ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 105 ถังซานสือลิ่วไข้สูงไม่ลด

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​สงคราม​เข้าสู่​ช่วง​ที่สาม​แล้ว​ ​และ​เป็นช่วง​ที่​โหดร้าย​ที่สุด​ ​ระยะห่าง​ระหว่าง​ทั้งสองฝ่าย​ใกล้​กัน​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​รบ​กัน​บ่อยครั้ง​ขึ้น​ ​บาดเจ็บ​ล้มตาย​มากขึ้น​ทุกวัน

​ช่วงนี้​กลยุทธ์​และ​ยุทธวิธี​การ​รบ​ที่​เห็นผล​ยิ่ง​มาก​็​ยิ่ง​น้อยลง​ ​ความมุ่งมั่น​และ​ทรัพยากร​กลายเป็น​ที่พึ่ง​หลัก​ ​ขึ้นอยู่กับ​ว่า​ใคร​ยืนหยัด​ไม่ไหว​ก่อน​กัน​

​ทุ่งหญ้า​ที่อยู่​ห่าง​จาก​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​พัน​กว่า​ลี้​มี​ภูเขา​อยู่​ลูก​หนึ่ง​ ​ใน​ภูเขา​มีบ​่อ​น้ำร้อน​มากมาย

​เมืองหลวง​ร้อน​มาก​ ​แต่​อากาศ​ที่นี่​กลับ​เย็น​เล็กน้อย​ ​ไอ​น้ำ​จาก​บ่อน้ำร้อน​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​ภูเขา​ ​แลดู​สวยดี

​เฉิน​ฉาง​เซิง​แช่​ตัว​ใน​บ่อน้ำ​อุ่น​ ​สายตา​มอง​ทะลุ​ผ่าน​ไอ​ร้อน​และ​ผ้าคลุม​รอบด้าน​ ​จนถึง​ธง​ประจำ​ทหารม้า​ของ​สำนัก​ฝึก​หลวง​ ​ก่อน​หยุด​อยู่​บน​ทางออก​นอก​หุบเขา​

​หลาย​ปีก่อน​ ​เขา​เตรียม​จะ​ใช้​เส้นทาง​นี้​ออกจาก​ที่นี่​ ​แต่​สุดท้าย​ก็​ต้อง​ย้อนกลับ​มา​ ​และ​เห็น​ซู​หลี​นอน​สลบไสล​อยู่

​ใช่​แล้ว​ ​ที่นี่​ก็​คือ​บ่อน้ำร้อน​ใน​ตอนนั้น​ ​แต่​ตอนนั้น​ ​กวาดตา​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​ล้วน​เห็น​แต่​หิมะ​ ​ทว่า​ตอนนี้​ใน​สายตา​กลับ​เห็น​แต่​สีเขียว​สุดลูกหูลูกตา​ ​เขา​จึง​รู้สึก​ไม่​ค่อย​คุ้นเคย

​“​ฝ่า​บาท​ ​ได้เวลา​แล้ว​”

​อัน​หวา​พูด​ขณะ​นั่งยองๆ​ ​อยู่​ข้าง​บ่อน้ำร้อน​ ​เสียง​นุ่ม​ละมุน​มาก​ ​คล้าย​เกรง​ว่า​จะ​ทำให้​เขา​ตกใจ

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ดึง​สติ​คืน​กลับ​ ​ลุกขึ้น​จาก​บ่อน้ำ​อุ่น​ ​ปล่อย​ให้​นาง​หยิบ​ผ้าขนหนู​ผืน​ใหญ่​มาค​ลุม​ร่าง​ตน​ไว้​ ​ก่อน​เช็ด​ให้​แห้ง​อย่างระมัดระวัง

​อัน​หวาม​อง​ดู​สีหน้า​เขา​ ​รู้สึก​โล่งใจ​ลง​ ​ใน​ใจ​นึก​ ​น้ำอุ่น​ค่อนข้าง​มีประโยชน์​จริงๆ​ ​จึง​พยุง​เขา​ออกจาก​บ่อ​ ​ไป​พักผ่อน​ที่​ศาลา​ด้านหน้า

