ตอนที่ 2080 ใครกันแน่?

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 2080 ใครกันแน่?

 

ถึงแม้ความเชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรจะไม่ใช่ตัววัดความสามารถในการปรุงยาที่ยอดเยี่ยม แต่ถ้าดูจากหินวิถโอสถแล้วจะพบว่าหลังจากเวลาที่ผ่านพ้นมาหลายยุคสมัย มีเพียงแค่เจ็ดคนเท่านั้นที่สามารถผ่านการทดสอบระดับแปดได้สําเร็จ ไม่ใช่ว่าแค่นี้ก็สามารถพิสูจน์ความสามารถได้แล้วหรอกรี?

 

“อีจอชวีช่างยอดเยี่ยมนัก!”

 

“ไม่ใช่ ต้องเป็นนักปรุงยายื่อหยางต่างหาก!”

 

หลังจากที่บรรยากาศนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ทุกคนก็เริ่มกลับมาส่งเสียงเอะอะกันอีกครั้ง พวกเขาตะโกนชื่อของอู่จื่อซวีกับนักปรุงยายื่อหยางออกมาอย่างตื่นเต้น

 

ทันใดนั้นเอง จู่ๆนักปรุงยายื่อหยางก็ดึงมือออกจากหินวิดีโอสถและลุกขึ้นยืน

 

เป็นนักปรุงยายื่อหยางจริงๆด้วย!

 

ใครบางคนตื่นเต้นจนร่างกายชักกระตุก ถึงแม้พวกเขาจะไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเรื่องนี้ แต่การที่ได้เห็นคนที่ตนเองให้กําลังใจประสบความสําเร็จ ความรู้สึกตื่นเต้นก็ยังแผ่ซ่านเข้ามาในร่างของพวกเขา จนกระโดดโลดเต้นไปมา

 

ส่วนทางด้านของเหล่าคนที่เอนเอียงไปทางอู่จื่อซวีนั้น พวกเขาก้มหัวคอตกราวกับตนเองเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

 

นักปรุงยายื่อหยางเผยสีหน้าภาคภูมิใจและยิ้มมุมปาก ระยะเวลาที่ใช้ทดสอบในครั้งนี้ดีกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้มาก เขาผ่านการทดสอบระดับเจ็ดไปด้วยระยะเวลาที่น้อยกว่าครั้งอดีตเกือบจะหนึ่งชั่วโมงเต็ม

 

ผู้ช่วยนักปรุงยาของหอโอสถบรรพกาลรีบวิ่งเข้ามาหา เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้ตัวเขานั้นมีท่าทีเย่อหยิ่งกับผู้เข้าร่วมการทดสอบคนอื่นๆเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มประจบประแจง

 

นั่นเป็นเพราะนักปรุงยายื่อหยางมีโอกาสสูงมากที่จะได้เข้าร่วมกับหอโอสถบรรพกาล และเมื่อใดที่อีกฝ่ายเข้าร่วม ด้วยสถานะนักปรุงยาแล้วอีกฝ่ายย่อมมีกลายเป็นตัวตนที่สูงส่งกว่าผู้ช่วยนักปรุงยาเช่นเขามาก

 

นอกจากนั้นถึงแม้นักปรุงยายื่อหยางจะไม่สามารถเข้าร่วมกับหอโอสถบรรพกาลได้ในครั้งนี้ แต่ตราบใดที่อีกฝ่ายบรรลุเป็นนักปรุงยาสี่ดาว อีกฝ่ายก็จะเข้าร่วมกับหอโอสถบรรพกาลได้อย่างแน่นอน

 

“ยินดีกับปรมาจารย์ยื่อหยางด้วย!” ผู้ช่วยนักปรุงยากล่าว “ข้าจะตรวจสอบผลการทดสอบให้ท่านเอง”

 

“อืม!” นักปรุงยายื่อหยางพยักหน้าด้วยสีหน้าแน่นิ่ง

 

“ท่านผ่านการทดสอบทั้งหมดเจ็ดระดับ โดยที่เวลารวมทั้งหมดคือสองวันยี่สิบสองชั่วโมง” ผู้ช่วยนักปรุงยากล่าวหลังจากตรวจสอบหินวิถีโอสถ

ว่าไงนะ!

