ตอนที่ 2426 ลอกหนังเจ้าออกสามชั้น!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

แม้ว่าเวลานี้เย่หยวนจะได้รับบาดเจ็บไปมากมีคลื่นพลังที่แสนอ่อนแอแต่คำพูดของเขานั้นมันกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความเย้ยหยันและแดกดัน

เทียนเหอนั้นได้แต่กล่าวตอบไปด้วยใบหน้าเหยเก “เจ้าคิดจะท้าทายบรรพกาลผู้นี้? ช่างน่าขัน! ต่อให้โลกหล้ามันจะกว้างใหญ่สักแค่ไหน แต่มันจะยังมีที่ใดที่บรรพกาลผู้นี้ไม่กล้าก้าวเดินไปหรือ?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นก็ลองมาดูสิว่าข้าจะขึ้นไปถึงยอดได้หรือไม่!”

พูดจบเย่หยวนก็ไม่คิดเจรจาต่อรองใดๆ หันหน้าเดินขึ้นเขาต่อไปทันที

เทียนเหอนั้นแทบต้องกระอักขึ้นมาสุดท้ายก็ได้แต่ยืนนิ่งยังไม่กล้าไล่ตามติดไป

เขานั้นถูกเย่หยวนข่มขู่จริง!

สีหน้านิ่งเรียบของเย่หยวนนั้นมันทำให้เขารู้สึกเริ่มไม่มั่นใจขึ้นมา

จากนั้นเขาก็ยิ้มขึ้นมา “ร้ายกาจนัก คิดจะมาอวดอ้างตัวต่อหน้าบรรพกาลผู้นี้? ข้าเกือบจะถูกเจ้าขู่เข้าจริงๆ แล้ว! แค่จักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่งก็จะขึ้นไปถึงยอดเขาที่พลังของกฎอยู่ได้? เข้าคิดว่าบรรพกาลผู้นี้ไม่รู้จักเรื่องราวในโลกหล้าหรือ?”

ตัวตนของเทียนเหอนั้นคือตัวตนระดับใด ตัวเขานั้นย่อมจะไม่เกรงกลัวต่อคำขู่แค่ไม่กี่คำอย่างแน่นอน

แต่เขานั้นกลับไม่ได้รู้เลยว่าเย่หยวนนั้นคิดใช้จิตวิทยาข่มขู่เพื่อจะล่อให้เทียนเหอติดตามขึ้นไป

เย่หยวนนั้นก้าวขึ้นไปผ่านระดับหกหมื่นกิโลเมตรได้ แค่นี้มันก็ถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดในสายตาคนแล้ว

หากเทียนเหอนั้นเกิดได้มีเวลาคิดถึงความผิดปกตินี้จริง ความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาของเย่หยวนย่อมจะเสียเปล่า

แต่เมื่อเย่หยวนกล่าวข่มขู่เช่นนั้นออกไปเทียนเหอย่อมจะคิดว่าเย่หยวนนั้นกลัวจึงได้กล่าวขู่ไล่เขาออกมา สุดท้ายเทียนเหอก็จะติดตามเย่หยวนต่อไป

แน่นอนว่าเทียนเหอก็ย่อมจะต้องติดกับดักนี้

หกหมื่นกิโลเมตร!

หกหมื่นห้าพันกิโลเมตร!

เจ็ดหมื่นกิโลเมตร!

เมื่อมาถึงระดับเจ็ดหมื่นกิโลเมตรนี้เทียนเหอก็เริ่มสะดุ้งตัวขึ้นมา

แต่จะอย่างไรเขาก็ยังไม่คิดเชื่อว่าเย่หยวนนั้นจะก้าวไปถึงยอดได้

เพราะฉะนั้นเขาจึงได้ไล่ตามต่อไป

เจ็ดหมื่นหนึ่งพันกิโลเมตร!

เจ็ดหมื่นสามพันกิโลเมตร!

