มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1297

หากเขายังมีชีวิตอยู่ละก็ หุบเขาปีศาจเก้าและเขาปีศาจนรกตามหามานานเช่นนี้ ก็ควรจะเจอตัวเขาแล้ว

อย่างไรก็ตามเขากลับเหมือนระเหยหายไปจากโลกนี้ยังไงอย่างนั้น ถ้าบอกว่ามีชีวิตอยู่ก็ไม่เห็นตัวเขา ถ้าจะบอกว่าเขาตายไปแล้วแต่ก็ไม่เห็นซากศพเขาอีก

“สวรรค์อิจฉาความสามารถของเขา จึงลิขิตให้ชะตาชีวิตเขามีแต่อุปสรรคสินะ……”

ปีศาจยักษ์ส่ายหน้าไปมา สำหรับหุบเขาปีศาจเก้าแล้ว หากสามารถดึงผู้ที่มีโอกาสกลายเป็นผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าในอนาคตเข้าพวกได้นั้น มันสามารถทำให้ศักยภาพของฝ่ายตนเพิ่มพูนได้สูงมากจริง ๆ

แต่ทว่าอัจฉริยะที่เสียชีวิตไปแล้ว คุณประโยชน์ที่อยู่บนตัวเขาก็หายไปด้วย และไม่มีความจำเป็นต้องหนามยอกเอาหนามบ่งต่อเขาปีศาจนรก

อัจฉริยะจำนวนมากล้วนเป็นผู้ที่มีศักยภาพน่าทึ่ง แต่ยิ่งเป็นคนที่พรสวรรค์สูงมากเท่าไหร่ เส้นทางการเจริญเติบโตของคนคนนั้นก็จะเปี่ยมล้นไปด้วยอุปสรรคมากเท่านั้น เหมือนสวรรค์จงใจทำเช่นนี้ยังไงอย่างนั้น ยิ่งเป็นผู้ที่อัจฉริยะมากเท่าไหร่ โอกาสในการดับสลายสูญสิ้นก็จะยิ่งสูงมากเท่านั้น

ปีศาจยักษ์มีชีวิตมานานห้าแสนกว่าปีแล้ว ในกาลเวลาที่ผ่านมายาวนานอย่างไม่รู้จบ เขาได้พบเจออัจฉริยะที่ดีเลิศมาตั้งเท่าไหร่ แม้กระทั่งผู้ที่เขาเคยอบรมชี้แนะ แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้วผู้ที่สามารถเดินทางข้ามผ่านกาลเวลาที่ยาวนานมาพร้อมกับเขาได้นั้น ก็มีเพียงน้องชายทั้งแปดที่อยู่ข้างกายตน

“ในบรรดาอัจฉริยะทั้งหมดที่ข้าได้พบเห็นในชั่วชีวิตนี้ ผู้ที่มีศักยภาพกลายเป็นเทพฟ้าได้ก็มีหลายพันคนเช่นกัน แต่สุดท้ายผู้ที่สามารถฝึกตนจนบรรลุถึงแดนเทพฟ้าได้นั้น กลับมีไม่ถึงสิบ”

น้อยมากที่ปีศาจยักษ์จะพูดมากเช่นนี้ แต่ความหมายของเขาก็ชัดเจนมาก ๆ แล้ว แทบจะชี้ขาดข่าวการตายของหลัวซิวแล้ว

หากหลัวซิวตายไปแล้วจริง ๆ หุบเขาปีศาจเก้าก็ไม่มีความจำเป็นต้องคุมเชิงเขาปีศาจนรกอีก

……

“ซี๊ดด……”

กฎความตายดั้งเดิมหนึ่งถูกหลัวซิวดูดซับเข้าไปในร่างกาย เขารู้สึกว่าเลือดเนื้อและเส้นเลือดที่อยู่ในร่างกายตัวเองถูกกัดกร่อนจนดับสลายไปในทีเดียว

ความเจ็บปวดที่น่าเวทนาเช่นนี้ ทำให้ใบหน้าของหลัวซิวเริ่มบิดเบี้ยวขึ้นมา เส้นเลือดบริเวณหน้าผากนูนขึ้น แต่ทว่าเขากลับยังคงกัดฟันอดทน ซ่อมแซมเลือดเนื้อและเส้นเลือดที่ถูกกฎความตายดั้งเดิมกัดกร่อนให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ในขณะเดียวกันเขาก็โคจรวรยุทธ์ กลั่นแปรกฎความตายดั้งเดิมนี้อย่างสุดความสามารถ

