ตอนที่ 1810 คนโง่เงินเยอะ
“งั้นพวกเราไปตามหาตัวเจ้าของให้เจอ โธ่เว้ย ถ้าหาเจอเมื่อไรจะสูบเลือดของมันให้แห้งเหือดไปเลย!” สยงมู่มู่โมโหมาก
เก่งนักก็มาหาฉันนี่เลย ทำกับผู้หญิงที่อ่อนแอจะเรียกว่าเก่งได้อย่างไร?
“แต่แม้กระทั่งคนที่ลอบทำร้ายเหมยเหมยพวกเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำ แล้วจะหาตัวมาได้อย่างไร?” อู่เชาไม่ได้อยากสาดน้ำเย็นดับความหวังของทุกคนหรอกแต่ไม่ทำก็ไม่ได้
สยงมู่มู่มองไปที่เหยียนหมิงซุ่นอย่างมีความหวัง “นายให้คนของนายไปตามสืบสิ ขุดดินสามฟุตในเมืองหลวงขึ้นมาหาเลย ไอ้สารเลวนั่นมันต้องอยู่ในเมืองหลวงแน่นอน”
หมอกู้ดื่มชาไปหนึ่งอึกก่อนจะพูดอย่างใจเย็นว่า “ก็ไม่เสมอไปหรอก ระยะการฟักตัวของกู่ยาวนานมาก บางทีอาจจะโดนมาเมื่อหลายปีก่อนแล้วก็ได้ นายคิดว่าคน ๆนั้นโง่หรือไง? ทำร้ายคนอื่นแล้วจะนิ่งเฉย ๆอยู่ที่เดิมเหรอ?”
กู่บนตัวของเหมยเหมยถูกเหยียนหมิงซุ่นแพร่ใส่ในช่วงระยะเวลาไม่นานมานี้ แต่เหยียนหมิงซุ่นกลับไม่แน่ใจว่าโดนคนลอบทำร้ายมานานเท่าไรแล้ว!
สยงมู่มู่รู้สึกเหมือนลูกโป่งลมรั่ว ทำสีหน้าบูดบึ้ง อู่เชาปลอบใจเขาเสียงเบาว่า “อย่าใจร้อนมากนักเลย ต้องคิดหาทางออกได้อยู่แล้ว อีกอย่างหมอกู้ก็บอกแล้วว่าเหมยเหมยไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต อย่างน้อยก็ดีกว่าพิษที่ทำลายอวัยวะภายในร่างกายนะ…”
“เจ้าอ้วนบ้าหากนายพูดอีกละก็ เชื่อไหมว่าฉันจะหั่นนายเป็นท่อน ๆเลย!” สยงมู่มู่จ้องเขม็งอย่างโกรธแค้น
อะไรที่เรียกว่าดีกว่าพิษที่ทำลายอวัยวะภายในร่างกาย?
ตายทั้งเป็นไม่รู้จักหรือไง?
อาการปวดหัวของเหมยเหมยที่กำเริบรุนแรงเมื่อวานและวันนี้นั้นมีใครจะทนไหวบ้าง?
