“เสี่ยวฉีกราบคารวะองค์ชายใหญ่!”
ณ ห้องส่วนตัวในร้านเหล้าแห่งนี้เสี่ยวฉีกำลังก้มลงกราบตรงหน้าองค์ชายใหญ่
องค์ชายใหญ่ยิ้มขึ้นมา “ลุกเถอะ จะอย่างไรเจ้าก็เป็นน้องเมียข้า อย่าได้วางท่าเหมือนคนไม่รู้จักกันเลย!”
เสี่ยวฉีนั้นเงยหน้าขึ้นมากล่าว “เสี่ยวฉีขอบพระคุณองค์ชายใหญ่มากที่ช่วยดูแลพี่สาวข้า!”
พี่สาวของเสี่ยวฉีนั้นเป็นสาวใช้ที่ทำงานในราชวัง
แต่เวลานี้นางได้กลายเป็นนางสนมของขององค์ชายใหญ่ไป มันย่อมจะเหมือนการเปลี่ยนเป็ดให้กลายเป็นหงส์
คุณในครั้งนี้เสี่ยวฉีย่อมจะไม่อาจปฏิเสธได้
องค์ชายใหญ่นั้นคิดอยากจะแฝงเข้าไปในตระกูลถังมานานเพื่อศึกษาเรื่องราวของเย่หยวน
แต่เขาเองก็ไม่คิดฝันว่าตระกูลถังนั้นจะอยู่กันอย่างเหนียวแน่น ไม่มีทางใดที่เขาจะแทรกคนของตัวเองเข้าไปตรวจสอบเรื่องราวของเย่หยวนได้เลย
จากนั้นองค์ชายใหญ่ก็ได้ไปพบเจอว่าพี่สาวของเสี่ยวฉีนั้นเป็นคนรับใช้ทำงานอยู่ในวังที่สำคัญไปกว่านั้นชีวิตของนางยังแสนลำบาก
เขาจึงได้เสนอขอแต่งกับพี่สาวของเสี่ยวฉีไป!
องค์ชายใหญ่นั้นรู้ดีว่าเสี่ยวฉีนั้นคือคนที่รับหน้าที่ดูแลเย่หยวนเป็นการส่วนตัว
เมื่อมันเกิดสายสัมพันธ์เช่นนั้นขึ้นมาแล้ว เขาย่อมจะมั่นใจว่าจะสืบข่าวของเย่หยวนกลับออกมาได้แน่นอน
“เสี่ยวฉี เจ้านั้นเป็นคนฉลาด เจ้ารู้ดีว่าองค์ชายนี้ต้องการอะไร! องค์ชายผู้นี้ทำให้พี่ของเจ้าอยู่สบายได้แต่ก็ทำให้นางต้องตกนรกได้! ชีวิตของนางมันย่อมจะขึ้นอยู่กับคำตอบของเจ้า!” องค์ชายใหญ่กล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
คนอย่างเสี่ยวฉีนี้องค์ชายใหญ่ย่อมจะไม่คิดพูดอ้อมค้อมให้มากาย
ข่มขู่นั้นง่ายที่สุด!
เสี่ยวฉีหน้าซีดลงไปก่อนจะรีบตอบกลับมา “เสี่ยวฉีเข้าใจดี! สงสัยแค่ว่าองค์ชายนั้นต้องการรู้เรื่องใด?”
องค์ชายใหญ่ยิ้มขึ้นเมื่อได้ยิน “ตอนนี้เวลามันก็ผ่านไปได้สามปีแล้วตั้งแต่ที่เย่หยวนนั้นเดิมพันกับราชครูไว้! ข้าอยากจะรู้ว่าเย่หยวนนั้นสั่งเอาสมุนไพรสวรรค์ใดไปบ้างในช่วงสามปีนี้?”
