ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 118 ทุกคนล้วนมีไฟในใจ

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​ช่วงเวลา​ก่อนหน้านี้​ ​เซียว​จาง​บาดเจ็บสาหัส​สองครั​้ง​ ​ตอน​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​รถ​แล้ว​ลอบสังหาร​คน​ชุด​ดำ​ ​ทำให้​เจ็บ​หนัก​ขึ้น​ ​ส่วน​ครั้งแรก​ก็​ตอน​ขี่​ว่าว​ไล่​ล่า​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​ ​ซึ่ง​ก็​ฝืน​มาก​ ​แต่​ความมุ่งมั่น​และ​การตัดสินใจ​ตอน​แทง​ทวน​ของ​เขา​ไม่​ฝืน​อย่างแน่นอน​ ​เขา​พกพา​พลัง​ชนิด​ไป​แล้ว​ไม่​หวนกลับ​ ​อีกทั้ง​กำลังแรง​อัน​เหี้ยมเกรียม

พรวด ​เสียง​ทึบ​ตัน​ ​เกราะ​ของ​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​ปรากฏ​รู​โลหิต​ขึ้น​หนึ่ง​รู​ ​อัญมณี​วาบ​วับ​แหลก​เป็น​ตะกอน​น้ำแข็ง

​เขา​ส่งเสียง​ร้อง​อย่าง​โกรธแค้น​ ​ก่อน​พลิก​มือขวา​ ​ดาบ​ดุจ​พระจันทร์​เสี้ยว​ ​สับ​ลง​บน​ไหล่​ของ​เซียว​จาง

​เซียว​จาง​ร่วงหล่น​ลง​บน​พื้น​ ​กระดาษ​ขาว​บน​ใบหน้า​ถูก​ย้อม​ด้วย​โลหิต​ ​เสียงหัวเราะ​ที่​หยิ่งผยอง​และ​ภาคภูมิใจ​ดัง​มาจาก​เบื้องล่าง

​เขา​รู้สึก​ว่า​กระดูก​ตลอดทั้ง​ร่างแห​ลก​ละเอียด​ ​เจ็บปวด​มาก​ ​แต่​รู้สึก​สะใจ​มากกว่า

​เขา​มั่นใจ​ว่า​ ​ต่อให้​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​แข็งแกร่ง​เพียงใด​ ​ก็​ไม่มีแรง​ต่อสู้​ได้​อีก​ใน​ระยะเวลา​อัน​สั้น​ ​ที่​สำคัญ​กว่า​ก็​คือ​ ​เขา​ได้​ทำตาม​สัญญา​ที่​ให้​ไว้​กับ​ซาง​สิง​โจว​แล้ว

​เขา​ได้​ส่ง​ภาพ​นี้​ถึง​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​แล้ว

​พล​หมาป่า​บน​ท้องทุ่ง​รกร้าง​พุ่ง​เข้าหา​เซียว​จาง​ ​ใน​จำนวน​นี้​ ​เห็น​ร่าง​ของ​ขุนพล​มาร​ที่สอง​อย่างชัดเจน​ ​ขณะที่​ทุกคน​คิด​ว่า​ ​เซียว​จาง​ต้องตา​ยอย​่าง​แน่นอน​แล้ว​นั้น​ ​แสง​กระบี่​สอง​สาย​พลัน​สว่าง​ขึ้น​อย่าง​เจิด​จรัส​ ​โดย​ไม่มี​ลำดับ​ก่อน​หลัง​ ​จากนั้น​ก็​หลอม​รวม​เข้าด้วยกัน​ ​กลายเป็น​สายรุ้ง​ที่​สวยงาม​สาย​หนึ่ง

​ว่าว​กระแทก​เข้ากับ​ประตูเมือง​ด้านบน​ ​ภาพ​ไฟไหม้​วัด​มหายาน​ตกลง​บน​ประตูเมือง​ ​เมื่อ​ถูก​แสงอาทิตย์​อัสดง​สาดส่อง​ ​ก็​เกิด​การ​เผาไหม้​ขึ้น​ทันที