ขอบตาของอู่เชาแดงก่ำ เบะปากและพูดว่า “ฉันแค่อยากจะบอกว่าหากยังมีชีวิตอยู่ก็ยังพอมีหวัง ตราบใดที่พวกเราคิดหาหนทางไปด้วยกันจะต้องแก้พิษกู่ของเหมยเหมยได้อย่างแน่นอน”
เซียวเซ่อเงียบมาตลอด เธอตบหลังของอู่เชาเบา ๆแล้วพูดว่า “เจ้าอ้วนพูดถูกแค่มีชีวิตอยู่ก็ยังพอมีหวัง หมอกู้ถ่ายทอดเรื่องกู่พิสดารออกมาให้ฟังแล้ว อันที่จริงตามที่ฉันมองสิ่งที่เรียกว่ากู่น่าจะเป็นพวกแมลงขนาดเล็กจำพวกปรสิต เพราะถูกเจ้าของเลี้ยงด้วยเลือดมาตั้งแต่เล็ก ๆดังนั้นถึงได้พึ่งพาอาศัยเลือดเจ้าของเพื่อการดำรงชีวิต”
เธอเงียบครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า “การแพทย์ในอดีตยังด้อยพัฒนาอาจจะยังไม่มีวิธีการจัดการกับปรสิตพวกนั้นแต่ตอนนี้ก็ไม่แน่ ในเมื่อตอนนี้เรารู้แล้วว่ามันคืออะไร เช่นนั้นเราก็ทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกัน ทั้งหาเจ้าของไปด้วยทั้งกำจัดกู่ไปด้วยเลย”
“ใช่ จัดการตามนี้แหละ ขอเพียงแค่รีบกำจัดกู่ออกจากร่างกายได้ อาการปวดของเหมยเหมยก็จะดีขึ้น” สยงมู่มู่และอู่เชามีความมั่นใจ
หมอกู้ส่งเสียงเยาะเย้ยแต่ก็ไม่ได้พูดจาเหน็บแนมใดออกมา
เมื่อก่อนเขาก็มีความคิดแบบนี้ แต่หลังจากพุ่งชนกำแพงอยู่หลายครั้งสุดท้ายก็ต้องยอมจำนน
ศาสตร์ลึกลับโบราณพวกนั้นเป็นเรื่องที่อธิบายไม่ได้โดยวิทยาศาสตร์
เมื่อเหยียนหมิงซุ่นรู้ว่าตอนถูกพิษกู่หักสวาทแล้ว เขาจึงได้ส่งลูกน้องของเขาไปที่ดินแดนเหมียวเจียงทันทีเพื่อเสาะหาหมอผีฝีมือขั้นสูง หมอกู้ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพิษกู่นักแต่หมอผีฝีมือขั้นสูงกลับรู้ดี บางทีหมอผีอาจจะมีหนทางแก้พิษกู่ได้!
เรื่องนี้คงไม่สามารถจัดการได้ในเร็ววันแน่ โชคดีที่ตอนนี้เขาอยู่ข้างกายเหมยเหมย พิษกู่ไม่สามารถออกอาการได้ชั่วขณะ เขาควรจัดการเรื่องที่สำคัญก่อน
เสี่ยวอวิ๋นรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลานี้ให้ฟัง เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญมากอะไรเหยียนหมิงซุ่นจึงไม่ได้ปิดบังทุกคน ตอนที่หมอกู้ได้ยินชื่อหร่วนหวาไฉ่ก็มีท่าทีตกใจพลางตบหน้าผากอย่างหงุดหงิด
“โอ๊ย ดูความจำของฉันสิ ทำไมถึงได้ลืมเรื่องนี้ไปได้นะ!”
ทุกคนมองเขาอย่างแปลกใจ เป็นบ้าอะไรอีกล่ะ?
หมอกู้ก็ไม่ได้รู้สึกเก้อเขินแต่อย่างใด สำหรับเขามันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ไม่มีอะไรต้องให้พูดถึงสักหน่อย
“คนที่ชื่อหร่วนหวาไฉ่พวกนายไม่ต้องไปสืบหาหรอก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางนี้” หมอกู้พูดจบก็เหลือบมองพวกนั้นจากหางตา อยากจะเห็นทุกคนมีท่าทีตกใจ
แต่ทว่า——
สิ่งที่เขาคิดคงต้องผิดหวังแล้ว
“เชอะ…พวกเรารู้นานแล้ว… เงินล้านดอลลาร์เพื่อจัดการคนชั่วอย่างหร่วนหวาไฉ่นั่น หลานคุณช่างเป็นคนโง่ที่รวยมากจริง ๆ…” ลิ้นอาบยาพิษของสยงมู่มู่คมกว่ามีดเสมอ
หมอกู้กลับห้องของตัวเองไปนอนด้วยความแค้นใจ
เด็ก ๆยุคนี้ไม่น่ารักเอาเสียเลย แถมยังไม่รู้จักให้ความร่วมมือกับคนแก่อย่างเขาอีก
แต่ก็พูดไม่ผิดหรอก จ่ายเงินตั้งมากมายขนาดนั้นเพื่อจัดการไอ้คนต่ำทรามเลว ๆคนหนึ่ง มันช่างโง่จริง ๆ!
