“เอาล่ะ จะยังมีปัญหาอะไรอีกหรือไม่? หากไม่มีแล้วก็ทดสอบกันต่อ!” ผู้พิทักษ์คนนั้นกล่าวขึ้นมา
มันจะยังมีปัญหาอะไรได้อีก?
โดนคนกระโดดข้ามระดับพลังบ่มเพาะมาตบหน้าเช่นนี้แล้ว มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะยังอยู่สร้างปัญหาอีก
ในหมู่คนทั้งหลายนั้นแม้แต่เย่หยวนเองก็ยังต้องเบิกตากว้าง
หยุนชิงคนนี้มันเก่งกาจอย่างแท้จริง
หากอยู่ในระดับเดียวกันแล้วเย่หยวนเองก็คงไม่อาจจะเอาชนะเขาได้ง่ายๆ เช่นกัน
แต่แน่นอนว่าตัวเย่หยวนที่มีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นปลายในตอนนี้ย่อมจะเอาชนะเขาได้อย่างแสนง่าย
แต่เขาก็ได้เห็นชัดเจนว่าพรสวรรค์ที่ว่ากันนี้มันไม่ได้นับรวมถึงความเร็วในการบ่มเพาะใดๆ
เมื่อไม่มีใครคิดขัดแล้วการทดสอบช่วงหลังจากนั้นมันก็ราบรื่นไปด้วยดี
แต่ผ่านไปกว่าร้อยคนแล้วกลับมีคนผ่านการทดสอบพรสวรรค์ไปได้แค่ราวห้าคน
อัตราการผ่านเช่นนี้มันทำให้คนทั้งหลายเริ่มหวั่นใจ
พรสวรรค์ที่ค่ายกลนั้นมันทดสอบออกมา คนส่วนมากจะอยู่กันแค่ที่ระดับเหนือต่ำหรือไม่ก็ด้อยสูง
คนที่ผ่านไปได้นั้นมันมีเพียงหยิบมือ
“เฉิงเฉียน กายเต๋าภูติแสงก่อนกำเนิดระดับสาม พรสวรรค์ล้ำต่ำ ความเข้ากันได้สามสิบห้าแต้ม ผ่าน!” เสียงของผู้พิทักษ์กล่าวประกาศขึ้นมา
การปรากฏขึ้นของพรสวรรค์ล้ำมันทำให้คนทั้งหลายต้องแตกตื่นไปตามๆ กัน
แม้แต่เหล่าผู้พิทักษ์ทั้งหลายที่มาดูเรื่องราวเองก็ยังต้องยื่นหน้าลงมาดู
กายเต๋าก่อนกำเนิดนั้นมันแตกต่างจากกายเต๋าหลังกำเนิดอย่างมาก ความเร็วในการบ่มเพาะรวมไปถึงการบ่มเพาะกฎของพวกเขานั้นจะเหนือล้ำกว่ากายเต๋าหลังกำเนิดไปหลายเท่า
สุดท้ายแล้วเฉิงเฉียนคนนั้นถูกผู้พิทักษ์ปีกม่วงคนหนึ่งรับเข้าไปเป็นศิษย์นิกายในทันที
ภาพนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องจ้องมองดูอย่างอิจฉา
จากนั้นมันก็มีศิษย์คนอื่นๆ ผ่านขึ้นไปอีกหลายคน บ้างถึงขั้นมีกายเต๋าก่อนกำเนิดระดับสี่พรสวรรค์เหนือสูงทำให้เกิดการแย่งชิงอย่างมากล้ำในหมู่ผู้พิทักษ์ด้วยกัน
“มู่หยุน กาย… เต๋าห้าธาตุโดยกำเนิดระดับห้า พรสวรรค์… ล้ำสูง! ความเข้ากันได้… หกสิบแต้ม!” ผู้พิทักษ์คนนั้นกล่าวขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
เขานั้นไม่นึกฝันว่าในการทดสอบรอบนี้มันกลับจะมียอดอัจฉริยะหาตัวจับยากเช่นนี้ปรากฏขึ้นมา!