เสี่ยวฉีนั้นเป็นคนรับหน้าที่หาสมุนไพรสวรรค์ที่เย่หยวนต้องการใช้ไปส่ง
เพราะฉะนั้นไม่ว่าเย่หยวนจะหลอมอะไร นางย่อมจะรู้ก่อนเป็นคนแรก
เสี่ยวฉีนั้นเบิกตาขึ้นกล่าว “ในช่วงปีแรกอาจารย์เย่หลอมเพียงแค่โอสถสวรรค์ปรับฐานเท่านั้น! ส่วนสองปีที่ผ่านมานี้เขาได้ขอให้ข้าเอาดอกเกล็ดมังกร ดาวสวรรค์เดิม หอมเมฆาม่วง…”
สมุนไพรที่เย่หยวนสั่งให้จัดการหานั้นเสี่ยวฉีย่อมจะจำมันได้ขึ้นใจและค่อยๆ บอกออกมารายชิ้น
แต่สีหน้าของเซี่ยหัวที่นั่งอยู่กับองค์ชายใหญ่นั้นมันกลับดูแปลกๆ
หลังจากที่เสี่ยวฉีกล่าวออกมาสิ้นแล้วเซี่ยหัวก็ถามขึ้นมา “เจ้าแน่ใจหรือว่ามันใช้แค่สมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายนี้?”
เสี่ยวฉีนั้นพยักหน้ารับ “มีหรือที่เสี่ยวฉีจะกล้ามาพูดจาเหลวไหลต่อหน้าองค์ชายใหญ่และท่านเซี่ยหัว? แท้จริงแล้วมันมิใช่แค่พวกท่านหรอกที่สงสัย แม้แต่คนตระกูลถังเองก็มึนงงกันอย่างมากเช่นกัน”
เซี่ยหัวขมวดคิ้วแน่น “เจ้าเย่หยวนนี่มันคิดจะทำอะไรของมันกันแน่?”
องค์ชายใหญ่ที่ไม่มีความรู้เรื่องการโอสถจึงได้ถามขึ้น “ทำไมหรือ? มันมีอะไรแปลกหรือ?”
เซี่ยหัวตอบกลับไป “สิ่งที่สมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายนั้นใช้หลอมได้มันมีแต่โอสถสวรรค์พื้นๆ สิ้น หากวัดกันที่ความยากแล้วมันคงไม่ได้เหนือล้ำกว่าโอสถสวรรค์ปรับฐานมากมายนัก คุณภาพโอสถสวรรค์ปรับฐานของมันนั้นพัฒนาไปจนถึงระดับเจ็ดได้แล้ว ทั้งอย่างนั้นมันกลับยังเสียเวลาไปกับมัน! หากทำเช่นนี้ต่อไปอย่าว่าแต่ห้าปี ต่อให้จะเป็นห้าสิบปีเองมันก็คงไม่มีทางใดที่มันจะหลอมโอสถฟื้นฟูเทพได้!”
เมื่อองค์ชายใหญ่ได้ยินเช่นนั้นเขาก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น “เจ้าหมอนี่มันคิดรนหาที่ตายหรือ? เวลานี้ยังเหลือเวลาอีกสองปี หรือว่ามันจะเรียนรู้หลอมโอสถฟื้นฟูเทพทัน?”
เซี่ยหัวกล่าวตอบมา “เรื่องนั้นแหละที่ข้ากังวลที่สุด! เจ้าเด็กคนนี้มันคิดจะทำอะไรของมันกันแน่?”
องค์ชายใหญ่ยิ้มกล่าวขึ้นมา “เรื่องนี้ก็ข่าวดีสิ! การหลอมโอสถฟื้นฟูเทพนั้นเดิมทีมันก็มิใช่เรื่องที่จะทำได้อยู่แล้ว! มันนั้นรู้จักแค่วิธีการหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐาน ดูท่ามันคงไม่ได้รู้ถึงความน่ากลัวของโอสถฟื้นฟูเทพ! เวลานี้มันคงกำลังลองหาทางทุกอย่างอยู่แน่!”
