ตอนที่ 1790 ลูกชิ้นปลา
“เมื่อก่อนตอนผู้หญิงคนนี้มาจะอยู่นานไหมคะ?” เหมยเหมยถาม
คุณยายคนอวบเบะปากดูท่าทางไม่ค่อยอยากพูดเท่าไรเลยบอกว่าจะกลับไปทำกับข้าวที่ห้อง เหมยเหมยล้วงเงินธนบัตรหนึ่งร้อยออกจากกระเป๋าแล้วโบกต่อหน้าเธอไปมา คุณยายคนอวบตาวาวมองธนบัตรด้วยสายตาละโมบ
เธอรู้งานดีไม่ต้องรอเหมยเหมยถามเธอก็พูดออกมาหมดเปลือก
“อยู่ไม่นาน อย่างมากก็ไม่เกินสิบห้านาที อีกอย่างมีครั้งหนึ่งฉันได้ยินพวกเขาทะเลาะกันด้วย สรุปแล้วไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีเท่าไรหรอก” คุณยายคนอวบพูดจบก็จ้องเงินในมือเหมยเหมยตาเป็นมัน
เหมยเหมยถามอีกหลายคำถามซึ่งได้คำตอบตามข้อมูลที่เสี่ยวอวิ๋นสืบมาซึ่งไม่พบข้อมูลอะไรใหม่ ๆเลย
เธอยื่นธนบัตรใบร้อยให้คุณยายอีกคนและไม่ได้เอาเปรียบคุณยายคนอวบคนนี้แต่อย่างใดพลางล้วงหยิบอีกใบหนึ่งมา อย่างน้อยก็ได้เบาะแสเพิ่มขึ้นเงินสองร้อยไม่ถือว่าสูญเปล่า
ยามเดินถึงชั้นล่างก็ปะทะกับคู่หูตำรวจผู้กองหลินพอดิบพอดี ผู้กองหลินยิ้มทักทาย “คุณจ้าวดูท่าทางสนใจคดีนี้มากนะครับ!”
“แน่นอน โอหยางสยงเป็นพนักงานราชการของแผ่นดินใหญ่จะตายฟรีไม่ได้ หวังว่าผู้กองหลินจะไขคดีได้ในเร็ววันนะคะ” เหมยเหมยพูดตอบกลับอย่างเป็นทางการ
ตำรวจหญิงแค่นเสียงเบา ๆแล้วพูดพึมพำ “ไม่แน่คุณนั่นแหละฆาตกร”
จะบังเอิญขนาดนี้ได้อย่างไร?
จ้าวเหมยเพิ่งมาถึงฮ่องกงคนที่ไม่ถูกกับเธอล้วนเสียชีวิตกันหมด อย่าคิดว่าเธอไม่รู้ว่าจ้าวเหมยเคยมีเรื่องบาดหมางใจกับสองคนนี้มาก่อนนะ
“คนเรากินข้าวได้ตามใจชอบแต่คำพูดจะพูดตามใจอยากไม่ได้นะคะ สายตาของผู้กองหลินที่ใช้เลือกลูกศิษย์ไม่ค่อยดีเท่าไรเลยนะคะ!” เหมยเหมยส่ายหน้าแล้วเดินไปยังร้านขายลูกชิ้นปลาอย่างนึกคร้านจะสนใจตำรวจผู้หญิงที่ปั้นหน้าขึงขัง
เสี่ยวอวิ๋นบอกว่าเมื่อก่อนโอหยางสยงจะไปทานลูกชิ้นปลาเจ้านี้ตลอดก็น่าจะได้เบาะแสจากเจ้าของร้านบ้าง
ร้านลูกชิ้นปลาท่าทางขายดีไม่ใช่ย่อย สองสามีภรรยาต่างวุ่นกันมือเป็นระวิงเลยไม่ได้สนใจพวกเขาสักนิด เหมยเหมยให้เสี่ยวอวิ๋นถามกำไรหนึ่งวันของร้านทำเอาเจ้าของร้านงุนงงแต่ก็ตอบกลับแต่โดยดี “ถ้าขายดีหนึ่งวันอาจจะได้กำไรหนึ่งถึงสองพัน ถ้าขายไม่ดีเลยแม้แต่ห้าร้อยหยวนก็หาไม่ได้”
เหมยเหมยดึงธนบัตรหนึ่งพันจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เจ้าของร้าน “ฉันจ่ายหนึ่งพันขอซื้อเวลาคุณหนึ่งชั่วโมง ตอบคำถามฉันไม่กี่คำถามก็พอ”
เจ้าของร้านสะดุ้งตกใจพลางมองพวกเหมยเหมยราวกับตัวประหลาด มีเงินเยอะแล้วไม่มีที่ให้ใช้หรือไง?