​ศาลา​ ​รวมทั้ง​สิ่งก่อสร้าง​บางอย่าง​ใน​ภูเขา​ศิลา​ ​ล้วน​เพิ่ง​สร้าง​ขึ้น​ใหม่​เมื่อ​ไม่​กี่​วันก่อน

​ใน​ยาม​ศึกสงคราม​ ​ยัง​มี​ภาพ​ฟุ่มเฟือย​อลังการ​เช่นนี้​อีก​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ไม่​คุ้นเคย​ยิ่ง​ ​คิด​ว่า​เช่นนี้​จะ​ทำให้​พลทหาร​จำนวนมาก​รู้สึก​คับแค้นใจ

​คิดไม่ถึง​ว่า​แม่ทัพ​นายกอง​ใน​ทุ่งหญ้า​ที่​ผ่าน​ทาง​มา​ ​และ​เห็นภาพ​นี้​จาก​ระยะไกล​ ​มิได้​ไม่พอใจ​แต่อย่างใด​ ​กลับ​รู้สึก​ว่า​สมเหตุสมผล​แล้ว​ ​กระทั่ง​รู้สึก​ภาคภูมิใจ​ด้วยซ้ำ

​เฉิน​ฉาง​เซิง​คิด​อยู่​เนิ่นนาน​ ​ก็​ไม่เข้าใจ​ว่า​เพราะเหตุใด

​เขา​นั่ง​อยู่​ใน​ศาลา​ ​มอง​ไป​ยัง​ที่​ไกล​แสน​ไกล

​ใน​ท้องทุ่ง​รกร้าง​ที่​ไกล​ออก​ไป​ ​ทหาร​มากมาย​กำลัง​หน้า​เดิน​ไป​ยัง​ทิศ​ที่ตั้ง​ของ​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า

​แม้​ห่าง​กัน​ขนาด​นี้​ ​เขา​ก็​คล้าย​ได้ยิน​เสียง​ม้า​หลง​เซียง​ ​อืม​ ​เหมือน​มาจาก​สนามม้า​ป่าน​หยา​จริงๆ

​เหล่า​ทหาร​รู้อยู่​แต่ว่า​สังฆราช​อยู่​ใน​ภูเขา​ศิลา​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​พวกเขา​เห็น​ศาลา​แห่ง​นี้​หรือไม่

​ข่าว​กระจาย​ไป​ทั่ว​แนวหน้า​แต่แรก​แล้ว​ ​เวลา​เหล่า​ทหาร​เดินทาง​ผ่าน​เขา​ศิลา​ ​ถ้า​ไม่มี​ภารกิจ​เร่งรีบ​ ​ทหาร

ม้า​ก็​จะ​พากั​นลง​จาก​ม้า​ ​จูง​ม้า​เดิน​ ​ยัง​มีท​หาร​อีก​หลาย​คนที​่​ไม่สน​ใจคำ​สั่ง​ทางทหาร​ ​วิ่ง​ออกจาก​แถว​ ​หันหน้า​ไป​ทาง​ภูเขา​ศิลา​แล้ว​คุกเข่า​โขก​ศีรษะ​ ​ค่อย​วิ่ง​กลับมา​เข้าแถว​อย่างสบายใจ​ ​แม้​ถูก​เบื้องบน​ลงโทษ​ก็​ไม่สน​ใจ

​ซึ่ง​เฉิน​ฉาง​เซิง​เคย​เห็นภาพ​เช่นนี้​หลาย​ต่อ​หลายครั้ง​แล้ว

​เขา​ไม่เข้าใจ​ว่า​เหตุใด​พลทหาร​เหล่านี้​ถึง​ได้​ศรัทธา​ตน​ ​แต่​ในเมื่อ​พวกเขา​อยาก​เห็น​ตน​ ​ตน​ก็​ยินยอม​ให้​พวกเขา​เห็น​ ​ดังนั้น​หลาย​วัน​มานี​้​ ​เขา​จึง​มัก​มานั​่ง​ที่​ด้านล่าง​ของ​ศาลา​ ​แม้​อัน​หวา​กับ​พวก​ราชัน​แห่ง​หลิง​ไห่​มีท​่า​ที​คัดค้าน​ก็ตาม