เมื่อมาถึงระดับเจ็ดหมื่นห้าพันกิโลเมตรเย่หยวนก็ยังก้าวต่อไปอย่างไม่มีหยุดพัก

ส่วนอีกด้านตัวเทียนเหอนั้นเริ่มจะไม่อาจทนรับพลังของมหาค่ายกลได้อีกต่อไป

เวลานี้หัวใจของเขามันร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม รู้สึกว่ามันมีอะไรผิดปกติขึ้นแน่แล้ว

มีหรือที่จักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่งนั้นจะก้าวขึ้นมาถึงระดับเจ็ดหมื่นห้าพันกิโลเมตรได้?

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขากลับบอกว่าตั้งแต่ขึ้นเขาแปดโมฆะมาแม้ระยะห่างระหว่างตัวเขาและเย่หยวนมันจะค่อยๆ ลดลงมาแต่มันกลับไม่เคยพ้นเกินระยะปลอยภัย

ดูอย่างไรนี่มันก็คือกับดัก!

“ไม่ได้การแล้ว! หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะขึ้นถึงยอดได้จริง? บ้าน่า! ข้าตามไปไม่ได้แล้ว! ไม่เช่นนั้นต่อให้จะเป็นตัวข้านี้มันก็คงไม่อาจรับมือได้เช่นกัน!”

เทียนเหอนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าเหยเกก่อนจะหันหน้าคิดกลับลงเขา

แต่ในเวลานั้นเองมันกลับเกิดเสียงหัวเราะหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง

“เทียนเหอ เจ้าขึ้นมาเสียงไกลขนาดนี้จะไม่พักเสียหน่อยหรือ?” เย่หยวนกล่าวเย้ยขึ้น

เทียนเหอนั้นตอบกลับไปด้วยใบหน้าเครียด “เด็กน้อย เจ้ากลับสามารถไปถึงยอดเขาได้จริง! บ้าบอจริง! แต่จะอย่างไรต่อให้เจ้าขึ้นไปถึงยอดได้มันก็ไร้ค่า ค่ายกลนี้มันตายไปแล้ว! มันไม่มีทางจับตัวข้าไว้ได้หรอก!”

เย่หยวนหัวเราะขึ้นมา “เช่นนั้นหรือ? มันอาจจะฆ่าสังหารเจ้าไม่ได้จริง แต่… หากวันนี้เจ้าไม่ถูกลอกหนังออกสักสามชั้น เจ้าคงไม่มีทางออกไปจากเขานี้ได้!”

ตูม!

เขาแปดโมฆะนั้นสั่นสะท้านขึ้นมาหลังเย่หยวนพูดจบคำ

เวลานี้ลูกไฟทั้งเก้าดวงนั้นมันได้ส่งแสงสว่างจ้าขึ้นมาจากยอดเขา

คลื่นพลังรุนแรงแสนน่ากลัวส่งตรงลงไปทั้งเทือกเขา

ได้เห็นเช่นนั้นตัวเทียนเหอก็ต้องหน้าถอดสีขนลุกทั้งกาย ลางสังหรณ์ของเขามันคงถูกต้องแน่แล้ว

“เป็นไปไม่ได้น่า! เจ้า… เจ้ากลับเปิดใช้งานมหาค่ายกลนี้? นี่มันมหาค่ายกลระดับกฎ จักรพรรดิเทพสวรรค์น้อยๆ อย่างเจ้านี้จะเปิดใช้งานมันได้อย่างไรกัน?”

ภาพตรงหน้านี้มันได้ทำลายสามัญสำนึกของเทียนเหอลงอย่างสิ้นเชิง

มหาค่ายกลแห่งกฎนั้นมันกลับตื่นขึ้นมาต่อหน้าต่อตาเขาเช่นนี้!

ตูม!

จุดที่เทียนเหอยืนอยู่นี้มันเกิดแรงระเบิดขึ้นมาอย่างน่ากลัวจนส่งร่างของเทียนเหอลอยลิ่วไป

ระเบิดนี้มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันไม่มีเสียงหรือสัญญาณใดๆ ก่อนแต่กลับเป็นระเบิดที่รุนแรงล้ำ

ด้วยกำลังของเทียนเหอนั้นเขากลับไม่อาจจะต้านรับมันได้

ตูม!

