ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 121 พบเรื่องน่าหนักใจตอนเข้าเมือง

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​กองทัพ​ใหญ่​เผ่า​มนุษย์​จำนวน​หลาย​แสน​คน​มุ่งหน้า​สู่​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ ​พวกเขา​เดิน​ได้​เงียบ​มาก​ ​มิได้​ส่งเสียง​ดัง​จน​เกินไป​ ​แต่​ก็​ไม่มี​บรรยากาศ​อื่นใด​ ​เพียงแต่​สงบนิ่ง

​ดู​ไป​แล้ว​ ​นี่​ไม่​เหมือน​การ​เดินทัพ​ของ​ผู้ชนะ​ ​เหมือน​นัก​พเนจร​เดิน​กลับบ้าน​มากกว่า​ ​เป็น​ภาพ​ที่​ค่อนข้าง​แปลกตา​จริงๆ

​ผู้​ที่​ได้รับ​เกียรติ​ให้​เข้า​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​เป็น​คน​แรก​คือ​ ​กวน​เฟย​ไป๋

​พรรค​กระบี่​หลี​ซาน​มีบทบาท​สำคัญ​ยิ่ง​ใน​การ​รบ​ครั้งนี้​ ​สร้าง​ผลงาน​ไว้​นับไม่ถ้วน​ ​ขณะเดียวกัน​ก็​มีลูก​ศิษย์​บาดเจ็บ​ล้มตาย​เป็น​จำนวนมาก

​แน่นอน​ ​นี่​ก็​เสี่ยงอันตราย​เช่นเดียวกัน​ ​ใน​ประตูเมือง​อาจมี​การ​ซุ่ม​โจมตี​ ​มีพล​หมาป่า​ที่​ตาแดง​อยู่​แต่แรก

​กวน​เฟย​ไป๋​ถือ​กระบี่​ ​เดิน​ไป​ที่​ประตูเมือง

​ประตูเมือง​ที่​ถูก​ภาพ​ไฟไหม้​วัด​มหายาน​ทำลาย​นั้น​ ​ตอนนี้​เหลือ​แต่​กรอบประตู​บางส่วน​ ​บวก​กับ​หลาย​วัน​มานี​้​ถูก​เครื่อง​ยิง​ก้อนหิน​สร้าง​ความเสียหาย​ให้​ไม่หยุดหย่อน​ ​จึง​แตกหัก​มากขึ้น

​กวน​เฟย​ไป๋​ก้าว​เข้าไป​แล้ว

​ทุกอย่าง​ล้วน​ได้​ดั่ง​ใจ​อะไร​จะ​ขนาด​นั้น

​ไม่มี​การ​ลอบ​จู่โจม​ ​ไม่มี​การ​ซุ่ม​จู่โจม​ ​ไม่มี​การต่อสู้

​เขา​ยืน​อยู่​ใน​ประตูเมือง​ที่ว่างเปล่า​ ​ค่อยๆ​ ​หัน​มอง​ไปมา​ ​คล้าย​คาดไม่ถึง​อยู่​บ้าง

​จากนั้น​ ​ก็​หันกลับ​มา​ ​โบกมือ​ให้​ทุ่งหญ้า​ที่อยู่​ด้านหลัง

​เสียง​ตะโกน​โห่ร้อง​ดังก้อง​ขึ้น​ฟ้า​

​เสียง​กีบ​ม้า​ดุจ​สายฟ้า​ฟาด​ ​ทหารม้า​เข้ามา​ใน​เมือง​ตามลำดับ

​เสลี่ยง​บิน​ค่อยๆ​ ​บินขึ้น​ไป​บน​กำแพงเมือง​ ​ภายใต้​การคุ​้ม​ครอง​ของ​นก​อินทรี​แดง​

​พริบตา​ที่​เข้า​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ ​ผู้คน​มากมาย​รวมทั้ง​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​ล้วน​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หันหลัง​กลับ​ ​แล้ว​มอง​ไป​ทางทิศใต้