​เปลวเพลิง​ลุกลาม​ไป​ตาม​ประตูเมือง​ราวกับ​น้ำตก​ ​ดู​ตระการตา​อย่างยิ่ง

​สายรุ้ง​ที่เกิด​จาก​แสง​กระบี่​หลอม​รวมกัน​ ​ได้​ทำให้​ขุนพล​มาร​ที่สอง​กับ​พล​หมาป่า​เหล่านั้น​ถอยร่น​ไป​ ​ขณะเดียวกัน​ก็​ยัง​โหม​กระพือ​น้ำตก​เพลิง​ให้​แรง​ขึ้น

​เปลวเพลิง​ลุกโชน​อยู่​เป็นเวลา​นาน​ ​ใน​ระหว่าง​นี้​เกิด​เสียง​ระเบิด​ขึ้น​สิบ​กว่า​ครั้ง​ ​ไม่ว่า​ทหาร​เผ่า​มาร​จะ​ใช้​วิธี​ใด​ ​ก็​ไม่​สามารถ​ดับไฟ​ลง​ได้

​จาก​ตก​เย็น​เป็น​ค่ำมืด​ ​ไฟ​ยังคง​ลุกไหม้​ประตูเมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ ​ดูๆ​ ​ไป​เหมือน​กำแพง​ไฟ​ขนาดใหญ่​สุด​จะ​เปรียบ

​ค่ำคืน​นี้​ ​หลาย​ชีวิต​ไม่มีทาง​หลับ​ลง​ ​พลทหาร​เผ่า​มาร​ที่​หลบหนี​ ​หรือ​พลทหาร​เผ่า​มนุษย์​ที่​ทำหน้าที่​ไล่​ล่า​ย่อม​ไม่​สามารถ​นอนหลับ​ ​ผู้คน​ทั้ง​ด้านใน​และ​ด้านนอก​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ล้วน​ไม่มีทาง​หลับสนิท

​ท่าน​ปู่​ถัง​กับ​ซาง​สิง​โจว​ยืน​อยู่​บน​เนิน​ของ​ภูเขา​ลูก​เล็ก​ ​มองดู​กำแพง​ไฟ​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ ​มองดู​ได้​ตลอดทั้ง​คืน​ ​ราวกับ​เป็น​ภาพ​ที่​น่าดู​ที่สุด​ใน​โลก

​พวกเขา​อาจ​กำลัง​คิดถึงลั​่ว​หยาง​ขณะ​ถูก​ล้อม​ ​คิดถึง​วัด​มหายาน​ที่​ถูก​เผา​เป็น​เถ้าถ่าน​ใน​คืน​นั้น​ ​หรือ​พวก

เขา​อาจ​ไม่ได้​คิด​อะไร​เลย​

​……

​……

​ช่วง​รุ่งเช้า​ ​ในที่สุด​เปลวไฟ​ก็​ค่อยๆ​ ​ดับ​ลง

​ประตูเมือง​ถูก​ไฟไหม้​จน​เหลือ​แต่​กรอบ​ ​คล้าย​ยัง​เห็น​เค้าโครง​เดิม​อยู่​บ้าง​ ​แต่​ส่วนใหญ่​กลายเป็น​เถ้าถ่าน​ไป​แล้ว​จริงๆ​ ​ไม่​สามารถ​ใช้​กั้น​ขวาง​ศัตรู​ได้​อีก

​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​ภาพ​ไฟไหม้​วัด​มหายาน​ซ่อน​ความลับ​อะไร​ไว้​กัน​แน่​ ​เหตุใด​ถึง​ได้​ไหม้​รุนแรง​เช่นนั้น​ ​เพียง​คลับคล้าย​เดา​ได้​ว่า​ ​น่าจะ​เกี่ยวข้อง​กับ​บ้าน​สกุล​ถัง

​กลศึก​ทั้งหมด​น่าจะ​มาจาก​ซาง​สิง​โจว​ ​หรือไม่ก็​มี​วิธีการ​ของ​หวัง​จือ​เช่​อร​่ว​มด​้วย

