ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 114 ครานั้นจันทร์กระจ่างอยู่หนใด

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​ช่วงต้น​ฤดูร้อน​ ​สงคราม​ระหว่าง​เผ่า​มนุษย์​กับ​เผ่า​มารค​รั้ง​ยิ่งใหญ่​สุด​ครั้งหนึ่ง​เกิดขึ้น​ที่นี่

​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​อาณาเขต​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​ทั้งสองฝ่าย​ดาหน้า​เข้า​ต่อสู้​กัน​ไม่​หยุด​ ​เผ่า​มาร​บาดเจ็บ​ล้มตาย​เป็น​จำนวนมาก​ ​เผ่า​มนุษย์​ก็​จ่าย​ค่าตอบแทน​ไปมา​กมาย​เช่นกัน

​หลังจากนั้น​ ​ก็​ไม่เคย​มี​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​อาณาเขต​ศักดิ์สิทธิ์​ปรากฏตัว​ขึ้น​พร้อมกัน​ใน​สนามรบ​มาก​ขนาด​นั้น​อีก

​เชิงเขานั​่​วรื​่อ​หลั่ง​มีค่า​ยกล​ขนาดใหญ่​อยู่​จุด​หนึ่ง​ ​และ​กองทัพ​ใหญ่​เผ่า​มาร​ก็​บุก​จู่โจม​จาก​ที่นั่น​ ​จากนั้น​ค่อย​ถอนกำลัง​ออก​ไป​ให้​ได้มาก​ที่สุด​

​ผู้​ที่​มีวิชา​เทพ​ยอดเยี่ยม​อย่าง​เหมา​ชิว​อวี​่​กับ​นักพรต​ซือ​หยวน​เคย​ยืนยัน​ด้วยตัวเอง​ว่า​ ​ค่าย​กล​ตรงจุด​นั้น​ไม่​สามารถ​ใช้การได้​อีก

​ต่อมา​กก​อง​ทัพ​เผ่า​มนุษย์​หลาย​กองทัพ​ก็​ล้วน​ไป​กลับ​ทางเหนือ​ผ่าน​เส้นทาง​หุบเขา​นี้​ ​โดย​ไม่เคย​เกิด​ปัญหา​ใดๆ​ ​มาก​่อน

​จึง​ไม่มีใคร​นึก​ว่า​ ​ตอน​ทัพ​ใหญ่​เผ่า​มารถอย​ทัพ​ ​มิได้​ถอนกำลัง​ออก​ไป​ทั้งหมด

​ช่วง​ที่หวังผ​้​อกับ​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​ต่อสู้​กัน​ ​และ​ใน​สนามรบ​วุ่นวาย​ไป​ทั่ว​นั้น​ ​มีพล​หมาป่า​สอง​พัน​ตน​ ​ฉวยโอกาส​ชุลมุน​ ​เข้าไป​ซ่อนตัว​ตาม​เชิงเขา​ของ​ยอดเขา​ฝั่ง​ตะวันตก

​เชิงเขา​ของ​ยอดเขา​ฝั่ง​ตะวันตก​สัมผัส​กับ​ละออง​น้ำ​และ​เมฆหมอก​ที่​ลอยมา​จาก​ทะเล​ตะวันตก​เป็นเวลา​นาน​ ​การถู​กกัด​เซาะ​ตลอด​หลาย​ล้าน​ปี​ ​ทำให้เกิด​ถ้ำ​น้อย​ใหญ่​ขึ้น​มากมาย

​พล​หมาป่า​เหล่านี้​เข้าไป​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ถ้ำ​ที่​ลึก​ที่สุด​ ​เพื่อ​หลบหลีก​สายตา​อัน​แหลมคม​ของ​อินทรี​แดง​ ​และ​หลบเลี่ยง​จิต​สัมผัส​ของ​หน่วย​ลาดตระเวน​เผ่า​มนุษย์

​แน่นอน​ว่า​ ​นี่​ก็​เป็น​เพราะ​ขุนพล​เทพ​เฮ่อ​หมิง​ต้องการ​ฝ่า​แนว​ป้องกัน​ที่สอง​ของ​เผ่า​มาร​ ​จึง​ขอให้​ทัพ​ใหญ่​รวมตัวกัน​เคลื่อน​ไป​ข้างหน้า​อย่างรวดเร็ว​ ​ส่งผล​ให้การ​กวาดล้าง​สนามรบ​ทำได้​ไม่​ถ้วนถี่