​สายลม​เย็น​ๆ​ ​พัด​จาก​ท้องทุ่ง​รกร้าง​เข้ามา​ใน​ภูเขา​ศิลา​ ​ยัง​ไม่ทัน​ถูก​ไอ​ร้อน​ของ​น้ำอุ่น​ทำให้​อบอุ่น​ ​ก็​ปะ​กับ​ใบหน้า​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​แล้ว

​ร่างกาย​ซึ่ง​ร้อน​ได้ที่​จาก​การแช่​ใน​บ่อน้ำ​อุ่น​ค่อยๆ​ ​เย็น​ลง​ ​ใบหน้า​แดง​ระเรื่อ​ของ​เขา​ค่อยๆ​ ​จางหาย​ ​เปลี่ยนเป็น​ซีด​ขาว​ดังเดิม​ ​ซูบผอม​และ​อิดโรย

​ลมหนาว​ก่อตัว​ขึ้น​อีกครั้ง​ ​กระ​เรียน​ขาว​ร่อน​ลง

​จากนั้น​มัน​ก็​บิน​ไป​ที่​ศาลา​ ​ยืน​ขา​เดียว​อยู่​อย่างนั้น​ ​พลาง​หรี่​ตาลง​ ​ให้​พลทหาร​ใน​ท้องทุ่ง​รกร้าง​ที่อยู่​ห่างไกล​เหล่านั้น​มองเห็น​ได้​อย่างชัดเจน

​สวี​โหย​่ว​หรง​เดิน​ไป​ที่​ริม​ผา​ ​มองดู​ตาน้ำ​พุ​ร้อน​ที่​ราวกับ​หม้อ​นึ่ง​ก็​มิ​ปาน​ ​พลาง​ว่า​ ​“​ถ้า​เป็น​เช่นนี้​ไป​เรื่อยๆ​ ​แล้ว​เจ้า​ยืนหยัด​ได้​ไม่​ถึง​วันที่​เมือง​แตก​ ​ก็​จะ​ตาย​”

​นาง​มิได้​หัน​กาย​มาม​อง​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​ใบหน้า​ก็​ไร้ความรู้สึก​ ​ราวกับ​พูด​ไป​อย่างนั้น​เอง​ ​มิได้​ใส่ใจ​จริงๆ

​อาจ​เป็น​เพราะ​นาง​เคย​พูด​มา​หลายครั้ง​แล้ว​ ​แต่กลับ​ไม่ได้​รับ​การ​ตอบกลับ​ใดๆ​ ​จาก​เฉิน​ฉาง​เซิง

​หลังจาก​มาถึง​แนวหน้า​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ก็​ทำการ​ปรุงยา​จู​ซาส​อง​เม็ด​ไว้​ล่วงหน้า

​นี่​หมายความว่า​อะไร​ ​ใครๆ​ ​ก็​รู้

​เขา​เอง​ย่อม​รู้ดี​ที่สุด​ ​แต่​แค่​เห็น​ใบหน้า​อัน​อ่อนเยาว์​มากมาย​บิดเบี้ยว​อย่าง​หวาดกลัว​เมื่อ​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​ความตาย​ ​ได้ยิน​เสียงร้อง​ไห้​มากมาย​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​ไม่มีทาง​เลือก​อื่น​ ​ที่​ไม่​ให้​เขา​ทำ​เช่นนี้

​และ​เขา​ก็​บาดเจ็บ​แล้ว

​ที่นี่​คือ​แนวหน้า​ ​แม้​เขา​เป็น​สังฆราช​และ​ได้รับ​การคุ​้ม​ครอง​อย่างดี​ ​แต่​ก็​เป็น​เป้าหมายหลัก​ที่​เผ่า​มาร​ต้องการ​สังหาร​เช่นกัน

​ครั้ง​ที่​อันตราย​สุด​ ​คือ​ครั้ง​ที่​ขุนพล​มาร​ที่สอง​นำพา​ผู้​แข็งแกร่ง​เผ่า​มาร​มาก​ลุ่ม​หนึ่ง​ ​แล้ว​ใช้​นก​อินทรี​ดำ​จู่โจม​ทางอากาศ​ ​ซึ่ง​เขา​ได้รับบาดเจ็บ​ไม่เบา​จาก​การ​นี้​

