ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 103 เจ้ากับข้าสะใจ เขากับนางบนกระดาษ

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​หลังจาก​หวังผ​้​อกับ​ผู้คุม​กฏ​เผ่า​มาร​ประดา​บกัน​ ​ผู้​ที่​เคลื่อนไหว​เป็น​คน​แรก​ ​มิใช่​เซียง​อ๋อง​ที่​กระโดด​ออกมา​จาก​แสงอาทิตย์​ ​และ​มิใช่​คน​ชุด​ดำ​ที่ซ่อน​ตัว​ ​หลังจาก​วางกับดัก​

​แต่​เป็น​ขุนพล​เทพ​เฮ่อ​หมิง

​เขา​ลูบ​ใบหน้า​อัน​อ่อนล้า​ ​ก่อน​เดิน​ไป​ยัง​ประตู​กระโจม​บัญชาการ​กลาง​ ​มอง​ไป​ยัง​ที่ๆ​ ​ไกล​แสน​ไกล

​พล​หมาป่า​หยุด​การ​จู่โจม​ ​กลายเป็น​ลำธาร​ดำมืด​หลาย​สาย​ ​ไหล​คืน​สู่​เส้นทาง​ใน​ความมืด​ที่อยู่​เบื้องล่าง​ยอดเขานั​่​วรื​่อ​หลั่ง

​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​พ่ายแพ้​หนี​ไป​แล้ว​ ​เซียง​อ๋อง​ตาม​ไป​แล้ว​ ​หัวหน้าพรรค​หลี​ซาน​ไล่ตาม​ไป​แล้ว

​ไหว​เห​ริน​เต้า​กูนั​่ง​ลงรัก​ษา​อาการ​บาดเจ็บ​ ​เหมา​ชิว​อวี​่​เข้า​ขวาง​ขุนพล​มาร​ที่สาม​และ​ขุนพล​มาร​ที่​แปด​ ​หวังผ​้อ​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​ ​ไม่​ขยับเขยื้อน

​เจ้าชาย​แห่ง​เมือง​เสวีย​เหล่า​ท่าน​นั้น​ตกลง​บน​ทุ่งหญ้า​ ​กระแทก​ดิน​หิน​นับ​ครั้ง​ไม่​ถ้วน​ ​ยาก​ที่จะ​ลุกขึ้น​ยืน​ได้​อีก​ ​เนื้อตัว​เต็มไปด้วย​บาดแผล​ ​อยาก​ดู​ฝ่ายตรงข้าม​แต่​กำลังจะ​ตาย

​“​เจ้า​คือ​ผู้บัญชาการ​ทหาร​สูงสุด​เผ่า​มนุษย์​?​”

​เจ้าชาย​ผู้​นั้น​จ้องมอง​ขุนพล​เทพ​เฮ่อ​หมิง​ ​เห็น​อารมณ์​คลุ้มคลั่ง​ใน​แววตา​ ​“​เช่นนั้น​วันนี้​โชค​ของ​เจ้า​ก็​ไม่ดี​เอา​มาก​ๆ​”​

​แม้​เขา​กำลังจะ​ตาย​ ​แม้​ขุนพล​เทพ​เฮ่อ​หมิง​เป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​รวบรวม​ดวงดาว​เหมือนกัน​ ​แต่​ธรณีประตู​ของ​แดน​เทพศักดิ์​สิทธิ์​นี้​สูง​มาก​จริงๆ​ ​เขา​ยัง​จะ​สามารถ​สังหาร​ขุนพล​เทพ​เฮ่อ​หมิง​ได้​จริง​หรือ

​เหล่า​ศิษย์​สาว​สถานศึกษา​หนาน​ซีดุ​จด​อก​ไม้​สีขาว​โปรยปราย​ ​ปิดล้อม​กระโจม​บัญชาการ​กลาง​ไว้

​พวก​นาง​นึกไม่ถึง​ว่า​ ​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​แดน​ศักดิ์สิทธิ์​ท่าน​นี้​จะ​หล่น​ลงมา​จาก​ฟากฟ้า​ ​จึง​แตกตื่น​ไป​ชั่วขณะ