​กองทัพ​เผ่า​มนุษย์​เดินทาง​ผ่าน​หุบเขา​อย่างต่อเนื่อง​ ​ไป​ยัง​ที่ราบสูง​ทาง​ตอนเหนือ​เพื่อ​ทำสงคราม​ต่อ​ ​ซึ่ง​พล​หมาป่า​สอง​พัน​ตน​นี้​ก็​หลบ​อยู่​ใน​ถ้ำ​ตลอด​ ​ไม่ได้​โผล่​ออกมา​ ​ยาม​หิว​ก็​กิน​เนื้อ​แห้ง​ ​ยาม​กระหาย​ก็​เคี้ยว​หิมะ​ที่​สะสม​อยู่​บน​ยอดเขา​ ​ใช้ชีวิต​อย่าง​ลำเค็ญ

​ถ้า​พวกเขา​มิได้​เตรียมตัว​สำหรับ​การ​นี้​มาก​่อน​ ​ก็​อาจ​หิว​ตาย​ไป​ตั้งแต่แรก​แล้ว

​ทว่า​แม้​เป็น​เช่นนี้​ ​หลังจาก​หลบซ่อน​อยู่​หลาย​วัน​ ​จำนวน​พล​หมาป่า​ก็​เริ่ม​ลดลง​ ​มี​ผู้บาดเจ็บ​และ​ล้ม​ป่วย​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​โดย​พล​หมาป่า​ที่​ได้รับ​การ​ยืนยัน​ว่า​บาดเจ็บสาหัส​ยาก​เกิน​เยียวยา​ ​จะ​ถูก​ฆ่า​ตาย​ทันที​ ​ส่วน​ผู้ป่วย​ก็​ถูก​ปลดอาวุธ​และ​ถอด​ชุด​เกราะ​ออก​ ​ทิ้ง​ไว้​ใน​ถ้ำ​ ​รอ​ให้​อาการ​ดีขึ้น​เอง​ ​หรือไม่ก็​เสียชีวิต​ไป

​สุดท้าย​จึง​มีพล​หมาป่า​หนึ่ง​พัน​สอง​ร้อย​ตน​ที่​รอดชีวิต

​พวกเขา​ซูบผอม​ ​อ่อนเพลีย​ ​แต่​ขณะเดียวกัน​ก็​เข้มแข็ง​อดทน​และ​ไม่มี​ความหวาดกลัว​ ​ดวงตา​เปล่งแสง​สีเขียว​จางๆ​ ​ราวกับ​หมาป่า​จริงๆ

​การ​ใช้ชีวิต​อย่าง​หลบ​ๆ​ ​ซ่อน​ๆ​ ​นั้น​ยากลำบาก​มาก​ ​แต่​สิ่ง​ที่​ยาก​ที่สุด​ ​กลับเป็น​สิ่งล่อใจ

​ทุ่งหญ้า​ตรง​เชิงเขา​มัก​มี​ชน​เผ่า​มนุษย์​ลำเลียง​เสบียงอาหาร​ผ่าน​ ​ผู้คุ้มกัน​ขบวน​ขนส่ง​เสบียง​เหล่านั้น​ก็​มิได้​แข็งแกร่ง​มากมาย​ ​บวก​กับ​ไม่มีใคร​คิด​ว่า​ ​ยัง​มี​ชน​เผ่า​มาร​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ภูเขา​

​ขอ​เพียง​พล​หมาป่า​บุก​ลง​เขา​ไป​ ​ย่อม​สามารถ​เอาชนะ​คู่ต่อสู้​ ​และ​ได้​เสบียง​เหล่านั้น​มา​อย่างง่ายดาย

​แต่​พวกเขา​ก็​รู้​ว่า​ ​ที่​ตน​อุตส่าห์​ลำบากลำบน​ซ่อนตัว​อยู่นาน​หลาย​วัน​ขนาด​นี้​ ​มิใช่​เพราะ​ต้องการ​ปล้น​ขบวน​ขนส่ง​เสบียง​ธรรมดาๆ​ ​ขบวน​หนึ่ง​ ​แต่​เพราะ​ต้องการ​จู่โจม​กองทัพ​เผ่า​มนุษย์​ให้​หนักหน่วง​ที่สุด​ ​ใน​ช่วงเวลา​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ของ​สงคราม