แต่ครั้งนี้มันไม่มีผู้พิทักษ์คนไหนก้าวออกมาแย่งชิงตัวเขาเลย
เพราะพวกเขานั้นรู้ดีว่ามู่หยุนคนนี้จะไม่มีทางเป็นศิษย์ของพวกเขาแน่!
มู่หยุนหันไปมองดูที่จอแสงด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันโลกหล้า
เขานั้นเอาชนะทุกสิ่งอย่างในภพเบื้องล่างและก้าวขึ้นมาเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์
และเวลานี้เขาก็ยังสามารถยืนเหนือหัวเหล่าวีรบุรุษคนอื่นๆ ได้เช่นกัน!
ผู้พิทักษ์คนนั้นกล่าวขึ้นมา “มู่หยุน! เจ้ามากับข้าก่อน! ข้าจะส่งคนไปรายงานเรื่องของเจ้าให้แก่ท่านเจ้านิกาย!”
“ขอรับ!” มู่หยุนตอบกลับมาก่อนจะเดินไปหยุดหลังผู้พิทักษ์คนนั้นมองดูเรื่องราวเบื้องล่างต่อไป
ครั้งนี้เขาได้ก้าวขึ้นล้ำสวรรค์ไปทันที!
คนทั้งหลายที่ด้านล่างเขานั้นเป็นได้แค่มดปลวก!
เหล่าผู้บรรลุสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างรู้สึกอับอายในความไร้พรสวรรค์ของตัวเองขึ้นมาจับใจ
“ต่อไป!” ผู้พิทักษ์กล่าว
“ขอข้าลองหน่อย” เย่หยวนก้าวออกมาด้านหน้า
“เป็นเขา! เจ้าของสวนเมฆน้อย!”
“ข้าสงสัยเสียจริงๆ ว่าเจ้าหมอนี่ที่สามารถเอาชนะศิษย์อันดับสามของนิกายในได้นั้นจะมากพรสวรรค์สักแค่ไหน!”
“การไปอยู่ในสวนเมฆน้อยได้นั้นตัวเขาย่อมจะมีสถานะสูงไม่น้อยทีเดียว! ได้ยินว่าคนที่นำทางเขากลับมานั้นคือท่านหลัวหยุนชิงด้วย! ข้าว่าอย่างน้อยๆ มันก็ต้องมีพรสวรรค์ล้ำกลางล่ะ!”
…
เมื่อเย่หยวนก้าวออกมานั้นมันย่อมจะทำให้เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นตาม
เวลานี้เหล่าผู้พิทักษ์ทั้งหลายต่างผงะไปอย่างมึนงง
พวกเขานั้นย่อมจะไม่ได้มาสนใจเรื่องราวระหว่างศิษย์ทั้งหลาย
ตราบเท่าที่มันไม่มีใครตายลง พวกเขาก็ย่อมจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของศิษย์
พวกเขานั้นไม่เข้าใจเลยว่าทำไมการปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวนมันถึงได้ทำให้เกิดความแตกตื่นเช่นนี้
ลู่จ้านหยวนเดินเข้ามาหาผู้พิทักษ์คนนั้นพร้อมกล่าว “ศิษย์พี่โม่ หากมันไม่ผ่านการทดสอบข้าขอสังหารมันนะ!”
ลู่จ้านหยวนนั้นเป็นศิษย์โดยตรงของผู้อาวุโสชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยก เขานั้นจึงถูกนับเป็นคนรุ่นเดียวกับผู้พิทักษ์โม่และต่างฝ่ายต่างเรียกกันเป็นศิษย์พี่น้อง
ผู้พิทักษ์โม่หันมามองลู่จ้านหยวนด้วยสายตาแปลกๆ ก่อนจะเห็นได้ถึงจิตสังหารของลู่จ้านหยวนทำให้เขาได้เข้าใจ
เขาพยักหน้ารับออกมา “ได้!”