​เมืองหลวง​ตอนนี้​เป็น​อย่างไร​แล้ว

​……

​……

​“​ข้า​ไม่เคย​เห็น​ใคร​ไร้ยางอาย​เช่นนี้​มาก​่อน​!​”

​หลู​หลิง​อ๋อง​จ้องมอง​ใบหน้า​สี่เหลี่ยม​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ ​ชาย​ผู้​มีบา​รมี​โดยธรรมชาติ​ ​พูด​อย่าง​ขึงขัง​ ​“​หลาน​ของ​ตัวเอง​ ​ก็​ยัง​จะ​กบฏ​ ​ใน​สมอง​ของ​เขา​กำลัง​คิด​อะไร​กัน​แน่​”

​เฉิงจ​วิ​้​นอ​๋​อง​มองตาม​สายตา​เขา​ไป​ ​พบ​ว่า​เป็น​เทียน​ไห่​เฉิง​อู่​ ​จึง​ยิ้ม​ขมขื่น​ ​“​จิ้ง​จอง​เฒ่า​นั่น​หัวไว​กว่า​ใคร​ ​ไม่น่า​จะ​ยืน​ผิด​ฝั่ง​”

​ครั้งนี้​ที่​เซียง​อ๋อง​ชู​ธง​ต่อต้าน​ ​ไม่มีใคร​คาดคิด​มาก​่อน​ ​ใน​สิบ​กว่า​ปี​มานี​้​สกุล​เทียน​ไห่​ซึ่ง​ระแวดระวัง​และ​เงียบ​มาต​ลอด​ ​กลับเป็น​คน​แรก​ที่​กระโดด​ออกมา​สนองตอบ

​หลาย​คน​คิด​แล้วก็​ไม่เข้าใจ​เช่นเดียวกับ​หลู​หลิง​อ๋อง​ ​ต้อง​รู้​ว่า​เลือด​ใน​กาย​ของ​องค์​จักรพรรดิ​เป็น​เลือด​ของ​สกุล​เทียน​ไห่

​เฉิงจ​วิ​้​นอ​๋​อง​มองดู​ท่าที​ของ​หลู​หลิง​อ๋อง​ ​พบ​ว่า​เขา​ยังคง​คิด​ไม่เข้าใจ​ ​จึง​ต้อง​ทน​อธิบาย​ ​“​เมื่อ​ปี​ที่แล้ว​ ​ฝ่า​บาท​ไป​สวน​ร้อย​หญ้า​สาม​ครั้ง​”

​หลู​หลิง​อ๋อง​อึ้ง​เล็กน้อย​ ​“​แล้ว​อย่างไร​”

​เฉิงจ​วิ​้​นอ​๋​อง​กด​เสียง​ให้​ต่ำ​ลง​ ​“​มี​ข่าวลือ​มาต​ลอด​ว่า​ ​ตอนแรก​ท่าน​สังฆราช​ฝัง​พระศพ​ของ​จักรพรรดินี​ศักดิ์สิทธิ์​ไว้​ใน​สวน​ร้อย​หญ้า​”

​ในที่สุด​หลู​หลิง​อ๋อง​ก็​เข้าใจ​ ​จึง​สูด​อากาศ​เย็น​เข้า​ปากคำ​หนึ่ง​ ​แล้ว​ว่า​ ​“​เป็นไปได้​หรือ​ที่​ฝ่า​บาท​ยังคง​เตรียม​ที่จะ​พลิก​คดี​จริงๆ​”