ปัง ปัง!

ระหว่างที่ร่างของเทียนเหอกำลังลอยค้างอยู่กลางอากาศมันก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมาตามจนทำให้ร่างของเทียนเหอลอยอยู่นั้นต้องเปลี่ยนทิศ

การระเบิดแต่ละครั้งนี้มันสุดแสนจะรุนแรงล้ำ

แม้จะเป็นเหล่าเจ้าฟ้าดินห้าทลายเองก็คงถูกทำลายลงสิ้นภายใต้แรงระเบิดนี้

นี่มันคือพลังแห่งกฎ!

หลินหวู่ซวงปรากฏร่างขึ้นมาข้ากายเย่หยวนก่อนจะกล่าวถามขึ้น “ท่านนักบุญฟ้าคราม บาดแผลของท่าน…”

เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกปัดพร้อมกัดฟันตอบ “ไม่ตายหรอก! ทัพเผ่าเทวาคนใดที่มันเข้าระยะของมหาค่ายกลมาจงสังหารอย่าได้มีปรานี!”

หลินหวู่ซวงรับก้มหัว “ขอรับ!”

จากนั้นเย่หยวนก็ยกมือขึ้นมาวาดทำให้พลังค่ายกลปิดกั้นของทั้งเขาแปดโมฆะนั้นปะทุขึ้นมาเหมือนน้ำที่เดือดร้อนเต็มที่

คลื่นพลังรุนแรงมากมายนั้นมันถูกส่งออกไปในทุกทิศทางของเขาแปดโมฆะ

เผ่าเทวาที่อ่อนแอหน่อยหรือพวกมารนรกนั้นต่างถูกพลังนี้ทำลายลงสิ้น

พริบตาเดียวนี้เผ่าเทวาที่เข้ามาภายในระยะของเขาแปดโมฆะได้บาดเจ็บล้มตายตายลงกว่าครึ่ง!

ความน่ากลัวของมหาค่ายกลแห่งกฎนี้มันจะใช้คำพูดใดแทนได้?

ก่อนนั้นหลินหวู่ซวงใช้มหาค่ายกลนี้ฆ่าสังหารเผ่าเทวาไปมากมายจนทำให้ติดแดนนี้กลายเป็นเหมือนดั่งสุสาน

ในเวลานี้ภาพนั้นมันได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งด้วยแผนการของเย่หยวน!

เวลานี้เหล่าคนของทัพผสมต่างสั่นสะท้านกันทั้งกาย

พวกเขานั้นมึนงงกับภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าของตนเองนี้

นอกจากพวกหนี่ซวนทั้งหลายแล้ว เหล่าทหารคนอื่นๆ ย่อมจะไม่นึกฝันว่าเขาแปดโมฆะนี้มันจะกลับกลายมาปกป้องพวกเขาไว้

พวกเขานั้นได้เห็นแค่เหล่าเผ่าเทวาตรงหน้าค่อยๆ ถูกทำลายแตกสลายลงไปไม่เหลือแม้แต่ซากร่าง

คลื่นพลังรุนแรงล้ำฟ้าดินเช่นนี้แม้จะเป็นทวยเทพจากที่ใดมามันก็คงไม่อาจต้านทาน

ส่วนอีกด้านทางฝั่งทัพไร้คาดเดาที่นำมาโดยผางเจิ้นนั้นก็กำลังรอเวลานี้อยู่ด้วยความรุ่มร้อน

เมื่อมหาค่ายกลแห่งเขาแปดโมฆะปะทุขึ้นมาผางเจิ้นก็ร้องขึ้นลั่นสามทัพ

“พี่น้องข้า บุกกลับไปกัน! อย่าปล่อยให้ทัพบุตรเทวะสารเลวพวกนั้นมันรอดไป!”

“ฆ่ามัน!”

ทัพไร้คาดเดานั้นหันหัวทัพพุ่งกลับลงสนามรบอีกครั้ง

การต้องได้เห็นพี่น้องร่วมรบตายลงด้วยน้ำมือของทัพบุตรเทวะนั้นมันย่อมทำให้พวกเขารุ่มร้อนสุมไปด้วยความคับแค้น!

