​แล้ว​”

​ประมุข​พรรค​หลี​ซาน​เหลือบมอง​ยอดเขานั​่​วรื​่อ​หลั่ง​ ​ก่อน​โบกมือ​ ​“​ข้า​สู้​มาร​ร้าย​ตน​นี้​ไม่ได้​หรอก​”

​ไม่​รอ​ให้​เหมา​ชิว​อวี​่​พูด​ ​เขา​ก็​ชี้​ไป​ยัง​ขุนพล​มาร​สอง​ตน​ที่​ยืน​อยู่​บน​ทุ่งหญ้า​ ​“​เจ้า​สอง​ตน​นี้​สู้​ข้า​ไม่ได้​ ​ข้า​จัดการ​เอง​”

​เหมา​ชิว​อวี​่​กับ​ไหว​เห​ริน​อึ้ง​เล็กน้อย​ ​พลาง​คิดในใจ​ ​วาจา​นี้​ตรงไปตรงมา​จริงๆ​ ​เช่นนั้น​ใคร​จะ​เป็น​คนรับ​มือ​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​นั่น​เล่า

​แค่​คิด​ก็​ไม่ทัน​แล้ว​ ​ท่ามกลาง​ความมืด​ ​ใน​อุโมงค์​ปรากฏ​หมอก​หนา​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​ร่าง​ที่สูง​ใหญ่​หลาย​ร่าง​ก็​ชัดเจน​ขึ้น​เรื่อยๆ​

​วุฒิสมาชิก​เผ่า​มาร​กับ​เจ้าชาย​เมือง​เสวี​่ย​เหล่ามา​ถึง​สนามรบ​แล้ว​ ​ถ้า​ไม่​ขวางทาง​พวกเขา​ไว้​ ​กระโจม​บัญชาการ​กลาง​จะ​ถูก​จู่โจม​โดยตรง

​สายลม​พัดมา​เบา​ๆ​ ​ไหว​เห​ริน​หัน​มอง​เจ้าชาย​ผู้​สวม​ชุด​แพร​ยาว​พลิ้ว​ลม​ ​แต่​เหมา​ชิว​อวี​่​กลับ​โบก​แขน​เสื้อ​ทั้งสอง​ข้าง​ ​กั้น​ขวาง​วุฒิสมาชิก​ผู้​นั้น​ไว้

​ประมุข​พรรค​หลี​ซาน​มือขวา​ถือ​กระบี่​ ​มือซ้าย​จับ​ฝัก​กระบี่​ ​เหยียบ​แสงรุ้ง​กิน​น้ำ​ ​พุ่ง​เข้าหา​ขุนพล​มาร​ทั้งสอง​

​ผู้​แข็งแกร่ง​ใน​อาณาเขต​ศักดิ์สิทธิ์​ทยอย​กัน​ปรากฏตัว​ ​พลัง​ปราณ​อัน​แข็งแกร่ง​ปะทะ​กัน​ไม่​หยุด​ ​ม้วนตัว​เป็นลม​แรง​กับ​ฝุ่น​ทราย​นับไม่ถ้วน

​แสง​กระบี่​สาย​หนึ่ง​ฉีก​ทุกอย่าง​ระหว่าง​ฟ้า​ดิน​ ​ต่อ​ด้วย​แสง​จาก​ท้องฟ้า​สาย​หนึ่ง​ ​ส่องสว่าง​ทุ่งหญ้า

​ลมหายใจ​มาร​เข้มข้น​ดุจ​ความมืด​ ​พลัน​พุ่ง​ออกจาก​หุบเขา​ลึก​ ​ดุจ​มังกร​ยักษ์​ใน​หุบเหว​ตัวจริง​ ​กลืน​กิน​แสง​กระบี่​สาย​นั้น

