แม้ว่าเวลานี้เย่หยวนจะได้รับบาดเจ็บไปมากมีคลื่นพลังที่แสนอ่อนแอแต่คำพูดของเขานั้นมันกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความเย้ยหยันและแดกดัน
เทียนเหอนั้นได้แต่กล่าวตอบไปด้วยใบหน้าเหยเก “เจ้าคิดจะท้าทายบรรพกาลผู้นี้? ช่างน่าขัน! ต่อให้โลกหล้ามันจะกว้างใหญ่สักแค่ไหน แต่มันจะยังมีที่ใดที่บรรพกาลผู้นี้ไม่กล้าก้าวเดินไปหรือ?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นก็ลองมาดูสิว่าข้าจะขึ้นไปถึงยอดได้หรือไม่!”
พูดจบเย่หยวนก็ไม่คิดเจรจาต่อรองใดๆ หันหน้าเดินขึ้นเขาต่อไปทันที
เทียนเหอนั้นแทบต้องกระอักขึ้นมาสุดท้ายก็ได้แต่ยืนนิ่งยังไม่กล้าไล่ตามติดไป
เขานั้นถูกเย่หยวนข่มขู่จริง!
สีหน้านิ่งเรียบของเย่หยวนนั้นมันทำให้เขารู้สึกเริ่มไม่มั่นใจขึ้นมา
จากนั้นเขาก็ยิ้มขึ้นมา “ร้ายกาจนัก คิดจะมาอวดอ้างตัวต่อหน้าบรรพกาลผู้นี้? ข้าเกือบจะถูกเจ้าขู่เข้าจริงๆ แล้ว! แค่จักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่งก็จะขึ้นไปถึงยอดเขาที่พลังของกฎอยู่ได้? เข้าคิดว่าบรรพกาลผู้นี้ไม่รู้จักเรื่องราวในโลกหล้าหรือ?”
ตัวตนของเทียนเหอนั้นคือตัวตนระดับใด ตัวเขานั้นย่อมจะไม่เกรงกลัวต่อคำขู่แค่ไม่กี่คำอย่างแน่นอน
แต่เขานั้นกลับไม่ได้รู้เลยว่าเย่หยวนนั้นคิดใช้จิตวิทยาข่มขู่เพื่อจะล่อให้เทียนเหอติดตามขึ้นไป
เย่หยวนนั้นก้าวขึ้นไปผ่านระดับหกหมื่นกิโลเมตรได้ แค่นี้มันก็ถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดในสายตาคนแล้ว
หากเทียนเหอนั้นเกิดได้มีเวลาคิดถึงความผิดปกตินี้จริง ความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาของเย่หยวนย่อมจะเสียเปล่า
แต่เมื่อเย่หยวนกล่าวข่มขู่เช่นนั้นออกไปเทียนเหอย่อมจะคิดว่าเย่หยวนนั้นกลัวจึงได้กล่าวขู่ไล่เขาออกมา สุดท้ายเทียนเหอก็จะติดตามเย่หยวนต่อไป
แน่นอนว่าเทียนเหอก็ย่อมจะต้องติดกับดักนี้
หกหมื่นกิโลเมตร!
หกหมื่นห้าพันกิโลเมตร!
เจ็ดหมื่นกิโลเมตร!
เมื่อมาถึงระดับเจ็ดหมื่นกิโลเมตรนี้เทียนเหอก็เริ่มสะดุ้งตัวขึ้นมา
แต่จะอย่างไรเขาก็ยังไม่คิดเชื่อว่าเย่หยวนนั้นจะก้าวไปถึงยอดได้
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้ไล่ตามต่อไป
เจ็ดหมื่นหนึ่งพันกิโลเมตร!
เจ็ดหมื่นสามพันกิโลเมตร!
