สมาชิกครอบครัวของหลิ่วจ้าวเฉินตกใจจนอกอีแป้นแทบแตกร้องกันเสียงหลง!
พวกเขาคาดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าคนที่ตะโกนนั่นจะสั่งยิงทันทีหลังจากผ่านไปสามวินาที!
คนที่เสียชีวิตนั่นเป็นลูกชายคนโตของตระกูลหลิ่ว และคนที่พ่อแม่ของหลิ่วจ้าวเฉินรักมากที่สุดก็คือลูกชายคนโต เมื่อเห็นว่าลูกชายคนโตของพวกเขาถูกพรากชีวิตไปด้วยตาตัวเองอย่างกะทันหัน ทั้งสองคนก็ถึงกับร้องไห้ราวกับคนบ้าคลั่ง
เพราะหลิ่วจ้าวเฉินอยู่ใกล้พี่ชายมากที่สุด ก็เลยทำให้ใบหน้าถูกย้อมไปด้วยของสีแดงขาว
ตัวเขาในเวลานี้ตกใจกลัวจนตับม้ามแทบแตก
ตอนที่เขาทำธุรกิจนี้ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าธุรกิจนี้จะถึงกับเอาชีวิต!
ในเวลานี้ เย่เฉินพูดอย่างเย็นชาผ่านระบบเสียงสาธารณะว่า “ผมจะให้เวลาพวกคุณอีกสามวินาที ถ้าพวกคุณไม่ลงจากรถและมอบตัวซะ ผมจะสั่งให้สไนเปอร์สุ่มฆ่าคนที่สอง!”
ทันทีที่คำพูดนี้ถูกพูดออกไป ทั้งหกคนล้วนหมดความกล้าที่จะต่อต้าน และรีบแย่งกันวิ่งลงจากรถไปอย่างรวดเร็ว
หลังลงจากรถ คนทั้งหกยกมือขึ้นเหนือศีรษะทีละคน ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด
นี่เองยังเป็นครั้งแรกของพวกเขาที่ได้เห็นความตายสุดนองเลือดด้วยตาของตัวเอง
หัวใจของทุกคนพากันสั่นสะท้าน!
ถึงขั้นที่ว่าแม่ และน้องสาวของหลิ่วจ้าวเฉิน แล้วยังมีเจี่ยงหมิงต่างก็กลัวจนฉี่รดกางเกงของพวกเขา
เย่เฉินตะโกนต่ออีกว่า “พวกคุณทั้งหกคนไปคุกเข่าที่ท้ายรถ แล้วเอามือกุมหัวไว้ซะ ถ้าใครกล้าทำท่าอื่นล่ะก็ จะฆ่าทิ้งทันที!”
หกคนนี้จะกล้าไม่เชื่อฟังได้ยังไง พวกเขารีบไปที่ท้ายรถ แล้วคุกเข่าลงเอามือกุมหัว
ในเวลานี้ รถคันใหญ่ที่อยู่หลังรถค่อยๆ เคลื่อนตัวถอยหลังไปหลายสิบเมตร ทำให้เหลือพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่
หลังจากนั้นเฮลิคอปเตอร์ที่เย่เฉินกำลังนั่งอยู่ก็เริ่มลงจอดตรงพื้นที่เปิดโล่งอย่างช้าๆ
อดีตทหารพิเศษบนเฮลิคอปเตอร์ลำอื่นเคลื่อนตัวเร็วขึ้น พวกเขาได้ลงมาบนสะพานอย่างรวดเร็วโดยใช้วิธีการโรยตัว
อดีตทหารพิเศษหลายสิบนายที่ติดปืนพร้อมกระสุนจริงได้ล้อมคนทั้งหกไว้แล้วในเวลานี้ โดยที่ปากกระบอกปืนทั้งหมดมุ่งเป้าไปยังที่พวกเขา
แล้วยังมีอดีตทหารพิเศษอีกหลายนายได้เข้าไปในรถไอวีโก้ และตรวจสอบสุขภาพของเด็ก 10 คนในรถอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้น รายงานในระบบวิทยุก็ดังขึ้น “คุณชายครับ มีเด็ก 10 คนสลบอยู่ แต่ว่าผมตรวจสอบตัวบ่งชี้ทางกายภาพและสัญญาณชีพของพวกเขาแล้ว ไม่มีอันตรายถึงชีวิตครับ โปรดวางใจ”
เย่เฉินสบายใจขึ้นมาในทันที ในเมื่อเด็กๆไม่เป็นอะไร ถ้าอย่างนั้นหน้าที่ที่เหลืออยู่ ก็คือจะจัดการกับพวกค้ามนุษย์พวกนี้ยังไงดี!
เขาไม่เพียงแต่ต้องการให้ผู้ค้ามนุษย์เหล่านี้ชดใช้ค่าตอบแทน แต่ยังต้องตามหาตัวผู้ซื้อใต้น้ำของพวกเขาออกมา และฆ่าทั้งหมดซะ!
ในตอนนี้ เฮลิคอปเตอร์ที่เย่เฉินนั่งอยู่ ก็ค่อยๆหยุดลงบนสะพานอย่างมั่นคง
เย่เฉินผลักประตูออก ก่อนจะกระโดดลงไป
ในตอนนี้ คนหกคนรวมถึงเจี่ยงหมิงต่างก็นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น แล้วมองดูเย่เฉินที่เดินลงมาจากเฮลิคอปเตอร์อย่างหวาดกลัว
แต่ว่าในตอนนี้ระยะห่างยังไกลอยู่อีกเล็กน้อย ทำให้เจี่ยงหมิงยังจำเย่เฉินไม่ได้
เย่เฉินเองก็มองเจี่ยงหมิงไม่ออก เขายังนึกว่านี่คือหนึ่งในสมาชิกครอบครัวของหลิ่วจ้าวเฉิน
แต่เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ขึ้นอีกหน่อย เขาก็มองเห็นเจี่ยงหมิงที่สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอยู่ท่ามกลางคนทั้ง 6 !
ชั่วขณะนั้นเอง ใจของเย่เฉินก็เกิดโกรธจัดขึ้นมา!
เขาคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าเจี่ยงหมิงเองก็จะมีเอี่ยวด้วย!
ต่อให้เจ้าเด็กนี่จะดัดจริตขนาดไหน เขาก็เป็นแค่เด็กกำพร้าคนหนึ่งที่ออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เย่เฉินไม่เคยคิดเลย ว่าเจี่ยงหมิงที่โตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าคนนี้ จะสมคบคิดกับคนอื่น ขโมยตัวเด็ก 10 คนออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า!
ในเวลานี้เองเจี่ยงหมิงก็มองเห็นผู้ชายที่เดินเข้ามาได้อย่างชัดเจน!
ตอนที่เขาเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาคือเย่เฉิน โลกทัศน์ของเขาทั้งหมดถูกโค่นล้มลงในทันที!
ได้ยังไง….
เป็นเย่เฉินไปได้ยังไงกัน?!
——-