​พลิก​ฟ้า​คว่ำ​แผ่นดิน​ ​ฟ้า​สลัว​แผ่นดิน​มืด

​เกิด​ภาพ​แปลก​ๆ​ ​ที่​ยาก​จินตนาการ​นับไม่ถ้วน​สลับ​กัน​ระหว่าง​ท้องฟ้า​และ​แผ่นดิน​ ​ยอดเขา​บางแห่ง​ที่อยู่​ติดกับนั​่​วรื​่อ​หลั่ง​ถูก​บดขยี้​ ​โลหิต​สีทอง​หยาด​หยด​ลง​จาก​ฟากฟ้า​ ​หลอมละลาย​ใน​สายลม​ ​เปล่ง​ความร้อน​และ​แสง​ศักดิ์สิทธิ์​ออกมา​อย่าง​ไม่​สิ้นสุด​ ​ทว่า​โลหิต​ของ​ผู้​แข็งแกร่ง​เผ่า​มาร​กลับ​เหมือน​หมึก​ดำ​ก็​มิ​ปาน​ ​ย้อม​ท้องฟ้า​ให้​ดำ​สนิท​มากยิ่งขึ้น

​ใน​ช่วง​ระยะเวลา​อัน​สั้น​นี้​ ​ราวกับ​ผ่าน​คืน​วัน​นับไม่ถ้วน

​กองทัพ​เผ่า​มนุษย์​บน​ทุ่งหญ้า​อาศัย​ค่าย​กล​เป็น​ที่​กำบัง​ ​ขณะ​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​อาณาเขต​ศักดิ์สิทธิ์​ปะทะ​กัน​ ​จะ​เกิด​พลัง​ผันผวน​ ​ยาก​ต่อ​การ​เข้า​หนุน​ ​ซึ่ง​บางครั้ง​ยอด​ฝีมือ​ฝ่าย​ทหาร​กับ​พล​ธนู​ ​คิด​ช่วยเหลือ​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​อาณาเขต​ศักดิ์สิทธิ์​เผ่า​มนุษย์​ ​แต่กลับ​จนปัญญา​ที่จะ​สลัด​หลุด​การบุก​เข้ามา​ของ​พล​หมาป่า​ ​จึง​ไม่​สามารถ​ปลีกตัว​ออกมา

​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​กลับ​ยืน​ดู​อยู่​ด้านนอก​ตลอด​ ​สายตา​ที่​เย็นชา​และ​โหดเหี้ยม​ทะลุ​ออกจาก​หมวก​เกราะ​ ​มอง​ไป​ยัง​สถานที่​ที่อยู่​ทางใต้​แห่งหนึ​่ง​ ​ไม่รู้​ว่า​กำลัง​รอ​ใคร​อยู่

​ห่าง​ออกมา​หนึ่งร้อย​กว่า​ลี้​ทางตะวันตก​ ​เป็นที่ตั้ง​ค่าย​ใหญ่​ฝ่ายขวา​สุด​อันตราย​ของกอง​ทัพ​เส้น​ตะวันตก

​ไม่มีใคร​คิด​ว่า​ ​ใน​ฐานะ​บุคคล​สำคัญ​ของกอง​ทัพ​เส้น​ตะวันตก​ ​เซียง​อ๋อง​จะ​ไม่อยู่​ด้านหลัง​ ​และ​ไม่สน​ใจ​คน​ของ​จวน​แม่ทัพ​ชง​โจว​ ​แต่กลับ​อยู่​ที่นี่​มาต​ลอด

​ลำแสง​ด้านหน้า​ยอดเขานั​่​วรื​่อ​หลั่ง​เหล่านั้น​ ​เห็นชัด​เจน​จาก​บน​ท้องฟ้า​ ​แม้​อยู่​ไกล​ออก​ไปร​้อ​ยก​ว่า​ลี้​ ​ก็​เหมือน​อยู่​ใกล้​แค่​ตรงหน้า

​สอง​มือ​ของ​เซียง​อ๋อง​ประคอง​ไขมัน​ส่วนเกิน​ที่​ย้อย​ลงมา​จาก​ขอบ​บน​ของ​สาย​รัด​เอว​ ​พลาง​หรี่​ตาม​อง​แสง​กระบี่​เหล่านั้น​กับ​ปราณ​มาร​ ​ไม่รู้​ว่า​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่

​ถ้า​การต่อสู้​เริ่มต้น​ขึ้น​ ​เขา​จะ​ออกเดินทาง​ทันที​ ​น่าจะ​ทัน​ใน​การ​เข้าร่วม​สมรภูมิ​การต่อสู้​อัน​โกลาหล​ของ​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​อาณาเขต​ศักดิ์สิทธิ์​ที่​ยาก​พบเห็น​นี้