ภรรยาเจ้าของร้านกลับฉลาดไหวพริบดียื่นมือไปรับเงินมาทันทีก่อนให้สามีต้อนรับลูกค้ากลุ่มนี้อย่างเดียว ลำพังตัวเธอคนเดียวก็ดูแลร้านได้ พอได้กำลังใจเป็นเงินหนึ่งพันเธองอกแขนออกมาได้อีกตั้งสี่แขน
“ผู้ชายคนนั้นชื่ออะไรฉันไม่รู้ เขาย้ายมาอยู่ที่นี่ไม่ถึงหนึ่งเดือน ดูท่าทางไม่ใช่คนดีอะไรนัก บนตัวก็มีแต่รอยแผล ตอนแรกฉันไม่อยากขายให้เขาด้วยซ้ำ”
เจ้าของร้านไม่ได้ให้ข้อมูลใหม่ ๆเลย เขาบอกเพียงว่าโอหยางสยงมักมาทานลูกชิ้นปลาตอนเที่ยงคืนใกล้จะเก็บร้านเสมอ อีกทั้งยังซื้อกลับไปทานไม่เคยทานข้างนอกด้วย
“ฉันว่าผู้ชายคนนั้นน่าจะเป็นคนติดบัญชีดำที่แอบหนีมาจากฝั่งนั้น กลางวันฉันไม่เคยเห็นเขาออกมาข้างนอกเลย กลางคืนก็ทำท่าทางลับ ๆล่อ ๆเหมือนโจร” เจ้าของร้านกล่าวสรุปแต่กลับพูดถูกเผงทุกอย่าง
เหมยเหมยเริ่มผิดหวังหน่อย ๆที่ไม่ได้เบาะแสอะไรจากเจ้าของร้านเลยแต่เธอยังไม่ยอมแพ้ คิด ๆแล้วก็ล้วงกระดาษปากกาจากกระเป๋าออกมาตวัดปลายปากกาไม่กี่ทีเพื่อวาดรูปโอหยางซานซานซึ่งเหมือนตัวจริงมาก
“เถ้าแก่ รู้จักผู้หญิงคนนี้ไหมคะ?”
“ไม่รู้จัก ไม่สิ เธอเคยมาทานลูกชิ้นปลาที่ร้านฉันหลายครั้ง แล้วยังชมว่าลูกชิ้นปลาที่ฉันทำอร่อยด้วยนะ!” เจ้าของร้านยิ้มใสซื่อ
“ผู้หญิงคนนี้ชอบทานลูกชิ้นปลามากเหรอ?” เหมยเหมยถามอีก
“ใช่ เธอบอกว่าลูกชิ้นปลาร้านฉันอร่อยกว่าร้านอื่น นี่ฉันไม่ได้โม้นะ แต่ว่าสูตรลูกชิ้นปลาจางของเราสืบทอดกันมาสี่รุ่น กฎข้อแรกที่บรรพบุรุษตั้งไว้ก็คือห้ามลดปริมาณ ตอนนี้ทั้งฮ่องกงก็หาลูกชิ้นปลาเนื้อแน่นเท่าร้านจางของเราไม่ได้อีกแล้ว ทั้งหมดนี้ฉันกับภรรยาช่วยกันแยกออกมาทีละเม็ด ๆ ใช้แป้งแค่สามส่วนที่เหลือเป็นเนื้อปลาหมดเลย…”
เจ้าของร้านพูดถึงลูกชิ้นปลาร้านตัวเองก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาฉับพลัน น้ำลายกระเด็นไปทั่วทั้งยังยกมือทำท่าประกอบไปด้วย
………………….