​เฉิงจ​วิ​้​นอ​๋​อง​สั่น​ศีรษะ​ ​“​ฝ่า​บาท​กับ​ท่าน​นักพรต​เป็น​ศิษย์​อาจารย์​ที่รัก​กัน​มาก​ ​น่าจะ​ไม่​เป็น​เช่นนั้น​ ​แต่​อย่างไร​เหนียง​เหนียง​ก็​เป็น​พระมารดา​แท้ๆ​ ​ไป​สักการะ​ที่​สวน​ร้อย​หญ้า​ ​ใคร​ก็​พูด​อะไร​ไม่ได้​ ​เพียงแต่​ห่วง​ว่า​ ​ความรู้สึก​ที่​ทรง​มีต​่อ​เหนียง​เหนียง​จะ​ลึกซึ้ง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​เช่นนั้น​ก็​เป็นปัญหา​แล้ว​”

​จักรพรรดินี​ศักดิ์สิทธิ์​เทียน​ไห่​สวรรคต​ไป​สิบ​กว่า​ปี​แล้ว​ ​ซึ่ง​ก่อนหน้านี้​ ​อวี​๋​เห​ริน​ก็​ไม่ได้​มี​ความทรงจำ​เกี่ยวกับ​นาง​มาก​นัก​ ​ตามเหตุผล​แล้ว​ ​ก็​ไม่ได้​รู้สึก​อะไร​มาก​ ​แต่​เรื่อง​ของ​ความรู้สึก​ ​เดิมที​เป็นเรื่อง​ที่​แปลกที่​สุด​ ​แม้​เพียง​คำพูด​ของ​คน​รอบข้าง​ ​และ​ฉาก​บาง​ฉาก​ ​ก็​สามารถ​ก่อ​ภัยพิบัติ​ขึ้น​ใหม่​ได้

​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​ที่​องค์​จักรพรรดิ​จะ​มีความรู้สึก​ต่อ​เหนียง​เหนียง​ ​ไม่มีใคร​วิตกกังวล​ ​นอกจาก​บ้าน​สกุล​เทียน​ไห่

​ตอนที่​ผู้คน​ลุกฮือ​ขึ้น​ต่อต้าน​เทียน​ไห่​นั้น​ ​องค์​จักรพรรดิ​สามารถ​ไม่​เกลียดชัง​ซาง​สิง​โจว​ ​ไม่​เกลียดชัง​ท่าน​อ๋อง​แห่ง​สกุล​เฉิน​เหล่านี้​ ​ไม่​เกลียดชัง​ขุนนาง​เหล่านั้น​ ​เกลียดชัง​ก็​แต่​สกุล​เทียน​ไห่​กับ​สวี​ซื่อ​จี​เท่านั้น

​เทียน​ไห่​เฉิง​อู่​ ​จิ้งจอก​เฒ่า​นั่น​เห็นชัด​เจน​ว่า​ ​ฝ่า​บาท​มีความรู้สึก​ลึกซึ้ง​กับ​เหนียง​เหนียง​ ​ก็​ยิ่ง​เกลียดชัง​สกุล​เทียน​ไห่​ ​เพราะ​พวกเขา​เป็น​โจร​กบฏ

​ถ้า​บอกว่า​เป็น​เพราะ​สวี​โหย​่ว​หรง​ ​สวี​ซื่อ​จี​ถึง​ได้​พยายาม​ทำงาน​ใน​ราชสำนัก​ ​แล้ว​สกุล​เทียน​ไห่​จะ​จัดการ​กับ​ตัวเอง​อย่างไร​เมื่อ​เวลา​นั้น​มาถึง

​แนว​ต้นไม้​สีเขียว​สอง​ฝั่งคลอง​ต้น​ฤดูใบไม้ร่วง​ ​ทำให้​อากาศ​สดชื่น​รื่นรมย์

​กองทัพ​ที่​กลับ​จาก​ทางเหนือ​ ​เหล่า​อ๋อง​สกุล​เฉิน​ ​และ​ยอด​ฝีมือ​ใน​อุปการะ​ของ​สกุล​เทียน​ไห่​ ​กำลัง​ยืน​เรียง​เป็น​สอง​แถว​อย่าง​หนาแน่น​อยู่​บน​พนัง​กั้น​น้ำ

