ตอนที่ 2486 ความตายของเต๋าบรรพกาล

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“ข-แข็งแกร่งนัก! เต๋าบรรพกาลไฟและเต๋าบรรพกาลชีวิตสองคนร่วมมือกันกลับไม่อาจจะกักขังท่านไว้ได้ด้วยซ้ำ!”

“จัดการเต๋าบรรพกาลไฟไปด้วยกระบวนท่าเดียว! ท่านนักบุญฟ้าครามในตอนนี้ช่างมีกำลังสมชื่อฐานะอันสูงส่ง”

“ใช่แล้ว! การที่ท่านนักบุญฟ้าครามบรรลุเต๋านั้นมันนับเป็นบุญของผู้คนทั้งหลายแล้ว!”

หลังจากความตื่นตะลึงจางลงมันก็มีเสียงชื่นชมโห่ร้องเข้ามาแทนที่

เต๋าบรรพกาลชีวิตนั้นกลับยอมจะจบเรื่อง!

การข่มขู่นี้มันได้ผล

เย่หยวนนั้นมีกำลังมากพอที่จะเทียบเคียงกับตัวเขาได้อย่างไม่ด้อยกว่าแล้ว

หลินเฉาเถียนนั้นกลัววันนี้มาตลอดรู้ดีว่ามันจะมาถึงแต่ก็ไม่นึกฝันว่ามันจะมาถึงได้อย่างรวดเร็วปานนี้

ไม่นานก่อนหน้านี้เย่หยวนได้รับฉายาว่าเป็นนักบุญฟ้าครามแต่ตัวเขาแท้จริงนั้นไม่มีกำลังฝีมือสมควรกับตำแหน่งที่สูงส่งนั้น

แต่เวลานี้ตัวเย่หยวนนั้นเอาชนะเต๋าบรรพกาลไฟด้วยกระบวนท่าเดียวเรียกได้ว่ามีฝีมือเทียบเคียงเต๋าบรรพกาลชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดได้ เวลานี้เขาจึงมีทั้งชื่อเสียงและกำลังสมเป็นนักบุญฟ้าครามอย่างแท้จริง!

เขานั้นคือนักบุญฟ้าครามผู้สร้างตำนานอันเป็นนิรันดร์!

ตูม!

แต่ทว่าในเวลาเดียวกันนั้นเองมันก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น!

พลังหมัดรุนแรงสายหนึ่งมันพุ่งทะลวงผ่านกลางคนทั้งหลายมาตกใส่ร่างของเต๋าบรรพกาลไฟที่นอนดิ้นอยู่บนพื้นจนร่างแหลกเหลว

เต๋าบรรพกาลไฟนั้นกลับตายตกลงไปง่ายๆ เช่นนี้!

คนทั้งหลายนั้นตกตะลึงอย่างมากต้องเปิดอ้าปากค้างไปตามๆ กัน

“หึๆ พวกอ่อนแอนั้นมันไม่มีค่าจะใช้ชีวิตต่อหรอก แทนที่จะอยู่อย่างน่าสมเพชสู้ให้บรรพบุรุษผู้นี้ส่งเจ้าไปนรกดีกว่า” เทียนชิงหัวเราะลั่นขึ้น

หมัดนี้มันย่อมเป็นหมัดของเทียนชิงแล้ว

เต๋าบรรพกาลไฟวิญญาณผู้ปกครองมหาพิภพมาถึงหนึ่งยุคสมัยนั้นกลับต้องมาตายลงหน้าเขาแห่งถงเทียนเช่นนี้!

ก่อนหน้านี้เย่หยวนเล่นงานเต๋าบรรพกาลไฟจนบาดเจ็บสาหัส คนทั้งหลายตื่นตะลึงกับฝีมืออันเหนือล้ำของเย่หยวน

แต่ความตายของเต๋าบรรพกาลไฟนี้มันก็ยังสร้างความแตกต่างให้คนทั้งหลายได้อย่างมาก

คนทั้งหลายได้รู้แล้วว่ายุคสมัยแห่งการเปลี่ยนถ่ายมันได้มาถึงแล้ว!