​แต่​เขา​ยัง​ไม่​ทำ​อะไร​ ​เพราะ​คิด​ว่ายัง​ห่างไกล​จาก​ช่วงเวลา​วิกฤต​สุด​ๆ​ ​ด้วย​คนสำคัญ​ที่สุด​ยัง​มากัน​ไม่​ครบ

​ใช่​แล้ว​ ​เขา​ก็​เป็น​เฉกเช่น​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​ ​กำลัง​รอคอย​การ​มาถึง​ของ​คน​คน​หนึ่ง

​……

​……

​“​มา​แล้ว​!​ ​มา​แล้ว​!​”

​เสียงร้อง​ตะโกน​อย่าง​ตื่นเต้น​ดีใจ​ดัง​ขึ้น​ที่​ด้านหลัง​กระโจม​บัญชาการ​กลาง

​เหมือน​เสียง​ประกายไฟ​ที่​ตกลง​ไป​ใน​น้ำมัน​เดือด​ ​แพร่กระจาย​ไป​ทั่วทั้ง​ค่ายทหาร​ ​จนถึง​สนามรบ​ทั้งหมด​อย่างรวดเร็ว

​ไม่ว่า​จะ​เป็น​แม่ทัพ​นายกอง​ของ​เผ่า​มนุษย์​ ​หรือ​พล​หมาป่า​ที่​ล้อม​อยู่​ด้านนอก​และ​พยายาม​จู่โจม​เข้ามา​ ​ล้วน​ได้ยิน​เสียง​จาก​ระยะไกล​นั่น

​มา​แล้ว

​คน​ผู้​นั้น​ในที่สุด​ก็​มา​แล้ว

​ลม​พัด​แรง​ ​เสียงดัง​หวีดหวิว

​กรวดทราย​กระทบ​ใบ​หญ้า​ ​เสียงดัง​พึ่บพั​่บ

​คน​ผู้​หนึ่ง​ปรากฏตัว​ขึ้น​ตรงหน้า​กลุ่มคน​ ​สวม​เสื้อผ้า​ที่​ซัก​จน​ขาวซีด​ ​คิ้ว​และ​ดวงตา​ซอมซ่อ​ ​ดู​ไปดู​มา​เหมือน​บัณฑิต​ที่​ค้าง​ค่าเช่า​ห้อง​เป็น​เงิน​จำนวนมาก

​หวังผ​้​อมา​แล้ว

​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​ ​เมื่อ​ครู่​เขา​อยู่​ที่ไหน

​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​ ​เขา​มาจาก​ที่ไหน

​มิใช่​กระโจม​บัญชาการ​กลาง​ ​เขา​ไม่​ชิน​กับ​การ​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​ผู้บัญชาการ​ทหาร​สูงสุด

​และ​มิได้​อยู่​ใน​กอง​ของ​เบ็ดเตล็ด​เหล่านั้น​ ​เขา​ไม่มี​อารมณ์​มา​ล้อเล่น

​เขา​มาจาก​ทางใต้

​ทางใต้​คือ​โลก​ของ​เผ่า​มนุษย์

​ไหล่​ของ​เขา​ยังคง​ลู่​ลง​เหมือนเช่น​ทุกวัน​ ​ทำให้​จับ​ด้าม​ดาบ​ได้​สะดวก​ยิ่ง

​ทุ่งหญ้า​ใน​ตอนนี้​ชุลมุน​ไป​หมด​ ​โศกนาฏกรรม​ของ​ชีวิต​และ​ความตาย​จาก​การต่อสู้​พบเห็น​ได้​ทั่วไป​ ​เสียง​ตะโกน​ฆ่า​กับ​เสียงร้อง​ไห้​อย่าง​เจ็บปวด​ดัง​มา​เป็นระยะ​ ​ลม​พัด​แรง​ ​เม็ดทราย​ปลิว​ว่อน​บดบัง​สายตา​ผู้คน

​ใน​ภาพ​ที่​ใหญ่โต​และ​ซับซ้อน​เช่นนี้​ ​หวังผ​้อ​เป็น​เพียง​จุด​เล็ก​ๆ​ ​ที่​ไม่​เด่น​มาก​ ​น่าจะ​ไม่มีใคร​สังเกตเห็น

​แต่​ขณะที่​เขา​รุด​มาจาก​ทางใต้​นั้น​ ​ทุกคน​รวมทั้ง​พลทหาร​และ​ผู้​แข็งแกร่ง​เผ่า​มาร​ ​ล้วน​เห็น​เขา

