บทที่ 1457 ปฏิรูปรอเวลาผงาด

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1457 ปฏิรูปรอเวลาผงาด

ใช่แล้ว นี่จึงจะเป็นเจตนารมณ์ของพิมแสง หลังจากที่เธอรู้ใจตัวเองอย่างถ่องแท้ เธอก็รู้สึกสำนึกผิดต่อมาร์ตินเป็นอย่างมาก เธอเสียใจที่หลายปีมานี้คอยแต่จะผูกมัดเขา ทำให้ชีวิตที่ดีงามของเขาถูกเธอก่อกวนจนยุ่งเหยิงไปหมด ดังนั้น การให้มาร์ตินกลับคืนสู่หนทางที่ถูกต้องของเขา จึงเป็นความตั้งใจสุดท้ายของเธอ

คณาธิป : “งั้นคุณคิดว่าจะทำอย่างไรกับเด็กคนนี้ละ? คุณจะรับเลี้ยงไว้ที่นี่หรือ?”

เส้นหมี่ : “อืม”

เธอตอบกลับเขาไปอย่างไม่ลังเล แต่ชายผู้นี้เมื่อได้ฟังแล้วกลับนั่งลงข้างๆเธอ แสดงสีหน้าแห่งความไม่แน่ใจออกมา “สวยใส คุณว่า…..ไม่งั้น เอาเด็กคนนี้มาให้ผมเลี้ยงไหม?” “อะไรนะ?” เส้นหมี่เบิกตากว้าง มองเขาอย่างตกตะลึง “คุณเลี้ยงหรือ?” “ใช่ครับ ผมยังไม่มีลูก ล๋ายเย่ก็ยังสาว แต่ทางนี้คุณก็มีสามคนแล้ว ทั้งยังร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง หลังจากต้นปี ชินจังไปเรียนพื้นฐาน แสนรักคงจะไปที่ตระกูลเทวเทพเพื่อรับช่วงต่อในการดูแลธุรกิจ เมื่อถึงเวลานั้น คุณดูแลเด็กสองคน ทั้งยังต้องดูแลตระกูลเทวเทพอีก น่าจะแยกร่างไม่ได้ ดังนั้นถ้ามาให้ทางผมเลี้ยง น่าจะเหมาะกว่า” คณาธิปวิเคราะห์แจกแจงอย่างละเอียดถี่ถ้วน การที่เขาสามารถพูดเช่นนี้ได้ อันที่จริงแล้ว เมื่อฟังดูก็รู้ว่าคงจะปรึกษากับแสนรักแล้วจึงมา ไม่เช่นนั้น เขาก็คงไม่รู้ถึงการเตรียมการขั้นต่อไปของชายผู้นี้ เส้นหมี่ไม่ได้พูดอะไรอีก การเตรียมการเช่นนี้ ดีมากก็จริง แต่เด็กคนนี้…….. เธอก้มมองทารกน้อยในอ้อมอกอีกครั้ง “คุณวางใจเถอะ แค่เลี้ยงไว้ที่บ้านผมเท่านั้น เธอยังคงเป็นลูกของพวกเราสองครอบครัว หากคุณอยากจะไปหา หรืออยากรับมาอยู่ด้วยสักสองสามวัน ก็ทำได้ตลอดเวลาครับ” เหมือนมองออกว่าเธอทำใจไม่ได้ คณาธิปจึงกล่าวเสริมอีก หญิงสาวเมื่อได้ฟัง ในที่สุดก็ยอม หลังจากนั้นจึงค่อยๆอุ้มทารกน้อยยื่นออกมา “งั้นคุณช่วยให้หนูเย่ดูแลเธอดีๆนะ ถ้าทำไม่เป็น ฉันให้พี่ภาไปสอนสักสองสามวัน” “ดีครับ” คณาธิปรับเด็กคนนี้มาอุ้มอย่างระมัดระวังและรับคำอย่างกระปรี้กระเปร่าแม้จะยังมีเกร็งๆอยู่บ้าง อย่างไรเสีย นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ชายที่โตมาจนป่านนี้เช่นเขาอุ้มเด็กทารกตัวน้อยเช่นนี้ แต่หลังจากที่ทารกน้อยได้มาอยู่บนมือของเขา เขามองใบหน้าดวงน้อยที่แดงระเรื่อ ทั้งยังมีกลิ่นนมที่แผ่ซ่านออกมาจากตัว ชั่วขณะนั้น เขาก็รู้สึกแสบปลายจมูกอย่างรุนแรง รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างจะกลับมาอีก “สวยใส เรามาตั้งชื่อให้เธอกันดีไหม?” “เอาสิ ชื่ออะไรล่ะ?” “หวานหว่าน นานะ ดีไหม?” “…………….”