ในยุคสมัยนี้ แม้แต่เต๋าบรรพกาลเองก็ตายลงได้!

เย่หยวนหันไปมองเทียนชิงด้วยใบหน้านิ่งเฉย ไม่ได้ต่อว่าใดๆ ออกไป

เต๋าบรรพกาลไฟนั้นคือขี้ข้าของหลินเฉาเถียน ต่อให้จะตายไปเย่หยวนก็คงไม่คิดสงสารให้มากมาย

เวลานี้กำลังฝีมือของตัวเขาเองก็พัฒนาขึ้นไปอย่างมาก เรื่องที่ต้องพึ่งพาเต๋าบรรพกาลทั้งหลายเองนั้นมันก็ไม่จำเป็นเหมือนแต่ก่อน

ที่สำคัญไปกว่านั้นคืออีกไม่นานจากนี้มันคงได้มีเต๋าบรรพกาลคนใหม่ถือกำเนิดขึ้น

เต๋าบรรพกาลไฟจะตายหรือไม่มันก็ไม่สำคัญใด

แต่หลินเฉาเถียนและเต๋าบรรพกาลคนอื่นๆ ทั้งเจ็ดต่างสั่นสะท้านไปทั้งกายเมื่อเห็นเต๋าบรรพกาลไฟตายลงตรงหน้า

หลินเฉาเถียนนั้นร้องตะโกนขึ้นมาทันที

“เย่หยวน! เจ้าคิดสมคบกับเผ่าเทวาสังหารเต๋าบรรพกาลของเผ่าพันธุ์เรา! เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่!” หลินเฉาเถียนร้องลั่นขึ้นมา

เย่หยวนหันกลับไปมองหลินเฉาเถียนพร้อมกล่าวตอบกลับไป “เทียนชิงฆ่าคนแต่เจ้ากลับไม่กล้าจะไปด่าว่ามัน เลยหันมาด่าว่าข้าแทน? เรื่องนี้มันเกิดขึ้นก็เพราะพวกเจ้า เวลานี้เต๋าบรรพกาลไฟมันตายลงแล้วเจ้าก็ยังจะมาคิดโทษข้า? เจ้าคิดว่าผู้คนทั้งหลายนั้นไม่มีสมองกันเลยหรือ?”

วินาทีที่เย่หยวนมาถึงนั้นหลินเฉาเถียนและเต๋าบรรพกาลไฟก็บ้าคลั่งเข้าโจมตีเขา

ตัวเย่หยวนนั้นแต่ตอบโต้กลับไป เวลานี้หลินเฉาเถียนนั้นกลับจะมาโทษความผิดใส่เขา

น่าขันเสียจริง!

หลินเฉาเถียนนั้นตอบกลับมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ “เด็กน้อย เจ้ารอก่อนเถอะ! เราจะได้แสดงฝีมือที่แท้กันบนเขาแห่งถงเทียน!”

พูดจบเขานั้นก็เดินสะบัดหน้าหนีไป

ครืน…

วินาทีเดียวกันนั้นเองมันก็เกิดคลื่นพลังรุนแรงไหลออกมาจากเขาแห่งถงเทียน

พร้อมๆ กันการปรากฏขึ้นของประตูแสงบานยักษ์

เขาแห่งถงเทียนมันเปิดออกแล้ว!

หลินเฉาเถียนหรี่ตาลงมองก่อนจะร้องสั่ง “ไป!”

เขารีบขยับร่างพุ่งไปหยุดอยู่ตรงหน้าประตูแสง

หลินเฉาเถียนนั้นหยิบตราถงเทียนขึ้นมาถือไว้ในมือก่อนจะเดินผ่านประตูแสงไป

ดูแล้วเขาคงไม่กล้าจะชักช้ารอไปมากกว่านี้

เต๋าบรรพกาลทั้งเจ็ดนั้นเองก็ตามติดไปเข้าสู่เขาแห่งถงเทียนทันที

เทียนชิงนั้นหันกลับมามองเย่หยวนด้วยรอยยิ้ม “เจ้าก็ชักช้าเหลือเกินนะ เจ้าไม่กลัวพวกมันจะแย่งเอาตำแหน่งเต๋าบรรพกาลไปหมดหรือ?”

