ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 126 เมื่อหันกลับไปในทันใด ก็พบคนผู้หนึ่งในมุมที่มีแสงสลัว

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้อ​คลาย​มือ

​มีเสียง​อื้ออึง​ดัง​ขึ้น​ ​ต้นไม้​หนัก​หัก​โค่นล้ม​ลง​กับ​พื้น​ ​ฝนตก​กระหน่ำ​อย่างหนัก

​ตรอก​ไป่ฮ​วามี​แต่​ความ​เงียบสงัด

​พวก​กบฏ​มอง​ไป​ที่​เงา​ร่าง​กำยำ​นั่น​ ​ใน​ดวงตา​เต็มไปด้วย​ความ​ตกตะลึง

​มีแวว​ขบขัน​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ดวงตา​ของ​เทียน​ไห่​เซิ​่ง​เสวี​่ย​ ​และ​ยัง​แอบ​มี​ความ​สะใจ​เล็กน้อย​ ​เหล่า​ลูกศิษย์​ของ​สำนัก​ฝึก​หลวง​ที่อยู่​เบื้องหลัง​เขา​ใบหน้า​เต็มไปด้วย​ความชื่นชม​และ​เกรงขาม

​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้​อมี​ชื่อเสียง​เป็นอย่างมาก​ ​ส่วนใหญ่​แล้ว​เป็น​เพราะ​วีรกรรม​ใน​ตำนาน​ของ​เขา​ ​ใน​สายตา​ของ​ผู้คน​มากมาย​ ​เขา​เป็นรอง​เพียง​ใต้เท้า​สังฆราช​เฉิน​ฉาง​เซิง​เท่านั้น

​เมื่อ​หลาย​สิบ​ปีก่อน​ ​เขา​เป็น​เด็ก​อัจฉริยะ​เผ่า​ปีศาจ​ที่​สำนัก​เด็ด​ดารา​ให้ความสำคัญ​เลี้ยงดู​มา​ ​เนื่องจาก​แขนขวา​ถูก​เทียน​ไห่​หยา​เอ๋อร​์​เล่นงาน​ ​จึง​ต้อง​ลาออก​จาก​สำนัก​โดย​ไม่มี​การ​คัดค้าน​ใดๆ​ ​เขา​ล้างจาน​ที่​ตลาด​กลางคืน​ใน​ถนน​จิง​ตู​เพื่อ​ดำรงชีพ​ ​ในที่สุด​เฉิน​ฉาง​เซิง​และลั​่​วลั​่​วก​็​เลือก​เขา​กลับ​ไป​ที่​สำนัก​ฝึก​หลวง​ ​ได้รับ​เลือก​เข้ามา​ก่อน​แม้กระทั่ง​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ ​กลายเป็น​จุดเริ่มต้น​ของ​การฟื้นตัว​ของ​สำนัก​ฝึก​หลวง

​การเปลี่ยนแปลง​ของ​สุสาน​เทียน​ซู​ไม่​กี่​ปี​ต่อมา​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​และ​สำนัก​ฝึก​หลวง​อยู่​ใน​สถานการณ์​ล่อแหลม​ ​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้อ​ต้องการ​กลับ​ไป​ยัง​เมือง​ไป๋​ตี้​เพื่อ​ขอความช่วยเหลือ​ ​ในท้ายที่สุด​แล้ว​กลับ​ไม่ได้​รับ​อะไร​เลย​ ​เขา​เลือก​ทำงาน​ใน​โรง​เตี​๊​ยม​ที่​เมือง​ตอน​ล่าง​ของ​เมือง​ไป๋​ตี้​ ​และ​ถูก​คน​ทั่วโลก​เข้าใจผิด​ ​ไม่รู้​ว่า​ได้รับ​ความทุกข์ทรมาน​จาก​การถาก​ถาง​และ​เยาะเย้ย​มาก​เพียงใด​ ​แต่​ก็​ไม่เคย​คิด​จะ​แก้ตัว​เลย

