ในเวลานี้ หัวใจของเย่เฉินสุมไปด้วยเพลิงโทสะ

เขาคาดไม่ถึงเลยจริงๆ ไม่นึกเลยว่าจะมีโจรที่ใจกล้าขนาดนี้ด้วย พุ่งเป้ามาที่เด็กของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

เมื่อนึกไปว่าเด็กเหล่านี้ อาจมีความเป็นไปได้ที่จะถูกขายให้พวกขอทานไร้ยางอาย ถึงขั้นที่ถูกพวกเขาทำให้กลายเป็นคนพิการ เย่เฉินก็อยากจะสับพวกค้ามนุษย์เป็นหมื่นๆ ชิ้นใจแทบขาดแล้ว

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงบอกหลี่เสี่ยวเฟินไปทันที “เสี่ยวเฟิน ตอนนี้เธออยู่ไหน? อยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหรือเปล่า?”

“ใช่!” หลี่เสี่ยวเฟินตอบ “ฉันเพิ่งกลับมาจากสถานีตำรวจ พวกป้าหลี่ยังอยู่ที่นั่น”

“ได้” เย่เฉินรีบพูด “เธอรอฉันอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้านะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!”

พอพูดจบ เขาก็กดวางสาย ไม่สนใจจะทักทายภรรยา รีบก้าวออกประตูไป

เมื่อลงมาที่ชั้นหนึ่ง หม่าหลันในชุดนอนสีแดงเข้มก็เอ่ยเร่งอย่างไม่มีความอดทน “เย่เฉิน รีบไปทำกับข้าวสิ แม่เฒ่าใกล้จะหิวตายอยู่แล้ว”

เย่เฉินขมวดคิ้ว เอ่ยอย่างรังเกียจ “อยากกินก็ไปทำเองสิ”

หม่าหลันขบฟันร้องด่า “อาฮ่า! ตอนนี้แกเก่งแล้วนี่ มีความสามารถแล้วงั้นสิ?”

เย่เฉินพยักหน้า เอ่ยว่า “ถ้าคุณสามารถสร้างคฤหาสน์เดี่ยวแบบนี้ได้ ผมก็จะถือว่าคุณมีความสามารถเหมือนกัน!”

ทันทีที่หม่าหลันได้ยินประโยคนี้ สีหน้าก็แปรเปลี่ยนทันที “เย่เฉิน คำพูดนี้ของแกหมายความว่ายังไง? แกคิดว่าคฤหาสน์ที่แกสร้างเจ๋งนักใช่ไหม? เริ่มสะบัดหน้าใส่ฉันแล้วงั้นสิ?”

เย่เฉินตอบเสียงเย็น “ใช่แล้ว เมื่อก่อนตอนผมอยู่บ้านคุณ คุณมีท่าทีต่อผมแบบไหนล่ะ? ผมหวังว่าตอนนี้คุณจะรู้จักทบทวนตัวเองบ้างนะ มีความเป็นไปได้ที่พอผ่านไปสักระยะหนึ่ง ผมก็จะทำกับคุณเหมือนที่คุณทำกับผมเมื่อก่อน”

“แก…” ความหยิ่งผยองของหม่าหลันเลือนหายไปเกือบหมดภายในชั่วพริบตา เธอเพิ่งจะตระหนักได้อย่างจริงจังว่า เย่เฉินต่างไปจากในอดีตแล้ว

ตอนนี้ตนไม่มีอะไรที่จะนำมาบีบเขาได้เลย เมื่อก่อนมักจะพูดอยู่ตลอดว่าเขากินข้าวบ้านตน พักอยู่บ้านตน แต่ตอนนี้ทุกอย่างเหมือนจะกลับกันไปหมดแล้ว

ในตอนนี้เอง เซียวฉางควนก็ก้าวออกจากลิฟต์มาแล้วเช่นกัน เห็นเย่เฉินเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก ถึงเปิดปากถาม “เย่เฉิน เธอจะไปไหน?”

เย่เฉินตอบ “ผมจะไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าครับ เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย”

เซียวฉางควนรีบเอ่ยว่า “ฉันกำลังจะไปทำธุระที่สมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดพอดี ฉันจะขับรถไปส่งเธอแล้วกัน”

เย่เฉินพยักหน้า “ครับคุณพ่อ”

หม่าหลันพูดอย่างมีน้ำโห “เซียวฉางควนคุณห้ามไปนะ! ไปทำอาหารเช้าให้แม่เฒ่าซะ!”

เซียวฉางควนมองเธออย่างรังเกียจแวบหนึ่ง “อยากกินก็ทำเอง ไม่ทำก็ไม่ต้องกิน!”

เมื่อพูดจบ ก็ไม่สนใจไยดีเธออีก

สองพ่อตาลูกเขยเดินออกไปข้างนอก หม่าหลันกัดฟันด้วยความโมโหอยู่ด้านหลัง

ตอนนี้ผู้ชายในบ้านทั้งสองคนนี้ ล้วนเมินเฉยไม่สนใจตน อำนาจของตนในบ้านหลังนี้แทบไม่มีเหลืออยู่แล้ว

โดยเฉพาะเซียวฉางควนคนนั้น ไม่นึกเลยว่าเมื่อวานไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน ต้องการจะหย่าขาดกับตน

ไอ้สุนัขคนนี้ แต่งงานกับตนมายี่สิบกว่าปีแล้ว ไม่เคยกล้าตะคอกใส่ตนแบบนี้เลย เรื่องนี้ไม่ชอบมาพากลจริงๆ ตอนต้องหาทางสืบดูหน่อยแล้ว

ตอนนี้ เย่เฉินกับเซียวฉางควนพ่อตาของเขามาถึงรถแล้ว เซียวฉางควนเข้าไปนั่งในรถBMW พาเย่เฉินขับออกไป”

รถเพิ่งจะพ้นประตูบ้าน เซียวฉางควนก็อดไม่ได้ที่จะสอบถาม “เย่เฉิน ปกติเธอมีความคิดดีๆ เยอะแยะ เธอช่วยพ่อคิดหน่อยสิ ต้องทำยังไงถึงจะหย่าขาดกับแม่ยายปากตลาดคนนั้นของเธอได้?”

เย่เฉินเอ่ยตอบ “เมื่อวานคุณแม่ก็พูดแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ถ้าจะหย่ากัน ก็ต้องแยกกันอยู่อย่างน้อยสองปี”

________