ตอนที่ 1792 โอหยางซานซานเป็นคนฆ่าเหรอ
“บอกว่านายโง่ให้ตายก็ไม่ยอมรับ โอหยางซานซานจะฆ่าโอหยางสยงได้ไง? หล่อนโง่เหรอ?” สยงมู่มู่ด่ายาวเหยียด
เหมยเหมยเองก็คิดเช่นเดียวกันว่าเป็นไปไม่ได้ ต่อให้โอหยางซานซานไม่ได้ญาติดีกับโอหยางสยงมากแค่ไหนก็ไม่มีทางลงมือฆ่าแน่นอน อีกอย่างฆ่าโอหยางสยงไม่ได้มีผลดีต่อโอหยางซานซานเลย เธอไม่จำเป็นต้องทำเรื่องโง่ ๆแบบนี้
คดีติดชะงักอยู่ตรงนี้ แม้กระทั่งทางตำรวจฮ่องกงยังไม่คิดว่านี่เป็นคดีฆาตกรรมด้วยซ้ำเพราะไม่เจอศพของโอหยางสยง นี่จึงถือว่าเป็นเพียงคดีหายสาบสูญทำเอาคนนึกปวดศีรษะเหลือเกิน
เหมยเหมยกลับถึงบ้านก็อาบน้ำพักผ่อน ช่วงนี้ใช้สมองมากเกินไปเลยปวดศีรษะมาตลอด แต่มีเรื่องติดค้างในใจทำให้เธอหลับไม่ลงสักที เพียงแค่งีบไปครู่หนึ่งแต่อาการปวดศีรษะกลับไม่บรรเทาลงสักนิด
เสี่ยวอวิ๋นมาบอกอีกว่าคุณนายโจวอยากพบเธอสักครั้งบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ
“คุณหนูพักผ่อนอยู่บ้านเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปพบคุณนายโจวเอง” เสี่ยวอวิ๋นเห็นเหมยเหมยสีหน้าไม่ดีเท่าไรเลยไม่อยากให้เธอไป พรุ่งนี้คุณชายหมิงจะมาแล้วถ้าเห็นว่าคุณหนูไม่สบายต้องทำโทษเธอกับเสียวหลี่แน่!
“คุณนายโจวน่าจะมีเรื่องสำคัญเลยหาฉัน ถึงอย่างไรฉันไปสักหน่อยจะดีกว่า”
ปกติคุณนายโจวเป็นคนสันโดษไม่เข้าหาใคร หากไม่มีเรื่องสำคัญคงไม่เป็นฝ่ายมาหาเธอก่อนเลยคิดว่าต้องเป็นเรื่องสำคัญมาก เหมยเหมยทายาหม่องตรงขมับเล็กน้อยเพื่อให้ตัวเองมีสติขึ้นอีกนิด
สถานที่ที่คุณนายโจวนัดเธออยู่ที่ภัตตาคารป้าหวัง สองสามีภรรยาคู่นี้ดูท่าทางจะชื่นชอบภัตตาคารป้าหวังเป็นพิเศษนะ!
“ป้าโจวมีธุระอะไรกับหนูเหรอคะ?” เหมยเหมยยิ้มถาม
คุณนายโจวกวาดตามองเธอครู่หนึ่งก่อนถามด้วยความเป็นห่วง “ฉันว่าสีหน้าเธอดูแย่นะ ไม่สบายเหรอ?”
“แค่ช่วงนี้มีเรื่องเยอะไปหน่อยเลยปวดหัวแต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
เหมยเหมยพูดไปก็นวดขมับไปพลางความรู้สึกเหมือนโดนเข็มทิ่มแทง เธอเองก็แปลกใจเช่นกันว่าเมื่อก่อนต่อให้ปวดศีรษะแค่ไหนก็ไม่ถึงขั้นปวดติดต่อหลายวันแบบนี้ คราวนี้เป็นอะไรกันแน่?
“ปวดหัวจะประมาทไม่ได้นะ ฉันรู้จักหมอฝีมือดีคนหนึ่ง ให้ฉันแนะนำเธอไหม?”
เหมยเหมยปฏิเสธอ้อม ๆ “ขอบคุณความหวังดีของป้าโจวนะคะ แต่หนูทานยาปรับสภาพร่างกายของผู้อาวุโสท่านหนึ่งมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เขาเองก็อยู่ฮ่องกง ไว้หนูไปหาเขาให้ช่วยตรวจดูอาการให้สักหน่อยก็ได้แล้วค่ะ”
เธอเชื่อใจคุณหมอกู้มากกว่าและคิดไว้ว่าถ้าว่างจะไปฝังเข็มกับเขาสักหน่อย เวลาปวดศีรษะขึ้นมาแทบจะเอาถึงชีวิตเลยทีเดียวจะหลับก็หลับไม่สนิท
คุณนายโจวไม่เอ่ยถึงเรื่องหมอฝีมือดีอีก เธอเปลี่ยนประเด็นมาถามถึงเรื่องโอหยางซานซาน “เหมยเหมยเธอเคยรู้จักกับโอหยางซานซานมาก่อนเหรอ?”