เวลานี้มันจึงถูกปลดปล่อยออกมา

ยอดฝีมือแต่ละคนในทัพไร้คาดเดานั้นมีดวงตาแดงก่ำพุ่งทะยานอย่างสุดตัวไปทางทัพบุตรเทวะทั้งหลาย

เวลานี้กำลังนับหมื่นที่ว่านเจิ้นนำมามันถูกสังหารลงไปจนเหลือเพียงแค่ไม่กี่ร้อยแล้ว

คนไม่กี่ร้อยนี้ได้ล้อมปกป้องว่านเจิ้นไว้ตรงกลาง ต่อให้ตัวจะตายพวกเขาก็จะไม่ถอยกลับ

ก่อนหน้านี้ว่านเจิ้นนำทัพไปขวางทางไว้

แต่ฝ่ายทัพบุตรเทวะนั้นมันได้กำลังเสริมเป็นเต๋าสวรรค์เก้าลายมาไม่น้อย

ว่านเจิ้นนั้นต้องต่อสู้ด้วยจำนวนที่น้อยกว่าแต่ก็ยังสังหารยอดฝีมือของทัพบุตรเทวะไปได้มากมาย แต่สุดท้ายตัวเขาเองนั้นก็แทบเอาชีวิตไม่รอด

แต่ขณะที่คนทั้งหลายกำลังรู้สึกสิ้นหวังจับใจนั้น มันก็เกิดเสียงร้องลั่นฟ้าขึ้นมา

ทัพที่นำมาโดยผางเจิ้นบุกสวนกลับมา!

เมื่อเข้ามาถึงระยะโจมตีผางเจิ้นที่โกรธแค้นเต็มอกก็ได้ใช้พลังต้นกำเนิดสายฟ้าออกมาอย่างสุดตัวสังหารบุตรเทวะนับสิบๆ ไปด้วยฝ่ามือเดียว

ทัพไร้คาดเดานั้นมีความฮึกเหิมที่ไม่อาจหยุดยั้ง พวกเขานั้นผลักทัพบุตรเทวะกลับไปได้ในการปะทะครั้งเดียวนั้น

แม้ว่าทัพไร้คาดเดาจะยังเสียเปรียบเรื่องจำนวนแต่ด้วยความคับแค้นที่อยู่ในใจนี้ทำให้ฝ่ายทัพบุตรเทวะได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวงไป

ส่วนในศึกของเหล่าแม่ทัพทั้งหลายนั้นมันก็เกิดความเงียบงันเข้าปกคลุม เหล่าเต๋าสวรรค์เก้าลายขั้นต้นและกลางทั้งหลายนั้นมันมีหลายต่อหลายคนที่ตายลงเพราะค่ายกลในพริบตาเดียว

แม้จะเป็นเหล่าเต๋าสวรรค์เก้าลายขั้นปลายเองก็ยังถูกระเบิดใส่จนบาดเจ็บสาหัส

หนี่ซวนและพวกนั้นย่อมจะไม่ปล่อยโอกาสให้เสียเปล่า ไล่ติดตามคนทั้งหลายนั้นไปสังหารศัตรูยอดฝีมือเผ่าเทวาลงราวเป็นผักปลา

วินาทีที่มหาค่ายกลเขาแปดโมฆะทำงานขึ้นมานั้น สถานการณ์มันก็พลิกกลับทันที!

กอปรกับความที่ทัพผสมนั้นมียอดฝีมือมากกลายเป็นทุนทำให้หลายต่อหลายคนได้ต่อสู้แบบรุมศัตรูอยู่ก่อน ทำให้ยอดฝีมือเผ่าเทวาทั้งหลายต่างตายตกลงไปอย่างรวดเร็ว

เหล่าเผ่าเทวาที่ยังเคลื่อนไม่ถึงระยะของเขาแปดโมฆะนั้นได้แต่ถอนหายใจโล่งอกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

………………….