เซี่ยหัวหยุดคิดและก็รู้สึกเห็นด้วยกับความคิดนั้น
“เจ้ากลับไปเถอะ ข้าไม่ต้องการให้เจ้าทำอะไรมากมาย แค่รายงานมาก็พอว่าเย่หยวนมันใช้สมุนไพรสวรรค์ใดบ้าง! เข้าใจนะ?” องค์ชายใหญ่สั่งเสี่ยวฉี
เสี่ยวฉีก้มหน้ารับก่อนจะเดินกลับออกไป
…
สองปีต่อมาเย่หยวนก็ยังไม่คิดจะแตะต้องโอสถฟื้นฟูเทพแม้แต่น้อย
มันราวกับว่าเขานั้นได้ลืมเลือนเรื่องนี้ไปสิ้น!
ตอนแรกๆ นั้นเย่หยวนได้หลอมโอสถสวรรค์ปรับฐานขั้นสุดขึ้นมาอีกชุดหนึ่งและคิดจะใช้มันเพิ่มความเข้ากันได้ของตนเอง
แต่ผลที่ได้มันกลับไม่ได้ดีมากนัก
โอสถเม็ดที่สองนั้น ผลที่ได้มันกลับตกลงอย่างเห็นได้ชัด
และหลังจากกินไปถึงเม็ดที่ห้า มันก็เรียกได้ว่าแทบไม่มีผลใดๆ อีกเลย
จนสุดท้ายค่าความเข้ากันได้ของเย่หยวนก็ยังพัฒนาไปได้ไม่ถึงสี่แต้ม
แต่แม้จะพัฒนาได้ไม่มากค่าความเข้ากันได้ไม่ถึงสี่ดีนี้มันก็ได้เสริมความสามารถให้เย่หอย่างมหาศาล
เวลานี้หากเขาคิดฝึกฝนโอสถสวรรค์พื้นฐานอีกสักชนิด ความเร็วของเขามันก็จะพุ่งทะยานขึ้นกว่าก่อนอย่างมาก
เวลานี้ความคิดของเขามันจึงเป็นการฝึกฝนโอสถสวรรค์พื้นฐานทั้งหลายนี้ให้หมดสิ้น
ต่อให้มันจะเป็นโอสถที่ยากขึ้นแม้แต่น้อยเขาก็ไม่คิดจะแตะต้องมัน
ยิ่งเวลาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พ่อลูกตระกูลถังก็ยิ่งกระวนกระวายสุดใจ
แต่พวกเขานั้นก็ไม่กล้าจะเข้าไปขัดการเก็บตัวของเย่หยวน
วันนี้เป็นวันที่ถึงเวลาครบห้าปี เย่หยวนจึงได้ออกมาจากห้องเก็บตัว
“ท่านพี่! ราชครูนั้นได้ตั้งลานประลองไว้ที่ตึกรวมฟ้าและยังส่งคนมาเชิญท่านไปร่วมงานแล้ว!” ถังหยูกล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้ากังวล
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “อ่า งั้นก็ไปกันเถอะ”
ถังหยูนั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน “นี่ท่านพี่ ท่านนั้นไม่เคยแตะต้องโอสถฟื้นฟูเทพเลยตลอดห้าปีมานี้! อย่าว่าแต่โอสถฟื้นฟูเทพ แม้แต่โอสถที่ยากขึ้นมาหน่อยท่านก็ยังไม่คิดฝึกฝนมัน! นี่ท่านคิดจะไปทั้งๆ อย่างนี้จริงหรือ?”
เย่หยวนจึงถามกลับไป “ไม่เช่นนั้นจะทำอย่างไรเล่า?”
ถังหยูกัดฟันตอบกลับไป “ท่านพี่ ข้ารู้ว่าท่านนั้นทำเพื่อเอาคืนให้ตระกูลถัง! ทำไมเราไม่หนีไปด้วยกันเล่า! ทิ้งรากฐานของตระกูลถังลงไปให้สิ้นเลย!”