เย่หยวนจึงตอบกลับไป “ข้านั้นไม่สนใจตำแหน่งเต๋าบรรพกาลใดๆ”

เทียนชิงนั้นแทบสำลักเมื่อได้ยิน “ไม่สนใจ? หึๆ น่าสนนี่! เจ้ารู้หรือไม่ว่าบรรพบุรุษผู้นี้จะมีกำลังเพิ่มขึ้นไปอีกแค่ไหนหากข้าได้เป็นเต๋าบรรพกาล?”

เย่หยวนยิ้มขึ้นตอบ “แนวคิดแห่งห้วงมิติและเต๋าค่ายกลของข้านั้นมันก็แทบจะบรรลุถึงระดับกฎแล้วเช่นกัน!”

เทียนชิงที่ได้ยินนั้นแทบต้องกระอักเลือดออกมา เดิมทีเขานั้นคิดจะเยาะเย้ยเย่หยวนแต่กลับถูกเย่หยวนตอกสวนจนแทบกระอัก

“เจ้าหมอนี่ ไม่น่ารักเสียเลยจริงๆ! ไปเถอะ!” เทียนชิงนั้นสั่งขึ้นมาก่อนจะเดินนำเข้าเขาแห่งถงเทียนไป

หลังจากเผ่าเทวาเข้าไปจนหมดสิ้นแล้วเย่หยวนก็กล่าวขึ้นมากับกลุ่มคนทั้งหลาย “หลังจากเข้าเขาแห่งถงเทียนไปแล้วพวกเจ้าทั้งหลายจงใช้กำลังฝีมือของตนเองหาโชคของตนเถอะ! ข้าจะบอกเรื่องนี้อีกครั้ง ใครที่ช่วยหาหยาดชีวาให้ข้าได้นั้นข้าจะช่วยคนผู้นั้นให้ได้รับตำแหน่งเต๋าบรรพกาล!”

เจ้าฟ้าดินนับร้อยๆ นั้นต่างกล่าวรับกันขึ้นมาพร้อมๆ กัน “ขอรับท่านนักบุญฟ้าคราม!”

เดิมทีนั้นเย่หยวนย่อมจะไม่คิดอยากเข้าร่วมศึกแย่งชิงตำแหน่งเต๋าบรรพกาลใดๆ

แต่สุดท้ายนั้นเขาก็ยังต้องฟังคำแนะนำของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ไว้

อย่างน้อยๆ ด้วยหูตาของคนนับร้อยๆ นี้ พวกเขาก็จะช่วยเพิ่มโอกาสหาหยาดชีวาได้อีกมาก

ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้นตัวเย่หยวนไม่คิดสนใจ

เมื่อก้าวมาถึงหน้าประตูแสงนั้นเย่หยวนก็หยุดเท้าลงด้วยความรู้สึกอันหลากหลายในใจ

หลังจากพยายามนานหลายต่อหลายปี ในที่สุดเขาก็มาถึงขั้นนี้ได้

เย่หยวนนั้นค่อยๆ กดความรู้สึกที่พลุ่งพล่านนั้นลงก่อนจะก้าวผ่านประตูแสงไป

เบื่อหน้าของเขานั้นมันคือม่านหมอกสีเทาส่วนบนท้องฟ้านั้นมันมีสายฟ้าพุ่งผ่านไปมาอย่างรุนแรง

เย่หยวนที่ได้เห็นถึงกับต้องขมวดคิ้วแน่น ภาพตรงหน้าของเขานี้มันเหมือนสภาพในหมอกแบ่งอาณาจักรเลยมิใช่หรือ?