​ตอนที่​ท่าน​คิด​ทำ​เรื่อง​หนึ่ง​ ​หลังจาก​คิด​มา​หลาย​ร้อย​ปี​เต็มๆ​ ​เช่นนั้น​วิธีการ​ที่​ท่าน​นำเสนอ​ ​ต้อง​น่ากลัว​มาก​แน่ๆ​

​นี่​จึง​เป็นสาเหตุ​ที่​ช่วงแรก​ตอน​อยู่​ใน​เมือง​เวิ​่น​สุ่ย​ ​พอ​เห็น​ถนน​อัน​ไร้​ซึ่ง​ผู้คน​กับ​สุนัข​ตัว​นั้น​ ​เหตุใด​เฉิน​ฉาง​เซิง​ถึง​ต้อง​นำเสนอ​บทสรุป​เช่นนั้น​

​เหล่า​ผู้อาวุโส​น่ากลัว​จริงๆ

​……

​……

​อุปสรรค​ขัดขวาง​การ​เข้า​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ได้​หาย​ไป​แล้ว​ ​เช้า​วันรุ่งขึ้น​กองทัพ​เผ่า​มนุษย์​กลับ​ไม่ได้​ฉวยโอกาส​บุกเข้าไป​ใน​เมือง​ ​เพียงแต่​ปรับ​เครื่อง​ยิง​หิน​กับ​เครื่อง​ยิง​ลูกธนู​ทั้งหมด​ให้​หันมา​ทาง​ประตูเมือง​บาน​ที่​หาย​ไป​แล้ว​นั่น​ ​ก่อน​ยิง​หิน​กับ​ลูกธนู​เป็นระยะ​ ​ยับยั้ง​การ​ซ่อม​ประตูเมือง​ของ​ทหาร​รักษาการณ์​เผ่า​มาร

​กองทัพ​มนุษย์​ก็​บาดเจ็บ​ล้มตาย​กัน​สาหัส​ใช่​ย่อย​ ​เซียว​จาง​ยังคง​สลบไสล​ไม่​ฟื้น​ ​กระทั่ง​เฉิน​ฉาง​เซิง​กับ​สวี​โหย​่ว​หร​งก​็​ล้วน​บาดเจ็บ​ ​ใน​ช่วงเวลา​อัน​สั้น​ไม่​สามารถ​ใช้กำลัง​ทั้งหมด​เข้า​ต่อสู้​ ​จำเป็นต้อง​พัก​รักษาตัว​ระยะ​หนึ่ง​ ​อีกทั้ง​เผ่า​ปีศาจ​สอง​กองหนุน​ที่​เดินทางไกล​มา​ ​ก็​ต้องการ​เวลา​พัก​หายใจ​ด้วย​เช่นกัน

​ใน​กระโจม​บัญชาการ​กลาง​ของ​ค่าย​ใหญ่​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ได้​ให้การ​ต้อนรับ​แกนนำ​หลัก​ของกอง​หนุน​เผ่า​ปีศาจ​ ​ค่อย​พบ​ว่า​ล้วน​เป็น​คนคุ้นเคย​…​แกนนำ​หลัก​ผู้สั่งการ​กองหนุน​เผ่า​ปีศาจ​กอง​หนึ่ง​เป็น​หัวหน้า​เผ่า​ซื่อ​ ​เสี่ยว​เต​๋​อก​็​คือ​กำลัง​หลัก​ที่​สำคัญ​สุด​ใน​การ​รบ​ ​ส่วน​แกนนำ​หลัก​ของกอง​หนุน​เผ่า​ปีศาจ​อีก​กอง​ก็​คือ​หัวหน้า​เผ่าส​ยง​ ​แต่​ไม่เห็น​เงา​ของ​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้อ​ ​ซึ่ง​ทำให้​เขา​รู้สึก​แปลกใจ​อยู่​บ้าง

​บ่าย​วันนั้น​ ​รายงาน​ที่​มี​รายละเอียด​เพิ่มเติม​ได้​ถูก​ส่ง​เข้ามา​ใน​กระโจม​ ​หลังจาก​มุข​นายก​ใหญ่​อัน​หลิน​อ่าน​จบ​ก็​เงียบ​ไป​สักพัก​ ​แล้ว​ว่า​ ​“​เผ่า​เห​รินส​ยง​จะ​ถูก​ล้างบาง​”