​ถ้า​ตอนนี้​มี​คันธนู​นับ​พัน​คัน​ ​ยิง​ลูกธนู​เข้ามา​พร้อมกัน​ ​การก​่อ​ความ​ไม่​สงบ​ใน​ครั้งนี้​ ​อาจ​จบ​ลง​ด้วย​ท่าที​ที่​ตลกขบขัน​ชนิด​หนึ่ง​ ​และ​การนองเลือด

​แต่​ยัง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เมืองหลวง​ ​ต่อให้​บวก​เมือง​โจว​ทุก​เมือง​เข้าด้วยกัน​ ​ตอนนี้​ก็​ไม่มีทาง​ส่ง​คันธนู​จำนวนมาก​ขนาด​นี้​มา​ได้

​และ​เพราะเหตุนี้​ ​ทหาร​กบฏ​ถึง​ได้​เข้าแถว​กัน​อย่าง​สะดวกสบาย​ ​เหล่า​ท่าน​อ๋อง​กับ​เหล่า​แม่ทัพ​กบฏ​ยัง​มีกะใจ​คุย​สัพเพเหระ​กัน​ด้วยซ้ำ

​ทหาร​กบฏ​มิได้​ล้อม​เมือง​ ​เพราะ​เมืองหลวง​ไม่มี​กำแพงเมือง​ ​จึง​ไม่​สามารถ​ล้อม​เอาไว้

​ตอนที่​พวกเขา​รอกั​นอย​่าง​เงียบๆ​ ​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​ ​พลเมือง​ส่วนใหญ่​ก็​เริ่ม​ลี้ภัย​ออกจาก​เมือง​กัน​แล้ว​ ​เชื่อ​ว่า​ตอนนี้​เมืองหลวง​ต้อง​ร้าง​มาก​ ​ตาม​ท้องถนน​ไม่เห็น​ผู้คน​แม้แต่​คนเดียว

​นี่​ไม่​เหมือน​การก​่อ​ความ​ไม่​สงบ​สักนิด​ ​เหมือน​มา​เที่ยว​มากกว่า​ ​เหล่า​ทหาร​กบฏ​ดู​ผ่อนคลาย​มาก​ ​แต่​จาก​รายละเอียด​บางอย่าง​ ​ยังคง​ดูออก​ว่า​ ​พวกเขา​เครียด​กัน​มาก

​การคุย​เล่น​ที่​ไม่​ถูก​กาลเทศะ​เหล่านั้น​ ​จริงๆ​ ​แล้วก็​คือ​หลักฐาน​ที่​บ่งชี้​ว่า​เครียด

​ถ้า​เซียง​อ๋อง​ไม่​ชนะ​เดิมพัน​ ​พวกเขา​ก็​ต้องตา​ยอย​่าง​ไร้​ที่​ฝัง

​ตอนนี้​ ​มี​เหยี่ยว​แดง​บิน​มาจาก​ฟากฟ้า

​ข่าว​ของ​แนวหน้า​ถูก​ส่ง​ถึง​เมืองหลวง​แล้ว

​ในที่สุด​ ​กองทัพ​ใหญ่​เผ่า​มนุษย์​ก็​บุก​เข้า​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​แล้ว

​ได้ยิน​เสียง​โห่ร้อง​ทั้งสอง​ฝั่งคลอง

​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ท่าน​อ๋อง​หรือ​ทหาร​กบฏ​เหล่านั้น​ ​ก็​ล้วน​เผย​รอยยิ้ม​จริงใจ​ออกมา​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​เปลี่ยนเป็น​กระอักกระอ่วน

​ตอนนี้​เห็นที​ ​พวกเขา​ไม่ต้อง​กังวล​แล้ว​ว่า​ตน​จะ​เป็น​คน​บาป​ใน​ประวัติศาสตร์​ ​หรือ​แบกรับ​ชื่อเสียง​ที่​เสื่อมเสีย​ตลอดกาล​ ​แต่​เหตุใด​กลับ​รู้สึก​ว่า​ปาก​และ​ใบหน้า​ของ​ตน​ยิ่ง​ดูไม่ได้​เล่า

