ภาค 11 คุนหลุนกลาง กว่างเฉิงบูรพา บทที่ 1139 พายุโหมฝนคลั่งแห่งยุคสมัย

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เฉินคุนหัวหยิบยันต์กระดาษสีเขียวมรกตนั้นออกมาส่งให้หวังเจิ้งเฉิง จากนั้นกล่าวว่า “อาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ของท่านพี่ยังไม่หายดี ครั้งนี้อาจจะลงมือด้วยตัวเองไม่ได้”

“ไม่เป็นไร เมื่อมีของสิ่งนี้ก็มากพอแล้ว” หวังเจิ้งเฉิงกล่าว “ทัณฑ์ทะลวงดาบทำลายเลือดลม อาการบาดเจ็บฟื้นฟูไม่ง่าย ประมุขทิศบนถนอมตัวให้มากย่อมดีที่สุด”

เฉินคุนหัวกล่าว “คุนหัวขอรับความเป็นห่วงของผู้อาวุโสหวังแทนท่านพี่”

เขาไม่ถามว่าต่อจากนี้หวังเจิ้งเฉิงเตรียมจะทำอะไร เพียงเอ่ยว่า “ในเมื่อของส่งเสร็จสิ้นแล้ว ผู้เยาว์ขอตัวก่อน ผู้อาวุโสหวังส่งเท่านี้พอ”

“ขอให้สหายน้อยเฉินโชคดี” หวังเจิ้งเฉิงพยักหน้า เรียกคนมาส่งเฉินคุนหัวออกไป

หลังจากส่งเฉินคุนหัวออกไปแล้ว หลี่จวินซิ่นที่รับหน้าที่ส่งแขกก็กลับมาถึงนิวาสสถาน “ท่านอาจารย์ ของสิ่งนี้..หรือว่าตอนนั้น…”

“ถูกต้อง จะว่าไปก็เป็นเรื่องเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนแล้ว ครั้งนั้นขอให้เฉินทิศบนลงมือ สุดท้ายเขาพาลไม่สนใจ” หวังเจิ้งเฉิงส่ายหน้า “มาวันนี้ยอมลงมือ เกรงว่าจะเป็นเพราะเขามีเจตนาไม่ดีกับพ่อลูกตระกูลเยี่ยน แต่ยังไม่สายเกินไป ตอนนี้ยังทัน”

ชายชราหันไปมอบยันต์กระดาษสีเขียวมรกตให้แก่หลี่จวินเซิ่น จากนั้นก็ชี้แนะวิธีการใช้กับเขา

หลังจากพบพานเรื่องบนทะเลสาบสะท้อนดารา ถูกจักรพรรดิแพรเล่นงาน เหลือภัยซ่อนเร้นให้แก่ตัวเอง แต่จ้าววิญญาณดินหลี่จวินซิ่นก็สงบจิตใจ ยังเยือกเย็นเหมือนวันวาน

เนี่ยจิ่งเสินเลื่อนเป็นระดับประมุขได้ก่อนก้าวหนึ่ง อีกทั้งยังทำสงครามสะท้านเทพ ทว่าไม่ได้กระทบกระเทือนมาถึงหลี่จวินซิ่น เขายังคงฝึกฝนพัฒนาอย่างมั่นคงตามลำดับขั้นตอน

เขาในตอนนี้พร้อมจะก้าวข้ามด่านสุดท้าย สำเร็จร่างมนุษย์เซียน เลื่อนเป็นระดับประมุขทุกเวลา

“มอบของสิ่งนี้ให้คนผู้นั้นเถอะ” หวังเจิ้งเฉิงบอก “ให้รอโอกาส เมื่อโอกาสมาถึงจะเป็นช่วงเวลาวายุโหม ฝนกระหน่ำแห่งยุคสมัยแล้ว”

หลี่จวินซิ่นพยักหน้าอย่างเยือกเย็น “ขอรับท่านอาจารย์”

เขาเดินไปด้านนอก แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็หยุดลง สุดท้ายหันไปพูดว่า “ท่านอาจารย์ ความร่ำรวยของตึกความลับฟ้าเป็นอันดับรอง สิ่งสำคัญคืออิทธิพลยิ่งมายิ่งมาก เริ่มมีวี่แววว่าจะรวมใจผู้คนได้แล้ว ปัจจุบันเวลายังน้อยไป จึงไม่ก่อให้เกิดมรสุมอันใด แต่นานวันเข้า เมื่อขยับขยายด้วยสภาวะนี้ต่อไปย่อมส่งผลเสียแล้ว”

บัดนี้หลี่จวินซิ่นขมวดคิ้วกล่าว “เยี่ยนจ้าวเกอจะสร้างสภาวะอย่างไรก็ไม่อาจเทียบกับอาจารย์ปู่ได้ แต่ตอนนี้ตึกความลับฟ้าพัวพันกับยอดเขาเป่ยเกาอย่างชัดเจน หากว่ากษัตริย์กระบี่ได้สภาวะนี้ไป กลับทำให้เขามีบารมีมากขึ้นเรื่อยๆ การเกาะกุมผลประโยชน์ของเยี่ยนจ้าวเกออยู่รองลงไป หัวหอกในที่ลับกลับหันมาหาผากิเลนของเรา และหันมาหาอาจารย์ปู่กับท่านอย่างชัดเจน!”

