ตอนที่ 1930 ผิดรูปแบบ

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 1930 ผิดรูปแบบ

 

“เจ้ากล้าดีอย่างไร!” ทันทีที่อสูรเฒ่าเงาโลหิตส่งเสียงคําราม เขาก็ลงมือโจมตีใส่ป้าเยาทันที

 

เขาไม่ได้กังวลว่าหลิงฮันจะเป็นหรือตาย แต่เขาจําเป็นต้องรู้เสียก่อนว่าหลิงฮันนำยันต์ไม้ท้อผูกชะตาติดตัวมาด้วยหรือไม่

 

ถ้าหากนําติดตัวมาด้วย ต่อให้หลิงฮันตายไปก็ไม่ใช่เรื่องสําคัญ แต่ถ้าหากหลิงฮันไม่ได้นําติดตัวมาด้วย แล้วยันต์ไม้ท้อผูกชะตายังอยู่ในเมืองวิถีโอสถล่ะก็ จะให้เขาทําอย่างไร?

 

ยิ่งกว่านั้นอสูรเฒ่าเงาโลหิตก็ยังรู้สึกสงสัยด้วยว่าหลิงฮันมีสมบัติบางอย่างซ่อนเอาไว้ เขาจึงตัดสินใจเอาไว้นานแล้วว่า หลังจากที่ได้รับยันต์ไม้ท้อผูกชะตามา เขาจะสังหารหลิงฮันและแย่งชิงวาสนาทั้งหมดของอีกฝ่ายมาครอง ด้วยเหตุผลต่างๆ เหล่านี้ จึงเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่เขาจะยอมให้หลิงฮันตายด้วยเงื้อมมือผู้อื่น

 

“โอ้?” ป้าเยาชะงักเล็กน้อย เฒ่าชราอ่อนแอผู้นี้กล้าโจมตีเขางั้นรึ?

 

เหอะ ดวงตาของเจ้าเน่าเฟะจนดูไม่ออกรึไงว่าข้าคือใคร?

 

“รนหาที่ตาย!” ป้าเยาเค้นเสียงคํารามอย่างเย็นชา และผลักฝามือตอบโต้อสูรเฒ่าเงาโลหิต

 

“ตูมม” คลื่นอัสนีสาดกระจายลากยาวเป็นเส้นแสงราวกับสายธาร ตราประทับแห่งเต๋าอันไร้ที่สิ้นสุดส่องประกายด้วยอํานาจอันน่ายําเกรง

 

อสูรเฒ่าเงาโลหิตตกตะลึง ถึงแม้เขากับป้าเยาจะเป็นตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้เหมือนกัน แต่พลังของเขากับอีกฝ่ายกลับแตกต่างกับเกินพรรณนา

 

ครืนน!

 

การโจมตีที่ทรงพลังส่งผลให้ร่างกายของอสูรเฒ่าเงาโลหิตสั่นสะท้านอย่างรุนแรง หมอกโลหิตสาดกระจายออกมาทั่วร่าง พร้อมกับออร่าของเขาได้ลดลงอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

 

อสูรเฒ่าเงาโลหิตมีพลังบ่มเพาะในระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ขั้นต้นเท่านั้น ในขณะที่ป้าเยามีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ขั้นสมบูรณ์ เพราะงั้นความต่างในพลังของทั้งสองจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจนํามาเทียบชั้นกันได้!

 

อสูรเฒ่าเงาโลหิตทรุดตัวลงกับพื้นก่อนที่จะฝันพยายามลุกกลับขึ้นมา เส้นผมสีขาวโพลนบนศีรษะของเขาค่อยๆ หลุดร่วงจนพื้นที่กลางศีรษะกลายเป็นว่างเปล่าราวกับคนหัวล้าน

 

“อั่ก!” ชายชรากระอักโลหิตออกมาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับเส้นผมที่ค่อยๆ หลุดร่วง โลหิตที่ไหลออกมาจากร่างกายของเขาส่องประกายระยิบระยับด้วยอํานาจแห่งอัสนี เนื่องจากการโจมตีของป้าเยารุนแรงจนทะลวงลึกไปถึงไขกระดูกที่อยู่ภายในร่างกายของเขา

 

ออร่าระดับพลังบ่มเพาะของอสูรเฒ่าเงาโลหิตลดลงฮวบ จากระดับข้าวผ่านต้นกําเนิด แท้ไปยังระดับตําหนักอมตะห้ารากฐาน สีรากฐาน สามรากฐาน จนมาถึงระดับตัดวิญญาณสวรรค์

 

นี่มันน่าอัศจรรย์เกินไปรึไม่?