​เยี​่ย​เสี่ยว​เหลียน​กลับ​ไม่​แตกตื่น​แม้แต่น้อย​ ​ตะโกน​เสียงใส​ ​“​จับ​!​”

​ขุนพล​เทพ​เฮ่อ​หมิง​กลับ​ว่า​ ​“​ถอย​!​”

​เสียง​ของ​เขา​สงบนิ่ง​มาก​ ​แต่​แน่วแน่​ยิ่ง

​เยี​่ย​เสี่ยว​เหลียน​ไม่เข้าใจ​ ​กระทั่ง​โมโห​อยู่​บ้าง​ ​แต่​พอนึก​ถึง​สิ่ง​ที่​อาจารย์ใหญ่​ของ​สถานศึกษา​ฝากฝัง​ไว้​ ​ก็​กัดฟัน​ตะโกน​ ​“​พวกเรา​ถอย​!​”

​ดอกไม้​สีขาว​บานสะพรั่ง​แล้ว​ลอย​ออก​ ​ทำให้​กระโจม​โดยรอบ​พังทลาย​ลง

​พล​ธนู​นับ​ร้อย​ ​มือถือ​ลูกธนู​แสง​ศักดิ์สิทธิ์​ ​เล็ง​ไป​ที่​เจ้าชาย​แห่ง​เมือง​เสวีย​เหล่า​ซึ่ง​เนื้อตัว​เต็มไปด้วย​โลหิต

​ลูกธนู​นับ​ร้อย​ดอก​ถูก​ยิง​ออก​พร้อม​แสง​ศักดิ์สิทธิ์​ ​ก่อน​ก่อตัว​เป็น​ลำแสง​กว้าง​หลาย​ศอก​หนึ่ง​สาย​ ​พุ่ง​ทะลุ​ผ่าน​ร่าง​ของ​เขา

​แล้ว​ร่าง​ของ​เจ้าชาย​เผ่า​มาร​ก็​หาย​ไป​กว่า​ครึ่ง

​เขา​ก้มลง​มอง​ร่าง​ตนเอง​ ​เห็น​อารมณ์​ลุกลี้ลุกลน​ใน​แววตา​วาบ​หนึ่ง

​เสียง​ฝีเท้า​หนา​ทึบ​ดัง​ทำลาย​ความ​เงียบ​ ​เหล่า​ทหารม้า​กลับมา​จาก​สมรภูมิ​รบ

​ผู้คน​ยัง​ไม่ทัน​ลบ​ภาพ​ตรงหน้า​ที่​ทำให้​ตื่นตกใจ​ออก​ ​ก็ได้​ยิน​คำสั่ง​ที่​ทำให้​พวกเขา​ยิ่ง​ตกใจ​เข้าไป​อีก

​ขุนพล​เฮ่อ​หมิง​กล่าว​ ​“​อีก​หกสิบ​อึดใจ​ ​ออกเดินทาง​”

​ขุนพล​เทพ​ผู้​หนึ่ง​ถาม​อย่าง​ตื่นตระหนก​ ​“​ใต้เท้า​ ​ไป​ไหน​?​”

​ขุนพล​เทพ​เฮ่อ​หมิง​ตอบ​ ​“​เมือง​เสวีย​เหล่า​ไง​”

​คำๆ​ ​นี้​เขา​พูด​ได้​อย่าง​สมเหตุสมผล​ยิ่ง

​เยี​่ย​เสี่ยว​เหลียน​ตะลึงงัน​ ​พลัน​นึกถึง​นาย​น้อย​บ้าน​สกุล​ถัง​บน​ถนน​เสิน​ใน​เมืองหลวง​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ ​และ​นึกถึง​ผู้อาวุโส​ซู​หลี​ที่​อาจารย์ใหญ่​พูด​ขึ้น​เป็นครั้งคราว

​รายละเอียด​ของ​กำหนดการ​ย่อม​มี​เจ้าหน้าที่​ทางการทหาร​และ​แม่ทัพ​ท่าน​อื่นๆ​ ​รับผิดชอบ​ ​ขุนพล​เทพ​เฮ่อ​หมิง​จึง​เดิน​กลับ​กระโจม​ ​พอ​มาถึง​ด้านหน้า​ของ​มุมมืด​นั้น​ ​ก็​พูดเสี​ยง​เบา