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน หลังจากที่คนผู้นี้พาทารกน้อยไป เส้นหมี่ก็นั่งอยู่ตรงนั้นตลอดเวลา และน้ำตาก็ไม่ได้เหือดแห้งไป แสนรักกลับมาเห็นเข้า นัยน์ตาจึงหม่นลงเล็กน้อย “วันนี้มาพาเด็กไปแล้วหรือ?” “ใช่ค่ะ คุณชาย ตอนนี้ฉันกำลังเก็บของเพราะต้องไปบ้านคุณชายรอง คุณนายบอกว่า คุณนายรองไม่เคยดูแลเด็ก ให้ฉันไปสอนเธอสักสองสามวันค่ะ” พี่ภารู้สึกได้ถึงไอเย็นจากคุณชายผู้นี้ จึงทำได้เพียงอาศัยความกล้าในการตอบกลับไป แล้วก็เป็นดังคาด เมื่อพูดจบ ใบหน้าที่หล่อเหลาของชายผู้นี้ก็ไม่น่ามองแล้ว บอกว่าให้ ไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าตอนนี้เลย? ใบหน้าเขาขุ่นขึ้นมาทันที พลางมองไปที่หญิงสาวที่กำลังร้องไห้เงียบๆอยู่ในสวนดอกไม้

“ที่รัก……”

“หือ?” เมื่อเส้นหมี่ได้ยินเสียง จึงรีบเช็ดน้ำตา จากนั้นก็ขยับท่านั่งและเค้นรอยยิ้มออกมา รอจนชายผู้นี้เดินมาหา “กลับมาแล้วหรือคะ? จัดการเรื่องต่างๆเรียบร้อยไหมคะ?” “เรียบร้อยแล้วครับ ครั้งนี้เป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์จัดการโดยตรง คุณไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยของเด็กอีกแล้ว อีกอย่างในช่วงเวลานั้นยังมีเด็กไม่น้อยเลยที่มีความสามารถซึ่งคัดเลือกมาจากแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ เมื่อถึงเวลานั้นชินจังก็จะสนุกไปกับพวกเขา” เขาพูดพลางยื่นเอกสารของเด็กสองสามคนมาให้ เส้นหมี่เมื่อได้ฟังว่าเป็นเรื่องของลูกชาย จึงดึงความสนใจกลับมาได้ แล้วนั่งอยู่ตรงนั้นดูเอกสารอย่างตั้งใจ อยู่กับคนรุ่นราวคราวเดียวกัน นั่นย่อมเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว เช่นนั้นก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องห่ามๆของชินจังแล้ว

คืนนั้น หลังจากต้นปี ชินจังก็มีอายุครบสิบสองปีเต็มแล้ว หลังจากเขาฟังแล้วก็เห็นด้วย ดังนั้นตกกลางคืนสองสามีภรรยาจึงจัดกระเป๋า ส่วนคิวคิวและรินจังสองคน ก็กระซิบกระซาบกันอยู่เป็นเพื่อนพี่ชาย เมื่อฟ้าสาง คนของคณะวิศวกรรมศาสตร์จึงมารับ ชินจังจึงนับว่าเข้าสู่ทางเดินชีวิตของตนเองอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อชินจังไปแล้ว ดังเช่นที่คณาธิปได้กล่าวเอาไว้ ประธานแสนรักที่ว่างงานมาเกือบปี ในที่สุดก็ต้องเริ่มกลับสู่สมรภูมิรบแล้ว กลับไปสู่เดอะวิวซี และครั้งนี้ เนื่องจากภัยพิบัติของปีที่ผ่านมา ทำให้การคลังไม่สามารถฟื้นฟูได้อยู่หนึ่งปีเต็ม ทั้งยังก่อนหน้านี้ไม่นานยังมีการระเบิดครั้งใหญ่ เหล่านี้ล้วนทำให้ไวท์พาเลซเดินไปถึงจุดที่ยากลำบากเป็นอย่างมาก ดังนั้นการที่เขากลับมาครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อหาเงินให้กับตระกูลเทวเทพ…..แต่เพราะเขาแบกความหวังของการคลังทั้งประเทศไว้ต่างหาก!

“แค่กๆๆๆ………” อากาศของเมืองหลวง ยังคงไม่อบอุ่นเท่าเมืองA สามเดือนแล้ว เส้นหมี่หลังลงจากเครื่องบิน ก็โดนลมเย็นจนไอ เมื่อแสนรักเห็นจึงดึงเธอเข้ามาซุกในเสื้อของตน “ยังหนาวไหม?” “ไม่หนาวแล้วค่ะ” หญิงสาวที่รู้สึกอุ่นขึ้นมาแล้ว อิงแอบอยู่ในอ้อมอกของชายหนุ่ม เผยรอยยิ้มออกมาแต่กระนั้นก็ยังคงขาวซีด