​เนื่องจาก​ต้องการ​แบ่ง​เขต​กับ​เผ่าส​ยง​แห่ง​ลุ่มน้ำ​แดง​ ​ชน​เผ่าส​ยง​บน​ทุ่ง​หิมะ​จึง​มัก​ถูก​เรียกว่า​เผ่า​เห​รินส​ยง​ ​ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​มี​เชื้อสาย​ผสม​มาก​จน​เกินไป​ ​หรือ​ทำการค้า​มานาน​หลาย​ปี​ ​เผ่า​เห​รินส​ยง​ถึง​ได้​ปรากฏ​สายลับ​ขึ้น​มากมาย​ ​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ ​ตอน​เฉิน​ฉาง​เซิง​ติดตาม​ซู​หลีก​ลับ​ใต้​ ​และ​ครั้งนี้​เซียว​จาง​กลับมา​ ​ก็​ล้วน​เคย​ถูก​สายลับ​ของ​เผ่า​เห​รินส​ยง​หักหลัง​มา​แล้ว

​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ราชวงศ์​ต้า​โจว​หรือ​เมือง​ไป๋​ตี้​ ​เผ่า​เห​รินส​ยง​ล้วน​เกลียด​เข้ากระดูกดำ​ ​ช่วงแรก​ถ้า​ไม่ใช่​เพราะ

ต้องการ​เข้าใจ​ความเคลื่อนไหว​ของ​เผ่า​มาร​ผ่าน​ชน​เผ่า​เห​รินส​ยง​ ​ก็​อาจ​ลงมือ​กับ​พวกเขา​ไป​นาน​แล้ว​ ​แต่​ตอนนี้

สถานการณ์​สงคราม​ทั้งหมด​มี​ความแน่นอน​แล้ว​ ​เผ่า​เห​รินส​ยง​ย่อม​ไม่มี​จุดจบ​ที่​ดีนัก

​เฉิน​ฉาง​เซิง​เข้าใจ​ที่​มุข​นายก​ใหญ่​อัน​หลิน​ค่อนข้าง​ทนไม่ไหว​ ​อยาก​ขอให้​ตนเอง​ยกโทษให้​ ​แต่​เขา​คิด​ๆ​ ​ดู​ ​ก็​ไม่ได้​รับคำ

​เนื่องจาก​เขา​เงียบ​ ​มุข​นายก​ใหญ่​อัน​หลิน​จึง​ทอดถอนใจ​ ​แล้ว​พูด​อีกว่า​ ​“​หัวหน้า​เผ่า​หมาป่า​กับ​ผู้อาวุโส​อยาก​พบ​ท่าน​ ​แต่​พวกเขา​ชื่อ​ชั้น​ไม่พอ​”

​สงคราม​ใน​ครั้งนี้​ ​กองทัพ​ใหญ่​เผ่า​ปีศาจ​มีผล​งาน​โดดเด่น​สุด​ ​ผลงาน​ที่​ดีที​่​สุด​มิได้​มาจาก​เผ่า​ซื่อ​ที่​ได้รับ​ฉายา​ว่า​อาจหาญ​และ​ทรงพลัง​ ​และ​มิได้​มาจาก​เผ่าส​ยง​ที่​ขึ้นชื่อว่า​ชอบ​การต่อสู้​ที่​รุนแรง​ ​แต่​มาจาก​ชน​เผ่า​หมาป่า​ที่​เงียบ​มาต​ลอด​และ​ไม่​ค่อย​ได้​สู้ตาย​ใน​สนามรบ