​“​ลำบาก​เทพธิดา​ศักดิ์สิทธิ์​แล้ว​”

​สวี​โหย​่ว​หรง​ลืมตา​ขึ้น​จ้องมอง​เขา​ ​พลาง​ถาม​ ​“​เจ้า​มี​ความมั่นใจ​มาก​น้อย​แค่ไหน​”

​หลาย​วันก่อน​ ​นาง​หลับตา​ไม่​ลง​อยู่​หลาย​คืน​ ​จึง​อ่อนล้า​เป็น​อย่างยิ่ง

​เดิมที​วันนี้​อยาก​นอน​ให้​เต็มอิ่ม​เสียหน่อย​ ​สุดท้าย​ก็​ถูก​หัวหน้าพรรค​หลี​ซาน​ที่อยู่​ใน​กอง​ของ​เบ็ดเตล็ด​ลาก​ไป​คุย​ด้วย​ ​กว่า​ที่​หัวหน้าพรรค​หลี​ซาน​จะ​จากไป​นั้น​ไม่​ง่าย​เลย​ ​นาง​จึง​หลบ​มา​อยู่​ที่นี่​ ​คิด​พิง​ลูกกรง​หลับตา​สักพัก​ ​สุดท้าย​นอน​ได้​ไม่ทัน​ไร​ ​การสู้​รบ​ด้านนอก​ก็​สิ้นสุดลง​แล้ว​ ​แถม​มี​คน​มาร​บก​วน​นาง​อีก​

​นาง​นอน​ไม่พอ​ ​จึง​อารมณ์​ไม่​ค่อย​ดี​ ​ทำให้​พูดจา​ไม่​เกรงใจ​ไป​โดยปริยาย

​ขุนพล​เทพ​เฮ่อ​หมิง​คิด​ๆ​ ​ดู​ ​ก่อน​ว่า​ ​“​สาม​ใน​สิบ​ส่วน​”

​สวี​โหย​่ว​หร​งคิด​ๆ​ ​ดู​ ​ก่อน​ว่า​ ​“​พอแล้ว​”

​ขุนพล​เทพ​เฮ่อ​หมิง​พูด​อย่าง​สะทก​สะท้อนใจ​ ​“​เวลา​คุย​กับ​เทพธิดา​ศักดิ์สิทธิ์​ ​รู้สึก​สะใจ​จริงๆ​”

​สวี​โหย​่ว​หรง​ตอบ​ ​“​คำพูด​นี้​ไม่ผิด​ ​ถ้า​เฉิน​ฉาง​เซิง​มา​ ​ต้อง​น่าเบื่อ​แน่ๆ​”

​นาง​หยิบ​ของ​ที่​ทำ​จาก​สำริด​ชิ้น​หนึ่ง​ออกมา​จาก​แขน​เสื้อ​ ​ซึ่ง​ก็​คือ​ของ​วิเศษ​ที่​ซาง​สิง​โจว​ใช้​กระจก​เฮ่า​เทียน​ทำ​ขึ้น​ชิ้น​นั้น

​นาง​ไม่ได้​เตรียม​ที่จะ​ติดต่อ​กับ​เมืองหลวง​ ​เพราะ​ของ​วิเศษ​อีก​ชิ้น​ไม่ได้​อยู่​ใน​มือ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​แต่​อยู่​ใน​มือ​เซ​วีย​เหอ

​นาง​บอก​เรื่อง​สอง​เรื่อง​กับ​เสวีย​เหอ

​หนึ่ง​ ​เซียง​อ๋อง​ได้รับบาดเจ็บ​สาหัส​ ​ใน​ระยะเวลา​อัน​สั้น​นี้​ไม่​สามารถ​กลับ​ไป​ที่​ค่าย​ซีจิ​่ว