​เหตุผล​ชัดเจน​มาก​ ​แต่​การ​ที่จะ​ทำให้​หมาป่า​ดุร้าย​เหล่านี้​ต้านทาน​ต่อ​สิ่งล่อใจ​เช่นนี้​ได้​ ​ต้อง​บอกว่า​ผู้นำ​ท่าน​นั้น​ไม่ธรรมดา​จริงๆ

​คำสั่ง​ของ​เขา​ก็​ไม่ธรรมดา​ยิ่ง

​‘​เผา​เสบียง​ของ​พวก​มัน​ให้​เกลี้ยง​ ​จากนั้น​เรา​ก็​ลุย​เข้าไป​ตาย​เอา​ดาบ​หน้า​’

​ดวงตา​ของ​ผล​ทหาร​เผ่า​มาร​ไม่มี​ความหวาดกลัว​ ​มี​แต่​ความ​กระตือรือร้น​และ​มุ่งมั่น​ ​แต่​มิได้​ส่งเสียง​ใดๆ​ ​ออกมา​ ​หมาป่า​ยักษ์​กระหาย​โลหิต​จึง​ได้​แต่​หอบ​หายใจ​ถี่​ขึ้น​เล็กน้อย​เช่นเดียวกัน

​นี่​เป็น​คำสั่ง​ทางทหาร​ ​ที่​บังคับใช้​มา​หลาย​วัน​แล้ว​ ​จน​นายทหาร​บางนาย​เริ่ม​สงสัย​ว่า​ตนเอง​ยัง​จะ​พูด​ได้​อยู่​หรือเปล่า

​พล​หมาป่า​หนึ่ง​พัน​สอง​ร้อย​ตน​ลง​จาก​ภูเขา​ไป​ยัง​ด้านล่าง

​สายตา​ผู้นำ​เลื่อน​ลง​ตาม​ ​สุดท้าย​ก็​ตกลง​บน​ทุ่งหญ้า​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ ​ตรง​ขบวน​ขนส่ง​เสบียง​ที่​คดเคี้ยว​ยาว​สิบ​กว่า​ลี้

​รายงาน​ที่​เกี่ยวข้อง​และ​ได้รับ​การ​ยืนยัน​แล้ว​ ​ได้แก่​ ​จำนวน​ทหารม้า​เผ่า​มนุษย์​ ​จำนวน​ผู้​แข็งแกร่ง​ ​ยัง​มีที​่​สำคัญ​สุด​…​จำนวน​เสบียงอาหาร

​เขา​รู้​ว่า​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​เริ่ม​ทำการ​ตอบโต้​แล้ว​ ​เพื่อ​เบี่ยงเบน​ความสนใจ​ของ​ชน​เผ่า​มนุษย์​ ​และ​ต้องการ​รั้ง​กำลัง​ทหารม้า​หลัก​ของ​ฝ่ายตรงข้าม​ไว้​ที่​ใต้​กำแพงเมือง

​ทุกอย่าง​ในการนี้​ ​ล้วน​ต้องการ​สร้างสถานการณ์​ ​เพื่อให้​เขา​เผา​เสบียง​ใน​ขบวน​ขนส่ง​เสบียง​นี้

​ถ้า​เขา​ทำสำเร็จ​ ​กองทัพ​เผ่า​มาร​ที่อยู่​นอกเมือง​เสวี​่ย​เหล่า​จะ​ได้​ถอนกำลัง​กลับ​เมือง​ให้​เร็ว​ที่สุด

​ส่วน​นักรบ​ต่าง​ชน​เผ่า​สอง​แสน​กว่า​คนที​่​อยู่​นอกเมือง​ ​จะ​ถูก​ทอดทิ้ง​อย่าง​ไม่ไยดี

​ตาม​ความเห็น​ของ​เขา​ ​ชน​เผ่า​มาร​ชั้นต่ำ​ที่​มีสติปัญญา​ต่ำต้อย​ก็​ไม่​ต่าง​อะไร​จาก​อสูร​ปีศาจ​ ​ตาย​กี่​ศพ​ก็​ไม่สำคัญ​ ​อย่างไร​ชน​เผ่า​มาร​ชั้นต่ำ​เหล่านั้น​ก็​ไม่มี​ความภักดี​อยู่​แล้ว​ ​สู้รบ​ก็​ไม่มี​ความกล้าหาญ​พอ​ ​ถ้า​ไม่ได้​กิน​ยา