​เขา​มาถึง​ทุ่งหญ้า​แห่ง​นี้​ช่วง​กลาง​ฤดูร้อน​ ​ตอนนั้น​เห็น​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ตะคุ่มๆ​ ​ตอนนี้​พอ​เข้าสู่​ช่วงต้น​ฤดูใบไม้ร่วง​ ​ว่า​กัน​ว่า​ทหาร​กอง​หน้า​มองเห็น​กำแพงเมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ได้​อย่างชัดเจน​แล้ว​ ​กระทั่ง​ค่าย​เป่ย​ซาน​ยัง​เห็น​ใบหน้า​ของ​ทหาร​รักษาการณ์​อย่าง​แจ่มชัด​ด้วย​ ​แต่​…​ที่สุด​แล้ว​ ​ยังคง​ไม่มีใคร​ไป​ถึง​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ได้​อย่างแท้จริง

​ยิ่ง​เข้าใกล้​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​เท่าใด​ ​ความมุ่งมั่น​ใน​การ​ต่อต้าน​ของ​เผ่า​มาร​ก็​ยิ่ง​แข็งแกร่ง​ขึ้น​ ​ไม่​กลัว​ความตาย​ยิ่งขึ้น​ ​กระทั่ง​ทำให้​แม่ทัพ​หลาย​คน​รู้สึก​ว่า​ ​นี่​คือ​ภารกิจ​ที่​ไม่มี​ความเป็นไปได้​ที่จะ​ทำสำเร็จ

​ทั้งๆ​ ​ที่​เพียง​กดดัน​ไป​อีกหน่อย​ ​ราชา​มาร​ที่อยู่​ใน​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​และ​นักรบ​นับ​แสน​หลาย​ชน​เผ่า​ที่​รุด​มาจาก​แต่ละ​พื้นที่​ ​อาจ​ยัน​ไว้​ไม่อยู่

​แต่​ขณะนั้น​ ​หลาย​คนใน​กองทัพ​เผ่า​มนุษย์​กลับ​ยัน​ไม่อยู่​แล้ว

​คืน​วันนั้น​ ​แม่ทัพ​ที่​ยัน​ไม่อยู่​กลุ่ม​หนึ่ง​ ​ซึ่ง​ส่วนใหญ่​บาดเจ็บสาหัส​ ​ถูก​บีบ​ให้​ถอย​ลง​ไป​ทางใต้

​เยี​่ย​เสี่ยว​เหลียน​นำพา​ศิษย์​จำนวน​หนึ่ง​กับ​ครูฝึก​จาก​กระทรวง​สิบ​สาม​ชิง​เหย้า​ ​รวมทั้ง​ขุนนาง​เทพ​จาก​พระราชวัง​หลี​สาม​ท่าน​ ​พร้อมใจกัน​ไป​ส่ง​คน​ผู้​หนึ่ง​กลับ​ใต้

​ผู้​ที่​ทำให้​นาง​ออกจาก​ที่​ที่​สำคัญ​สุด​อย่าง​กระโจม​บัญชาการ​กลาง​ ​ผู้​ที่​อาสา​ออกศึก​ใหญ่​เช่นนี้​ ​คน​ผู้​นี้​คือ​ใคร​กัน

​เซียง​อ๋อง​ที่​ได้รับบาดเจ็บ​สาหัส​และ​ถูก​ยึดอำนาจ​ทางทหาร​ ​ยัง​ยืด​หยัด​อยู่​แนวหน้า​ ​แล้ว​เหตุใด​คน​ผู้​นี้​ถึง​สำคัญ​เช่นนี้

​เยี​่ย​เสี่ยว​เหลียน​คิด​อย่างไร​ ​ไม่มีใคร​รู้​ ​แต่​สำหรับ​ขุนนาง​เทพ​จาก​พระราชวัง​หลีกับ​ครูฝึก​จาก​กระทรวง​สิบ​สาม​ชิง​เหย้า​แล้ว​ ​คน​ผู้​นี้​ย่อม​สำคัญ​กว่า​เซียง​อ๋อง​หลายเท่า

​เพราะ​เขา​คือ​สหาย​ของ​สังฆราช

​……

​……

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ไม่รู้​จะ​พูด​อย่างไร​ดี​ ​วิธี​คิดถึง​ปัญหา​นี้​ง่าย​จน​เกินไป​ ​ใช้​คำพูด​แบบ​คน​บางคน​ก็​คือ​ ​ง่าย​ที่จะ​ทำให้​พูดไม่ออก