​โดยเฉพาะ​เมื่อ​ครึ่ง​เดือนก่อน​ ​เผ่า​หมาป่า​รับหน้าที่​ซุ่ม​โจมตี​กองหนุน​เผ่า​มาร​จาก​เมือง​เล่อลั​่ง​ ​แต่​แล้วก็​ต้อง​พบ​กับ​พล​หมาป่า​หนึ่ง​พัน​ตน​ ​การ​รบ​ดำเนิน​ไป​อย่าง​ดุเดือดเลือดพล่าน​ ​ถ้า​ไม่ใช่​เพราะ​เผ่า​หมาป่า​สู้ตาย​ ​จ่าย​ค่าตอบแทน​อย่างหนัก​ด้วย​การทำลายล้าง​พล​หมาป่า​กอง​นี้​ทั้งหมด​ ​ฝ่ายตรงข้าม​ก็​จะ​ฝ่า​วงล้อม​ออกมา​ได้​ ​ทำให้​เผ่า​มาร​เริ่ม​ระวัง​การ​มีอยู่​ของกอง​หนุน​เผ่า​ปีศาจ​

​แม้ว่า​ตาม​คำขอ​ของ​เจ๋อ​ซิ่ว​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ได้​ทำการ​แบ่ง​ทุ่งหญ้า​ส่วนหนึ่ง​ของ​เผ่า​จิตวิญญาณ​พรสวรรค์​ให้​กับ​เผ่า​หมาป่า​แล้ว​ ​แต่​ทุกครั้ง​เมื่อ​นึกถึง​ภาพ​ใน​วัยเด็ก​ของ​เจ๋อ​ซิ่ว​ ​ที่​ถูก​เหล่า​ผู้อาวุโส​เผ่า​หมาป่า​ไล่ออก​จาก​เผ่า​ ​แล้ว​เร่ร่อน​ไป​ทั่ว​ทุ่ง​หิมะ​ท่ามกลาง​พายุ​อย่าง​น่าสงสาร​ ​เขา​ก็​จะ​รู้สึก​โกรธเคือง​เผ่า​หมาป่า​อยู่​บ้าง​ ​โดยเฉพาะ​บุคคล​ชั้นสูง​เหล่านั้น

​วันนี้​เห็นแก่​ผลงาน​ทางทหาร​ของ​เผ่า​หมาป่า​ ​เขา​จึง​ตกลง​ที่จะ​ให้การ​ต้อนรับ​หัวหน้า​เผ่า​หมาป่า​กับ​ผู้อาวุโส​ ​แต่​ไม่ได้​เผื่อ​เวลา​ให้​มาก​นัก

​ครั้น​หัวหน้า​เผ่า​หมาป่า​กับ​ผู้อาวุโส​ก้าว​เข้ามา​ใน​กระโจม​ ​ก็​คุกเข่า​ลง​ทั้งที่​ยัง​ไม่ทัน​พูดจา​กัน​ ​เห็นชัด​ว่า​ภักดี​อย่าง​หาที่เปรียบมิได้

​พอ​พวกเขา​เงยหน้า​ขึ้น​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ก็​ตะลึงงัน​ ​ไม่​เพียง​เป็น​เพราะ​แววตา​ของ​ฝ่ายตรงข้าม​จริงใจ​ยิ่ง​ ​ยัง​เป็น​เพราะ​ฝ่ายตรงข้าม​อายุ​น้อยมาก​ด้วย

​เหตุใด​หัวหน้า​เผ่า​หมาป่า​กับ​ผู้อาวุโส​ถึง​ได้​เยาว์วัย​เช่นนี้

​แล้ว​ความชื่นชอบ​และ​ความเคารพ​จาก​ใจจริง​นั่น​มาจาก​ไหน​อีก​ ​หรือ​เพราะ​พวกเขา​รู้​ว่า​เผ่า​หมาป่า​ใน​ตอนนี้​มีทุ​่ง​หญ้า​เป็น​ของ​ตัวเอง​แล้ว​ ​และ​เฉิน​ฉาง​เซิง​เป็น​ผู้​มอบให้

​เฉิน​ฉาง​เซิง​สำรวจ​มอง​หัวหน้า​เผ่า​และ​ผู้อาวุโส​ ​ดูการ​แต่งกาย​ของ​พวกเขา​ ​ทันใดนั้น​ก็​เข้าใจ​คำตอบ​ของ​คำถาม​เหล่านี้