“มีอะไรหรือเย่หยวน?” มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลก้าวขึ้นมาถามเมื่อเห็นสีหน้าแปลกประหลาดนั้นของเย่หยวน

เย่หยวนจึงตอบกลับไป “การกำเนิดแห่งเต๋าสวรรค์ ม่านหมอกที่กั้นแต่ละอาณาจักรบนเขาแห่งถงเทียน ข้าคิดว่า… มันจะเป็นการสับเปลี่ยนของพลังกฎเสียอีก! ดูท่าแล้วในแต่ละยุคสมัยนั้นมันก็จะแตกต่างกันไป”

มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นถามขึ้นมาทันที “นี่… นี่คือสภาพภายในหมอกกั้นอาณาจักร?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ข้านั้นเคยเข้าไปในหมอกกั้นอาณาจักรนั้นมาก่อนและมันเป็นภาพเช่นนี้จริง”

มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นหันมามองเย่หยวนอย่างไม่รู้จะกล่าวอะไร

เจ้าหมอนี่มันสัตว์ประหลาดโดยแท้!

มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นลองสัมผัสหมอกนั้นดูแต่สีหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนไปทันที “ให้ตายสิ ที่แห่งนี้มันมีพลังแห่งยอดเต๋ากดดันอยู่สิ้น! เราไม่อาจจะเหินบินหรือมุดห้วงมิติใดๆ ได้เลย เช่นนี้คงได้แต่ต้องเดินเท้าไป เหมือนดั่งถูกขังไว้ในกรงใหญ่!”

เย่หยวนผงะหน้าไปเล็กน้อย “จริงหรือ?”

พูดจบเขานั้นก็กระโดดขึ้นพุ่งตัวไปหลายเมตร

จากนั้นเขาก็ดีดตัวขึ้นไปสูงในอากาศ

วินาทีเดียวกันนั้นมันก็ปรากฏสายฟ้าพุ่งเข้ามาแต่เย่หยวนนั้นกลับเอามือจับสายฟ้านั้นไว้

เจ้าหมูสมบัติที่อยู่ในอ้อมแขนของเขานั้นทำจมูกฟุดฟิดขึ้นก่อนจะกินสายฟ้านั้นลงไปและทิ้งตัวนอนลงอีกครั้ง

มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นต้องอ้าปากค้างมองดูภาพตรงหน้าราวกับได้เห็นผี

เจ้าสองคนนี้มันมิใช่มนุษย์แล้ว!

เมื่อจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้และคนอื่นๆ ได้เห็นเช่นนั้นบ้างพวกเขาต่างก็อ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน

“เจ้า… เจ้าทำได้อย่างไรกัน? นี่เจ้าไม่ถูกพลังของยอดเต๋ากดดันไว้จริงๆ หรือ?” มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลร้องลั่นขึ้น

“ท่านนักบุญฟ้าครามจะสุดยอดเกินไปแล้ว! เขานั้นกลับสามารถเหาะเหินบนเขาแห่งถงเทียนได้!”

“สัตว์ประหลาด! สัตว์ประหลาดโดยแท้!”

“การสามารถจะมุดห้วงมิติ สามารถจะเหาะเหิน มันย่อมทำให้คนผู้นั้นไร้เทียมทานบนเขาแล้ว!”

“คิดถูกจริงๆ ที่เลือกจะติดตามท่านนักบุญฟ้าครามมา!”

เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ต้องร่ำร้องขึ้นด้วยความตกตะลึง

วินาทีที่พวกเขาเข้ามานั้นพวกเขาทั้งหลายต่างถูกพลังยอดเต๋ากดหัวไว้จนแทบกลายเป็นคนธรรมดาไป

ใครจะไปนึกฝันว่าเย่หยวนนั้นกลับไม่ถูกผูกมัดใดๆ ไว้แม้แต่น้อย?

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “โลกใบน้อยของข้ามันพิเศษ พลังยอดเต๋านั้นมันกดหัวข้าไว้ไม่ได้หรอก”

มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นยิ้มแห้งๆ ออกมา “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงไม่คิดสนใจแม้แต่ตำแหน่งเต๋าบรรพกาล!”