แต่ว่า เธอกลับใช้ หานมู่ควนที่ความหมายไม่กระโตกกระตากทั้งยังลึกซึ้ง กระทั่งลึกล้ำยาวนาน
เวลานี้ แม้แต่เย่เฉินก็ยังรู้สึกว่าหานเหม่ยฉิงนั้นเจ๋งมาก
แต่ทุกอย่างนี้เป็นเพียงแค่ความคิดภายในใจของตัวเย่เฉินเอง เขาไม่ได้เอ่ยสิ่งเหล่านี้ให้พอลฟัง
แต่เขาเดาว่า พอลที่เป็นคนฉลาดขนาดนี้ก็น่าจะรู้เหมือนกัน ว่าชื่อจีนของเขานั้นแฝงไปด้วยความหมายลึกล้ำอะไรไว้
ส่วนทางนี้ หลังจากเว่ยเลี่ยงลงนามเสร็จก็ถามเขาอย่างนบนอบ “อาจารย์เย่ครับ ตอนนี้บริษัทผลิตยาเว่ยซื่อต้องเปลี่ยนชื่อแล้วใช่ไหมครับ”
เขาคิดว่าบริษัทผลิตยาเว่ยซื่อตอนนี้ มีเย่เฉินเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แล้ว หากเรียกบริษัทผลิตยาเว่ยซื่อต่อไปดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะนัก
เย่เฉินเองก็รู้สึกว่าบริษัทที่ตัวเองคุมอยู่ใช้ชื่อว่าบริษัทผลิตยาเว่ยซื่อ (บริษัทผลิตยาตระกูลเว่ย) ก็ออกจะแปลกอยู่จริง ๆ
ดังนั้นเขาจึงขบคิดชั่วขณะ แล้วเอ่ยว่า “งั้นผมเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนแล้วกัน”
เย่เฉินคิดว่า ตนเองสามารถครองคัมภีร์วิชาแพทย์ที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้มากมายขนาดนี้ได้ ล้วนเป็นคุณงามความดีของตำราเก้าเสวียนเทียน ดังนั้นจึงตั้งชื่อเป็นบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนไปตรง ๆ เลย นับว่าเป็นการแสดงความเคารพต่อตำราเก้าเสวียนเทียนของตนเองด้วย
แม้เว่ยเลี่ยงจะไม่รู้ว่าเก้าเสวียนสองอักษรนี้แสดงถึงอะไรกันแน่ แต่ในเมื่ออาจารย์เย่เอ่ยออกมาแล้ว เขาย่อมไม่มีความเห็นอันใดอีก ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวโดยทันที “อาจารย์เย่ งั้นวันนี้ผมจะไปส่งคำแถลง แล้วจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนนะครับ”
เย่เฉินพยักหน้า เอ่ย “ก่อนหน้านี้คุณบอกผมว่ายารักษาโรคกระเพาะของบริษัทผลิตยาโคบายา สร้างแรงกดดันให้กับคุณมากใช่ไหม”
“ใช่ครับ!” เว่ยเลี่ยงเอ่ยพลางทอดถอนใจ “ตอนนี้บริษัทผลิตยาโคบายาขายดีไปทั่วทวีปเอเชีย สร้างแรงกดดันให้เรามากเลยครับ”
เย่เฉินเอ่ยกับเว่ยเลี่ยง “บริษัทผลิตยาโคบายาน่ะไม่เท่าไรหรอก ผมจะให้ตำรับยารักษาโรคกระเพาะให้คุณแขนงหนึ่ง หลังคุณผลิตมันออกมาแล้ว ก็ตั้งชื่อมันว่ายากระเพาะเก้าเสวียนคุณพกกระดาษกับปากกามาไหม ผมจะเขียนตำรับยาให้ หลังคุณกลับไปก็เร่งผลิตยาตำรับนี้ส่งเข้าสู่ตลาดเลย”