​สอง​ ​ผู้บัญชาการ​ทหาร​สูงสุด​ขุนพล​เทพ​เฮ่อ​หมิง​ขอให้​กองทัพ​เส้น​ตะวันตก​ทั้ง​กอง​ออกเดินทาง​ ​และ​ภายใน​สาม​วัน​ต้อง​ไป​ให้​ถึง​พื้นที่​ตอนกลาง​ของ​ที่ราบสูง​ปู้​หนง​ ​ยึด​เมือง​ซัว​หลัว

​เชื่อ​ว่า​เสวีย​เหอ​น่าจะ​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​สอง​เรื่อง​นี้​ดี

​อีกทั้ง​เรื่อง​นี้​ก็​ผ่าน​การ​รับรอง​ร่วมกัน​ของ​ขุนพล​เทพ​เฮ่อ​หมิง​กับ​สวี​โหย​่ว​หรง​แล้ว

​เป็นไปตาม​คาด​ ​พอ​ดึก​หน่อย​ ​เสวีย​เห​อก​็​ตรง​ไป​ยัง​ค่าย​ใหญ่​ของ​ฝ่ายขวา​ ​ยึดอำนาจ​ทางทหาร​ของ​เซียง​อ๋อง​ ​จากนั้น​ก็​นำพา​ค่าย​ซีจิ​่ว​เดินทาง​ขึ้น​เหนือ​

​ซึ่ง​กองทัพ​เส้น​กลาง​กับ​เส้น​ตะวันออก​ ​ก็​เคลื่อน​ทัพ​พร้อมกัน

​โดย​กองทัพ​เส้น​ตะวันออก​ทำเวลา​ได้​เร็ว​สุด​ ​ไป​ถึง​ค่าย​เป่ย​ซาน​ก่อน​ใคร

​พวกเขา​เร่ง​เดินทัพ​ทั้งวันทั้งคืน​ ​อ้อม​ช่องเขา​ซิงซิง​ ​ข้าม​แม่น้ำ​อู่​ไถ​ ​เข้า​ยึด​พื้นที่​ตอน​ใต้​ของ​ที่ราบสูง​ปู้​หนง​ซึ่ง​เป็น​ยุทธศาสตร์​ทางทหาร​ที่​สำคัญ​สุด

​ถ้า​ทะลวง​เข้า​จาก​จุด​ๆ​ ​นี้​ ​กองทัพ​เผ่า​มนุษย์​ก็​จะ​บุกเข้าไป​ได้​เร็ว​กว่า​ที่​คิด​ไว้​ ​บีบ​ให้​แนว​ป้องกัน​ดุจ​เหล็กกล้า​ลำดับ​ที่สอง​ของ​เผ่า​มาร​ต้อง​แบ่ง​ออก​เป็น​สาม​ส่วน

​เวลา​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​สุด​ ​แรกเริ่ม​ทำสงคราม​ ​เสียเวลา​ไป​สิบ​เจ็ด​วัน​ ​แต่​ขั้นตอน​นี้​ทำให้​แย่งชิง​เวลา​กลับมา​ได้​ทั้งหมด​

​การ​วาง​กลยุทธ์​ของ​คน​ชุด​ดำ​ ​พ่ายแพ้​อย่าง​สิ้นเชิง​ก็​ว่า​ได้

​…..

​เฉิน​ฉาง​เซิง​วาง​จดหมาย​ราชการ​ใน​มือ​ลง​ ​ใจลอย​สักพัก

​รู้สึก​ว่า​เนื้อหา​บน​กระดาษ​ไม่สมบูรณ์​พอ

​กองทหาร​ฝ่ายซ้าย​ของ​ค่าย​เป่ย​ซาน​ ​เร่ง​เดินทาง​ทั้งวันทั้งคืน​ ​อ้อม​ช่องเขา​ซิงซิง​ ​ข้าม​แม่น้ำ​อู่​ไถ

​บน​กระดาษ​มี​เพียง​ประโยค​สั้น​ๆ​ ​แต่​ใน​โลก​แห่ง​ความเป็นจริง​ ​เรื่องราว​ที่​กล้าหาญ​ชาญชัย​เช่นนี้​เป็นไปได้​อย่างไร​กัน