​ทว่า​จาก​เมือง​ซี​หนิง​ไป​จนถึง​เมืองหลวง​ ​เขา​ก็​รู้จัก​สหาย​มากมาย

​แต่​ถ้า​พูดถึง​สหาย​ของ​เขา​ ​ปฏิกิริยา​แรก​ของ​หลาย​คน​ย่อม​รู้​ว่า​คือ​ ​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว

​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ผ่ายผอม​จน​แก้มตอบ​ลง​ ​แต่​ยังคง​แดง​ใส​เหมือน​กุ้ง​สุก​ ​ดวงตา​ก็​ใส​กระจ่าง​ยิ่ง​ ​ทำให้​รู้สึก​ตกใจ​อยู่​บ้าง

​เฉิน​ฉาง​เซิง​นั่ง​ข้าง​เปล​สนาม​คุย​กับ​เขา​ ​“​ตอนที่​เจ้า​คิด​จะ​ซื้อ​ร้านอาหาร​ร้าน​นั้น​ ​ข้า​ก็​รู้สึก​ไม่เหมาะสม​แล้ว​”

​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​พูด​อย่าง​คน​มี​ไฟ​แต่​ไม่มีแรง​ ​“​ไม่เหมาะสม​ตรงไหน​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ว่า​ ​“​กิน​กุ้งมังกร​สีน้ำเงิน​มากเกินไป​จะ​กลายเป็น​บาป​ ​ดู​เจ้า​ใน​ตอนนี้​สิ​”

​เห็นชัด​ว่า​ ​หลาย​วัน​มานี​้​แม้​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ป่วยหนัก​ ​แต่​ยังคง​ส่องกระจก​ ​จัด​แต่ง​ให้​ตนเอง​ดู​หล่อ​อยู่​เสมอ​ ​จึง​เข้าใจ​ความหมาย​ใน​มุก​ตลก​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ทันที​

​เมื่อ​เข้าใจ​มุก​ตลก​ ​ย่อม​ต้อง​หัวเราะ​ ​แต่​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​หัวเราะ​พลาง​ไอ​พลาง​ ​เห็น​แล้ว​อึดอัด​ใจ​ยิ่ง

​เยี​่ย​เสี่ยว​เหลียน​นำ​ผ้าขนหนู​เย็น​วาง​ลง​บน​หน้าผาก​ของ​เขา​ ​ก่อน​หันไป​จ้อง​เฉิน​ฉาง​เซิง​อย่าง​ดุดัน

​พอ​จ้อง​เสร็จ​ ​นาง​ค่อย​เข้าใจ​ว่า​ตน​ทำ​อะไร​ลง​ไป​ ​จึง​ลนลาน​อย่าง​ไม่รู้​ตัว​ ​ขอโทษ​ติดต่อกัน

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ย่อม​ไม่ถือสา​นาง​ ​เพียง​ว่า​ ​“​โหย​่ว​หร​งอยู​่​ห้อง​ข้างๆ​ ​เจ้า​ไปดู​นาง​หน่อย​สิ​”

​เยี​่ย​เสี่ยว​เหลียน​รับคำ​เสียง​เบา​ ​แต่กลับ​ยิ่ง​รู้สึก​เครียด​ ​คิดในใจ​ ​ตน​ควร​อธิบาย​กับ​เทพธิดา​ศักดิ์สิทธิ์​อย่างไร​ดี

​รอ​จน​เยี​่ย​เสี่ยว​เหลียน​จากไป​ ​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ค่อย​มอง​ตา​เฉิน​ฉาง​เซิง​พลาง​ว่า​ ​“​ข้า​ป่วย​เป็นโรค​อะไร​กัน​แน่​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​จึง​ตอบ​ ​“​สูญเสีย​สติสัมปชัญญะ​อย่างหนัก​ ​ลมหนาว​เข้า​อวัยวะภายใน​ ​อาการหนัก​มาก​”

​ดวงตา​ของ​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​คล้าย​ลุกเป็นไฟ​ ​“​ข้า​รู้สึก​ว่า​โรค​นี้​มีปัญหา​”