​อากาศ​ต้น​ฤดูใบไม้ผลิ​ของ​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​เริ่ม​เย็น​แล้ว​ ​แต่​เสื้อผ้า​ที่​หัวหน้า​เผ่า​หมาป่า​กับ​ผู้อาวุโส​สวมใส่​อยู่​กลับ​บาง​มาก​ ​โดยเฉพาะ​แขน​เสื้อ​กับ​ขากาง​เกง​ ​ล้วน​ถูก​ตัด​จน​สั้น​มาก

​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ ​ตอนที่​เฉิน​ฉาง​เซิง​พบ​เจ๋อ​ซิ่ว​เป็นครั้งแรก​ท่ามกลาง​แสงอาทิตย์​ใน​ยามเช้า​นอก​พระราชวัง​หลี​นั้น​ ​ก็​มี​ลักษณะ​เช่นนี้

​ตอนนี้​เขา​เพิ่ง​เข้าใจ​ว่า​ ​เจ๋อ​ซิ่ว​มีอิทธิพล​ต่อ​เผ่า​หมาป่า​เช่นไร

​เผ่า​หมาป่า​ใน​ตอนนี้​ ​อาจมี​เจ๋อ​ซิ่ว​นับไม่ถ้วน​ ​มิน่าเล่า​ถึง​ได้​แข็งแกร่ง​ถึง​เพียงนี้

​ที่​หัวหน้า​เผ่า​หมาป่า​และ​ผู้อาวุโส​อายุ​น้อย​เช่นนี้​ ​ย่อม​เข้าใจ​ได้​ว่า​ ​พวกเขา​ล้วน​เป็น​ผู้ติดตาม​ของ​เจ๋อ​ซิ่ว

​การ​ที่​พวกเขา​ประสบความสำเร็จ​และ​ได้​เลื่อนตำแหน่ง​ ​บ่งบอกถึง​การต่อสู้​นับ​ครั้ง​ไม่​ถ้วน​และ​การ​ล้างไพ่​อย่าง​เยือกเย็น

​ใน​กระบวนการ​นี้​ ​ไม่รู้​มี​ผู้อาวุโส​เผ่า​หมาป่า​ตาย​ไปมาก​น้อย​เท่าใด​ ​หรือไม่ก็​ถูก​บังคับ​ให้​สละ​อำนาจ

​แต่​ตอนนี้​ ​เจ๋อ​ซิ่ว​อยู่​ที่ไหน​อีก​เล่า

​……

​……

​ทั่วทุก​ที่​ล้วน​มี​แต่​ข่าวดี

​ไม่ว่า​จะ​เป็นข่าว​กองหนุน​เผ่า​ปีศาจ​ ​หรือ​กองทัพ​สอง​เส้นทาง​กำลัง​ขยับ​เข้าใกล้​ทางใต้​ของ​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ ​อีกทั้ง​กองทหาร​ม้า​ที่สาม​ ​กำลัง​เสริม​ที่​เพิ่ง​มาจาก​ทางใต้​ ​ล้วน​ได้รับ​ชัยชนะ​อย่างต่อเนื่อง​ ​เมือง​ของ​ชน​เผ่า​มารถู​กตี​แตก​ติดต่อกัน​ ​ชน​เผ่า​มากมาย​แอบ​ส่ง​คน​มาติด​ต่อ​กับ​กองทัพ​เผ่า​มนุษย์​ ​ถาม​ว่า​ถ้า​จะ​ขอ​ยอมแพ้​ต้อง​ทำ​อย่างไร

​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ถูก​ทิ้ง​โดดเดี่ยว​ ​ไม่ได้​รับ​ความช่วยเหลือ​จาก​โลก​ภายนอก​ ​กองทัพ​เผ่า​มนุษย์​เรียก​รวมพล​ใต้​กำแพงเมือง​ ​เตรียม​โจมตี​เมือง​ ​แต่​ไม่มี​ทีท่า​ว่า​จะ​ล้อม​เมือง​ ​และ​ไม่ได้​ใส่ใจ​ประตูเมือง​หลาย​บาน​ทาง​ทิศเหนือ​มาก​นัก​ ​เพราะ​ชน​เผ่า​มนุษย์​ไม่มี​กำลัง​พลมาก​ขนาด​นั้น​ ​ขณะเดียวกัน​ก็​หวัง​ว่า​จะ​หยิบยืม​โอกาส​นี้​ ​ลด​เจตนารมณ์​ที่จะ​รบ​ครั้งสุดท้าย​ของ​ชน​เผ่า​มาร​ลง