​ถ้า​ไม่ใช่​เพราะ​จำนวน​ยาที​่​เขา​นำ​กลับมา​จาก​พรรค​ฉาง​เซิง​ไม่​เพียงพอ​ ​สงคราม​ใน​ครั้งนี้​ก็​ไม่​ถึงกับ​ต้อง​ยากเย็น​แสนเข็ญ​ถึงขั้น​นี้​หรอก

​ถึง​ตอนนั้น​ ​เว้นเสียแต่​กองทัพ​เผ่า​มนุษย์​จะ​ยอม​กิน​เนื้อ​ชน​เผ่า​มาร​ชั้นต่ำ​เป็น​อาหาร​ ​หาไม่​แล้ว​ต้อง​ถอยทัพ​กลับ​ก่อน​ฤดูหนาว​จะ​มาถึง​แน่

​จาก​ความเข้าใจ​ของ​เขา​ที่​มีต​่​อมนุษย์​ ​ชน​เผ่า​ที่​มัก​เสแสร้ง​และ​ดัดจริต​เป็น​สรณะ​เช่นนี้​ ​ต้อง​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​ไม่ได้​แน่​ ​เช่นนั้น​ ​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ก็​จะ​สู้​ไป​ได้​อีก​ครึ่ง​ปี

​เวลา​ครึ่ง​ปี​เพียงพอ​ที่จะ​เกิดเรื่อง​ขึ้น​มากมาย

​การ​แผ่อำนาจ​ของ​มนุษย์​จะ​พบ​กับ​อุปสรรค​อย่างใหญ่หลวง

​เขา​เข้าใจ​มนุษย์​มาก​จริงๆ​

​เขา​เชื่อ​ว่า​เมื่อถึง​เวลา​ ​ปัญหา​ภายใน​ของ​มนุษย์​ก็​จะ​ค่อยๆ​ ​ปรากฏ​ออกมา​ให้​เห็น

​ดังนั้น

​นี่​คือ​การต่อสู้​ครั้งสุดท้าย

​เขา​คิด​เงียบๆ​ ​ขณะ​มองดู​ขบวนรถ​บน​ทุ่งหญ้า

​ชนะ​แล้ว​ ​เรา​ยัง​ดำรงอยู่​ได้

​แพ้​แล้ว​ ​เรา​ดำรงอยู่​ไม่ได้​อีก

​……

​……

​ผู้นำ​หน้า​ละ​อ่อน​ท่าน​นี้​มีชื่อ​ว่า​ ​เกา​ฮวน​ ​ปีนี​้​มีอายุ​หนึ่ง​พัน​กว่า​ปี​แล้ว

​เมื่อ​เจ็ด​ร้อย​ปีก่อน​ ​เขา​เคย​เป็น​หัวหน้า​อาวุโส​ของ​วุฒิสภา​ชน​เผ่า​มาร

​ตั้งแต่​มีบัน​ทึก​ทาง​ประวัติศาสตร์​ ​เขา​คือ​หัวหน้า​วุฒิสภา​อายุ​น้อยที่สุด​ของ​ชน​เผ่า​มาร

​แต่​ใน​วันที่​เขา​ได้​เป็น​หัวหน้า​ ​กลับ​ถูก​ราชา​มาร​ผู้​แข็งแกร่ง​ท่าน​นั้น​จับ​ไป​ขัง​ไว้​ใน​ขุมนรก

​เขา​ถูก​ขัง​ใน​ขุมนรก​นาน​เจ็ด​ร้อย​ปี

​จนกระทั่ง​ปีนี​้​ ​ถึง​ถูก​ราชา​มารคน​ใหม่​ปล่อยตัว​ออกมา​ ​ ​ ​

​สีหน้า​เขา​ซีด​ขาว​และ​ซูบผอม​ ​แต่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​และ​ยัง​เหมือน​เมื่อ​เจ็ด​ร้อย​ปีก่อน​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​ราวกับ​อายุ​ยังน้อย

​ฝุ่น​ควัน​กลุ่ม​แล้ว​กลุ่ม​เล่า​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ทุ่งหญ้า