เมื่อมาถึงระดับเจ็ดหมื่นห้าพันกิโลเมตรเย่หยวนก็ยังก้าวต่อไปอย่างไม่มีหยุดพัก
ส่วนอีกด้านตัวเทียนเหอนั้นเริ่มจะไม่อาจทนรับพลังของมหาค่ายกลได้อีกต่อไป
เวลานี้หัวใจของเขามันร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม รู้สึกว่ามันมีอะไรผิดปกติขึ้นแน่แล้ว
มีหรือที่จักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่งนั้นจะก้าวขึ้นมาถึงระดับเจ็ดหมื่นห้าพันกิโลเมตรได้?
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขากลับบอกว่าตั้งแต่ขึ้นเขาแปดโมฆะมาแม้ระยะห่างระหว่างตัวเขาและเย่หยวนมันจะค่อยๆ ลดลงมาแต่มันกลับไม่เคยพ้นเกินระยะปลอยภัย
ดูอย่างไรนี่มันก็คือกับดัก!
“ไม่ได้การแล้ว! หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะขึ้นถึงยอดได้จริง? บ้าน่า! ข้าตามไปไม่ได้แล้ว! ไม่เช่นนั้นต่อให้จะเป็นตัวข้านี้มันก็คงไม่อาจรับมือได้เช่นกัน!”
เทียนเหอนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าเหยเกก่อนจะหันหน้าคิดกลับลงเขา
แต่ในเวลานั้นเองมันกลับเกิดเสียงหัวเราะหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“เทียนเหอ เจ้าขึ้นมาเสียงไกลขนาดนี้จะไม่พักเสียหน่อยหรือ?” เย่หยวนกล่าวเย้ยขึ้น
เทียนเหอนั้นตอบกลับไปด้วยใบหน้าเครียด “เด็กน้อย เจ้ากลับสามารถไปถึงยอดเขาได้จริง! บ้าบอจริง! แต่จะอย่างไรต่อให้เจ้าขึ้นไปถึงยอดได้มันก็ไร้ค่า ค่ายกลนี้มันตายไปแล้ว! มันไม่มีทางจับตัวข้าไว้ได้หรอก!”
เย่หยวนหัวเราะขึ้นมา “เช่นนั้นหรือ? มันอาจจะฆ่าสังหารเจ้าไม่ได้จริง แต่… หากวันนี้เจ้าไม่ถูกลอกหนังออกสักสามชั้น เจ้าคงไม่มีทางออกไปจากเขานี้ได้!”
ตูม!
เขาแปดโมฆะนั้นสั่นสะท้านขึ้นมาหลังเย่หยวนพูดจบคำ
เวลานี้ลูกไฟทั้งเก้าดวงนั้นมันได้ส่งแสงสว่างจ้าขึ้นมาจากยอดเขา
คลื่นพลังรุนแรงแสนน่ากลัวส่งตรงลงไปทั้งเทือกเขา
ได้เห็นเช่นนั้นตัวเทียนเหอก็ต้องหน้าถอดสีขนลุกทั้งกาย ลางสังหรณ์ของเขามันคงถูกต้องแน่แล้ว
“เป็นไปไม่ได้น่า! เจ้า… เจ้ากลับเปิดใช้งานมหาค่ายกลนี้? นี่มันมหาค่ายกลระดับกฎ จักรพรรดิเทพสวรรค์น้อยๆ อย่างเจ้านี้จะเปิดใช้งานมันได้อย่างไรกัน?”
ภาพตรงหน้านี้มันได้ทำลายสามัญสำนึกของเทียนเหอลงอย่างสิ้นเชิง
มหาค่ายกลแห่งกฎนั้นมันกลับตื่นขึ้นมาต่อหน้าต่อตาเขาเช่นนี้!
ตูม!
จุดที่เทียนเหอยืนอยู่นี้มันเกิดแรงระเบิดขึ้นมาอย่างน่ากลัวจนส่งร่างของเทียนเหอลอยลิ่วไป
ระเบิดนี้มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันไม่มีเสียงหรือสัญญาณใดๆ ก่อนแต่กลับเป็นระเบิดที่รุนแรงล้ำ
ด้วยกำลังของเทียนเหอนั้นเขากลับไม่อาจจะต้านรับมันได้
ตูม!