……………………………………………
ตอนที่ 1811 ปิดล็อกเท่าที่จะเป็นไปได้
เดิมทีก็เป็นหร่วนหวาไฉ่เองที่รนหาที่ตาย เหมยเหมยได้ประณามการโกหกหลอกลวงของเขาที่มหาวิทยาลัยฮ่องกง เจ้าหมอนี้ก็ยังเอาเรื่องที่เหยียนซินหย่าเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆมาดูถูก หนำซ้ำยังพูดว่าเขาจะฟังแค่คำพูดของเหยียนตานชิงและเซี่ยทิงเทาเท่านั้น ช่างเป็นคนที่น่ารังเกียจเหลือเกิน
คำพูดพวกนี้ถูกเขียนครบไม่มีตกหล่นโดยนักข่าวผู้มีจรรยาบรรณและตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ หลังจากที่เซี่ยทิงเทาและลี่ลี่อันหนีไปฮ่องกงในวันนั้น เพราะเป็นห่วงเหมยเหมยจึงติดตามสถานการณ์ข่าวคราวในฮ่องกงอยู่เสมอ คำพูดของหร่วนหวาไฉ่ไม่สามารถปิดซ่อนพวกเขาได้
เซี่ยทิงเทาโมโหเป็นอย่างมากแต่จนปัญญาที่จะแสดงตัว ลี่ลี่อันจึงคิดแผนการจ้างนักฆ่าไปฆ่าหร่วนหวาไฉ่ เดิมทีเซี่ยทิงเทาไม่อยากใช้วิธีการนี้ แต่แค่นึกถึงการตายที่น่าเศร้าของท่านอาจารย์และอาจารย์แม่ เขาก็พลันโกรธแค้นอย่างรุนแรงจึงเห็นด้วยกับข้อเสนอของภรรยา
ลี่ลี่อันไม่ขัดสนเรื่องเงินทอง ในเมื่อจะลงมือก็ต้องหาคนที่ดีที่สุด ด้วยเหตุนี่หร่วนหวาไฉ่จึงได้รับเกียรติตายด้วยเงื้อมมือนักฆ่าระดับโลกอย่างฮันนิบิลี
สร้างมูลค่าทางสังคมตั้งล้านดอลลาร์!
ก็นับได้ว่าตายอย่างไม่เสียชาติเกิดแล้ว!
เหยียนหมิงซุ่นถามเสี่ยวอวิ๋นเสียงต่ำ “ตอนที่หร่วนหวาไฉ่ตาย โอหยางซานซานก็เคยปรากฏตัวละแวกนั้นเหมือนกันเหรอ?”
“ใช่ค่ะ คุณนายโจวได้ให้คนสืบหาเบาะแสการเดินทางของโอหยางซานซานจึงพบว่าเธออยู่ใกล้ตรอกที่หร่วนหวาไฉ่ถูกฆ่าในช่วงเวลานั้น ฉันเองก็ส่งคนไปตรวจสอบมาแล้วเช่นกัน”
“เธอเป็นคนฆ่าโอหยางสยงเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นถามอีกครั้ง
“ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานแต่ว่าเธอน่าสงสัยมากที่สุด และพวกเรายังแน่ใจด้วยว่าโอหยางซานซานถูกสับเปลี่ยนตัว เธออยู่ข้างกายโจวจื่อหัวเพราะมีแรงจูงใจแอบแฝง”
เหยียนหมิงซุ่นชำเลืองมองสยงมู่มู่ที่มีความลำพองใจอยู่เล็กน้อย พูดชมด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “สมองใช้ได้นี่ ไม่เลว!”