หวังเจิ้งเฉิงยิ้ม “ล้วนอยู่ในการคาดการณ์ของข้า ดูจากเรื่องที่เซียนผู้ถูกเนรเทศกระทำในอดีต ไม่ใช่คนที่รอคอยให้ถูกกระทำ เมื่อชิงโอกาสได้ก่อน เขาย่อมไม่มีทางปล่อยโอกาสไป ถ้าหากพวกเราทำดีกับเขา ไม่สร้างปัญหาอะไรให้ คาดว่าเขาคงไม่เคลื่อนไหวมากขนาดนี้ เพียงแต่เรื่องราวในโลกล้วนเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทุกสิ่งไม่ได้เป็นไปตามความตั้งใจของคน เซียนผู้ถูกเนรเทศเยี่ยนกับเสวี่ยชูฉิงมารดาของเขาจะนำภัยใหญ่หลวงมาให้โลกซ้อนโลกของพวกเรา พวกเราย่อมไม่อาจนิ่งดูดาย แม้เสียดายคนมีความสามารถ กระนั้นก็ได้แต่ต้องละวางไว้ก่อน”

สายตาของชายชราฉายแววเสียดาย “โดยเฉพาะเซียนผู้ถูกเนรเทศเยี่ยนยังเหมือนกับจวินซิ่นเจ้า ได้ยินชื่อของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณโดยยังไม่เลื่อนเป็นระดับประมุข อนาคตอันยาวไกลของเขาตอนนี้เปลี่ยนเป็นไม่ชัดเจนแล้ว ข่าวที่ส่งมาจากทางจักรพรรดิแพรบอกว่า เยี่ยนจ้าวเกอแตกต่างกับฟู่ถิงที่จิตใจฝังเมล็ดพันธุ์ของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ แต่นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ทว่าแบบนี้ก็ทำให้พวกเราไม่ต้องลำบากใจ”

หลี่จวินซิ่นฟังแล้วก็เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวว่า “ท่านอาจารย์ เรื่องของโถงเซียนกับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ…”

“เพื่อการคงอยู่ของสำนักเต๋าสายหลักของเรา หลายๆ ครั้งพวกเราก็จำเป็นต้องนอนฟืนแข็งกินดีขม โดยเฉพาะในอนาคตอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ความเสี่ยงในตอนนี้กลับทำลายความหวัง ทำให้ความเสียสละเสียเปล่า” หวังเจิ้งเฉิงมองลูกศิษย์ของตัวเองอย่างเมตตา สายตาเต็มไปด้วยความเสียดาย “ความคิดของพวกจักรพรรดิประกายกาฬและเจิดจรัสรวมถึงคนอื่นๆ อาจจะพิจารณาถึงสำนักเต๋าเราจริงๆ แต่ผิดพลาดที่ใจร้อน สุดท้ายนำมาซึ่งเภทภัยมากมาย เพียงเสียดายที่จวินซิ่นเจ้า เพราะเรื่องเหนือความคาดหมายที่จักรพรรดิแพรทำ จึงประสบกับภัยพิบัติไปด้วย”

“ท่านอาจารย์ไม่จำเป็นต้องห่วงศิษย์ เป็นอย่างที่ท่านว่า” หลี่จวินซิ่นว่า “ในอนาคตใช่ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ถ้าศิษย์อยู่ไม่ถึงตอนนั้นก็ถือเป็นโชคชะตาของศิษย์แล้ว ส่วนทางเยี่ยนจ้าวเกอ ศิษย์เองก็ยอมรับว่าเขาเป็นอัจฉริยะบุรุษที่ยอดเยี่ยมจริงๆ แต่ในเมื่อเขาหลงผิด พวกเราก็ได้แต่ต้องละทิ้งเขา คนผู้นี้มีความสามารถ ไม่อาจใช้คำว่าจอมยุทธ์ทั่วไปมาเปรียบเทียบได้ ไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ด้านวรยุทธ์ล้ำเลิศน่าตระหนกเท่านั้น พอสร้างตึกความลับฟ้าขึ้นมา ถึงกับก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวใหญ่โตเช่นนี้ในเวลาแค่สามปี”