​ตาม​รายงาน​ของกอง​ลาดตระเวน​ ​ชน​เผ่า​มาร​ที่​หนี​ออก​นอกเมือง​ทาง​ประตู​ด้าน​ทิศเหนือ​มี​จำนวน​ไม่​มาก​ ​และ​ไม่มี​กองทัพ​ทหาร​ ​ดู​ไป​แล้ว​ ​เผ่า​มาร​กำลัง​เตรียม​ที่จะ​รบ​ครั้งสุดท้าย​ใน​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​

​ไม่มีใคร​อยาก​เห็นภาพ​เช่นนี้​ ​แต่​ก็​ไม่มีใคร​วิตกกังวล​ ​เพราะ​ทุกคน​ต่าง​ชัดเจน​ดี​ว่า​ ​ชน​เผ่า​มนุษย์​ชนะ​แน่

​การ​ล่มสลาย​ของ​ราชวงศ์​หนึ่ง​กำลังจะ​เกิดขึ้น​ตรงหน้า​ ​การ​สิ้นสุด​ประวัติศาสตร์​ช่วง​หนึ่ง​กำลัง​อยู่​ไม่​ไกล

​ชน​เผ่า​มาร​เคย​ปกครอง​โลก​ใบ​นี้​ ​พวกเขา​เป็น​ดั่ง​เทพเจ้า​ใน​สายตา​ชน​เผ่า​อื่นๆ​ ​สูงส่ง​ตลอดกาล​ ​มี​ภูมิปัญญา​และ​อารยธรรม​เหนือ​จินตนาการ​ ​แต่​แล้ว​ตอนนี้​ ​พวกเขา​กลับ​ค่อยๆ​ ​ตกต่ำ​ลง​ ​กระทั่ง​ดำ​ดิ่ง​สู่​หุบเหว​ลึก​ ​จน​ไม่​สามารถ​ปีน​ขึ้น​มาจาก​ก้น​เหว​ได้​ตลอดไป

​ยัง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ตัว​เผ่า​มาร​เอง​ ​แม้แต่​ศัตรู​ของ​พวกเขา​…​ใน​เผ่า​มนุษย์​และ​เผ่า​ปีศาจ​ ​มี​ผู้นำ​หลาย​คน​คิด​ไม่​ตกว่า​นี่​เป็น​เพราะ​เหตุ​อัน​ใด​ ​เกิด​ความรู้สึก​เศร้าสลด​นิดๆ​ ​ว่า​ ​อารยธรรม​ที่​พัฒนา​จาก​การสั่งสม​ภูมิหลัง​อัน​ลึกซึ้ง​มายา​วนาน​หลาย​ปีนับ​ไม่​ถ้วน​ ​หรือ​จะ​จบ​ลง​อย่างกะทันหัน​เช่นนี้

​ก็​คล้าย​กับ​ประตูเมือง​เสวี​่ย​เหล่า​บาน​นั้น​ ​ดูเหมือน​จะ​อยู่​ได้​อีก​หลาย​หมื่น​ปี​โดย​ไม่​ผุพัง​ ​แต่​แล้วก็​ถูก​ไฟ​เผา​วอดวาย​กลายเป็น​เถ้า​ธุลี

​“​มัก​ถูก​ลม​ฝน​พัดพา​ไป​”

​สวี​โหย​่ว​หรง​ยืน​อยู่​บน​เนิน​หญ้า​ ​แขน​ซ้าย​ที่​บาดเจ็บ​พัน​ผ้า​ขาว​ไว้​ ​สีหน้า​อิดโรย​อยู่​บ้าง​ ​แต่​ใจ​สงบนิ่ง​มาก