​ต่อให้​เสื้อผ้า​ของ​เขา​ซอมซ่อ​แค่ไหน​ ​บุคลิก​ธรรมดา​แค่ไหน​ ​อยู่​ใน​โลก​ที่​พร่างพราว​แค่ไหน​ ​ก็​ยังคง​มีความรู้สึก​ของ​ผู้​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ดำรงอยู่

​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​หลับตา​ลง

​อุณหภูมิ​บน​ยอดเขา​ลด​ฮวบ​อย่าง​ฉับพลัน​ ​บน​ก้อนหิน​สีดำ​มี​ชั้น​บาง​ๆ​ ​ของ​หิมะ​สีขาว​ปกคลุม​อยู่​ชั้นหนึ่ง

​การ​เผชิญหน้า​กับ​คู่ต่อสู้​อย่าง​หวังผ​้อ​ ​แม้แต่​เขา​ก็​ต้อง​ใช้​พลัง​ทั้งหมด​อย่างระมัดระวัง

​หวังผ​้​อดู​เหมือน​ไม่​ค่อย​เร็ว​ ​คล้าย​เดิน​มาตาม​ปกติ​ ​แต่กลับ​มาถึง​สนามรบ​โดย​ผ่าน​ค่ายทหาร​เผ่า​มนุษย์​อย่างรวดเร็ว

​สถานการณ์​ใน​สนามรบ​ซับซ้อน​มาก​ ​สามารถ​เกิดเหตุ​ที่​คาดคิด​ไม่​ถึง​ ​นำไปสู่​อันตราย​และ​ความเปลี่ยนแปลง​มากมาย​ได้​ทุกเมื่อ

​แต่​หวังผ​้​อมิ​ได้​เร่งฝีเท้า​ ​และ​มิได้​เปลี่ยน​ทิศทาง​ที่​มุ่งหน้า​ไป​ ​ยังคง​เดิน​เงียบๆ​ ​ไป​แบบ​นั้น

​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​กำลัง​รวบรวม​พลัง​ขณะ​หลับตา​ ​เตรียมพร้อม​สำหรับ​การ​เผชิญหน้า​ใน​อีก​ไม่​กี่​อึดใจ​ ​ซึ่ง​ต้อง​เป็นการ​จู่โจม​ที่​สะท้าน​ฟ้า​สะเทือน​ดิน​แน่

​ซึ่ง​หวังผ​้​อมิ​ใช่​คนแปลกหน้า​ใน​เรื่อง​นี้

​ครั้งนั้น​ที่​วัด​ถัน​เจ้อ​ ​ชานเมือง​หลวง​ ​เขา​นั่งสมาธิ​อยู่​ใต้​ต้น​แปะก๊วย​สิบ​กว่า​วัน​ ​ดาบ​ไม่เคย​ชัก​ออกจาก​ฝัก​ ​ด้วย​กำลัง​รู้แจ้ง​ใน​วิถี​แห่ง​ดาบ​ ​และ​รวบรวม​พลัง​ดาบ​ไป​ใน​ตัว

​เช่นนี้​ ​เขา​จึง​จะ​สามารถ​ตัด​ต้นไม้​เหล็ก​ข้าง​ริมน้ำ​ได้​ใน​ดาบ​เดียว

​ตอนนี้​ ​เขา​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ยอดเขา​นั่น​ ​และ​ขั้นตอน​นี้​ ​ก็​คือ​การ​รวบรวม​พลัง

​……

​……

​การ​จัดอันดับ​ขุนพล​มารค​ล้า​ยกับ​ขุนพล​เทพ​ต้า​โจว​ ​พิจารณา​จาก​คุณสมบัติ​และ​ชื่อเสียง​ ​แต่​ที่​สำคัญ​กว่า​คือ​ความสามารถ​อัน​ไร้ขีดจำกัด