​จนกระทั่ง​ถึง​พิธี​ฉลอง​ใหญ่​ ฮู​หยิน​มู่​ตั้งใจ​จะ​ให้ลั​่​วลั​่ว​แต่งงาน​กับ​ราชา​มาร​ ​เขา​ขึ้นไป​บน​สังเวียน​ใน​ฐานะ​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้อ​แห่ง​สำนัก​ฝึก​หลวง​ ​เริ่ม​ต่อสู้​จาก​สนาม​ที่​ห่างไกล​ที่สุด​ใน​เมือง​ทาง​ตอน​ใต้​ ​ชนะ​การต่อสู้​เรื่อย​มา​ ​ได้​ชัยชนะ​เก้า​ครั้ง​ติดต่อกัน​ ​ต่อสู้​อย่างรวดเร็ว​จนถึง​การต่อสู้​ชี้​ชะตา​ครั้งสุดท้าย​ ​แม้ว่า​เขา​จะ​พ่ายแพ้​อย่าง​น่าเสียดาย​ให้​กับ​ราชา​มาร​ ​แต่​เขา​ก็​ยัง​ทำให้​ทั้งสอง​ฝั่ง​ของ​แม่น้ำ​แดง​และ​ทั่วทั้ง​ดินแดน​ต้า​ลู่​ตกตะลึง

​หลังจากนั้น​ก็​ผ่าน​ไป​สิบ​ปี​แล้ว​ ​อดีต​สมาชิก​ที่​อายุ​น้อยที่สุด​ของ​สำนัก​ฝึก​หลวง​ได้​กลายเป็น​นายพล​ใหญ่​ที่​รู้จัก​กัน​ดี​ของ​เผ่า​ปีศาจ​ ​ในแง่​ของ​พลัง​การต่อสู้​ล้วน​ๆ​ ​เขา​ยัง​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​สอน​เขา​ถึง​วิธีการ​ผสาน​เคล็ด​วิชา​เหนี่ยว​นำ​อัสนี​และ​เคล็ด​หมัด​ที่​เปี​๋ย​ยั่ง​หง​ถ่ายทอด​ให้​เขา​เข้าด้วยกัน​ ​แม้แต่​เจ๋อ​ซิ่ว​ก็​ไม่​อาจ​ปะทะ​กำลัง​กับ​เขา​ได้​โดยตรง​!

​……

​……

​ทุกคน​ต่าง​คิด​ว่า​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้อ​น่าจะ​อยู่​นอกเมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ ​นำ​ทัพ​เผ่า​ปีศาจ​สู้ตาย​กับ​กองทัพ​เผ่า​มาร​ ​ใคร​จะ​คาดคิด​ได้​ว่า​เขา​จะ​ปรากฏตัว​ที่​สำนัก​ฝึก​หลวง​ ​หาก​เพียงแต่​จะ​คิด​สักนิด​ ​ก็​เดา​ได้​ว่า​เขา​น่า​แอบ​เข้ามา​ยัง​เมือง​จิง​ตู​โดย​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ค่าย​ผิง​เป่ย​ของ​เผ่า​ปีศาจ

​เฉิน​หลิว​อ๋อง​คิดถึง​ความเป็นไปได้​ทุก​ทาง​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​เริ่ม​ซีด​จาง​ลง​ ​และ​เขา​ต้องการ​เตือน​กองทัพ​กบฏ​ที่อยู่​รอบนอก

​แสง​กระบี่​ส่องสว่าง​ท่ามกลาง​สายฝน​ของ​ฤดูใบไม้ร่วง​ ​และ​ฟัน​ไป​ทาง​เฉิน​หลิว​อ๋อง

​แสง​กระบี่​นั้น​ค่อนข้าง​แปลก​ ​ไม่ใช่​สีขาว​หิมะ​อย่างที่​เห็น​บ่อยๆ​ ​และ​ก็​ไม่ได้​รู้สึก​แหลมคม​ ​ทั้ง​ยัง​ไม่​หนาวเย็น​ ​ตรงกันข้าม​มัน​กลับ​ให้ความรู้​สึก​ร้อน​เล็กน้อย