เว่ยเลี่ยงยินดีมากนัก นึกไม่ถึงว่าเย่เฉินจะร่างกำหนดตำรับยาด้วยตนเอง เขารีบหยิบกระดาษและปากกาออกมาส่งให้เย่เฉิน
เย่เฉินคิดชั่วครู่ เลือกตำรับยาลูกกลอนที่มีชื่อว่า “ยาลูกกลอนรักษากระเพาะ” จากในตำราเก้าเสวียนเทียนออกมา
เหตุที่เลือกยาตำรับนี้ ก็เพราะตัวยาในตำรับยานี้เทียบแล้วค่อนข้างหาง่ายกว่า
แม้นี่จะเป็นเพียงตำรับยาชั้นต้นสุดในประเภทรักษากระเพาะของตำราเก้าเสวียนเทียน แต่ว่ายาตัวนี้ก็นับว่าให้ประสิทธิผลอันยอดเยี่ยมต่อคนธรรมดาได้แล้ว
ขอเพียงเว่ยเลี่ยงผลิตยารักษากระเพาะนี้ออกมาได้ การกดข่มบริษัทผลิตยาโคบายาลงไปก็ไม่ใช่ปัญหาแน่นอน
ด้วยเหตุนี้เขาจึงเขียนตำรับยาและสัดส่วนยาลงไป ส่งให้เว่ยเลี่ยง
หลังเว่ยเลี่ยงรับบันทึกมา ได้อ่านตำรับยาที่เขียนเอาไว้ ก็อดประหลาดใจไม่ได้
เว่ยเลี่ยงเคยศึกษายาแผนจีนมาบ้าง อีกทั้งเคยลองขุดคุ้ยตำรับจีนโบราณ ดังนั้นกี่มากกี่น้อยเขาก็พอเข้าใจตำรับยาอยู่บ้าง
แต่เมื่ออ่านตำรับยานี้ของเย่เฉินแล้ว ดูเหมือนว่ามีตัวยามากมายที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับโรคกระเพาะเลย จึงรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง
ตำรับยาที่เย่เฉินยกออกมาเป็นตำรับยาในตำราเก้าเสวียนเทียน ตำราเก้าเสวียนเทียนเดิมทีก็เป็นตำราชั้นเทพชิ้นหนึ่ง ตำรับยาที่ถูกบันทึกลงตำรานี้ได้ย่อมประสิทธิผลชั้นยอด หากคนทั่วไปอ่านเข้าใจได้ก็แปลกแล้ว
แต่แม้เว่ยเลี่ยงจะมองตำรับยานี้ไม่ออกว่าที่แท้แล้วยอดเยี่ยมที่ตรงไหน แต่เขาไม่กล้ามีความสงสัยในตัวของเย่เฉินแม้แต่น้อย
เว่ยเลี่ยงเก็บตำรับยาอย่างดีดุจสิ่งล้ำค่า เตรียมกลับไปจัดการเรื่องการผลิตก่อน ทดลองผลของยาว่าเป็นอย่างไรกันแน่
พอเขากับพอลจัดการเรื่องสัญญากันเสร็จเรียบร้อย ก็เดินทางออกจากบริษัทผลิตยาเว่ยซื่อหรือก็คือ บริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ในยามนี้
พอลเปี่ยมไปด้วยความเคารพนบนอบต่อท่านเทพเย่ข้างกายเขา เขารู้สึกว่าเย่เฉินคนนี้ช่างลึกล้ำยากคาดเดามากจริง ๆ
แค่หยิบ ๆ ตำรับยาหนึ่งออกมา คนอื่นก็ยินดีมอบทั้งบริษัทให้แก่เขาแล้ว
ขอถามหน่อย บนโลกนี้ยังมีใครมีความสามารถเช่นนี้อีกหรือ
มิน่าเล่า เหล่าคนมีหน้ามีตาในจินหลิงจึงล้วนแต่เรียกเขาว่าอาจารย์
อีกทั้ง ยามพวกเขาเอ่ยถึงอาจารย์เย่ขึ้นมา ก็จะเอ่ยคำวิจารณ์เขากันว่า เทพมังกรตัวจริงแห่งโลกมนุษย์!
——–