​พล​หมาป่า​บุก​จู่โจม​ขบวน​ขนส่ง​เสบียง​

​ห่าง​ออก​ไป​ไกล​ ​เสียง​การฆ่าฟัน​ไม่มีทาง​ดัง​มาถึง​ยอดเขา​ ​ที่นี่​ยังคง​สงบเงียบ​มาก

​เขามอ​งดู​ภาพ​บน​ทุ่งหญ้า​ ​แล้ว​เริ่ม​ครวญเพลง

​เพลง​นี้​เป็น​เพลง​ภาษา​เก่าแก่​ที่สุด​ภาษา​หนึ่ง​ของ​เผ่า​มาร​ ​เสียงร้อง​สูง​ต่ำ​และ​ใส​เย็น​ซ้ำไปซ้ำมา​ไม่​หยุด​ ​ความหมาย​ก็​ง่าย​มาก

​“​เมื่อ​ครั้น​ดวงจันทร์​ยังอยู่​ ​เคย​ส่องแสง​จน​เมฆ​สี​รุ้ง​คืน​กลับ​”

​เสียงร้อง​ค่อยๆ​ ​ต่ำ​ลง​ ​จน​สุดท้าย​ช่วง​หยุด​ ​เห็นชัด​ว่า​มิได้​ร้อง​ถึง​ท่อน​สุดท้าย​จริงๆ

​ขณะ​มองดู​ท้องทุ่ง​รกร้าง​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ ​ใบหน้า​ละ​อ่อน​ของ​เขา​ก็​ปรากฏ​ท่าที​เคร่งขรึม​ ​ใน​ดวงตา​ที่​สะอาด​ปราศจาก​มลทิน​เกิด​จิต​สังหาร​รุนแรง​ขึ้นสาย​หนึ่ง

​ไร้เดียงสา​และ​โหดเหี้ยม​ ​นั่น​ล่ะ​คือ​เขา

​การ​จู่โจม​ของ​พล​หมาป่า​เผ่า​มาร​มิได้​ราบรื่น​อย่างที่​คิด​ ​ประสบ​อุปสรรค​อย่างรวดเร็ว​ ​กระทั่ง​พูด​ได้​ว่า​ลำบาก

​ช่วง​เริ่มต้น​ ​ขบวน​ขนส่ง​เสบียง​ของ​มนุษย์​ไม่​คาดคิด​มาก​่อ​นว​่า​ ​ใน​ยอดเขานั​่​วรื​่อ​หลั่ง​ยัง​มีพล​หมาป่า​มากมาย​ขนาด​นี้​อยู่​ ​จึง​ค่อนข้าง​โกลาหล​ขณะ​ถูก​ลอบ​จู่โจม​ ​ทว่า​ความโกลาหล​นี้​กลับ​สงบ​ลง​อย่างเร็ว​ยิ่ง​

​ขบวน​ที่​ทอด​ยาว​หลาย​สิบ​ลี้​ถูก​แบ่ง​ออก​เป็น​สิบ​กว่า​ส่วน​อย่างรวดเร็ว​ ​หัว​ขบวน​และ​ท้าย​ขบวน​ที่​มี​เกวียน​ขนาดใหญ่​เหล่านั้น​เชื่อมต่อ​กัน​ด้วย​ความเร็ว​สูงสุด​ ​สร้าง​ค่าย​กล​ขบวนรถ​รูป​วงกลม​ ​ทหารม้า​นับ​พัน​นาย​ถูก​แบ่ง​เป็น​สาม​กลุ่ม​ ​ร่วมมือ​กับ​ค่าย​กล​ขบวนรถ​ต้านทาน​การ​จู่โจม​ของ​พล​หมาป่า​ ​ทั้งหมด​นี้​เป็นไป​อย่าง​มีระเบียบ​ ​เยือกเย็น​และ​นิ่ง​มาก