​แขน​เสื้อ​ของ​เฉิน​หลิว​อ๋อง​โบกสะบัด​ ​ดึง​กระบี่​อ่อน​ออกมา​ ​ฝืน​ต้านทาน​ ​แต่​ร่าง​ของ​เขา​กลับ​พลิกคว่ำ​ลอย​ออก​ไป​ ​ชน​เข้ากับ​กำแพง​หิน​ ​สุดท้าย​ก็​สลบ​ไป

​แขนขวา​ของ​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้อ​ได้รับ​การฟื้นฟู​กลับมา​เหมือนเดิม​นาน​แล้ว​ ​และ​เขา​ถือ​กระบี่​โลหะ​หนา​เล่ม​หนึ่ง​อยู่​ใน​มือ​ ​ซึ่ง​ก็​คือ​กระบี่​มหาสมุทร​ขุนเขา

​ใน​ปีนั​้น​เฉิน​หลิว​อ๋อง​มา​เยี่ยมเยียน​สำนัก​ฝึก​หลวง​เป็นประจำ​ ​แน่นอน​ว่า​เขา​รู้จัก​ ​เขา​จงใจ​ถาม​อีก​ฝ่าย​ว่า​เป็น​ผู้ใด​เพราะ​ความโกรธ

ที่แท้​เจ้า​ต้องการ​ทำลาย​สำนัก​ฝึก​หลวง​จริงๆ​!

​“​ผู้ใด​กล้า​ก้าว​เข้ามา​ใน​สำนัก​ฝึก​หลวง​แม้​เพียง​ก้าว​หนึ่ง​ ​ฆ่า​อย่า​ให้​เหลือ​!​”

​เทียน​ไห่​เฉิง​อู่​เดิน​ออกมา​จาก​โรง​เตี​๊​ยม​ที่​ทรุดโทรม​ ​มี​รอย​โลหิต​ปรากฏ​อยู่​บน​ด้านหน้า​ของ​อาภร

​เดิมที​เขา​กำลังจะ​ไป​ช่วย​เฉิน​หลิว​อ๋อง​ ​แต่​เมื่อม​อง​ไป​ยัง​กระบี่​มหาสมุทร​ขุนเขา​ใน​มือ​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้อ​ ​เขา​เปลี่ยนใจ​อย่างเด็ดเดี่ยว​และ​ถอย​ออก​ไปนอก​ตรอก​พร้อมกับ​ลูกหลาน​ของ​ตระกูล​เทียน​ไห่

​เมื่อ​เขา​กำลังจะ​ออกจาก​ตรอก​ไป่ฮ​วา​ ​เทียน​ไห่​เฉิง​อู่​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หันกลับ​ไป​มอง​ที่​ประตู​สำนัก​ของ​สำนัก​ฝึก​หลวง

​ภายใต้​แสง​ของ​คบเพลิง​ ​ม่าน​ฝน​ใน​ฤดูใบไม้ร่วง​ ​ทำให้​ร่าง​ของ​เทียน​ไห่​เซิ​่ง​เสวี​่​ยดู​เลือนราง​เล็กน้อย

​เทียน​ไห่​เฉิง​อู่​ลอบ​ถอนใจ

​ตัว​เขา​คิด​ว่า​มัน​เป็น​กลยุทธ์​ที่​ละเอียดถี่ถ้วน​ ​เขา​จิตใจ​โหดร้าย​ ​เรียก​ได้​ว่า​ ​‘​หยาบช้า​’​ ​และ​ ​‘​ดำมืด​’​ ​จน​สุดขีด​ ​และ​ไม่สน​ใจ​ว่า​จะ​กลาย​คนที​่​มีชื่อเสียง​อื้อฉาว​ ​เช่นนั้น​ตระกูล​เทียน​ไห่​จึง​จะ​อยู่รอด​ต่อไป​ใน​สถานการณ์​เลวร้าย​เช่นนี้​ได้​อย่างแน่นอน​ ​หาก​มีโอกาส​ใด​ ​เขา​จะ​เป็น​ผู้นำ​ตระกูล​เทียน​ไห่​ ​มีแนวโน้ม​สูง​มาก​ที่จะ​นำไปสู่​ความมั่งคั่ง​ครั้ง​ที่สอง