พูดจบเขาก็ไปห้องหนังสือ เสี่ยวอวิ๋นและเสี่ยวหลี่ก็ตามไปด้วย
มีเรื่องบางเรื่องเป็นความลับไม่เหมาะที่จะให้พวกสยงมู่มู่ได้ยิน
สยงมู่มู่นิ่งตะลึง ในไม่ช้าดวงตาก็เป็นประกาย หน้าแดงระเรื่อราวกับว่ากินยากระตุ้นมาเสียอย่างนั้น
พญายมราชชมเชยเขางั้นเหรอ?
แม่เจ้า…มีความสุขกว่าตอนออกอัลบั้มเสียอีก!
เขามันน่าดูถูกจริง ๆ!
เหยียนหมิงซุ่นตรวจสอบข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโอหยางซานซานที่เสี่ยวอวิ๋นสืบหาในห้องหนังสือ และยังบอกจุดที่พวกเหมยเหมยสงสัยทั้งหมด เหยียนหมิงซุ่นท่าทางดูเคร่งขรึมมากเพราะเขาเองก็รู้สึกเช่นเดียวกับเหมยเหมย
โอหยางซานซานคนนี้จะต้องเป็นคนคุ้นเคยที่พวกเขาทุกคนรู้จักแน่นอน อีกทั้งยังเห็นได้ชัดว่ามีความแค้นกับเหมยเหมยอย่างลึกซึ้ง!
“กินถั่วลิสงไม่ได้ ไอคิวสูงมาก อายุอยู่ในระหว่าง 20 ถึง 25 ปีและเป็นผู้หญิงที่หายตัวไปหรือเสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อสองหรือสามปีก่อน อีกทั้งยังมีความแค้นกับเหมยเหมย สืบอ้างอิงตามประเด็นเหล่านี้แล้วรีบเอาข้อมูลมาให้ฉัน” เหยียนหมิงซุนสั่ง
“รับทราบ!”
เสี่ยวอวิ๋นและเสี่ยวหลี่มีเสาหลักที่พึ่งพาได้พลันรู้สึกว่าหมอกหนาทึบได้จางหายไป สมแล้วที่เป็นลูกพี่ หากเปลี่ยนเป็นพวกเขาหลายวันมานี้ก็ยังเหมือนกับแมลงวันไร้หัวที่ไม่รู้ทิศทาง ไม่สามารถจับต้นสายปลายเหตุได้
เหยียนหมิงซุ่นอยู่ในห้องหนังสือคนเดียวตกตะกอนความคิดอย่างช้า ๆ
ทางฝั่งโอหยางซานซานต้องส่งคนไปเฝ้าจับตามอง โจวจื่อหัวเป็นเป้าหมายคนสำคัญที่เขาจะร่วมงานด้วย ดังนั้นจะเป็นอะไรไปไม่ได้
ร่างของโอหยางสยงต้องรีบหาให้พบ ถ้าหาไม่พบก็ต้องแน่ใจว่าเขาตายไปแล้วจริง ๆ ไม่อย่างนั้นกลับไปจะมีหน้าไปรายงานเฮ่อเหลียนชิงอย่างไร
เฉินกั๋วเปียวเจ้าโจรชั่วช้าคนนี้ต้องถูกกำจัด ปี 1997 กำลังใกล้เข้ามาถึงแล้ว ฮ่องกงจะมีคนต่ำทรามแบบนี้ไม่ได้
……
เรื่องนี้ยังไม่ทันจบก็มีอีกเรื่องเข้ามาแทรก เรื่องวุ่น ๆจะมีมากเกินไปแล้วจริงๆ เหยียนหมิงซุ่นนวดขมับ นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกเหนื่อยใจ
เพราะพิษกู่บนร่างกายของเหมยเหมย
คนที่ปล่อยกู่ใส่ก็ถนัดจับทางคนเก่งจริง ๆ ถึงขนาดรู้ว่าอะไรคือจุดอ่อนของเขา!
เหยียนหมิงซุ่นส่งเสียงยิ้มเยาะ ปลุกปั่นจิตใจให้ฮึกเหิม ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะใช้วิธีการใดเขาก็จะใช้วิธีการนั้นรับมือ!
ไม่สนว่าจะเป็นแผนชั่วอะไร เขาจะรับมันไว้ทั้งหมด!
……………………………………………