​“​ท่าน​อ๋อง​ ​ท่าน​ไม่ไยดี​ว่า​ ​ชื่อเสียง​จะ​ฉาวโฉ่​หมื่น​ปี​จริงๆ​ ​หรือ​”

​ใน​เสลี่ยง​คัน​ใหญ่​ที่อยู่​ด้านหน้า​สุด​ของกอง​ทัพ​กบฏ​ ​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​ลูบ​แก้ม​กลม​ๆ​ ​แล้ว​หัน​มอง​เซียง​อ๋อง​ ​ยิ้ม​ตาหยี​พลาง​ถาม

​เซียง​อ๋อง​กลับ​จาก​แนวหน้า​เงียบๆ​ ​จากนั้น​ก็​พัก​อยู่​ใน​ด่าน​ยง​เสวี​่ย​ระยะ​หนึ่ง​ ​โดย​อาการ​บาดเจ็บ​สองครั​้ง​ทั้ง​ก่อน​และ​หลัง​หาย​ดี​แล้ว​ ​แต่​เห็นชัด​ว่า​ผอม​ลง​กว่า​เมื่อก่อน​ไม่น้อย

​“​เจ้า​ล่ะ​”

​เซียง​อ๋อง​ชายตามอง​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​ ​แล้ว​พูด​ต่อ​ ​“​ถ้า​ตา​เฒ่า​ความลับ​สวรรค์​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​อาจ​ฉีก​เจ้า​เป็น​ชิ้นๆ​”

​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​หัวเราะ​สอง​ที​ ​“​ข้า​นี่​ล่ะ​ที่​ไม่ไยดี​เรื่อง​ชื่อเสียง​ ​เพราะ​ข้า​เป็น​คนโง่​นี่​นา​”

​เซียง​อ๋อง​หัวเราะ​ ​“​มีเหตุผล​ ​เช่นนั้น​ข้า​ก็​เป็น​คนบ้า​คน​หนึ่ง​”

​ผ่าน​ไป​สักพัก​ ​รอยยิ้ม​ก็​ค่อยๆ​ ​ถูก​เก็บ​ ​เขามอ​งดู​เงา​ตะคุ่มๆ​ ​ของ​พระราชวัง​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ ​ทอดถอนใจ​ ​แล้ว​ลากเสียง​ยาว​ ​“​อันที่จริง​ ​ก็​แค่​ไม่ยอม​เท่านั้น​”

​เขา​คิด​มาต​ลอด​ว่า​ ​ใน​บรรดา​โอรส​ของ​จักรพรรดิ​องค์​ก่อน​ ​ตน​โดดเด่น​ที่สุด​ ​เก่ง​ที่สุด​ ​และ​เป็น​ลูก​กตัญญู​ที่​น่ายกย่อง​ของ​เหนียง​เหนียง​ ​ไม่ว่า​จะ​มอง​จาก​มุม​ไหน​ ​เขา​ก็​ควร​เป็น​จักรพรรดิ​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ที่ว่า​ ​เขา​ยัง​มีลูก​ชาย​ที่​เก่ง​มาก​ๆ​ ​คน​หนึ่ง​

​ถ้า​ครั้งนี้​เขา​ไม่​คว้า​โอกาส​ไว้​อีก​ ​พอ​เผ่า​มาร​ล่มสลาย​ ​หลังจาก​เผ่า​มนุษย์​รวบรวม​ดินแดน​ต้า​ลู่​เข้าด้วยกัน​แล้ว​ ​อวี​๋​เห​ริน​ก็​จะ​ได้รับ​เกียรติยศ​ที่​ไม่เคย​มีมาก​่อน​ ​ส่วน​เขา​ก็​จะ​สูญเสีย​ความหวัง​ทั้งหมด