​แต่​ท้ายที่สุด​เขา​ก็​ยัง​พ่ายแพ้​ราบคาบ​ ​ตรงกันข้าม​ลูกชาย​ที่​เยือกเย็น​และ​เย่อหยิ่ง​ของ​เขา​ซึ่ง​มิได้​ทำ​สิ่งใด​เลย​ ​เขา​เพียง​ทำตาม​แต่​ใจ​ของ​ตนเอง​ ​แต่​ยืน​อยู่​ข้าง​ผู้ชนะ​เสมอ​ ​หรือว่า​ที่​ท่าน​ป้า​พูด​กับ​ตนเอง​ตอนนั้น​จะ​เป็นจริง​ ​หรือว่า​จะ​คำนวณ​กลไก​ผิด​ทั้งหมด​ ​แต่​เหตุใด​จึง​เป็น​เช่นนี้​กัน

​……

​……

​การต่อสู้​ของ​ค่าย​ผิง​เป่ย​และ​กองทัพ​กบฏ​ได้​เริ่มต้น​ขึ้น​แล้ว​ที่​นอก​สำนัก​ฝึก​หลวง​ ​และ​เสียง​การฆ่าฟัน​ก็​ดังระงม​ทั่ว​ฟ้า​ไม่หยุดหย่อน​แม้​เวลา​จะ​ผ่าน​ไป​นาน​แล้วก็​ตาม

​ที่นี่​อยู่​ไม่​ห่าง​จาก​พระราชวัง​เลย​ ​เพียงแค่​อยู่​ห่าง​จาก​สำนัก​ฝึก​หลวง​ ​หรือ​สวน​ร้อย​หญ้า​ก็​เท่านั้น​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​ป่าน​อก​วัง​นั้น​หนาแน่น​เกินไป​ ​หรือ​ได้รับ​การปกป้อง​จาก​หมู่​หิน​ ​ใน​พระราชวัง​จึง​ไม่ได้​ยิน​เสียง​การต่อสู้​ฆ่าฟัน​สัก​เท่าไร​นัก​ ​จะ​ได้ยิน​ก็​เพียงแต่​เสียง​ตะโกน​แว่ว​มา​เท่านั้น

​พระราชวัง​คืนนี้​ช่าง​เงียบเหงา​นัก​ ​หาก​มอง​จาก​แท่น​กาน​ลู่​จาก​พื้น​ขึ้นไป​ ​คาดไม่ถึง​ว่า​จะ​มองไม่เห็น​แม้แต่​เงา​ของ​คน

​แต่เพียง​สังเกต​อย่าง​รอบคอบ​เท่านั้น​ ​จึง​จะ​พบ​ว่าที่​ห้องใต้หลังคา​ ​ใน​พุ่มไม้​ริม​สระน้ำ​ ​และ​ใน​ห้อง​มุม​ที่​ห่างไกล​มีนาง​ใน​และ​ขันที​จำนวนมาก​ซ่อนตัว​อยู่​

​บรรดา​นางใน​และ​ขันที​เหล่านั้น​ใบหน้า​ซีดเผือด​ ​ร่างกาย​สั่นเทา​ ​และ​หวาดกลัว​ถึง​ขีดสุด

​แต่​ที่​พวกเขา​ซ่อนตัว​อยู่​ที่นี่​และ​ไม่ได้​ไป​คุ้มกัน​ห้องโถง​ใหญ่​ของ​ตำหนัก​ ​มิใช่​เพราะ​ความกลัว​ ​แต่​เพราะ​ได้รับ​คำสั่ง​จาก​ผู้​เป็น​นาย

​ใน​ทั้ง​ตำหนัก​พระราชวัง​มี​ไข่มุก​ราตรี​อยู่​มากมาย​ ​แม้​จะ​ไม่ดี​เท่า​แท่น​กาน​ลู่​ ​และ​ดี​ไม่​เท่า​ถ้ำ​นั้น​ที่​ใต้​สะพาน​อุดร​ใหม่​ ​แต่​ก็​เพียงพอ​จะ​ส่องสว่าง​ให้​ตำหนัก​ราวกับ​เป็นกลาง​วัน