หวังเจิ้งเฉิงยิ้ม “เพราะเขาก่อให้เกิคดวามเคลื่อนไหวใหญ่โตเช่นนี้ กระเรียนหิมะค่อยคลายความระวัง”

“ตอนนี้ศิษย์พอเข้าใจบ้างแล้ว” หลี่จวินซิ่นขบคิดพร้อมกล่าวว่า “สร้างภาพลวงตาที่กษัตริย์กระบี่มีสภาวะเหนือกว่าอาจารย์ปู่ขึ้นมา สร้างภาพลวงตาที่พ่อลูกตระกูลเยี่ยนแข็งแกร่งสุดเปรียบปานขึ้นมา แบบนี้จึงทำให้กระเรียนหิมะรู้สึกปลอดภัย คิดว่าไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวอีกต่อไป ครอบครัวของนางสามารถคุ้มครองนางได้ โลกซ้อนโลกยากจะไล่ล่านาง แบบนี้นางจึงไม่ต้องซ่อนตัว และยอมเผยโฉม”

หลี่จวินซิ่นเงยหน้ามองอาจารย์ของตัวเอง “ถึงอย่างไรถ้าหากรวมตัวกับครอบครัว ก็ย่อมเกิดความสุขที่ได้กลับมาพบหน้า กระเรียนหิมะจะต้องไม่ยอมแยกจากเลือดเนื้อเชื้อไขหรืออยู่ห่างคนรักอีก”

“ถูกต้อง การใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของคนอาจต่ำทรามไปบ้าง แต่กลับเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในตอนนี้” หวังเจิ้งเฉิงพยักหน้าอย่างเนิบนาบ “แต่ในเมื่อวันนี้เฉินทิศบนในที่สุดยินยอมช่วยเหลือ วิธีการนี้ก็ไม่จำเป็นแล้ว”

“เช่นนั้นต้องหาวิธีสะกดตึกความลับฟ้าหรือไม่” หลี่จวินซิ่นถาม

“ย่อมไม่ต้อง ผ่านไปตั้งสามปี ไยต้องมากังวลตอนนี้” หวังเจิ้งเฉิงพูดพลางยิ้มขึ้น “ยิ่งไปกว่านั้น เซียนผู้ถูกเนรเทศเยี่ยนยังทำให้ของวิเศษที่หายสาบสูญจำนวนมากขนาดนั้นปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง สร้างความรุ่งเรืองแก่สำนักเต๋าเรา ถือเป็นเรื่องประเสริฐเรื่องหนึ่ง”

“เช่นนั้นศิษย์จะนำของไปส่งแล้ว” หลี่จวินซิ่นโค้งตัวกล่าว

เขาคิดอะไรได้อีก “การเปิดตึกของตึกความลับฟ้าในเดือนหน้าจะจัดงานประมูล การจัดงานครั้งแรกคงจะยิ่งใหญ่ตระการตา พวกเยี่ยนจ้าวเกอย่อมให้ความสำคัญ เมื่อเป็นแบบนี้จะต้องดึงความสนใจส่วนใหญ่ของพวกเขา ถ้าหากว่าทำเสร็จในเวลานี้ได้ งานของพวกเราจะง่ายขึ้นมาก”

หวังเจิ้งเฉิงดวงตาเลื่อนลอย “หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น ถ้าข้าคำนวณไม่พลาด สมควรอยู่ไม่ไกลแล้ว ส่วนจะทันวันประมูลของตึกความลับฟ้าหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับฟ้าลิขิตฟ้า”

บนผากิเลนบังเกิดแผนการมากมาย ส่วนกลางหุบเขาผีเสื้อมังกรในตอนนี้ เยี่ยนจ้าวเกอกำลังเตรียมการขั้นสุดท้ายให้แก่งานประมูลที่กำลังจะมาถึงในเดือนหน้า

ตึกความลับฟ้าในปัจจุบันมีการค้าขายคึกคัก กลายเป็นแนวโน้มโดยสมบูรณ์ การทำงานอย่างยากลำบากตลอดสามปีในที่สุดก็ไม่เสียเปล่า

งานประมูลในครั้งนี้ถ้าจัดสำเร็จ ตำแหน่งหัวมังกรในวงการจะยากสั่นคลอนทันที

กระนั้นตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอกลับได้รับข่าวที่ทำให้เขาต้องเกาหัว

“จักรพรรดิแพรส่งข้อความมาว่าจะเข้าร่วมงานประมูลครั้งนี้?” เยี่ยนจ้าวเกอมองอาหู่ที่อยู่ตรงหน้าอย่างประหลาดใจ “ทราบหรือไม่ว่าเป็นจักรพรรดิแพรคนใด”

………………..