 

แน่นอนว่าไม่เลย ตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ขั้นสมบูรณ์มีพลังต่อสู้ที่สามารถสังหารตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ขั้นต้นได้ภายในหนึ่งกระบวนท่า ยิ่งกว่านั้นป้าเยาก็ยังเคยเป็นถึงอดีตผู้สืบทอดของตําหนักเมฆาอัสนีอีกด้วย ยิ่งตอนนี้อสูรเฒ่าเงาโลหิตอยู่ในสภาพบั้นปลายชีวิตด้วยแล้ว พลังต่อสู้ของเขาจึงไม่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะงั้นมีรึที่จะสามารถต้านทานการโจมตีของป้าเยาได้?

 

การที่ชายชราไม่ถูกสังหารภายในหนึ่งกระบวนท่า แต่กลายเป็นพลังบ่มเพาะลดอย่างพรวดพราดแทน ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว

 

พลังบ่มเพาะของอสูรเฒ่าเงาโลหิตลดลงมาถึงระดับตัดวิญญาณหยินขั้นกลางก่อนจะหยุดนิ่ง ซึ่งผลลัพธ์เช่นนี้ทําให้ชายชราตกอยู่ในสภาวะหวาดผวาอย่างถึงที่สุด

 

จริงอยู่ที่ระดับพลังนั้นสามารถบ่มเพาะใหม่อีกครั้งได้ แต่ด้วยแก่นพลังชีวิตที่ได้รับบาดเจ็บอยู่เช่นนี้ คิดว่าเขาจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกกี่ร้อย กี่หมื่นปีกัน?

 

เกรงว่ายังไม่ทันที่พลังบ่มเพาะของเขาจะกลับไปเป็นระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ เขาก็สิ้นชีพไปก่อนนานแล้ว

 

กล่าวในอีกแง่หนึ่งก็คือ ถึงแม้ป้าเยาจะไม่ได้สังหารอสูรเฒ่าเงาโลหิต แต่โชคชะตาของชายชราก็ถูกกําหนดไว้แล้วว่าต้องตาย

 

ร่างของอสูรเฒ่าเงาโลหิตสั่นเครือ ระยะเวลาครบรอบหนึ่งร้อยล้านปีกําลังจะมาถึงในไม่ช้าแล้ว ซึ่งเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกแค่ไม่ถึงร้อยปีเท่านั้น เพราะงั้นมีรึที่เขาจะไม่หวาดกลัว?

 

ป้าเยามองอสูรเฒ่าเงาโลหิตอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะละสายตากลับ ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้เหมือนกัน แต่ในสายตาของเขา อีกฝ่ายก็เป็นได้เพียงขยะไร้ค่า ที่เขาไม่จําเป็นต้องลงมือสังหารเองให้เสียเวลา

 

“ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าสิ่งใดกันที่เจ้าซ่อนเอาไว้!” ป้าเยากล่าวในขณะที่จดจ้องไปยังหลิงฮัน

 

ตอนแรกนั้นเขาไม่ได้คิดจะพูดอะไรไร้สาระกับหลิงฮัน และตั้งใจจะสังหารแย่งชิงสมบัติมาในทันที เพราะอย่างไรหากใช้การตรวจสอบผ่านวิญญาณ ก็ไม่มีความลับใดที่สามารถหลบพ้นอยู่แล้ว แต่ในเมื่อการโจมตีของเขาถูกขัดขวางเอาไว้ได้ ความร้อนรนที่มีในตอนแรกจึงลดลง

 

“แล้วมันทําไม?” หลิงฮันยิ้มอย่างไม่หวั่นเกรง

 

“ไม่ว่าสิ่งใดจะอยู่ในตัวเจ้า ตอนนี้มันก็เป็นของข้าแล้ว!” ป้าเยากล่าว และแอบปิดกั้นพื้นที่โดยรอบอย่างเงียบเฉียบ หากไม่ใช่ราชานิรันดร์ที่จงใจใช้สัมผัสสวรรค์ตรวจสอบล่ะก็ ไม่มีทางเด็ดขาดที่คนนอกจะรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่

 

ด้วยเหตุนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างถึงอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา

 

หลิงฮันส่ายหัว “ข้าไม่คิดเช่นนั้นนะ!”