​“​อารยธรรม​ที่​พ่ายแพ้​ความป่าเถื่อน​มีตั​วอ​ย่าง​ให้​เห็น​มากมาย​ ​แต่​เรา​เป็น​ผู้​มี​อารยธรรม​ ​ปัญหา​ของ​เผ่า​มาร​จึง​อยู่​ที่​ตัว​พวกเขา​เอง​ไม่เหมาะสม​กับ​ยุคสมัย​นี้​แล้ว​ ​จึง​ยาก​เกิน​เยียวยา​”

​เกิด​ช่องว่าง​ขนาดใหญ่​ระหว่าง​ชน​เผ่า​มาร​ชั้นสูง​กับ​ชน​เผ่า​มาร​ชั้นล่าง​ใน​การ​เลือก​ปฏิบัติ​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ผู้​ที่​มี​ภูมิปัญญา​อัน​เกิด​จาก​พรสวรรค์​หรือ​พร​แสวง​ ​ทว่า​ในแง่​ของ​การสืบพันธุ์​แล้ว​ ​ผู้​ที่​มี​เชื้อสาย​ของ​ชน​เผ่า​มาร​ชั้นล่าง​มีบทบาท​ที่​ขาดไม่ได้​ใน​สังคม​ ​ความจริง​ของ​ความรู้สึก​แบ่งแยก​และ​ไม่​สามารถ​แยก​ออกจาก​กันได​้​ ​ย่อม​นำไปสู่​สังคม​ชน​เผ่า​มาร​ที่​ผิดรูป​มากขึ้น

​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ ​นักวิชาการ​ทง​กู่​ซือ​ก็​ตระหนักถึง​ปัญหา​นี้​แล้ว​ ​หลังจาก​ครุ่นคิด​อยู่นาน​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ก็​ฝาก​ความหวัง​ไว้​กับ​มนุษย์​ ​เพราะ​ตาม​ความเห็น​ของ​เขา​แล้ว​ ​มนุษย์​กับ​ชน​เผ่า​มาร​ชั้นสูง​มี​รูปลักษณ์​ที่​คล้ายคลึง​กัน​ ​ที่​สำคัญ​คือ​ ​มีระดับ​ภูมิปัญญา​ที่​ใกล้เคียง​กัน​ ​และ​จาก​ความคิด​พื้นฐาน​เช่นนี้​ ​ทำให้​เขา​กับ​สังฆราช​ท่าน​นั้น​ร่วมมือ​กัน​ดำเนินงาน​โครงการ​หนึ่ง​ ​ในที่สุด​ก็ได้​สรร​สร้าง​วิถีชีวิต​ใหม่​เฉกเช่น​เดียว​กับ​คน​บรรพต​ทั้ง​แปด​ออกมา​ ​แต่​ที่​น่าเสียดาย​ก็​คือ​ ​ความคิด​ของ​เขา​ ​สุดท้าย​ก็​ไม่​สามารถ​ทำให้​เป็นจริง​ได้

​เฉิน​ฉาง​เซิง​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​นาง​ ​แต่​ยังคง​เศร้าใจ​อยู่​บ้าง

​ในเวลานี้​ ​มี​คน​มากมาย​ใน​ค่ายทหาร​รอบ​ๆ​ ​แหงนหน้า​มอง​ท้องฟ้า​

​เสียงร้อง​ดัง​ของ​เหยี่ยว​ ​เส้นสาย​หลาย​เส้น​ปรากฏ​ ​เหยี่ยว​แดง​และ​อินทรี​แดง​สิบ​กว่า​ตัว​บิน​มาจาก​ทางใต้

​เกิดเรื่อง​ใหญ่​อะไร​ขึ้น​ ​เหยี่ยว​แดง​และ​อินทรี​แดง​ถึง​ได้​บิน​ออกมา​มากมาย​เช่นนี้

​ผู้คน​มีท​่า​ที​เคร่งขรึม​และ​เครียด​อยู่​บ้าง

​เหยี่ยว​แดง​และ​อินทรี​แดง​นำ​ข่าว​ที่​น่า​ตกใจ​ข่าว​หนึ่ง​มา

​เซียง​อ๋อง​ก่อ​กบฏ​แล้ว