ปัง ปัง!
ระหว่างที่ร่างของเทียนเหอกำลังลอยค้างอยู่กลางอากาศมันก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมาตามจนทำให้ร่างของเทียนเหอลอยอยู่นั้นต้องเปลี่ยนทิศ
การระเบิดแต่ละครั้งนี้มันสุดแสนจะรุนแรงล้ำ
แม้จะเป็นเหล่าเจ้าฟ้าดินห้าทลายเองก็คงถูกทำลายลงสิ้นภายใต้แรงระเบิดนี้
นี่มันคือพลังแห่งกฎ!
หลินหวู่ซวงปรากฏร่างขึ้นมาข้ากายเย่หยวนก่อนจะกล่าวถามขึ้น “ท่านนักบุญฟ้าคราม บาดแผลของท่าน…”
เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกปัดพร้อมกัดฟันตอบ “ไม่ตายหรอก! ทัพเผ่าเทวาคนใดที่มันเข้าระยะของมหาค่ายกลมาจงสังหารอย่าได้มีปรานี!”
หลินหวู่ซวงรับก้มหัว “ขอรับ!”
จากนั้นเย่หยวนก็ยกมือขึ้นมาวาดทำให้พลังค่ายกลปิดกั้นของทั้งเขาแปดโมฆะนั้นปะทุขึ้นมาเหมือนน้ำที่เดือดร้อนเต็มที่
คลื่นพลังรุนแรงมากมายนั้นมันถูกส่งออกไปในทุกทิศทางของเขาแปดโมฆะ
เผ่าเทวาที่อ่อนแอหน่อยหรือพวกมารนรกนั้นต่างถูกพลังนี้ทำลายลงสิ้น
พริบตาเดียวนี้เผ่าเทวาที่เข้ามาภายในระยะของเขาแปดโมฆะได้บาดเจ็บล้มตายตายลงกว่าครึ่ง!
ความน่ากลัวของมหาค่ายกลแห่งกฎนี้มันจะใช้คำพูดใดแทนได้?
ก่อนนั้นหลินหวู่ซวงใช้มหาค่ายกลนี้ฆ่าสังหารเผ่าเทวาไปมากมายจนทำให้ติดแดนนี้กลายเป็นเหมือนดั่งสุสาน
ในเวลานี้ภาพนั้นมันได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งด้วยแผนการของเย่หยวน!
เวลานี้เหล่าคนของทัพผสมต่างสั่นสะท้านกันทั้งกาย
พวกเขานั้นมึนงงกับภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าของตนเองนี้
นอกจากพวกหนี่ซวนทั้งหลายแล้ว เหล่าทหารคนอื่นๆ ย่อมจะไม่นึกฝันว่าเขาแปดโมฆะนี้มันจะกลับกลายมาปกป้องพวกเขาไว้
พวกเขานั้นได้เห็นแค่เหล่าเผ่าเทวาตรงหน้าค่อยๆ ถูกทำลายแตกสลายลงไปไม่เหลือแม้แต่ซากร่าง
คลื่นพลังรุนแรงล้ำฟ้าดินเช่นนี้แม้จะเป็นทวยเทพจากที่ใดมามันก็คงไม่อาจต้านทาน
ส่วนอีกด้านทางฝั่งทัพไร้คาดเดาที่นำมาโดยผางเจิ้นนั้นก็กำลังรอเวลานี้อยู่ด้วยความรุ่มร้อน
เมื่อมหาค่ายกลแห่งเขาแปดโมฆะปะทุขึ้นมาผางเจิ้นก็ร้องขึ้นลั่นสามทัพ
“พี่น้องข้า บุกกลับไปกัน! อย่าปล่อยให้ทัพบุตรเทวะสารเลวพวกนั้นมันรอดไป!”
“ฆ่ามัน!”
ทัพไร้คาดเดานั้นหันหัวทัพพุ่งกลับลงสนามรบอีกครั้ง
การต้องได้เห็นพี่น้องร่วมรบตายลงด้วยน้ำมือของทัพบุตรเทวะนั้นมันย่อมทำให้พวกเขารุ่มร้อนสุมไปด้วยความคับแค้น!