เหมยเหมยชะงักไปกึกหนึ่งแล้วพยักหน้าตอบ “รู้จักค่ะ แต่ความสัมพันธ์ของฉันกับเธอไม่ดีนัก ทำไมป้าโจวถึงถามเรื่องนี้ละคะ?”
“เทปอัดเสียงคราวก่อนฉันสั่งให้คนไปตามสืบดูแล้วพบว่าโอหยางซานซานคนนี้มีจุดน่าสงสัยเยอะมาก เพราะจื่อหัวคุยโทรศัพท์ตอนอยู่ที่พักของโอหยางซานซาน ถ้าจะมีใครลงมือทำอะไรสักอย่างก็มีแต่ผู้หญิงคนนี้เท่านั้นแหละ”
คุณนายโจวเว้นช่วงไปอึดใจหนึ่งแล้วพูดต่อ “โอหยางซานซานเคยมีเรื่องบาดหมางกับเธอ หล่อนอาจจะอยากให้เธอซวยถึงได้ส่งเทปอัดเสียงไปให้ตำรวจ”
เหมยเหมยกัดปาก ที่คุณนายโจวพูดก็มีความเป็นไปได้สูงเพราะโอหยางซานซานอยากให้เธอซวยจะแย่อยู่แล้ว แล้วจะไม่เหยียบซ้ำได้หรือ? แต่ปัญหาคือ–
“ป้าโจว ป้าเคยคิดบ้างไหมคะว่าโอหยางซานซานคงไม่รู้ล่วงหน้าว่าหร่วนหวาไฉ่จะตาย แล้วเธอจะเตรียมอัดเสียงล่วงหน้าได้อย่างไร?”
คุณนายโจวอมยิ้ม ดูท่าทางยากจะคาดเดาความคิด “เธอลองคิดดี ๆอีกทีสิ”
เหมยเหมยสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะนึกถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่งเลยถามเสียงตกใจ “ป้าโจวหมายถึงโอหยางซานซานเป็นคนฆ่าหร่วนหวาไฉ่? เพื่อโยนความผิดมาให้หนูงั้นเหรอคะ?”
“ฉันเคยไปถามที่สถานีตำรวจมาก่อน ข้อสงสัยของฆาตกรที่ทางตำรวจคิดไว้มันสอดคล้องกับลักษณะของโอหยางซานซานทุกอย่าง อีกอย่างฉันก็ไปสืบประวัติการเดินทางวันนั้นของหล่อนมาแล้ว เธอเคยปรากฏตัวแถวนั้นจริง ๆ”
คุณนายโจวดูท่าจะมั่นใจแล้วว่าโอหยางซานซานคือฆาตกรแต่เหมยเหมยกลับรู้สึกมีบางจุดทะแม่ง ๆ เธอไม่พูดอะไรต่อแค่หลับตาครุ่นคิด
…………………………
ตอนที่ 1793 ขนมเปี๊ยะไส้ถั่วลิสง
เหมยเหมยคิดจนปวดศีรษะมากกว่าเดิม ขมับศีรษะเต้นตุบ ๆ เธอสั่งให้บริกรเอาผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นมาหนึ่งผืนแล้วทาบไว้ตรงขมับ พอรู้สึกสบายขึ้นแล้วระบบความคิดก็ทำงานชัดเจนขึ้น
“ไม่ใช่ค่ะ ป้าโจว ป้าพูดไม่ถูก”
เหมยเหมยคัดค้านสิ่งที่คุณนายโจววิเคราะห์ “ลุงหัวโทรหาหนูเป็นการตัดสินใจกะทันหัน หนูจะพูดอะไร ลุงหัวจะพูดอะไร โอหยางซานซานไม่มีทางรู้เลยฉะนั้นที่เธอดักฟังไม่ใช่เพื่อจัดการหนูหรอกค่ะ!”
คุณนายโจวสีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน เธอฉลาดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วพอเหมยเหมยเตือนสติก็คิดได้อย่างรวดเร็ว ใจหล่นวูบพลางกัดฟันพูด “นังแพศยา ฉันไม่ปล่อยไว้แน่!”
เธอรู้สึกตั้งแต่แรกแล้วว่าโอหยางซานซานมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง ตอนนี้ก็ยิ่งมั่นใจว่าไม่แน่ยัยนี่อาจเป็นหนอนบ่อนไส้ที่ศัตรูของโจวจื่อหัวส่งตัวมา เธอจะชะล่าใจไม่ได้
“ป้าโจวช่วยเตือนลุงหัวที ให้เขาระวังโอหยางซานซานไว้ให้ดี หนูรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไปจนน่าแปลก”
คุณนายโจวเริ่มสนใจขึ้นมาเลยถามว่าแปลกไปตรงไหน
เหมยเหมยจึงเริ่มเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงของโอหยางซานซาน “หนูรู้สึกว่าเหมือนเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน หนูขอพูดอะไรที่ไม่น่าฟังหน่อยแล้วกันค่ะ จากภูมิหลังครอบครัวของโอหยางซานซานเธอไม่มีความจำเป็นใด ๆที่จะต้องย่ำยีตัวเองโดยการมา…กับลุงโจว อีกอย่างเมื่อก่อนเธอเป็นคนคาดหวังสูง คนปกติทั่วไปไม่มีทางเข้าตาเธอแน่”
คุณนายโจวเองก็คิดไม่ถึงว่าโอหยางซานซานจะมีภูมิหลังครอบครัวแข็งแกร่งขนาดนี้ ผู้หญิงที่ไม่ขาดแคลนหน้าตาพื้นฐานครอบครัว ประวัติการศึกษาแบบนี้ เธอเองก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมถึงต้องมาอยู่กับโจวจื่อหัว?