​การ​ที่​กองทัพ​เผ่า​มนุษย์​มีคุณ​ภาพ​เช่นนี้​ ​มิได้​ทำให้​เกา​ฮวน​รู้สึก​ตกใจ​ ​แม้นี​่​จะ​ต่าง​กับ​กองทัพ​ที่​เขา​พบเห็น​ใน​เมืองลั​่ว​หยาง​ตอนนั้น​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​แต่​ถ้า​กองทัพ​เผ่า​มนุษย์​กระทั่ง​เช่นนี้​ยัง​ทำไม​่​ได้​ ​แล้ว​จะ​ทำให้​ทัพ​ใหญ่​เผ่า​เทพ​พ่ายแพ้​ใน​สนามรบ​และ​ถอยทัพ​อย่างต่อเนื่อง​ได้​อย่างไร​กัน​ ​ขนาด​ตอนนี้​ ​แม้แต่​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ก็​ยัง​ถูก​ล้อม​ไว้​แล้ว

​เรื่อง​ที่​ทำให้​เขา​ต้อง​ระวัง​จริงๆ​ ​ก็​คือ​ ​ความเยือกเย็น​ที่​กองทัพ​เผ่า​มนุษย์​แสดงให้เห็น​ตลอด​ทุกขั​้น​ตอน​…​แม้วีร​ชน​ที่​รบ​ชนะ​อยู่​บ่อยๆ​ ​ก็​ยัง​ยาก​จะ​ปลูกฝัง​ให้​มี​จิตใจ​เช่นนี้​ ​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เมื่อ​ถูก​พล​หมาป่า​เผ่า​มาร​หนึ่ง​พัน​กว่า​ตน​โจมตี​ฉับพลัน​…​ความเยือกเย็น​เช่นนี้​คล้าย​มี​การ​เตรียมตัว​ล่วงหน้า

​พล​หมาป่า​เผ่า​มาร​จู่โจม​ใส่​ขบวน​ขนส่ง​เสบียง​อย่าง​คลุ้มคลั่ง​ ​ด้วย​พลัง​ชนิด​ไป​แล้ว​ไม่​หวนคืน​กลับ​ ​ทำให้​แนว​ป้องกัน​ที่​ก่อตัว​ขึ้น​จาก​ทหารม้า​เผ่า​มนุษย์​นับ​พัน​คน​พลัน​ดูเบา​บาง​อยู่​บ้าง​ ​ซึ่ง​ไม่นาน​ก็​สั่นคลอน​ ​จากนั้น​ด้าน​ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ​ได้​ถูก​ทลาย​ลง​ ​สถานการณ์​ใน​สนามรบ​เข้าสู่​ช่วง​รุก​และ​ป้องกัน​อย่าง​นองเลือด​ที่สุด

​ขวาน​ยักษ์​สีดำ​เล่ม​หนักอึ้ง​วาด​ผ่าน​ท้องฟ้า​เงียบๆ​ ​ทำให้​เกวียน​ขน​เสบียง​หัก​เป็น​สอง​ท่อน​ ​ขณะเดียวกัน​ก็​ตัด​ศีรษะ​คนขับ​เกวียน​ไป​คน​หนึ่ง​ ​ศรศักดิ์​สิทธิ์​สิบ​กว่า​ดอก​พุ่ง​ออกจาก​ช่องว่าง​ของ​รถม้า​ด้วย​ความเร็ว​สูง​ ​ทั้งหมด​ตกลง​บน​ทรวงอก​ของ​พลทหาร​เผ่า​มาร​ที่​รูปร่าง​สูงใหญ่​ตน​หนึ่ง​ ​เกิด​เป็น​เปลวไฟ​เทพศักดิ์​สิทธิ์​ ​แผดเผา​จน​ร่าง​เขา​แหลกเหลว​เป็นน้ำ​ตาล​กวน​ก็​มิ​ปาน​ ​กระบวนการ​ทั้งหมด​กลับ​ไร้​ซึ่ง​สุ้มเสียง​ใดๆ

​ทุก​ช่วงเวลา​ล้วน​มี​การตาย​เกิดขึ้น​ ​สี​โลหิต​ต่างกัน​ ​แต่​แฝง​เจตจำนง​คล้าย​กัน​ ​สาด​กระเซ็น​ระหว่าง​ดิน​ฟ้า​ไม่หยุดหย่อน​ ​ใน​ระยะเวลา​อัน​สั้น​ ​ก็​มีพล​หมาป่า​เผ่า​มาร​สาม​ร้อย​ตน​ล้ม​ลง​บน​ทุ่งหญ้า​ชนิด​ลุกขึ้น​มา​ไม่ได้​อีก​ ​ทหารม้า​เผ่า​มนุษย์​กับ​เจ้าหน้าที่​ใน​ขบวน​ขนส่ง​เสบียง​ซึ่ง​มี​จำนวนมาก​ว่า​ก็​หยุด​หายใจ​ไป​เช่นกัน