ตอนที่ 1791 ฆาตกรน่าจะเป็นคนคุ้นเคย
ภายหลังดูท่าทางจะไม่ได้ข้อมูลอะไรอีกเหมยเหมยเลยยื่นเงินหนึ่งพันให้เจ้าของร้านไป แต่เจ้าของร้านคนนี้เป็นคนซื่อสัตย์จึงรู้สึกเกรงใจหน่อย ๆ เลยทอดลูกชิ้นปลาสิบกว่าไม้ดึงดันจะให้พวกเหมยเหมยให้ได้
“รับประกันเลยว่าลูกชิ้นปลาร้านฉันอร่อย รับรองว่าคุณทานแล้วต้องอยากจะทานอีกแน่…”
เจ้าของร้านโฆษณาอย่างกระตือรือร้นพลางยัดลูกชิ้นปลาใส่มือพวกเขา เดิมทีเหมยเหมยคิดจะปฏิเสธแต่เซียวเซ่อหยิบหนึ่งไม้มากัดคำโตเลยรับไว้เพื่อเธอทันที
“อร่อย…เถ้าแก่ช่วยใส่ซอสกะหรี่ให้ฉันเยอะ ๆหน่อยได้ไหม ใส่ซอสกะหรี่ให้ทั่วเลย”
สยงมู่มู่รู้ดีว่าเซียวเซ่อเป็นจอมตะกละ พอเห็นเธอชื่นชอบขนาดนี้เลยหยิบอีกไม้มาทานก่อนจะตกเป็นทาสในพริบตา ตะโกนเสียงดัง “ซอสกะหรี่ครึ่งหนึ่ง ซอสหวานอีกครึ่งหนึ่ง”
เหมยเหมยเองก็ถูกพวกเขากระตุ้นให้สนใจขึ้นมาเลยทานลูกชิ้นปลาไปหนึ่งไม้ รสชาติไม่เลวจริง ๆนุ่มละมุนและเด้งสู้ลิ้น เวลากัดก็เหนียวหนึบมาก รสชาติหอมอ่อน ๆของเนื้อปลา น้ำซอสเองก็ปรุงรสได้ดี มิน่าถึงได้ขายดีขนาดนี้
เธอให้เจ้าของร้านทอดอีกสิบกว่าไม้ไว้เก็บไปทานที่บ้านซึ่งแน่นอว่าเธอจ่ายราคาส่วนนี้ด้วย เงินหนึ่งพันนั่นคุยกันไว้แล้วว่าสำหรับถามข้อมูล เงินค่าลูกชิ้นปลาก็ต้องคิดแยกเพราะเธอไม่ได้ขาดแคลนเงินสักหน่อย
มือหนึ่งหิ้วถุงลูกชิ้นปลาถุงใหญ่ขณะที่อีกมือหนึ่งก็กำไว้อีกหนึ่งไม้ ขนาดขึ้นรถแล้วก็ยังทานไม่หยุด เซียวเซ่อกับอู่เชาทานได้รวดเร็วที่สุดกำจัดไปหลายไม้ในเวลาสั้น ๆ
“อร่อยจัง เป็นลูกชิ้นปลาที่อร่อยที่สุดเท่าที่ฉันเคยทานมาเลย พรุ่งนี้ค่อยมาซื้ออีก” พอมีอาหารอร่อยใบหน้าของอู่เชาก็สดใสขึ้นมาทันตา ไม่เหลือใบหน้าขาวซีดอย่างก่อนหน้าอีก
เหมยเหมยค่อย ๆทานช้า ๆโดยใช้สมองทำงานไม่หยุด พอใกล้จะทานหมดหนึ่งไม้ก็เหมือนมีบางอย่างวาบเข้ามาในหัวของเธอเลยรีบปิดตาไล่ความทรงจำเมื่อครู่ช้า ๆ
“ฉันนึกออกแล้ว…”
เหมยเหมยโพล่งขึ้นเสียงดังแล้วทำหน้าดีอกดีใจพลางชี้ไปที่ลูกชิ้นปลาแล้วพูดว่า “ฉันรู้แล้วว่าอะไรคือ ‘ใต้ปลา’”
“อะไร…ฉันก็นึกออกแล้ว…” สยงมู่มู่ชะงักไปในทีแรกแต่ไม่นานก็เข้าใจความหมายของเหมยเหมยแล้วตะโกนพูดขึ้นเป็นเสียงเดียวกับเธอ “มันคือลูกชิ้นปลา!”