กฎความตายดั้งเดิมที่ถูกเขาดูดซับเข้าไปในร่างกายนั้นมีเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น แต่ทว่าเมื่อเข้าไปในร่างกายเขาแล้ว กลับเหมือนมีกรดกำมะถันไหลเทเข้ามาในปากยังไงอย่างนั้น ความรู้สึกเจ็บเจียนตายเช่นนี้ ต่อให้เป็นผู้ที่มีจิตใจที่แน่วแน่ก็ยากที่จะต้านทานไหว

“ไม่ไหวแล้ว นี่คือขีดจำกัดของข้าแล้ว”

หลัวซิวใช้ทุกวิถีทางแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถกลั่นแปรกฎความตายดั้งเดิมเพียงเสี้ยวหนึ่งนี้ได้ ภายใต้สถานการณ์ที่หมดหนทาง เขาจึงทำได้เพียงโคจรวรยุทธ์เพื่อบังคับให้กฎความตายดั้งเดิมดังกล่าวออกมาจากร่างกาย

ช่วงเวลาครึ่งปีกว่าที่ผ่านมานี้ เขาฝึกตนอยู่ในเขตที่ลึกกว่าสองหมื่นไมล์ในเหวมรณะมาโดยตลอด

ช่วงแรกเริ่ม เขาดูดซับกฎความตายดั้งเดิมที่มีระดับอยู่เหนือเจ้านภาอย่างระมัดระวัง จากการควบคุมอย่างตั้งอกตั้งใจเป็นพิเศษของเขา ไม่มีข้อผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้นเลย ศักยภาพเขาก็พุ่งพรวดด้วย

ระยะเวลาเพียงครึ่งปีกว่า ร่างยุทธ์ร่างเนื้อของเขาก็บรรลุถึงแดนเทพมารขั้นสูงแล้ว หากสามารถพัฒนาขึ้นไปอีกก้าวหนึ่งได้ ก็จะบรรลุเป็นร่างยุทธ์เทพฟ้า!

นอกเหนือจากนี้แล้ว ภายใต้การชุบตัวสำนึกของเขาด้วยกฎความตายดั้งเดิม ก็มีพลังดั้งเดิมผสมเข้ามาในตัวสำนึกของเขา และบรรลุถึงแดนเทพมารขั้นสูงเช่นกัน

ร่างเนื้อและตัวสำนึกต่างบรรลุถึงขั้นสูง มีเพียงผลการฝึกตนของเขาเท่านั้นที่ยังระงับอยู่ในแดนที่ต่ำกว่า อยู่มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 7 ขั้นสูงมาโดยตลอด

“ศักยภาพของข้าเพิ่มขึ้นเยอะมาก แต่ยังคงห่างจากเทพฟ้าช่วงกลางอยู่เล็กน้อย แต่ทว่าถึงแม้จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ อย่างน้อยความสามารถในการเอาตัวรอดก็เหลือเฟือแล้ว”

แดนแห่งโลกยุทธ์ยิ่งถึงช่วงปลาย การท้าทายคู่ต่อสู้ที่แดนอยู่เหนือตัวเองก็ยิ่งยาก ถึงแม้จะตั้งใจฝึกตนมาครึ่งปี ศักยภาพเพิ่มขึ้นมาก แต่ศักยภาพโดยรวมของหลัวซิวก็ยังคงอยู่ในระดับเทพฟ้าขั้นปฐมภูมิอยู่เช่นเคย เมื่อเปรียบเทียบกับเทพฟ้าช่วงกลางแล้ว ศักยภาพก็ยังแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย

ผู้คนในโลกาอสูรฟ้าต่างคิดว่าผลการฝึกตนมหาจักรพรรดิยุทธ์ของเขาสามารถสังหารเทพมารได้ แต่ในความเป็นจริงผลการฝึกตนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 7 ของเขา สามารถสังหารเทพฟ้าขั้นปฐมภูมิได้แล้ว!

ระหว่างมหาจักรพรรดิยุทธ์และเทพฟ้า มีแดนอย่างเทพมารคั่นอยู่หนึ่งแดนใหญ่