​ง่ายๆ​ ​แค่นี้​เอง

​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​ทอดถอนใจ​ ​“​ไม่รู้​ว่า​พวกเรา​จะ​ชนะ​เดิมพัน​ได้​หรือไม่​”

​เซียง​อ๋อง​ลูบ​พุง​ที่อยู่​บน​เข็มขัด​ ​พลาง​ว่า​ ​“​ถ้า​ฝ่า​บาท​อยาก​พลิก​คดี​ให้พระ​มารดา​ ​ท่าน​นักพรต​จะ​ยอม​ได้​อย่างไร​กัน​”

​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​ส่าย​ศีรษะ​ ​แล้ว​ว่า​ ​“​อย่างไร​เสีย​ ​เรื่อง​ที่​ยัง​ไม่​เกิด​ ​จะ​ปิดบัง​ผู้สูงอายุ​ได้​อย่างไร​”

​เซียง​อ๋อง​ว่า​ ​“​ต่อให้​เป็น​เช่นนี้​ ​ท่าน​นักพรต​ก็​ใช่​ว่า​จะ​หนุนหลัง​ฝ่า​บาท​ ​ซึ่ง​จริงๆ​ ​แล้ว​หลาย​คน​นึกไม่ถึง​ว่า​ ​ท่าที​ที่​เขา​มีต​่อ​ฝ่า​บาท​ ​เป็น​ดั่ง​ภาพ​ฉาย​ที่​มีต​่อ​จักรพรรดิ​ไท่​จง​ ​พูด​อีก​อย่าง​ก็​คือ​ ​ที่​เขา​ชอบ​ฝ่า​บาท​ ​ก็​เพราะ​ชอบ​ความเมตตา​ที่​จักรพรรดิ​ไท่​จงมี​ต่อ​พสกนิกร​ ​ชอบ​ด้าน​ที่​ทรง​ปรีชาสามารถ​ ​เช่นนั้น​ทำไม​จะ​ชอบ​ข้า​ไม่ได้​เล่า​”

​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​ชี้​ไป​ที่​พุง​กลม​ๆ​ ​ของ​เซียง​อ๋อง​ ​พลาง​ว่า​ ​“​หรือ​บน​ตัว​ท่าน​ก็​มี​จุดเด่น​ของ​จักรพรรดิ​ไท่​จง​”

​เซียง​อ๋อง​พูด​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ ​“​แน่นอน​ ​อย่าง​ข้า​ที่​กล้าเสี่ยง​อันตราย​ ​และ​มี​ลักษณะ​ไร้ยางอาย​สุด​ๆ​ ​เช่นนี้​ ​ไม่ใช่​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​จักรพรรดิ​ไท่​จง​หรอก​หรือ​”

​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​จับ​พุง​พลาง​หัวเราะ​ขึ้น​มา​ ​จากนั้น​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ​เสียงหัวเราะ​ก็​หยุด​ลง

​เขา​จ้องมอง​เซียง​อ๋อง​ ​พลาง​พูด​อย่างจริงจัง​ ​“​ข้า​พลัน​รู้สึก​ว่า​ ​ที่​ท่าน​พูด​มา​ ​มีเหตุผล​ยิ่ง​”

​……

​……

​ทหาร​กบฏ​ตบเท้า​เข้า​เมืองหลวง​โดย​ไม่ได้​รับ​การ​ต่อต้าน​ใดๆ​ ​ถนน​ร้าง​และ​ว่างเปล่า​ ​ไม่มี​คน​เดิน​สัก​คน​ ​มี​เพียง​แมว​จรจัด​สอง​สาม​ตัว​บน​กอง​ขยะ​ที่​เงยหน้า​ขึ้น​อย่างระมัดระวัง​เป็นครั้งคราว