แต่คำพูดนี้มันไม่ได้ปิดบังใดๆ กันทั้งสิ้น
คนทั้งหลายต่างได้ยินกันทั่ว
สองตาของเย่หยวนหรี่ตาลงด้วยความเย็นเยือก
เรื่องราวก่อนหน้านี้มันเกิดขึ้นมาเพราะเรื่องส่วนตัวแน่นอน
แต่แม้เย่หยวนจะสั่งหลินหลานลงมือไปแต่เขาก็ยังไว้ชีวิต
แต่เวลานี้ตัวลู่จ้านหยวนกลับคิดจะสังหารเขาลงโดยไม่พูดไม่กล่าวใดๆ เรื่องราวมันย่อมจะเปลี่ยนไปแล้ว
ลู่จ้านหยวนหันมามองเย่หยวนด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก “เด็กน้อย เจ้าภาวนาให้ตัวเองมีพรสวรรค์มากพอเถอะ! ไม่เช่นนั้นแล้วความอับอายที่ข้าได้รับนี้มันจะต้องชดใช้ด้วยความตาย!”
เหยาชิงนั้นรีบกล่าวขึ้นมาต่อหน้าผู้พิทักษ์โม่ทันทีที่ได้ยินเรื่องราว “ผู้พิทักษ์โม่ เย่หยวนผู้นี้เป็นคนที่ท่านหลัวนำพามาเอง!”
ผู้พิทักษ์โม่ที่ได้ยินเช่นนั้นต้องผงะไปแต่สุดท้ายก็ยังส่ายหัวออกมา “ศิษย์พี่หลัวคงแค่บังเอิญไปเก็บเขามาเท่านั้น จะใส่ใจมากไม่ได้หรอก! แค่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยคนหนึ่งมันไม่มีทางที่ศิษย์พี่หลัวจะไปสนใจมากมายอยู่แล้ว หากไม่ได้เข้านิกายเขาก็อยู่นอกเหนือจากการปกป้องของกฎ การที่ศิษย์น้องลู่จะสังหารใครมันก็แล้วแต่เขา!”
“เรื่องนั้น…” เหยาชิงได้แต่ยืนกระอักกระอ่วนอยู่ตรงนั้น
ผู้พิทักษ์โม่นั้นหันมามองเย่หยวนและกล่าวขึ้นมา “หากเจ้าไม่อยากตายก็ภาวนาให้ตัวเองมีพรสวรรค์พอแล้วกัน”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “มันคิดจะสังหารข้า แล้วหากข้าสังหารมันเล่า?”
ผู้พิทักษ์โม่นั้นหรี่ตาลงก่อนจะหัวเราะขึ้นมา “มุกเจ้ามันไม่ตลกหรอก!”
“เขาไม่ได้ล้อเล่น! ข้า… เอาชนะเขาไม่ได้จริงๆ! แต่ว่าเจ้าหมอนี่มันชั่วร้ายเป็นคนที่ใช้พิษจัดการผู้คน ข้าไม่อาจจะป้องกันตัวใดๆ ได้เลย!” ลู่จ้านหยวนกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ผู้พิทักษ์โม่นั้นผงะไปเมื่อได้ยินก่อนจะคิดว่าพิษของนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยนั้นมันจะรุนแรงได้สักเท่าใด?
ลู่จ้านหยวนกล่าวขึ้นมาตาม “เพราะฉะนั้นวันนี้ข้าจึงได้ไปเชิญศิษย์พี่ฮั่นมาลงมือแทนแล้ว!”
ศิษย์พี่ฮั่นนั้นคือผู้พิทักษ์ปีกแดง เขานั้นคือศิษย์พี่อาจารย์เดียวกันกับลู่จ้านหยวน
ผู้พิทักษ์โม่นั้นเริ่มสงสัยขึ้นมาในใจว่าเย่หยวนคนนี้มันเก่งกาจขนาดไหนกันแน่?