​ม่าน​แพร​เปิด​ออก​ ​ลำแสง​จาก​ไข่มุก​ราตรี​เปล่ง​ออกมา​เหมือนกับ​เกล็ด​หิมะ​ที่​ไม่​หยุด​โบยบิน​ ​น่าเสียดาย​ที่​เวลานี้​ไม่มี​ผู้ใด​จะ​มี​กะ​จิต​กะ​ใจชื่น​ชม

​เหล่า​เสนาบดี​นำ​โดย​มหาราช​ครู​ไป๋​อิง​ ​มอง​ไป​ยัง​เงา​ที่​ประตู​ของ​ตำหนัก​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความตกใจ​และ​ความโกรธ​เกรี้ยว

​“​ปกครอง​ใต้​หล้า​ด้วย​ความเมตตา​กรุณา​และ​ความยุติธรรม​ ​พระราชวัง​เอง​ก็​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ใน​ใต้​หล้า​ ​เหล่า​บุตรบุญธรรม​ของ​ข้า​เข้าใจ​จิตใจ​ของ​ข้า​ ​ปล่อย​ให้​เด็ก​น่าสงสาร​เหล่านั้น​ซ่อนตัว​ ​เพื่อมิ​ให้​ถูก​ทหาร​ดาบ​ทำร้าย​ใน​คืนนี้​ ​ถือได้ว่า​เป็นการ​กระทำ​อัน​ชอบธรรม​ ​หาก​มารดา​ของ​ท่าน​เข้าใจ​เหตุผล​ข้อนี​้​ ​เหตุใด​นาง​จึง​ถูก​ฝัง​อยู่​ใน​สวน​ร้อย​หญ้า​ ​และ​ไม่​สามารถ​ฝัง​ร่วมกับ​จักรพรรดิ​องค์​ก่อน​ได้​”

​สายตา​ของ​หลิน​กง​กง​เคลื่อน​จาก​มหาราช​ครู​ไป๋​อิง​ไป​ยัง​เสนาบดี​และ​องครักษ์​เหล่านั้น​ ​สุดท้าย​ก็​กลับมา​มอง​จุดสูงสุด​อีกครั้ง

​ม่อ​อวี​่​และ​หลัว​หยาง​อ๋อง​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ ​บดบัง​คน​ข้างหลัง​ไว้​เพื่อ​ปกป้อง​ ​แต่​สามารถ​มองเห็น​สีเหลือง​สดใส​ได้​จางๆ

​“​ภายนอก​วัง​อาจมี​ปัญหา​บ้าง​ ​แต่​นั่น​ก็​ไม่สำคัญ​ ​เพราะ​ที่นี่​เป็น​สถานที่​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ใน​ต้า​โจว​ ​และ​ข้า​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​พระราชวัง​นี้​มานาน​หลาย​ปี​เกินไป​แล้ว​ ​นาน​กว่า​พวก​เจ้า​รวมกัน​เสียอีก​…​อยาก​จะ​หยุด​ผัง​ลาย​จักรพรรดิ​ ​มัน​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ยาก​เกินไป​ ​ข้า​หวัง​ว่า​ฝ่า​บาท​จะเข้า​ใจ​”

​ใคร​จะ​จินตนาการ​ได้​ ​หลิน​กง​กง​ผู้มีชื่อเสียง​ใน​ดินแดน​ต้า​ลู่​เพราะ​ความจงรักภักดี​และ​ศีลธรรม​อัน​สูงส่ง​ ​จะ​กลาย​มา​เป็น​ไส้ศึก​ให้​เหล่า​กบฏ​ ​และ​ยัง​ช่วย​เซียง​อ๋อง​ทำลาย​ผัง​ลาย​จักรพรรดิ