​จำนวน​ทหาร​รักษาการณ์​ใน​เมืองหลวง​มีน​้อ​ยมาก​ ​โดย​มีท​หาร​อวี​่​หลิน​กับ​ทหารม้า​นิกาย​หลวง​รวมกัน​สาม​พัน​กว่า​คน​ ​ซึ่ง​ได้​ถอย​ไปรั​กษา​การณ์​ที่​พระราชวัง​และ​พระราชวัง​หลี​ทั้งสอง​แห่ง​แต่แรก​แล้ว​ ​ส่วน​ทหาร​และ​แม่ทัพ​ที่​เข้าร่วม​ก่อ​ความ​ไม่​สงบ​ ​ย่อม​จงรักภักดี​ต่อ​เซียง​อ๋อง​ยิ่ง​ ​จำนวน​ไม่​มาก​จน​เกินไป​ ​มีท​หาร​ม้า​ราว​หนึ่ง​หมื่น​สาม​พัน​กว่านาย​ ​เมื่อ​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​ทหาร​อวี​่​หลิน​และ​ทหารม้า​นิกาย​หลวง​ที่​ได้เปรียบ​ทาง​ภูมิศาสตร์​ ​ก็​ไม่​ถือว่า​ได้เปรียบ​มากมาย​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ควบคุม​เมืองหลวง​ทั้งเมือง

​ชัยชนะ​ที่แท้​จริง​ของ​ทหาร​กบฏ​จึง​อยู่​ที่​ ​การ​มี​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​อาณาเขต​ศักดิ์สิทธิ์​สอง​ท่าน​อย่าง​เซียง​อ๋อง​กับ​เฉา​อวิ​๋น​ผิง

​เขต​พระราชฐาน​ตั้ง​ตระหง่าน​อยู่​ตรงหน้า​ ​ใบ​ของ​ต้น​แปะก๊วย​ที่​เริ่ม​ร่วง​ก่อนเวลา​ ​เด่น​สะดุดตา​อยู่​บน​พื้นราบ​ของ​สะพาน​อุดร​ใหม่

​เซียง​อ๋อง​กับ​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​ยืน​มอง​พระราชวัง​ ​บน​พื้นที่​เต็มไปด้วย​ใบไม้​สีเหลือง​ ​โดย​มิได้​สนใจ​คันธนู​เทพ​อัน​ทรงพลัง​บน​กำแพง​พระราชวัง​เหล่านั้น

​เมื่อ​รู้สึก​ได้​ถึง​พลัง​ปราณ​แข็งแกร่ง​สาย​หนึ่ง​ใน​พระราชวัง​ ​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​ก็​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​พลาง​ว่า​ ​“​นี่​คือ​ผัง​ลาย​จักรพรรดิ​หรือ​”

​คิ้ว​ของ​เซียง​อ๋อง​ก็​ขมวด​ขึ้น​เช่นกัน​ ​“​หอ​หลิง​เยียน​ถูก​ทำลาย​ไป​แล้ว​ ​เปลวเพลิง​พิสุทธิ์​ข้า​ก็​แน่ใจ​ว่า​ได้​ส่ง​ไป​ที่​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​แล้ว​ ​สิ่ง​นี้​น่าจะเป็น​เพียง​ส่วนหนึ่ง​ของ​ผัง​ลาย​จักรพรรดิ​”

​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​หรี่​ตาลง​ ​เหมือนกับ​หมั่น​โถว​สีขาว​ลูก​ใหญ่​มี​รอย​ผ่า​สอง​รอย​ ​“​น่าหนักใจ​อยู่​นา​”

​และ​ใน​ตอนนี้​เอง​ ​ก็​มี​ข่าว​ที่​น่าหนักใจ​ข่าว​หนึ่ง​ส่ง​มาจาก​ทหาร​กบฏ

​สีหน้า​ของ​เซียง​อ๋อง​เปลี่ยนเป็น​ดูไม่ได้​อยู่​บ้าง​ ​แต่​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​กลับหัว​เราะ​ขึ้น​มา