“ไม่ว่าจะอย่างไรเสียก็ให้เขาเข้าไปทดสอบในค่ายกลก่อนแล้วค่อยว่ากัน!” ผู้พิทักษ์โม่กล่าวขึ้นมา
เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าค่ายกลไป
หลังจากผ่านไปได้ราวสิบอึดใจเย่หยวนก็เดินกลับออกมา
ไม่นานมันก็ปรากฏจอแสงขึ้น
จากนั้นมันก็มีแต่ความเงียบงัน
เย่หยวนมองดูอักษรบนจอแสงนั้นพร้อมยิ้มแห้งๆ ออกมา
แน่นอนว่าผลมันต้องออกมาเป็นอย่างที่เขาคาด!
กายเต๋า – ไม่มี
พรสวรรค์ – ด้อยต่ำ
ความเข้ากันได้ – สี่แต้ม
กายเต๋า พรสวรรค์ ความเข้ากันได้ มันล้วนเป็นระดับที่ต่ำที่สุดเท่าที่ค่ายกลนี้เคยวัดได้
ไม่มีใครเหมือน!
แย่จนทำให้คนที่เห็นต้องขนลุก
คนอื่นๆ นั้นอย่างที่แย่สุดๆ เลยก็ยังมีพรสวรรค์ด้อยกลาง
แต่เขานั้นกลับมีพรสวรรค์ด้อยต่ำ!
แท้จริงตัวเย่หยวนก็เตรียมใจรับมันมาก่อนแล้ว
เพราะว่าเขานั้นเกิดมาในจุดที่แสนต่ำต้อย!
แต่ไม่นานจากนั้นมันก็เกิดเสียงหัวเราะขึ้นรอบด้านจากฝูงชน
คนทั้งหลายนั้นหัวเราะลั่นจนแทบหลั่งน้ำตาออกมา
“หึ! ฮ่าๆๆ… ข้าหายใจไม่ทันแล้ว! ข้าจะหัวเราะจนตายแล้ว! เจ้าหมอนี่… มันกลับด้อยจนถึงขั้นนี้เลยหรือ! ไม่นึกเลยว่าศิษย์พี่หลัวคนนั้นกลับจะมองผิดไปได้!” ลู่จ้านหยวนนั้นหัวเราะขึ้นมาทันทีเมื่อได้เห็น
เขานั้นหัวเราะจนตัวกลมน้ำตาไหลออกมานองหน้า
พรสวรรค์ของเขานี้แย่ที่สุดในโลกหล้า!
ก่อนหน้านั้นเขายังกังวลอยู่ไม่น้อยว่าเย่หยวนที่มีหลัวหยุนชิงนำทางมามันอาจจะมีพรสวรรค์สูงล้ำก็ได้
เวลานี้มันไม่ต้องกังวลเรื่องความสูงล้ำใดๆ แต่มันกลับสร้างประวัติศาสตร์ในเรื่องความต่ำตมแทน
“ข้าจะตายแล้ว! ข้าไม่นึกเลยว่าในหมู่ผู้บรรลุสวรรค์นั้นกลับจะยังมีใครที่ไร้พรสวรรค์ได้ปานนี้!”
“ฮ่าๆๆ… เราก็คิดกันไปว่าเขานั้นอาจจะเป็นสุดยอดคนที่เก็บตัวลึกลับ ที่แท้แล้วเขากลับไร้พรสวรรค์จนถึงปานนี้!”
“ที่เจ้าหมอนี่มันทำตัวลึกลับนั้นคงเพราะว่ากลัวจะเสียหน้าแทนใช่ไหมเล่า? พรสวรรค์ของมันนี่หาได้ยากจริงๆ!”
…
เหล่าผู้บรรลุสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างหัวเราะใส่เย่หยวนอย่างไม่มีหยุด
พรสวรรค์เช่นนี้มันไม่อาจจะเทียบเคียงใดๆ กับตัวพวกเขาได้แม้แต่น้อย!