​ซิน​ตี๋จ​ยา​คือ​ขุนพล​มาร​อันดับ​สาม​ของ​เผ่า​มาร​ใน​ตอนนี้​ ​มี​ความสามารถ​อยู่​ใน​ขั้น​แข็งแกร่ง​มาก​ ​ตอนนี้​ไม่มี​ผู้ใด​ใน​ขุนพล​เทพ​ต้า​โจว​เป็น​คู่ต่อสู้​ของ​เขา​ ​บวก​กับ​การ​ได้รับ​ความไว้วางใจ​เป็น​อย่างดี​จาก​ราชา​มาร​หนุ่ม​ ​จึง​ได้รับ​มอบอาวุธ​มาร​อัน​ทรงพลัง​จำนวน​หนึ่ง​ ​ถ้า​พูดถึง​ความสามารถ​ใน​การ​รบ​ ​นับได้ว่า​เป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​อาณาเขต​ศักดิ์สิทธิ์​อย่างแท้จริง

​เมื่อ​ครู่​เขา​ถูก​แสง​กระบี่​นั่น​ตัด​มุม​เขา​ไป​เล็กน้อย​ ​ได้รับบาดเจ็บ​โลหิต​ไหล​ ​ทรุดโทรม​สุด​จะ​เปรียบ​ ​นอกจาก​กระบี่​ของ​ประมุข​พรรค​หลี​ซาน​ลึกลับ​จริงๆ​ ​แล้ว​ ​การประเมิน​ศัตรู​ต่ำ​เกินไป​ของ​เขา​ก็​มีส่วน

​เขา​ไม่​คาดคิด​ว่า​กระบี่​ใน​มือ​ของ​นักพรต​ชรา​ผู้​นี้​จะ​เฉียบคม​และ​น่ากลัว​เช่นนี้

​การ​บาดเจ็บ​ครั้งนี้​ทำให้​เขา​ตื่นตัว​และ​ระวัง​มากยิ่งขึ้น​ ​กับ​ขุนพล​มาร​ที่​แปด​ ​ยัง​มีท​หาร​ที่​แข็งแกร่ง​อีก​จำนวน​หนึ่ง​ร่วมมือ​กันต​่​อสู​้​กับ​ประมุข​พรรค​หลี​ซาน​ ​ทำให้​เขา​มีท​่า​ที​สงบ​ลง

​เขา​เห็น​หวังผ​้​อกำ​ลัง​เดินผ่าน​สนามรบ​ ​แต่กลับ​ไม่​สามารถ​สลัด​หลุด​จาก​เจตจำนง​กระบี่​ของ​ประมุข​พรรค​หลี​ซาน​ที่​ปกคลุม​อยู่​ไป​ได้​ ​จึง​ส่งเสียง​หอน​ออกมา​ ​สั่ง​ให้​พล​หมาป่า​จู่โจม​ใส่​หวังผ​้อ​ ​ขณะเดียวกัน​ก็​ส่งสายตา​ให้​ขุนพล​มาร​ที่​แปด​เตรียม​ร่วมมือ​กับ​ตน​ ​นำพา​กองทหาร​ทั้งหมด​ไป​ยัง​ศูนย์กลาง​สนามรบ​

​ต่อให้​พล​หมาป่า​เหล่านี้​น่ากลัว​เพียงใด​ ​ก็​ไม่มีทาง​ทำร้าย​หวังผ​้อ​ได้​ ​ขุนพล​มาร​ที่สาม​เข้าใจ​ใน​จุด​นี้​ดี​ ​เขา​เพียง​หวัง​ว่า​จะ​สามารถ​ขัดจังหวะ​การ​รวบรวม​พลัง​ของ​หวังผ​้อ​ได้

​ใน​การต่อสู้​ระดับ​หวังผ​้​อกับ​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​ ​แม้​ผลกระทบ​เล็ก​ๆ​ ​ก็​อาจ​เปลี่ยน​ทิศทาง​การ​แพ้ชนะ​ได้​โดยตรง

​ประมุข​พรรค​หลี​ซาน​เดา​จุดประสงค์​ของ​ขุนพล​มาร​ผู้​นี้​ออก​ ​ขนคิ้ว​ยาว​ปลิว​เล็กน้อย​ ​ขณะ​ดีดนิ้ว​เบา​ๆ

​ตอนนี้​กระบี่​บัง​ฟ้า​ได้​ตัด​อาวุธ​มาร​ชิ้น​ที่สาม​จน​แหลก​ละเอียด​ ​ทำให้​ตลอดทั้ง​ร่าง​ของ​ขุนพล​มาร​ที่​แปด​ผู้​นั้น​เต็มไปด้วย​โลหิต​ ​พอได้​พบ​กับ​ลม​จาก​ปลายนิ้ว​สาย​นั้น​ ​ก็​ส่งเสียง​คม​ใส​ของ​กระบี่​ออกมา​ทันที