 

“เจ้าหนู เจ้าคิดว่าที่นี่คือเมืองวิดีโอสถรึไง?” ป้าเยาเค้นเสียง จริงอยู่ที่ว่าที่นี่มีผู้สืบทอดขุมอํานาจราชานิรันดร์อยู่มากมาย แม้แต่สุดยอดอัจฉริยะอย่างเอี๋ยนเซียนลู่ก็อยู่ที่นี้ด้วย เพราะงั้นเขาจึงไม่กล้าสังหารใครสุ่มสี่สุ่มห้า

 

แต่กับหลิงฮันน่ะรึ?

 

อีกฝ่ายเป็นเพียงจอมยุทธตัวจ้อยของเมืองวิถีโอสถเท่านั้น ต่อให้เขาสังหารหลิงฮัน และเมืองวิถีโอสถบุกไปเรียกร้องถึงตําหนักเมฆาอัสนี ใครจะทําอะไรเขาได้?

 

ช่างน่าขันนัก

 

หลิงฮันยิ้ม “จริงอยู่ที่ที่นี่ไม่ใช่เมืองวิถีโอสถ และอาจารย์ของข้าก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ เพียงแต่ว่า…ใต้ดวงตะวันนี้สิ่งน่าอัศจรรย์นั้นมีอยู่มากมาย!”

 

“โอ้ อย่างเช่นอะไรล่ะ?” เป้าเยาเอ่ยถามอย่างไม่แยแส พร้อมกับก้าวเดินเข้าหาหลิงฮัน ถึงแม้ความเร็วในการก้าวเดินของเขาจะไม่เร็ว แต่ทุกๆ ฝีก้าวล้วนแต่แฝงไปด้วยอํานาจแห่งเต๋่ที่กดขี่เพราะงั้นจิตใจรู้สึกหนักอึ้งอย่างบอกไม่ถูก

 

อํานาจของตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ ไม่ใช่สิ่งที่จอมยุทธระดับโลกียนิพพานจะต้านทานไหว

 

ป้าเยาจงใจเดินอย่างเชื่องช้า เพราะในเมืองวิดีโอสถก่อนหน้านี้เขาถูกปรมาจารย์จื่อเฉิงขับไล่จนต้องเสียหน้าอย่างแรง ถึงแม้สิ่งที่เขาทําอยู่ในตอนนี้จะไม่สามารถแก้แค้นปรมาจารย์จื่อเฉิงได้ แต่หลิงฮันก็เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ความรู้สึกเจ็บปวดของเขาจึงบรรเทาลงบ้างไม่มากก็น้อย

 

ตุบ! ตุบ! ตุบ!

 

การก้าวเดินแต่ละครั้งของเขา ส่งผลให้สีหน้าของผู้คนมากมายแสดงออกถึงความรู้สึกกระอักกระอ่วน ราวกับจิตใจจะระเบิดออกมา

 

“ช่างน่ารังเกียจนัก!” ฮูหนิวเกรี้ยวกราดและส่งเสียงคํารามใส่ป้าเยา “นอกจากจะบังอาจปองร้ายหลิงฮันของหนิวแล้ว เจ้ายังทําให้หนิวรู้สึกกระอักกระอ่วนอีก เจ้าต้องตาย!”

 

แน่นอนว่าป้าเยาไม่เก็บคําข่มขู่ของฮูหนิวมาใส่ใจ เขาทําเพียงยิ้มและมองไปยังฮูหนิวด้วยแววตาชั่วร้ายเล็กน้อย

 

ในช่วงที่ติดอยู่ในระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้เป็นเวลานาน เขาได้มีงานอดริเรกเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกับบุรุษหรือสตรี

 

เด็กสาวตรงหน้านี้นอกจากจะงดงามแล้วยังดูบริสุทธิ์มากอีกด้วย ถึงแม้นิสัยของนางจะดูปาเถื่อนอยู่บ้าง แต่มีรึที่เขาจะสน?

 

“โอ้ ข้าจะตายงั้นรึ?” ป้าเยาส่ายหัว “ข้าไม่เชื่อ!”

 

“แต่ข้าว่าเจ้าควรเชื่อนะ!” เสียงอันเย็นชาที่แฝงไปด้วยจิตสังหารดังขึ้นด้านหลังป้าเยา