​“​สาเหตุ​ที่​สำคัญ​สุด​คือ​ ​เมื่อ​เผ่า​มาร​บุก​เข้ามา​ ​ค่าย​เป่ย​ซาน​ไม่ได้​รับ​ความเสียหาย​ใดๆ​”

​พอ​โก่ว​หาน​สือ​นึกถึง​ชื่อ​ของ​คน​ทั้ง​สาม​ที่​เป็น​กลยุทธ์​ทำคุณ​ประโยชน์​ใน​แนวหน้า​ ​ก็​หัวเราะ​ออกมา

​มิใช่​เพราะ​ทั้ง​สาม​สร้าง​ผลงาน​อัน​ยิ่งใหญ่​ ​นำ​ความรุ่งโรจน์​มาสู่​เขา​หลี​ซาน​ ​แต่​เป็น​เพราะ​พวกเขา​ยัง​มีชีวิตรอด​อยู่

​ที่​สำคัญ​คือ​ ​นก​อินทรี​ดำ​หลาย​พัน​ตัว​ที่​บิน​ออกจาก​หน้าผา​นั่น​ ​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ถึง​ได้​ตกลง​บน​ทุ่งหญ้า​ ​เผา​ตัว​ตาย​เสีย​อย่างนั้น

​คำถาม​นี้​ ​เจ้าหน้าที่​ทหาร​ใน​แนวหน้า​คิด​อย่างไร​ก็​ไม่เข้าใจ​ ​จดหมาย​ส่วนตัว​ที่​เหลียง​ปั้น​หู​ส่งกลับ​มาก​็​แสดงให้เห็น​ว่า​เขา​เอง​ก็​สงสัย​เช่นเดียวกัน

​ขณะ​จ้องมอง​สีหน้า​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​โก่ว​หาน​สือ​คลับคล้าย​คาดเดา​ความจริง​ได้​ ​แต่​เมื่อ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ไม่พูดถึง​ ​เขา​ก็​ไม่​สะดวก​ที่จะ​พูด​อะไร

​เรื่องราว​ระหว่าง​องค์​สังฆราช​กับ​ผู้คุ้มกัน​ของ​เขา​ ​แม้​ไม่​ถูก​ซุบซิบนินทา​ ​แต่​ผู้​ที่​ควร​รู้​ ​ก็​ล้วน​รู้​แล้ว

​อย่างไร​เสีย​ ​ตั้งแต่​ฤดูใบไม้ร่วง​ใน​ปีนั​้น​ ​ก็​ไม่มีใคร​เห็น​สาว​ชุด​ดำ​ที่อยู่​ข้าง​กาย​เฉิน​ฉาง​เซิง​อีก

​คิด​ว่า​ ​พอนาง​ไป​จาก​เกาะ​ทางใต้​ที่​อบอุ่น​ ​ก็​ไปหา​บิดา​ผู้​ซึ่ง​เคย​เหยียบย่ำ​ทุ่ง​หิมะ​มาก​่อน​ ​อารมณ์​ของ​เฉิน

ฉาง​เซิง​ค่อนข้าง​ซับซ้อน​ ​และ​พอ​เขา​สังเกตเห็น​ว่า​โก่ว​หาน​สือ​กำลัง​มอง​ตน​ด้วย​สีหน้า​กึ่ง​ขำ​ ​ก็​รู้สึก​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก​อยู่

บ้าง​ ​พอนึก​ถึง​เรื่อง​ๆ​ ​หนึ่ง​ ​ก็​เปลี่ยน​หัวข้อ​สนทนา

​“​คน​ประหลาด​เผ่า​มาร​ที่อยู่​ใน​หน้าผา​ผู้​นั้น​ ​ก่อน​ตาย​เขา​ตะโกน​ไม่​หยุด​ ​ตะโกน​ว่า​อะไร​”

​“​ซู​หลี​มิใช่​จากไป​แล้ว​หรือ​”

​“​หือ​?​”