​มหาราช​ครู​ไป๋​อิง​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​สอง​ก้าว​ด้วย​ร่าง​อัน​สั่นเทิ้ม​ ​มอง​ไป​ยัง​หลิน​กง​กง​และ​กล่าวว่า​ ​“​ใต้เท้า​หลิน​ ​ข้า​อยู่​กับ​ท่าน​มาก​ว่า​สอง​ร้อย​ปี​ ​ข้า​รู้​ว่า​ท่าน​เป็น​คน​เช่นไร​ ​แม้​ใน​ยาม​นี้​ท่าน​ก็​ยัง​จำ​ขันที​ผู้​ต่ำต้อย​และ​เหล่า​ขุนนาง​ใน​วัง​ได้​ ​แสดงว่า​ชื่อเสียง​เหล่านั้น​มิใช่​ของปลอม​ ​แล้ว​เหตุใด​ท่าน​จึง​ต้อง​ก่อ​กบฏ​เช่นนี้​”

​หลิน​กง​กง​พูดว่า​ ​“​มหาบุรุษ​ผู้ยิ่งใหญ่​กระทำการ​ ​จะ​หน่าย​ชื่อเสียง​ได้​อย่างไร​”

​เขา​เป็น​ขันที​ ​แต่​เขา​มัก​คิด​ว่า​ตัวเอง​เป็น​มหาบุรุษ​ผู้ยิ่งใหญ่​ ​และ​ไม่มีใคร​ใน​โลก​นี้​กล้า​สงสัย​เขา​ ​แม้​ในเวลานี้​ ​ก็​ยัง​ยาก​ที่​ผู้คน​จะ​สงสัย​เขา

​มหาราช​ครู​ไป๋​อิง​พูด​อย่าง​เจ็บปวด​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ท่าน​จะ​ลบ​ชื่อ​ของ​ท่าน​ใน​ฐานะ​เสนาบดี​ผู้ภักดี​ออก​หรือ​”

​“​ข้า​เป็น​เสนาบดี​ผู้ภักดี​แน่นอน​ ​แต่​ข้า​ภักดี​ต่อ​จักรพรรดิ​องค์​ก่อน​”

​หลิน​กง​กง​มอง​ไป​ยัง​เงา​ร่าง​บน​จุดสูงสุด​ที่​กลุ่มคน​บดบัง​เอาไว้​ ​และ​พูดว่า​ ​“​ฝ่า​บาท​ ​ข้า​ก็​นับถือ​พระองค์​มาก​เช่นกัน​ ​กระทั่ง​ยิ่ง​ชอบ​พระองค์​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​น่าเสียดาย​ที่​พระองค์​เป็น​บุตรชาย​ของ​หญิง​ผู้​นั้น​ ​ยิ่ง​ข้า​นับถือ​พระองค์​มาก​เท่าใด​ ​ข้า​ก็​ยิ่ง​นับถือ​ตัวเอง​น้อยลง​เท่านั้น​ ​ยิ่ง​ข้า​ชื่นชอบ​พระองค์​มาก​เท่าใด​ ​ข้า​ก็​ยิ่ง​ชื่นชอบ​ตัวเอง​น้อยลง​เท่านั้น​ ​ดังนั้น​โปรด​ยกโทษให้​บ่าว​ชรา​สำหรับ​ความผิด​ใน​วันนี้​เถิด​”

​ข้อความ​นี้​ค่อนข้าง​เข้าใจ​ได้​ยาก​ ​มี​เพียง​ม่อ​อวี​่​เท่านั้น​ที่​เข้าใจ​ ​เพราะ​นาง​เป็น​สตรี​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​หัวเราะ​ออกมา

​หลิน​กง​กง​มิได้​สนใจ​เสียงหัวเราะ​ของ​นาง​ ​และ​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​หนึ่ง​ก้าว

​เหล่า​องครักษ์​ต่าง​รู้สึก​ประหม่า​ ​มีด​เหล็กใน​มือ​ถูก​ดึง​ออกจาก​ฝัก​ทีละ​เล่ม

​สีหน้า​ของ​หลัว​หยาง​อ๋อง​ซีดเผือด​ลง​ ​ทั้ง​ศีรษะ​เต็มไปด้วย​เหงื่อ​ ​ปากของ​เขา​ไม่​หยุด​พึมพำ​ว่า​ ​“​ข้า​ควร​ทำ​อย่างไร​ ​ข้า​ควร​ทำ​อย่างไร​”

