หลังจากที่หลี่ข่ายลี่เสียชีวิต ครอบครัวของหลิ่วจ้าวเฉินกับเจี่ยงหมิงและคนอื่นๆ ก็เริ่มหวาดกลัวตัวตาย
ในเวลาสั้นๆ มีคนถึงสองคนเสียชีวิตต่อหน้าพวกเขา และการตายของทุกคนก็ช่างน่าอนาถยิ่งนัก
ผู้อาวุโสสำนักขอทานที่ขับ Mercedes-Benz S-Class เดิมเป็นที่อิจฉาของทุกคน เขามีทั้งเงินและฐานะ และยังขับรถหรูหรา
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่นาทีก่อน Mercedes สุดหรูของเขากลับกลายเป็นเพียงโลงศพเหล็กของเขาเท่านั้น
ต่อหน้าต่อตาของพวกเขา สถานการณ์อันน่าสลดของที่หลี่ข่ายลี่ ยิ่งทำให้พวกเขาสะเทือนใจมากกว่าเดิม
ในตอนนี้เย่เฉินถาม เฉินจื๋อข่ายด้วยใบหน้าที่เย็นชา: “สมาชิกของสำนักขอทานอยู่ที่ไหน”
เฉินจื๋อข่ายบอก : “คุณชายได้โปรดวางใจ ผมได้แจ้งกองกำลังของเราทั้งหมดในซูโจวและหางโจวแล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังเดินทาง อีกไม่นานคนเหล่านี้จะถูกนำตัวมาทีละคน!”
“ดี!” เย่เฉินพยักหน้าและยิ้มหยัน : วันนี้จะไม่มีสมาชิกของสำนักขอทานเหลือแม้แต่คนเดียว!”
เร็วดีมาก!
ทุกคนในครอบครัวเย่ ที่ซ่อนตัวอยู่ในซูโจวและหางโจวก็เริ่มเคลื่อนไหว อีกทั้งคนในสำนักขอทานจากทุกที่ก็ถูกลักพาตัวทีละคนส่งไปที่สะพานแห่งนี้
ผู้อาวุโสทั้งเก้าของสำนักขอทาน ก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย อีกเจ็ดคนที่เหลือก็ถูกนำตัวมาทีละคน
รองเจ้าสำนักขอทานทั้งสองคน ในเวลานี้ก็ถูกพาไปที่เกิดเหตุด้วย
หลังจากสมาชิกสำนักขอทานได้มารวมตัวกัน ทีละคนทีละคนต่างก็แทบตกใจกับที่เกิดเหตุ
ต่อมาคนเหล่านี้ ไม่มีใครสักคนกล้าเชื่อว่าจะมีคนกล้ามาทำลายล้างทั้งสำนักขอทานในซูโจวและหางโจว
เบื้องหลังของสำนักขอทาน อู๋ตงไห่จากตระกูลอู๋ เป็นผู้หนุนหลัง
ทำไมคนเหล่านี้อยู่ต่อหน้าผม ถึงทำเป็นไม่สนใจอู๋ตงไห่
ในเวลานี้เย่เฉินได้ยืนอยู่ต่อหน้าคนกลุ่มนี้ พร้อมพูดกับเฉินจื๋อข่ายที่อยู่ข้างๆเขา: “ให้คนนำเหล็กเส้นมา แล้วมัดมือคนกลุ่มนี้ให้แน่นด้วยเหล็กเส้น! ”
เจ้าสำนักคนแรก รองเจ้าสำนักคนสองและผู้อาวุโสทั้งเจ็ดคน คนทั้งเก้าคนคุกเข่าลงเป็นแถว
เริ่มได้ เซวหนานซานเจ้าสำนักที่เพิ่งฆ่าภรรยาของเขา!
โทรศัพท์มือถือของเย่เฉิน ยังไม่หยุดบันทึก ในขณะนี้ เขาจัดตำแหน่งภาพหันไปที่เซวหนานซาน พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มานี่สิ แนะนำตัวเองสิ มันเรียกว่าอะไร? เอาไว้ทำอะไร?
เซวหนานซานมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา กัดฟันและพูดว่า: “แกทำเป็นแกล้งอยู่ที่นี่กับฉัน ฉันรู้ว่าวันนี้ฉันคงจะไม่รอดออกไป ถ้าแกอยากจะฆ่าก็ฆ่าได้เลย แต่พี่เขยของฉันจะกลับมาแก้แค้นแน่นอน ถึงตอนนั้นเขาจะจับแกสับเป็นชิ้นๆ !”
เย่เฉินส่ายหน้าและยิ้ม พูดจาอย่างเหยียดหยาม: “ผมเป็นหนึ่งคนที่ไม่เชื่อ ช่างกล้าเหลือเกินนะ!”
พูดจบ เขามองไปที่ทุกคนที่คุกเข่าต่อหน้าเขา รวมถึงครอบครัวของหลิ่วจ้าวเฉินและเจี่ยงหมิง พร้อมถามด้วยเสียงที่เคร่งขรึม: “ผมจะบอกไรพวกนายให้ ผมกล้ารับประกันเลยนะ วันนี้จะเป็นวันตายของพวกนายทุกคน จะไม่มีใครหลุดรอดชีวิตวันนี้ไปได้ แต่การตายก็มีหลายแบบนะ วิธีตายบางวิธีอาจมีความสุขมาก วิธีการตายบางอย่างก็อาจจะเจ็บปวด สุดท้ายจะสุขหรือทุกข์ก็ขึ้นอยู่กับความประพฤติของพวกนายทั้งหลาย ”
หลังจากนั้นเย่เฉิน ก็มองไปที่เซวหนานซาน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “นาย เซวหนานซาน กล้ามากงั้นเหรอ งั้นนายก็เลือกวิธีการตายอันเจ็บปวดล่ะกัน! ผมจะให้แกสมหวังสิ่งที่นายต้องการ!”
ความหวาดกลัวได้เกิดขึ้นในดวงตาของเซวหนานซาน
เขาไม่รู้ว่า เย่เฉินจะใช้วิธีอะไรในการมาทรมานตัวเขาเอง
ตอนนี้ เย่เฉินพูดกับเฉินจื๋อข่าย: “ถอดเสื้อผ้าของมันออกให้หมด แล้วใช้มีดกรีดบนตัวมันบางๆ ยิ่งเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี แต่บาดแผลไม่ต้องลึกมากนะ แต่ต้องมีเลือดออก แล้วก็ใช้เฮลิคอปเตอร์ยกร่างมันขึ้น แล้วปล่อยลงในแม่น้ำเพื่อให้ปลาที่อยู่ในน้ำสามารถกัดกินบาดแผลตามตัวมันได้ หากเวลามีมากพอปลาก็จะกินร่างมันจนถึงกระดูก!”
——–