​โก่ว​หาน​สือ​ยิ้ม​พลาง​ว่า​ ​“​ข้า​กำลัง​บอกว่า​ ​ประโยค​นี้​ล่ะ​ ​ที่​คน​เผ่า​มาร​ผู้​นั้น​ตะโกน​ ​เขา​น่าจะ​อยู่​ใน​ชน​เผ่า​ผี​ ​ที่​เชี่ยวชาญ​ใน​การควบ​คุม​อสูร​ปีศาจ​ ​ซึ่ง​น่ากลัว​กว่า​ชน​เผ่า​เวท​ที่อยู่​ทางใต้​เสียอีก​ ​ข่าว​ว่า​พวกเขา​ได้​ถูก​อาจารย์​ปู่​เล็ก​ไล่​ล่า​อยู่​หลาย​ปี​ ​จน​สูญพันธุ์​ไป​แล้ว​ ​นึกไม่ถึง​ว่ายั​งมี​ผู้รอดชีวิต​อยู่​”

​ตอนนั้น​ ​เหตุใด​ซู​หลี​ถึง​ต้อง​ไล่​ล่า​ชน​เผ่า​ผี

​พรรค​กระบี่​หลี​ซาน​มิได้​บันทึก​ไว้​ ​โก่ว​หาน​สือ​จึง​ไม่รู้​ ​และ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ก็​เดา​ไม่​ออก

​พวกเขา​สบตา​กัน​ ​พลาง​นึกถึง​ความเป็นไปได้​อย่างหนึ่ง

​หรือ​เมื่อ​หลาย​ร้อย​ปีก่อน​ ​ซู​หลี​เห็น​ว่า​ชน​เผ่า​นี้​มีความสำคัญ​ต่อ​การ​รบ​?

​อาจ​เป็น​เช่นนี้​จริงๆ

​เนื่องจาก​ก่อน​จาก​โลก​นี้​ไป​ ​ซู​หลี​สู้รบ​กับ​ชน​เผ่า​มาร​มาโดยตลอด

​ถ้า​ไม่ได้​ต่อสู้​กัน​ ​ก็​ทำสงคราม​กัน

​แล้ว​เจ้า​หมอนั​่น​ ​ที่ตั้ง​แต่​ถือกำเนิด​ ​ก็​เริ่ม​ต่อสู้​กับ​ชน​เผ่า​มาร​ล่ะ​?

​เฉิน​ฉาง​เซิง​อยากรู้​จริงๆ​ ​ว่า​เจ๋อ​ซิ่ว​อยู่​ที่ไหน​กัน​แน่

​โก่ว​หาน​สือ​ก็​รู้สึก​กังวลใจ​ยิ่ง​ ​เนื่องจาก​เจ๋อ​ซิ่ว​ใน​ตอนนี้​ ​มี​ฐานะ​เป็น​ลูกเขย​เขา​หลี​ซาน

​แนวหน้า​ย่อม​มีบัน​ทึก​ยุทธวิธี​การ​รบ

​สิ่ง​ที่​รู้​ก็​คือ​ ​ตั้งแต่​เปิดศึก​มา​จนถึง​ตอนนี้​ ​เจ๋อ​ซิ่ว​ได้​สังหาร​พลทหาร​เผ่า​มาร​ไป​สิบ​กว่า​ตน

​สำหรับ​พลทหาร​ธรรมดา​ ​นี่​เป็นผล​งาน​ที่​น่าภาคภูมิใจ​ยิ่ง​ ​แต่​สำหรับ​เจ๋อ​ซิ่ว​แล้ว​ ​เห็นชัด​ว่า​แปลกประหลาด​อยู่​บ้าง

​ความสามารถ​ของ​เขา​มิได้​มี​เพียงเท่านี้​อย่างแน่นอน

​แล้ว​เขา​อยู่​ที่ไหน​กัน​แน่​ ​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่

​“​เห็นที​ ​ข้า​ต้อง​ไป​ก่อน​แล้ว​”​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​พูด​กับ​โก่ว​หาน​สือ

​ช่วง​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​โก่ว​หาน​สือ​เคย​พูด​กับ​เขา​ว่า​ ​ต้อง​เห็น​เมือง​เสวีย​เหล่า​แล้ว​เท่านั้น​ ​เขา​จึง​จะ​สามารถ​ออกจาก​เมืองหลวง​ได้