​เสียง​กระบี่​ใส​เย็น​ยิ่ง​ ​สะท้อน​ไป​ทั่วทั้ง​ทุ่งหญ้า

​ทหาร​ที่​แลดู​ธรรมดา​จำนวน​หนึ่ง​เดิน​ออกจาก​สนามรบ​ที่​วุ่นวาย​ ​มาที​่​ข้าง​กาย​หวังผ​้อ

​เหล่า​พล​หมาป่า​เริ่ม​พุ่ง​เข้ามา

​แววตา​หมาป่า​ยักษ์​กระหาย​โลหิต​ล้วน​มี​แต่​ความบ้า​คลั่ง​ ​ส่วน​พลทหาร​ม้า​เผ่า​มาร​ก็​ส่งเสียง​ร้อง​แสบ​แก้วหู​ออกมา

​เจตจำนง​กระบี่​ที่​น่ากลัว​จำนวน​หนึ่ง​พุ่ง​ขึ้น​สู่​ท้องฟ้า​ ​เตรียม​ฟาดฟัน

​ทหาร​ธรรมดา​ไม่​กี่​คน​เหล่านั้น​ ​ล้วน​เป็น​ผู้อาวุโส​หอก​ระ​บี่​เขา​หลี​ซาน​!​

​กระบี่​เย็น​เคลื่อนไหว​วูบวาบ​ ​พล​หมาป่า​ทยอย​กัน​ล้ม​ลง​ ​โลหิต​สาด​กระเซ็น​ไป​ทั่ว

​ผู้อาวุโส​หอก​ระ​บี่​เขา​หลี​ซาน​หลาย​ท่าน​ก้าว​เข้ามา​ยืน​ข้าง​กาย​หวังผ​้​อรา​วกับ​ผู้คุ้มกัน​ก็​มิ​ปาน

​ไม่ว่า​พล​หมาป่า​พุ่ง​เข้ามา​จาก​ทาง​ไหน​ ​ก็​ล้วน​ถูก​พวกเขา​ฟัน​แทง​จนตาย

​พวกเขา​ต้อง​แน่ใจ​ให้​ได้​ว่า​ ​หวังผ​้อ​จะ​ไม่​ถูก​รบกวน​แต่อย่างใด​ ​แม้​การ​นี้​จะ​กระทบ​ต่อ​การ​ออก​กระบี่​ของ​พวกเขา​ ​กระทั่ง​ทำให้​พวกเขา​บาดเจ็บ​ก็ตาม

​ก่อน​การเปิดฉาก​ต่อสู้​กับ​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​ ​หวังผ​้อ​ไม่สมควร​ที่จะ​ทำ​อะไร

​ใน​สายตา​คน​มากมาย​ ​นี่​ก็​คือ​วิธี​คิด​และ​กระทำการ​แบบ​ภาพรวม

​ทว่า​แต่ไหนแต่ไรมา​ ​หวังผ​้​อมิ​ใช่​ผู้​ที่ยอมรับ​น้ำใจ​ของ​ผู้อื่น​โดย​ดุษณี

​เพราะ​ถ้า​เป็น​เช่นนั้น​ ​ดาบ​ของ​เขา​จะ​แข็งแกร่ง​เช่น​ทุกวันนี้​ได้​อย่างไร​กัน

​ด้าน​ทิศตะวันตก​ของ​ทุ่งหญ้า​ ​แม่ชี​เต๋า​ไหว​เห​ริน​กำลัง​ต่อสู้​กับ​วุฒิสมาชิก​เผ่า​มาร​ผู้​นั้น​อยู่

​พลัง​นิ้ว​อัน​สวย​ใส​และ​เฉียบคม​ ​คล้าย​ลูกธนู​ขนนก​ก็​มิ​ปาน​ ​แหวก​อากาศ​เข้ามา​ ​จู่โจม​โซ่​พลัง​ปราณ​หลาย​สิบ​สาย​จน​แหลก​ลาน​ ​ฝาก​รู​โลหิต​ลึก​ไว้​บน​ร่าง​ของ​วุฒิสมาชิก​เผ่า​มาร​ผู้​นั้น