เวลานี้มันจึงถูกปลดปล่อยออกมา
ยอดฝีมือแต่ละคนในทัพไร้คาดเดานั้นมีดวงตาแดงก่ำพุ่งทะยานอย่างสุดตัวไปทางทัพบุตรเทวะทั้งหลาย
เวลานี้กำลังนับหมื่นที่ว่านเจิ้นนำมามันถูกสังหารลงไปจนเหลือเพียงแค่ไม่กี่ร้อยแล้ว
คนไม่กี่ร้อยนี้ได้ล้อมปกป้องว่านเจิ้นไว้ตรงกลาง ต่อให้ตัวจะตายพวกเขาก็จะไม่ถอยกลับ
ก่อนหน้านี้ว่านเจิ้นนำทัพไปขวางทางไว้
แต่ฝ่ายทัพบุตรเทวะนั้นมันได้กำลังเสริมเป็นเต๋าสวรรค์เก้าลายมาไม่น้อย
ว่านเจิ้นนั้นต้องต่อสู้ด้วยจำนวนที่น้อยกว่าแต่ก็ยังสังหารยอดฝีมือของทัพบุตรเทวะไปได้มากมาย แต่สุดท้ายตัวเขาเองนั้นก็แทบเอาชีวิตไม่รอด
แต่ขณะที่คนทั้งหลายกำลังรู้สึกสิ้นหวังจับใจนั้น มันก็เกิดเสียงร้องลั่นฟ้าขึ้นมา
ทัพที่นำมาโดยผางเจิ้นบุกสวนกลับมา!
เมื่อเข้ามาถึงระยะโจมตีผางเจิ้นที่โกรธแค้นเต็มอกก็ได้ใช้พลังต้นกำเนิดสายฟ้าออกมาอย่างสุดตัวสังหารบุตรเทวะนับสิบๆ ไปด้วยฝ่ามือเดียว
ทัพไร้คาดเดานั้นมีความฮึกเหิมที่ไม่อาจหยุดยั้ง พวกเขานั้นผลักทัพบุตรเทวะกลับไปได้ในการปะทะครั้งเดียวนั้น
แม้ว่าทัพไร้คาดเดาจะยังเสียเปรียบเรื่องจำนวนแต่ด้วยความคับแค้นที่อยู่ในใจนี้ทำให้ฝ่ายทัพบุตรเทวะได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวงไป
…
ส่วนในศึกของเหล่าแม่ทัพทั้งหลายนั้นมันก็เกิดความเงียบงันเข้าปกคลุม เหล่าเต๋าสวรรค์เก้าลายขั้นต้นและกลางทั้งหลายนั้นมันมีหลายต่อหลายคนที่ตายลงเพราะค่ายกลในพริบตาเดียว
แม้จะเป็นเหล่าเต๋าสวรรค์เก้าลายขั้นปลายเองก็ยังถูกระเบิดใส่จนบาดเจ็บสาหัส
หนี่ซวนและพวกนั้นย่อมจะไม่ปล่อยโอกาสให้เสียเปล่า ไล่ติดตามคนทั้งหลายนั้นไปสังหารศัตรูยอดฝีมือเผ่าเทวาลงราวเป็นผักปลา
วินาทีที่มหาค่ายกลเขาแปดโมฆะทำงานขึ้นมานั้น สถานการณ์มันก็พลิกกลับทันที!
กอปรกับความที่ทัพผสมนั้นมียอดฝีมือมากกลายเป็นทุนทำให้หลายต่อหลายคนได้ต่อสู้แบบรุมศัตรูอยู่ก่อน ทำให้ยอดฝีมือเผ่าเทวาทั้งหลายต่างตายตกลงไปอย่างรวดเร็ว
เหล่าเผ่าเทวาที่ยังเคลื่อนไม่ถึงระยะของเขาแปดโมฆะนั้นได้แต่ถอนหายใจโล่งอกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
………………….