มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1248

เกล็ดมังกรครามยักษ์ทั้งสามชิ้นนี้ถูกเขาเก็บรักษาเอาไว้นานกว่าแสนปีแล้ว เดิมทีหมายจะนำมาใช้ฝึกเซ่นเป็นอาวุธของตนเอง แต่เพราะผลการฝึกตนไม่สามารถบรรลุได้ถึงเทพฟ้าช่วงกลางเสียที หากฝึกเซ่นไปแล้ว ก็จะเป็นการสิ้นเปลืองเกล็ดมังกรครามยักษ์วัสดุล้ำค่าเช่นนี้ไปอย่างสูญเปล่า

ความคิดของตาเฒ่าประหลาดตวนมู่คือ รอจนผลการฝึกตนของตนบรรลุถึงเทพฟ้าขั้นเจ็ดช่วงปลาย จากนั้นจึงนำเกล็ดมังกรครามยักษ์ฝึกเซ่นเป็นอาวุธที่แข้งแกร่งชิ้นหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ใช่อัญเทพฟ้า แต่ก็ไม่ได้แตกต่างมากนัก

สมบัติที่ล้ำค่าเช่นนี้ ในเวลานี้ถูกตาเฒ่าประหลาดตวนมู่นำออกมา เห็นได้ชัดว่าเขามั่นใจจนถึงที่สุดว่าเจ้าสำนักน้อยของเขาจะต้องชนะอย่างแน่นอน ไม่เกรงกลัวว่าจะต้องเสียเกล็ดมังกรครามยักษ์ของตนไป

สำหรับเกล็ดมังกรครามยักษ์ทั้งสามชิ้นนี้ เซียวจื่อเจี้ยนก็รู้สึกตาร้อยอยู่ไม่น้อย รีบตอบรับทันที “ข้าตกลงเดิมพันกับเจ้า!”

ระหว่างที่พูด เขาก็หันไปมองทางหลัวซิว “เจ้าหนู ไส้กระบี่พรสวรรค์ของข้าหากแพ้ก็ไม่ต้องกังวลไป แต่เกล็ดมังกรครามยักษ์นี้ไม่ธรรมดา จำเป็นต้องชนะมาให้ได้!”

ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องให้เซียวจื่อเจี้ยนเอ่ยเตือน ในตอนที่หลัวซิวรับรู้ได้ถึงปีกเทพดาราไร้มลทินสามารถพัฒนาได้ฌโดยอาศัยเกล็ดมังกรครามยักษ์ ก็คิดเอาไว้แล้วว่าจะต้องเอาชนะให้ได้

เจ้าสำนักน้อยแห่งเขาปีศาจนรกแล้วอย่างไร? เป็นหนึ่งในเทพมารที่เยาว์วัยที่สุดแล้วอย่างไร? พลังรบสามารถเทียบเท่าได้กับเทพมารขั้นสี่แล้วจะทำสิ่งใดได้?

เขากระโจนขึ้นไปกลางอากาศ ทะยานข้ามฟากฟ้า พลิกมือหยิบหอกยุทธ์มังกรดำออกมา

เจ้าสำนักน้อยตวนมู่เผยสีหน้าเยาะเย้ย ในมือปรากฏกระบี่ยุทธ์สีดำเงางามเล่มหนึ่งขึ้น ปลายกระบี่ชี้มายังหว่างคิ้วของหลัวซิว “ข้าจะจัดการเจ้าภายในสามกลยุทธ์เท่านั้น”

“เหวิง!”

กระบี่ยุทธ์สั่นสะท้าน สำแสงสีดำส่องประกายพุ่งออกมาจากภายในกระบี่ยุทธ์ ทุกสำแสงสี่ดำเต็มไปด้วยออร่าของกฎความตายดั้งเดิม

เจ้าสำนักน้อยตวนมู่ใช้กฎความตายฝึกตนเป็นเทพมาร หากพูดถึงเพียงแค่แดนกฎความตาย ก็แข็งแกร่งมากกว่าหลัวซิวอยู่ไม่น้อย

ถึงอย่างไรผลการฝึกตนของหลัวซิว ก็แค่เพียงมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นห้า แดนกฎความตายเพิ่งจะเข้าใกล้แดนบริบูรณ์ ยังไม่สามารถครอบครองพลังดั้งเดิมได้

อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งถึงระดับเช่นนี้ของเขา ความแตกต่างแดนกฎก็ใช่ว่าจะชดเชยไม่ได้ เพราะพลังอมตะของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่า ในขณะเดียวกันยังครอบครองกฎชั้นยอดอีกชนิดหนึ่ง นั่นคือกฎโซน!

สำหรับกฎเวลา หลัวซิวไม่ได้มีความคิดที่จะเรียกใช้ นั่นคือกลอุบายของไพ่ตายที่ต้องซ่อนไว้

“ปัง! ปัง! ปัง!”

เจ้าสำนักน้อยตวนมู่แทงออกไป แสงสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนกลายเป็นสัญลักษณ์แปลกประหลาดกวาดไปทั่วท้องฟ้า ราวกับพายุมรณะ

เจ้าสำนักน้อยตวนมู่ผู้นี้เขาลงมือเต็มกำลังตั้งแต่เริ่ม ไม่ลดทอนสิ่งใดลงเลยแม้สักน้อย เห็นได้ชัดว่าคิดจะกำจัดหลัวซิวทิ้งภายในสามกลยุทธ์จริงตามที่พูด

หอกรบในมือของหลัวซิวสั่นสะท้าน ยื่นหอกออกไปด้านหน้า เมื่อแทงหอกรบออกไป ผสานรวมกับพลังสองกฎชั้นยอดอย่างความตายและโซน หอกรูปมังกรคำรามออกมา ปะทะกันอย่างดุเดือดกับสัญลักษณ์สีดำที่ท่วมท้น

“ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!”

แสงสีดำนับไม่ถ้วนกระทบลงบนหอกรบ หอกรบสั่นสะท้านอย่างต่อเนื่อง แต่กลับไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย ถูกหลัวซิวกำเอาไว้ในมืออย่างแน่นหนา

“โครม!”

เสียงระเบิดดังสนั่นเหมือนฟ้าคำราม คลื่นปราณที่น่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายไปในท้องฟ้า มีเทพฟ้าหลายคนท่ามกลางฝูงชนที่กำลังดูการต่อสู้อยู่ด้านล่าง ย่อมไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งเหล่านี้

“สับวิญญาณสูญ!”

เจ้าสำนักน้อยตวนมู่ตระโกนคำราม สำแดงพลังอมตะวิชาหนึ่งของเขาปีศาจนรกออกมา ลำแสงสีดำหลอมรวม กลายเป็นแสงกระบี่ เสียงฉีกกระฉากโซนดังสนั่น พุ่งตรงเข้าไปยังหว่างคิ้วของหลัวซิว

สิ่งที่เรียกว่าสับวิญญาณสูญ ที่ฟันออกไปคือวิญญาณเทพจิตของอีกฝ่าย เป็นวิชาอาถรรพณ์พลังอมตะที่ใช้โจมตีวิญญาณ!

ในด้านของการโจมตีวิญญาณ กฎความตายยังมีความได้เปรียบเฉพาะตัวอีกด้วย