“ใช่ ตอนนั้นโอหยางสยงน่าจะรีบมากเขาเลยทันเขียนแค่ส่วนบนของตัวอักษรลูกจึงออกมาเป็นคำว่าใต้ ความจริงเขาอยากเขียนว่าลูกชิ้นปลา” เหมยเหมยพูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
“แต่เขาเขียนลูกชิ้นปลาเพื่อจะสื่อถึงอะไรล่ะ? หรือว่าเขาอยากทานลูกชิ้นปลาสักไม้ก่อนตายเหรอ?” อู่เชาพึมพำคนเดียวก่อนจะโดนสยงมู่มู่ฟาดใส่เต็มฝ่ามือ
“นายคิดว่าเป็นนายหรือไง? วัน ๆคิดแต่เรื่องกิน!”
อู่เชาแค่นเสียงทีหนึ่งแล้วกินลูกชิ้นปลาต่อ ประชาชนถือว่าอาหารเป็นสิ่งสำคัญเทียมฟ้า แล้วชอบกินมันผิดตรงไหน?
“ลูกชิ้นปลาอันนี้ต้องเกี่ยวข้องกับฆาตกรแน่ ๆหรือว่าฆาตกรคือเจ้าของร้านลูกชิ้นปลา? ไม่สิ ๆ จะเป็นไปได้อย่างไร?” สยงมู่มู่พูดจบก็ปฏิเสธทันควันก่อนจะถูกอู่เชากลอกตาใส่ทีหนึ่ง
แต่ละคนเดากันอยู่พักใหญ่ก็เดาไม่ออกว่าลูกชิ้นปลาหมายถึงอะไรเลยอดเศร้าไม่ได้
“ไม่ต้องคิดแล้ว ไขคดีเป็นเรื่องของตำรวจ เราไม่มีความสามารถนั้นหรอก” อู่เชาคิดว่าเพื่อนกำลังหาเรื่องลำบากให้ตัวเอง รั้นที่จะแย่งงานตำรวจอยู่ได้มันน่ากลัวจะตายไป!
เหมยเหมยถอนหายใจเฮือกหนึ่งอย่างไม่พอใจ เธอคิดว่าตัวเองใกล้จะค้นพบความจริงแล้วแต่กลับถูกหมอกม่านบาง ๆบดบังไว้ทำให้เธอไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้
“ฉันคิดว่าฆาตกรคนนี้น่าจะเป็นคนที่ฉันรู้จัก ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ” เหมยเหมยพูดเสียงพึมพำ
สยงมู่มู่กล่าวขึ้นเสียงดังโผงผาง “จะเป็นไปได้อย่างไร? ในฮ่องกงเธอก็รู้จักแค่พวกเราไม่กี่คน จะบอกว่าเราฆ่าโอหยางสยงก็ไม่ได้ เธอมันชอบคิดเหลวไหล”
“แล้วก็มีอีกคนคือ โอหยางซานซาน” อู่เชาพูดแย้งเขาเลยโดนตบหลังศีรษะไปหนึ่งที
…………………….