​เหตุการณ์​ใน​สนามรบ​ที่​โหดร้าย​เช่นนี้​ ​ไม่ได้​ทำให้​ท่าที​ของ​เกา​ฮวน​เปลี่ยนแปลง​แต่อย่างใด

​เขา​ยืน​อยู่​บน​หน้าผา​ภูเขา​ฝั่ง​ตะวันตก​ ​มองดู​ภาพ​บน​ทุ่งหญ้า​ ​และ​รอคอย​อย่าง​เงียบๆ​ ​ใบหน้า​ที่​อ่อนเยาว์​ไร้​ซึ่ง​ความรู้สึก​ใดๆ

​สำหรับ​เขา​แล้ว​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ทหาร​เผ่า​มนุษย์​เหล่านั้น​ ​หรือ​พล​หมาป่า​เผ่า​มาร​ที่​หลบซ่อน​ตัว​ตามคำสั่ง​เขา​อยู่​หลาย​วัน​เหล่านั้น​ ​ล้วนแล้วแต่​เป็น​มด​ปลวก

​เขา​ดู​คล้าย​เด็กหนุ่ม​ ​แต่​ความจริง​ ​แก่​ชรา​มาก​แล้ว

​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ที่​เขา​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​ขุมนรก​ ​โลก​อัน​อุบาทว์​นั่น​มา​เจ็ด​ร้อย​กว่า​ปี​ ​ร่าง​มาร​เริ่ม​เน่าเปื่อย​จาก​อวัยวะภายใน​สุด​ ​จึง​ยืนหยัด​ได้​ไม่นาน​นัก

​พูด​อีก​อย่าง​ก็​คือ​ ​จำนวน​ครั้ง​ใน​การ​ลงมือ​โดย​ใช้​พลัง​ทั้งหมด​มีอยู่​ไม่​มาก​ ​ดังนั้น​เขา​จำเป็นต้อง​รู้​ให้​แน่ชัด​ว่า​ ​ใคร​คือ​เป้าหมาย​ที่​คู่ควร​สุด

​ตอนนี้​เขา​กำลัง​สำรวจ​ดู​ ​คิด​จะ​หา​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​เผ่า​มนุษย์​ ​และ​พวก​ที่ซ่อน​ตัว​อยู่​ใน​รถม้า​ ​ผู้​แข็งแกร่ง​ซึ่ง​จนถึง​ตอนนี้​ก็​ยัง​ไม่ยอม​ลงมือ

​เวลา​ผ่าน​ไป​อย่าง​เชื่องช้า​ ​ดวงอาทิตย์​ค่อยๆ​ ​ลับ​ขอบฟ้า​ตะวันตก​ ​เงา​ของ​ยอดเขา​ค่อยๆ​ ​ทอด​ยาว​ลง​บน​ทุ่งหญ้า​ ​จวนจะ​กลืน​สิ่งมีชีวิต​ที่​กำลัง​ต่อสู้​กัน​อย่าง​ดุเดือด​อยู่​รอมร่อ

​แนว​ป้องกัน​ของ​ขบวน​ขนส่ง​เสบียง​เผ่า​มนุษย์​พังทลาย​ลง​อย่างต่อเนื่อง​ ​เกวียน​ขน​เสบียง​หลาย​เล่ม​ถูก​เผา​ ​มอง​จาก​ระยะไกล​ ​ดู​คล้าย​ประกายไฟ​มากมาย​ ​เพียงแต่​ไม่นาน​ก็​ถูก​ดับ​ลง​ ​ด้าน​ที่​อันตราย​สุด​คือ​ ​ค่าย​กล​ขบวนรถ​รูป​วงกลม​วง​แรก​ทาง​ทิศเหนือ​ ​ที่​กำลังจะ​ถูก​พล​หมาป่า​เผ่า​มาร​ทลาย​ลง​ตรงหน้า​ ​เจ้าหน้าที่​และ​คนขับ​เกวียน​รีบ​วิ่งหนี​ ​เมื่อ​เห็น​ทหารม้า​มารับ​ช่วงต่อ​ ​ดูๆ​ ​ไป​คล้าย​เตรียม​จะ​ละทิ้ง​อยู่