“ฮ่าๆๆ มันสายไปแล้ว เจ้าเพิ่งมาคิดหนีหรือ? อย่าได้ลืมสิว่าเย่หยวนและราชครูนั้นได้ทำพันธะวิญญาณดั้งเดิมกันไว้!” องค์ชายใหญ่นั้นเดินสาวเท้าเข้ามาด้านใน
องค์ชายใหญ่นั้นเดินมาหยุดหน้าเย่หยวนด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์เย่ องค์ชายผู้นี้มาเพื่อเชิญท่านไปร่วมงาน! วันนี้ท่านพ่อเองก็จะลงมือดูการเดิมพันนี้ด้วยตาตัวเอง! หากท่านชนะได้จริงๆ ท่านพ่อย่อมจะต้องแต่งตั้งท่านเป็นราชครูต่อหน้าทุกผู้คนแน่! แน่นอนว่าข้าไม่คิดว่าท่านจะได้มันหรอก”
เมื่อพ่อลูกถังได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนสีไป
เรื่องราวในวันนี้มันใหญ่เกินจะรับ!
หากเย่หยวนพลาดลงไปแล้วตระกูลถังนั้นคงจบสิ้น!
แต่เย่หยวนนั้นกลับกล่าวขึ้นมา “โอ้? ทำไมถึงคิดเช่นนั้นเล่า?”
องค์ชายใหญ่หัวเราะตอบกลับมา “ห้าปีมานี้ท่านเอาแต่ฝึกฝนโอสถสวรรค์ปรับฐานไปเป็นปีและอีกสี่ปีที่เหลือยังเอาแต่ศึกษาโอสถสวรรค์พื้นฐานชนิดต่างๆ ไม่เคยจะแตะต้องฝึกฝนโอสถสวรรค์ระดับสูงเลย! องค์ชายผู้นี้อยากจะรู้จริงๆ ว่าท่านนั้นจะเอาปัญญาที่ไหนไปหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐาน?”
เมื่อถังหยูได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องกัดฟันแน่นกล่าวขึ้นมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชายรู้เรื่องละเอียดขนาดนั้นได้อย่างไรกัน?”
แต่วินาทีต่อมาสายตาของเขาก็ต้องหันไปมองเสี่ยวฉีก่อนจะตวาดลั่น “เสี่ยวฉี ตระกูลถังข้าดูแลเจ้ามาอย่างดี! เจ้ากลับคิดทรยศตระกูลข้าเช่นนี้หรือ?”
แต่เสี่ยวฉีนั้นตอบมาด้วบใบหน้าเรียบเฉย “ตระกูลถังมันจบสิ้นแล้ว! ท่านจะให้เราเหล่าคนใช้ตายตกไปกับท่านด้วยหรือ?”
ถังหยูร้องลั่นขึ้นมา “ตายเสีย!”
แต่ว่าวินาทีเดียวกันนั้นมันกลับมีสายลมหนึ่งพุ่งอัดร่างของเขาจนลอยลิ่วไป
กระบวนท่าเดียวนี้ก็ทำเอาถังหยูแทบสิ้นใจลง!
หวงจ่าวหยูผู้อยู่เบื้องหลังองค์ชายใหญ่นั้นคือคนลงมือ!
เย่หยวนหรี่ตาลงด้วยจิตสังหารรุนแรง
หวงจ่าวหยูยิ้มตอบกลับไป “เจ้าหนุ่ม ไม่ต้องมามองเฒ่าคนนี้ด้วยสายตาเช่นนั้นหรอก! หากวันนี้เจ้าทำสำเร็จเฒ่าคนนี้ย่อมจะมากราบขอโทษแน่! เพียงแค่ว่าเจ้าคงไม่อาจชนะได้!”
เย่หยวนยิ้มเย้ยกลับไป “เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นเย่ผู้นี้จะรอการขอโทษของเจ้า!”
พูดจบเย่หยวนก็เดินไปประคองร่างของถังหยูและพาเขาไปยังตึกรวมฟ้า