​ตอนนี้​แม้​ทหารม้า​สาม​นาย​เห็น​เมือง​เสวีย​เหล่า​แล้ว​ ​แต่​ยัง​มี​หนทาง​อีก​ยาว​ไกล​กว่า​ที่​กองทัพ​เผ่า​มนุษย์​จะ​เดินทาง​ไป​ถึง​เมือง​เสวีย​เหล่า​ ​แล้ว​เขา​จะ​ไป​ทำไม​ตอนนี้​

​แม้​ครั้งนี้​กองทัพ​เผ่า​มนุษย์​ได้รับ​ชัยชนะ​ใน​การต่อสู้​ ​แต่​ใน​ด้าน​อื่นๆ​ ​ก็​ฝืน​พูด​ได้​ว่า​เผ่า​มาร​บรรลุ​วัตถุประสงค์​ใน​การ​รบ​แล้ว​เช่นกัน

​รวมไปถึง​หวังผ​้อ​และ​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​แดน​ศักดิ์สิทธิ์​ใน​เผ่า​มนุษย์​ส่วนใหญ่​ล้วน​ได้รับบาดเจ็บ​สาหัส​ ​ไม่

สามารถ​ลงมือ​อีกครั้ง​ใน​ระยะเวลา​อัน​สั้น

​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​ง่าย​ต่อ​การ​เกิด​คำถาม​ขึ้น​ใน​จิตใจ​ของ​เหล่า​ทหาร​ ​เนื่องจาก​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​แดน​ศักดิ์สิทธิ์​เป็น​สัญลักษณ์​ของ​ความเชื่อมั่น

​ตอนนี้​ถ้า​เฉิน​ฉาง​เซิง​ปรากฏตัว​ขึ้น​ที่​แนวหน้า​ ​จะ​สามารถ​รักษา​ความเชื่อมั่น​ใน​ใจ​ของ​ทหาร​ได้​เป็น​อย่างดี

​และ​ถ้า​สวี​โหย​่ว​หร​งกับ​เขา​ปรากฏตัว​ร่วมกัน​ ​ก็​จะ​ยิ่ง​ได้ผล​อย่างเห็นได้ชัด

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ว่า​ ​“​ขอ​เพียง​ฝ่า​บาท​อยู่​ใน​วัง​หลวง​ ​เมืองหลวง​ก็​ไม่มีทาง​วุ่นวาย​ ​จิตใจ​ของ​ผู้คน​ก็​ไม่​วุ่นวาย​ตาม​ไป​ด้วย​”​

​ครั้งนี้​โก่ว​หาน​สือ​มิได้​แสดงท่าที​คัดค้าน

​เพราะ​สถานการณ์​ไม่​เหมือน​เมื่อ​ครั้ง​ฤดูใบไม้ผลิ​แล้ว

​เมืองหลวง​ได้​เข้าสู่​ฤดูร้อน​อย่างแท้จริง

​ลม​พัดผ่าน​ตัวเมือง​ ​ถูก​ลำน้ำ​และ​ต้น​หลิว​ข้าง​แม่น้ำ​กรอง​จน​เย็น​ลง​ไป​บ้าง​ ​แต่​เมื่อ​ปะทะ​กับ​กำแพง​แดง​ของ​วัง​หลวง​ ​ก็​เปลี่ยนเป็น​ร้อน​ขึ้น​มา

​ใบหน้า​ม่อ​อวี​่​แดง​เล็กน้อย​ ​จอน​ผม​เหงื่อ​ออก​อยู่​บ้าง​ ​มือซ้าย​ถือ​ผ้าเช็ดหน้า​โบก​ไปมา​ไม่​หยุด​ ​ไม่ได้​ติดกระดุม​ตรง​ลำคอ​ ​เผย​ให้​เห็น​ความขาว​กระจ่าง​ใส

​เฉิน​ฉาง​เซิง​นั่ง​อยู่​ตรงข้าม​นาง​ ​มองดู​น้ำชา​ใน​ถ้วย​ ​รู้สึก​ว่า​ใน​นั้น​คล้าย​จะ​มีด​อก​ไม้​งอก​ออกมา​ดอก​หนึ่ง​