​แต่​พล​หมาป่า​เผ่า​มาร​ก็​มาถึง​ขีดสุด​แล้ว​เช่นกัน​ ​พวกเขา​มา​พร้อม​จิตใจ​ที่​รู้​ว่า​ต้องตาย​ ​แต่​การ​จู่โจม​อย่าง​บ้าคลั่ง​เป็นเวลา​นาน​ขนาด​นี้​ ​ที่สุด​แล้วก็​ทลาย​ได้​แค่​ค่าย​กล​ขบวนรถ​วง​เดียว​ ​แต่​ฝ่ายตรงข้าม​ยัง​มีค่า​ยกล​ขบวนรถ​อีก​สิบ​กว่า​วง​ ​ที่​สำคัญ​คือ​ ​มีส​หาย​และ​พี่น้อง​ล้ม​ลง​บน​ทุ่งหญ้า​มาก​จน​เกินไป​ ​จำนวน​พล​หมาป่า​เหลือ​เพียง​ไม่​ถึง​ครึ่ง

​ขณะที่​ทั้งสองฝ่าย​กำลัง​ยืนหยัด​ไม่ไหว​ใน​สนามรบ​นั้น​ ​ก็​มัก​หมายความว่า​จะ​มี​การเปลี่ยนแปลง​เกิดขึ้น​ ​นี่​คือ​สิ่ง​ที่​สถานการณ์​และ​เจตจำนง​ต้องการ​ ​วันนี้​ก็​ไม่​ละเว้น​

​วันนี้​หมื่น​ลี้​ไร้​เมฆ​ ​ท้องฟ้า​สีคราม​ ​ตอนนี้​ถูก​แสงอาทิตย์​อัสดง​สาดส่อง​จน​แดง​ระเรื่อ​ไป​บ้าง​ ​แล้ว​ด้านใน​พลัน​เกิด​เส้น​สีขาว​สาย​หนึ่ง

​เส้น​สีขาว​สาย​นี้​ตรง​สุด​จะ​เปรียบ​ ​ปลาย​ข้าง​หนึ่ง​อยู่​ใน​หน้าผา​ภูเขา​ฝั่ง​ตะวันตก​ ​ปลาย​อีก​ข้าง​หนึ่ง​อยู่​บน​ทุ่งหญ้า​

​เสียง​ลมแรง​หวีดหวิว​ ​พัด​ต้น​หญ้า​โบกสะบัด​ ​กรวดทราย​ระหว่าง​ต้น​หญ้า​ปลิว​กระจาย​ ​บรรยากาศ​เปลี่ยนเป็น​หนาวเย็น​ขึ้น​มา

​ฝน​พลัน​ตกลง​จาก​ฟากฟ้า​นับ​พัน​หยด​ ​ตกลง​บน​ค่าย​กล​ขบวนรถ​และ​ใบหน้า​ผู้คน​ ​เย็น​เล็กน้อย​ ​แต่​รสชาติ​กลับ​จืด​จน​ทำให้​ผู้คน​งุนงง

​บน​หลังคา​รถ​ปรากฏ​ร่าง​ของ​หนุ่มน้อย​ผู้​หนึ่ง​ตั้งแต่​เมื่อไร​ไม่รู้

​เสื้อผ้า​ของ​เขา​ค่อนข้าง​สกปรก​ ​แต่​เนื้อผ้า​กลับดี​เลิศ​ ​ชุด​เสื้อคลุม​เกราะ​อ่อน​ทอ​จาก​หนาม​แหลม​ส่วน​หาง​ของ​อสูร​กระทิง​ ​นอกเหนือจากนี้​ก็​ไม่มี​เครื่องประดับ​อะไร​อีก​ ​มี​เพียง​อัญมณี​วาววับ​เม็ด​หนึ่ง​ ​ฝัง​อยู่​กลาง​หมวก​เกราะ​ ​แต่กลับ​ไม่​สามารถ​บดบัง​ความสด​ใส​ของ​ใบหน้า​ที่​อ่อนเยาว์​นั้น​ได้

​“​ผู้​แข็งแกร่ง​อาณาเขต​ศักดิ์สิทธิ์​!​”

​เสียง​ตะโกน​อย่าง​ตื่นตระหนก​และ​สิ้นหวัง​ดัง​ขึ้น​…​