​แต่​เขา​ก็​ไม่เคย​ลด​สอง​แขน​ที่​กาง​ออก​ลง​ ​ชัดเจน​ว่า​แน่วแน่​อย่างมาก​ ​เหมือน​แม่​ไก่​ที่​ปกป้อง​ลูกเจี๊ยบ​ ​ซึ่ง​เขา​ปกป้อง​คนที​่​อยู่​ข้างหลัง​เขา​

​ม่อ​อวี​่​รู้สึก​รำคาญ​เล็กน้อย​จาก​การรำพึง​รำพัน​ของ​เขา​ ​เมื่อ​เห็นท่า​ทาง​เช่นนั้น​ของ​เขา​ก็​ใจอ่อน​ลง​อีกครั้ง​ ​พูด​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​มัน​จะ​ยุ่งเหยิง​ใน​ภายหลัง​ ​เจ้า​พา​ฝ่า​บาท​ไป​ก่อน​”

​หลัว​หยาง​อ๋อง​ตกใจ​ ​มองดู​นาง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ก็​คือ​สถานที่​ที่​เจ้า​พูด​คืน​นั้น​หรือ​”

​ม่อ​อวี​่​พูดว่า​ ​“​โง่งม​นัก​ ​ข้า​ให้​เจ้า​ท่อง​ยี่สิบ​รอบ​แล้ว​เจ้า​ยัง​จำ​ไม่ได้​อีก​หรือ​”​

​หลัว​หยาง​อ๋อง​อยู่ดีๆ​ ​ก็​ร้อง​ได้​ออกมา​แล้ว​พูดว่า​ ​“​จำได้​แล้ว​ ​แต่​ข้า​ไม่​อยาก​ทิ้ง​เจ้า​ไว้​”

​ผัง​ลาย​จักรพรรดิ​ถูก​ทำลาย​แล้ว​ ​เซียง​อ๋อง​และ​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​อาณาเขต​เทพศักดิ์​สิทธิ์​ทั้งสอง​คน​อาจ​ปรากฏ​ขึ้น​ได้​ตลอดเวลา​ ​สมเด็จ​พระจักรพรรดิ​ต้อง​เสด็จ​ออกจาก​ถนน​ลับ​ก่อนเวลา​นั้น

​ม่อ​อวี​่​ต้องการ​อยู่​ใน​สนามรบ​ต่อ​เพื่อ​ต่อต้าน​หลิน​กง​กง​ ​และ​ยัง​ต้อง​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​ผู้อื่น​ด้วย​ ​และ​ผลลัพธ์​สุดท้าย​ย่อม​สามารถ​จินตนาการ​ได้

​ม่อ​อวี​่​และ​หลัว​หยาง​อ๋อง​คู่สามีภรรยา​คุย​กัน​ด้วย​เสียง​ที่​ไม่​ดัง​มาก​ ​นอกจาก​คู่​พวกเขา​เอง​แล้ว​มี​เพียง​ท่าน​นั้น​เท่านั้น​ที่​ได้ยิน

​อย่างไรก็ตาม​ในเวลานี้​ ​เสียง​ของ​บุคคล​ใน​หัวข้อ​สนทนา​ของ​พวกเขา​ก็​ดัง​ขึ้น​นอก​ประตู​ตำหนัก

​“​ความรัก​นั้น​จริงใจ​ ​เพราะ​มัน​คือ​ความจริง​ ​มี​จริง​ ​ไม่​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด​ ​ไม่​เสแสร้ง​อย่างเด็ดขาด​ ​สม​แล้ว​ที่​เป็น​ลูกศิษย์​ที่​ท่าน​แม่​สอน​เอง​กับ​มือ​ ​แม่นาง​ม่อ​ ​ข้า​ชื่นชม​ท่าน​จริงๆ​”

​เซียง​อ๋อง​เดิน​เข้ามา​ใน​ตำหนัก

​เขา​พูด​ด้วย​แววตา​หวนคิด​ถึง​ ​“​ข้า​นึกถึง​สมัย​ที่​เจ้า​กับ​หลิว​เอ๋อร​์​เติบโต​มาด​้ว​ยกัน​ตั้งแต่​เด็ก​ ​ข้า​เคย​เขียนจดหมาย​ขอ​ท่าน​แม่​แต่งงาน​ ​แต่​น่าเสียดาย​ที่​ท่าน​แม่​ไม่เห็นด้วย​”