 

ผ่านทั้งหมดเจ็ดระดับงั้นรี?

 

เหล่าฝูงชนกลายเป็นเอะอะ ถ้าแบบนั้นคนที่ผ่านการทดสอบระดับแปดก็ไม่ใช่นักปรุงยายื่อหยางน่ะสิ

 

“ต้องเป็นอู่จื่อซวีแน่ๆ!”

 

“พระเจ้า อู่จื่อซวีผ่านการทดสอบระดับที่แปดได้!”

 

“แข็งแกร่งที่สุดในยุคสมัย!”

 

ใบหน้าของนักปรุงยายื่อหยางเปลี่ยนไปทันที ว่าไงนะ อู่จื่อซวีผ่านการทดสอบระดับแปดได้งั้นรึ?

 

จะเป็นไปได้อย่างไรกัน!

 

แน่นอนว่าเขาเองก็ลองพยายามในการทดสอบระดับแปดดูแล้ว แต่ผ่านไปไม่นานเขาก็ล้มเหลวและถูกขับไล่ออกมาจากโลกจําลองจิตวิญญาณ

 

ไม่จริง ต้องไม่ใช่เรื่องจริงแน่ๆ … เป็นไปได้อย่างไรที่นักปรุงยาที่มีอายุน้อยกว่าเขาจะก้าวข้ามเขาไปได้ และขึ้นไปยืนอยู่บนความสําเร็จที่แม้แต่นักปรุงยานับไม่ถ้วนในอดีตก็ทําได้เพียงแหงนมอง

 

ชายชราเจ็บปวดราวกับได้รับบาดแผลหมื่นจุด และรู้สึกเหมือนกับถูกสวรรค์ทอดทิ้ง

 

หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง อู่จื่อซวีก็ลืมลืมตาขึ้นพร้อมกับดึงแขนกลับและลุกขึ้นยืน

 

“อู่จื่อซวี!”

 

“อู่จื่อซวี!”

 

“อู่จื่อซวี!”

 

เหล่าคนที่สนับสนุนเอนเสียงไปทางเขาทุกคนต่างชูป้ายและตะโกนเสียงดังลั่น

 

จ่อซวีชะงักสับสนเล็กน้อย

 

เขารู้ดีว่าตนเองนั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก แถมยังถูกกล่าวว่าเป็นหนึ่งในนักปรุงยารุ่นเยาว์ที่มากพรสวรรค์ที่สุดคนหนึ่ง แต่ไม่ว่าอย่างไรในยุทธภพนี้ก็ยังมีอัจฉริยะอยู่อีกมากมาย เพราะในดินแดนแห่งเซียนที่กว้างใหญ่นี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะนําพาอัจฉริยะทุกคนมาทําการทดสอบพร้อมกัน

 

แต่ถึงอย่างไรเขาก็แค่ผ่านการทดสอบระดับเจ็ดได้เท่านั้น แม้ความสําเร็จนี้จะน่าอัศจรรย์แค่ไหน คนพวกนี้ก็ดูจะตื่นเต้นเกินไปหน่อยหรือเปล่า?

 

“ยินดีกับนายน้อยอู่ด้วย ที่ท่าลายประวัติศาสตร์และกลายเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดในยุคสมัย!”

 

“นายน้อย ข้าอยากติดตามท่าน!”

 

“ข้าก็ด้วย!”

 

ใครบางคนแสดงความยินดีกับจอซวี ในขณะที่ใครบางคนแสดงความภักดีออกมาเพื่อน้อมรับอีกฝ่ายเป็นเจ้านาย

 

นี่มันอะไรกัน?