“ฉันจะส่งคนคอยติดตามโอหยางซานซานดูว่าพอจะจับพิรุธเธอได้หรือเปล่า”
“ทักษะการต่อสู้ของโอหยางซานซานดีไม่หยอก ป้าโจวต้องส่งคนที่ต่อสู้เก่งหน่อยไปตามสืบ” เหมยเหมยพูดเน้นย้ำ
คุณนายโจวขอตัวกลับก่อนด้วยสีหน้าร้อนรนใจ เหมยเหมยถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่งทำได้อย่างคุณนายโจวนี่มันน่าสงสารยิ่งกว่าคนโง่เขลาเสียอีก ผู้ชายไปหาชู้รักเลี้ยงเมียน้อยอยู่นอกบ้านแต่เธอกลับต้องคอยมาตามล้างตามเช็ดทีหลัง
จะขมขื่นขนาดไหนนะ!
เหมยเหมยปวดศีรษะอย่างรุนแรงเลยให้บริการเสิร์ฟชาร้อนหนึ่งกา เธออยากดื่มก่อนกลับสักหน่อยแต่ดันเกิดเรื่องบังเอิญขึ้น คุณนายโจวเพิ่งกลับไปโจวจื่อหัวกับโอหยางซานซานก็ตามหลังมาทันที
“เหมยเหมยก็มาดื่มชาเหรอ? บังเอิญจริง ๆนั่งด้วยกันเถอะ!” โจวจื่อหัวไม่รอให้เหมยเหมยปริปากก็สั่งบริกรเสิร์ฟของว่าง
“ที่นี่มีขนมเปี๊ยะไส้ถั่วลิสงไหม?” เหมยเหมยถามบริกร ทั้ง ๆที่ปวดศีรษะมากแต่จู่ ๆเธอก็นึกอยากทานขึ้นมาแถม และความต้องการนั้นก็มีมากเสียด้วย
“มีครับ คุณหนูโปรดรอสักครู่” บริกรนอบน้อมอย่างมากไม่เสียชื่อภัตตาคารชื่อดัง ไม่นานบริกรก็ยกขนมเปี๊ยะไส้ถั่วลิสงจานเล็ก ๆที่ยังร้อนกรุ่นอยู่มาเสิร์ฟ คิดว่าน่าจะเพิ่งทำเสร็จหมาด ๆ
ถั่วลิสงเหลืองทองอร่ามส่งกลิ่นหอมฉุยถูกสอดไส้อยู่ในขนมเปี๊ยะ ทั้งหอมกรุ่นทั้งกรอบ เพียงดมกลิ่นก็ทำเอาน้ำลายสอแล้ว เหมยเหมยสูดอากาศเข้าเฮือกใหญ่พลางหยิบขนมมาทานหนึ่งชิ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยนเกินไปและหวานกำลังพอดี นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมเข้มข้นของถั่วลิสงอีกด้วย
“อร่อยมากเลย!” เหมยเหมยยกนิ้วโป้งให้บริกรก่อนจะเริ่มทานขนมอย่างเอร็ดอร่อย ขนมหนึ่งคำตามด้วยชาร้อนหนึ่งอึกช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะได้ไม่น้อย
“ขนมมันอร่อยขนาดนั้นเชียว? ฉันลองทานหน่อยแล้วกัน”
โจวจื่อหัวเริ่มอยากทานขึ้นมาเพราะท่าทางการทานของเหมยเหมย เขาเลยหยิบชิ้นหนึ่งขึ้นมาใส่ปาก ก่อนจะพูดชมไม่ขาดปาก “ไม่เลว รสชาติที่ฉันทานตอนเด็ก ๆคือรสชาตินี้เลย ทำเยอะ ๆหน่อยฉันจะห่อกลับบ้านด้วย”
บริกรโค้งตัวรับอย่างนอบน้อมก่อนถอยออกไปสั่งทำขนมเปี๊ยะไส้ถั่วลิสงตามคำสั่ง
โอหยางซานซานมีท่าทีประหลาดคล้ายกำลังหักห้ามอารมณ์บางอย่างแต่ก็ไม่ได้อยากระงับมาก สีหน้าที่ดูสับสบเหลือเกินนั่นสร้างความคุ้นเคยแก่เหมยเหมยอย่างมาก
“คุณโอหยางไม่ทานดูเหรอ? รสชาติดีมากเลยนะ!”
เธอเลื่อนจานขนมเปี๊ยะไส้ถั่วลิสงไปทางโอหยางซานซาน
…………………….