​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​อยู่​ข้างหลัง​ ​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​ใน​ตำหนัก​โดย​เอา​สอง​มือ​ไพล่หลัง​ ​พูด​คำดี​ๆ​ ​บ้าง​เป็นครั้งคราว​ ​เฉกเช่น​ใน​ยาม​ว่าง​เจ้าหน้าที่​ทหารผ่านศึก​กำลัง​เก็บ​เมล็ด​พืช​จาก​ไร่​มันเทศ​

​เซียง​อ๋อง​ก็​ทรง​ไม่​ระลึกถึง​อดีต​อีกต่อไป​ ​และ​กล่าวว่า​ ​“​หลิน​กง​กง​พูด​ถูก​ ​แม้ว่า​ด้านนอก​จะ​พ่ายแพ้​ทั้งหมด​แล้ว​ ​จะ​นับเป็น​ประโยชน์​อัน​ใด​ ​ตราบใดที่​ชนะ​ที่นี่​ก็​เพียงพอ​แล้ว​ ​ตราบใดที่​ข้า​สามารถ​นั่ง​บน​บัลลังก์​นี้​ได้​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​เขา​หลี​ซาน​หรือ​พระราชวัง​หลี​ ​ทุกคน​ต่าง​ต้อง​ให้เกียรติ​ข้า​ ​แล้ว​ข้า​จะ​กังวล​อัน​ใด​”

​ม่อ​อวี​่​พูดว่า​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​การ​จะ​นั่ง​บน​บัลลังก์​นี้​อย่างมั่นคง​ ​แต่ไหนแต่ไรมา​ก็​มิใช่​เรื่อง​ง่ายดาย​เช่นนั้น​”

​“​เช่นนั้น​พวก​เจ้า​ไม่เห็น​หรือ​ ​ว่า​ช่วง​สิบ​ปี​มานี​้​ข้า​ผอม​ลง​ไป​เท่าใด​”

​เซียง​อ๋อง​วาง​สอง​มือไว​้​บน​ท้อง​ของ​เขา​ ​บีบ​เนื้อที่​ยื่น​ออกมา​จาก​เข็มขัด​และ​พูด​ออกมา​ด้วย​รอยยิ้ม​ขมขื่น

​เขา​ค่อยๆ​ ​แย้มยิ้ม​ ​มอง​ไป​ยัง​ที่สูง​ด้านหลัง​ฝูงชน​และ​พูดว่า​ ​“​เข็มขัด​กำลัง​ขยาย​กว้าง​ขึ้น​และ​ข้า​จะ​ไม่​เสียใจ​เลย​ ​ฝ่า​บาท​…​พระอนุชา​ ​ให้​ข้า​นั่ง​บน​บัลลังก์​ได้​หรือไม่​”

​……

​……

​“​ที่จริง​…​แล้ว​…​แต่ไหนแต่ไรมา​…​ข้า​…​ไม่เคย​…​คิด​…​นั่ง​…​บน​บัล​ลัง​ก็​นี้​เลย​”

​เสียง​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​ใน​ตำหนัก​หลัก​อัน​เงียบสงบ

​การ​ออกเสียง​สอง​คำ​แรก​คน​ผู้​นั้น​พูด​นั้น​กระตุก​มาก​ ​เหมือน​เด็ก​ที่​เพิ่ง​หัด​พูด

​ต่อมา​ ​การ​ออกเสียง​ของ​คน​ผู้​นั้น​ดีขึ้น​มาก​ ​พูด​ไม่​คล่อง​ ​แต่​อย่างน้อย​ก็​ดู​ไม่​แปลก​มาก​ ​เพียงแต่​พูด​ช้า​มาก​และ​หยุด​เป็นระยะๆ

​เหตุผล​ก็เพราะว่า​คน​ผู้​นั้น​ไม่ได้​พูด​มา​เป็นเวลา​หลาย​ปี​แล้ว