 

อิจอชวีรู้สึกสับสน หลังจากเข้าไปยังโลกจําลองจิตวิญญาณ กายหยาบของเขาก็กลายเป็นเพียงเปลือกที่ว่างเปล่า ทําให้ไม่ได้ยินหรือรับรู้สถานการณ์ในโลกภายนอกว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“ตุบ ผู้ช่วยนักปรุงยาจากหอโอสถบรรพกาลก้าวเดินเข้ามาอีกครั้งด้วยใบหน้าประจบประแจง

 

“ยินดีกับนายน้อยอู่ด้วย!” ใบหน้าของผู้ช่วยนักปรุงยาประเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ข้าจะตรวจสอบผลการทดสอบให้ท่านเอง”

 

“อืม” เหมือนกับนักปรุงยายื่อหยางก่อนหน้านี้ อู่จื่อซวีเองก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มนิ่งเฉย

 

ตุบ” นักปรุงยายื่อหยางก้าวเดินเข้ามาและกล่าว “คลื่นลูกใหม่ไล่ตามคลื่นลูกเก่าแล้วจริงๆ ต่อหน้าเจ้าความสามารถของข้าคงไม่อาจทัดเทียมได้”

 

เมื่อมีนักปรุงยายื่อหยางเข้ามาแทรก ผู้ช่วยนักปรุงยาที่กําลังจะแจ้งผลการทดสอบก็ปิดปากเงียบทัน โดยไม่กล้าเอ่ยแทรก

 

อู่จื่อซวียิ่งมึนงงมากขึ้นไปอีก ถึงแม้เขาจะไม่เห็นนักปรุงยายื่อหยางอยู่ในสายตา และมองอีกฝ่ายเป็นเพียงก้อนหินที่จะทําให้เขาเหยียบขึ้นไปยังสถานะที่สูงขึ้น แต่เขาก็บรรลุความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่ถึงขนาดที่อีกฝ่ายต้องมากล่าวกับเขาเช่นนี้ไม่ใช่รึไงกัน?

 

หรือว่าชายชราผู้นี้จะผ่านแค่เพียงการทดสอบระดับหกกัน?

 

อู่จื่อซวีเผยท่าที่ดูถูกและเหยียดหยามออกมา

 

เมื่อเห็นว่าในที่สุดจ่อซวีก็นิ่งเงียบ ผู้ช่วยนักปรุงยาก็ใช้โอกาสนี้กล่าวขึ้น “นายน้อย ท่านผ่านการทดสอบเจ็ดระดับ โดยใช้เวลาทั้งหมดสองวันยี่สิบสองชั่วโมง

 

พรวด!

 

ทันใดนั้นทุกคนรอบด้านก็สลักออกมา แม้แต่นักปรุงยายื่อหยางก็ชะงักแน่นิ่ง

 

ถ้าไม่ใช่ทั้งคู่จื่อซวีกับนักปรุงยายื่อหยางแล้วเป็นใครกันล่ะ?

 

“แท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่?”

 

“ข้าสงสัยจะตายอยู่แล้ว!”

 

“รีบๆ เปิดเผยออกมาเสียที่สิ!”

 

“ใช่แล้ว ทั้งๆ ที่ผ่านการทดสอบระดับแปดแล้ว ทําไมถึงยังไม่ลุกขึ้นยืนอีก?”

 

เมื่อได้ยินเสียงบ่นและคําโอดครวญของทุกคน อู่จอซวีก็รู้สึกหม่นหมองและแทบจะเป็นลม

 

ว่าไงนะ? มีใครบางคนผ่านการทดสอบระดับแปดได้จริงๆ งั้นรี?

 

ถึงว่าทําไมนักปรุงยายื่อหยางถึงได้เข้ามาแสดงความยินดีต่อเขา ที่แท้อีกฝ่ายก็คิดว่าเขาเป็นคนที่ผ่านการทดสอบระดับแปดได้นี่เอง

 

แต่มีคนที่สามารถผ่านการทดสอบระดับแปดได้จริงๆรีเนีย?

 

เขาเองก็ลองพยายามดูแล้วแต่ก็ล้มเหลวอย่างรวดเร็ว จนคิดว่าการทดสอบระดับที่แปดนั้นเป็นการทดสอบที่ไม่สามารถผ่านไปได้! อย่างน้อยก็สําหรับตัวเขาในตอนนี้ล่ะนะ บางทีหลังจากบรรลุเป็นนักปรุงยาสีดาวเขาอาจจะผ่านการทดสอบได้ก็เป็นได้

 

แล้วใครกันล่ะที่ผ่านการทดสอบ?

 

ในช่วงเวลานี้เองร่างของหลิงฮันก็สั่นไหวเล็กน้อย และค่อยๆลืมตาขึ้น