​ดรรชนี​เทพ​ใน​ใต้​หล้า​ ​ไม่ธรรมดา​จริงๆ​ ​โดยเฉพาะ​ยาม​ที่​ถูก​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​อาณาเขต​ศักดิ์สิทธิ์​สำแดง​ออกมา

​วุฒิสมาชิก​เผ่า​มาร​ผู้​นั้น​ส่งเสียง​ร้อง​ออกมา​คำ​หนึ่ง​ ​ก่อน​เอื้อมมือ​ไป​คว้า​คทา​ของ​หัวหน้า​เผ่า​สอง​คน​มารั​กษา​อาการ​บาดเจ็บ​ ​ด้วย​การ​ดูด​วิญญาณ​เทพ​ที่​ติด​อยู่​ด้านบน

​ไม่​เพียงเท่านี้​ ​ยัง​เห็น​กับ​ตาว​่า​ ​ร่าง​มาร​ของ​เขา​สูงใหญ่​ขึ้น​อย่างรวดเร็ว​ ​ราว​สิบ​กว่า​จั้ง​ ​บดบัง​ความมืด​ทั่ว​ฟ้า​ ​ราวกับ​เทพ​มาร

​และ​ใน​ตอนนี้​เอง​ ​พลัน​ได้ยิน​เสียงดัง​กังวาน​ใส​จาก​ระยะไกล

​นั่น​เป็น​เสียง​เสียดสี​ของ​เหล็ก​ ​ดาบ​ถูก​ชัก​ออกจาก​ฝัก

​วุฒิสมาชิก​เผ่า​มาร​พลัน​เปลี่ยนท่าที​ ​เมื่อ​แน่ใจ​ว่า​หลบ​ไม่ทัน​ ​ก็​ส่งเสียง​ร้อง​แปลก​ๆ​ ​อย่าง​สิ้นหวัง​ออกมา​คำ​หนึ่ง​ ​ดุจ​ภูเขา​ล้ม​ทับ​แม่ชี​เต๋า​ไหว​เห​ริน

​ความมืด​ถูก​เจตจำนง​ของ​ดาบ​ที่​คล้าย​มาจาก​นอก​ท้องฟ้า​เล่ม​นั้น​ตัดขาด​ออกจาก​กัน

​เสียงกรอบแกรบดัง​มา​ ​หัวไหล่​ของ​วุฒิสมาชิก​เผ่า​มาร​ปรากฏ​บาดแผล​หลาย​แห่ง

​แสง​จาก​ฟากฟ้า​สาด​ลง​บน​ขนของ​มัน​ ​ขาว​ราว​ใย​ฝ้าย​ ​ก่อน​รวมตัวกัน​ ​ระดม​จู่โจม​ใส่​ทรวงอก​ของ​วุฒิสมาชิก​เผ่า​มาร

​ร่าง​ของ​วุฒิสมาชิก​เผ่า​มาร​พลัน​แตกสลาย​ ​กลายเป็น​ผง​สีดำ​ลอย​เต็ม​ท้องฟ้า​ ​แล้ว​โปรยปราย​ลง​บน​พงหญ้า​รัศมี​หลาย​ลี้​ ​ทำให้​ต้น​หญ้า​เหี่ยวเฉา​ลง​เมื่อ​สัมผัส​!​

​แม่ชี​เต๋า​ไหว​เห​ริน​สีหน้า​ซีด​ขาว​ ​ริมฝีปาก​มี​โลหิต​ซึม​ออก

​นาง​หัน​มอง​ไป​กลาง​สนามรบ

​หวังผ​้​อมุ​่ง​หน้า​สู่​ยอดเขา​ ​เหมือน​ไม่ได้​ทำ​อะไร​เลย

​สายตา​มากมาย​พุ่ง​ไป​ยัง​เขา

​มือ​ข้าง​หนึ่ง​ของ​เขา​จับ​ฝัก​ดาบ​แล้ว

​นิ้วหัวแม่มือ​อีก​ข้าง​หนึ่ง​วาง​อยู่​บน​ขอบ​ล่าง​ของ​ด้าม​ดาบ

​เผย​ให้​เห็น​ดาบ​โลหะ​ส่วนหนึ่ง