ในเวลานี้ ที่บรรดาแขกเหรื่อเหล่านี้มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของซ่งหวั่นถิงโดยเฉพาะ ความจริงแล้วคนที่ลึกๆ ในใจกำลังเฝ้ารออยู่ก็คือเย่เฉิน

ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้น ช่วงก่อนที่พ่อลูกตระกูลอู๋มาเมืองจินหลิง ได้เกิดความขัดแย้งกับเย่เฉินเข้า

ในงานแซยิดของท่าซ่ง เย่เฉินถึงขั้นที่หักมือข้างหนึ่งของอู๋ซิน ต่อหน้าผู้คน

ต่อมา เฉินจื๋อข่ายออกหน้าให้ ถึงขั้นที่ขัดแข้งขาของพวกเขา สุดท้ายแล้วพ่อลูกคู่นี้ก็ต้องหนีกลับซูหังอย่างหัวซุกหัวซุน

นับตั้งแต่นั้นมา ทุกคนก็รู้สึกว่าปรมาจารย์เย่เฉินช้างไม่ยำฟ้าไม่เกรงดินเลย แม้แต่ตระกูลอันดับหนึ่งของเจียงหนานก็ไม่อยู่ในสายตา

ตอนนั้นคนมากมายยังกังวลกันอยู่เลย กังวลว่าสุดท้ายแล้วปรมาจารย์เย่จะสู้ตระกูลอู๋ที่ร่ำรวยมีอำนาจไม่ไหว

แต่ที่นึกไม่ถึงคือ ภายในระยะเวลาสั้นๆ ตระกูลอู๋ก็ร่วงตกลงมาจากตำแหน่งตระกูลอันดับหนึ่งของเจียงหนานแล้ว

แถมระยะนี้ตระกูลอู๋ก็เกิดเรื่องขึ้นมากมายเกินไปจริงๆ

เริ่มจากได้รับผลกระทบอย่างมหาศาล เนื่องจากมีชื่อเอี่ยวกับสำนักขอทาน

ต่อมาคือพวกเขาส่งยอดฝีมือไปที่ภูเขาฉางไบอย่างต่อเนื่องทว่าล้มเหลวมาโดยตลอด

หนสุดท้าย แม้แต่ไพ่ตายขนานแท้ของพวกเขา และเป็นที่พึ่งพาสุดท้าย…แปดราชันนภา ล้วนสิ้นชีพไปหมด

ตระกูลอู๋ในตอนนี้ ถึงขั้นที่ไม่อาจอยู่ในระดับของตระกูลชั้นนำได้แล้ว แม้แต่ตระกูลซ่งก็ยังเหนือกว่า ล้วนห่างชั้นกันไกลยิ่ง

ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานว่าทั้งหมดนี้มีสาเหตุมาจากเย่เฉิน แต่ในใจของทุกคน ทุกอย่างนี้นับว่ามีที่มาจากเย่เฉิน

ในสายตาของพวกเขา มีเพียงปรมาจารย์เย่ที่มีความสามารถเช่นนี้

โดยเฉพาะเฉินจื๋อข่าย เขาอยู่ที่เชิงเขาฉางไย ได้เห็นเองกับตาว่าเย่เฉินสังหารแปดราชันนภาด้วยกำลังของเขาเช่นใด

ดังนั้นในเวลานี้ ในสายตาของเขา เย่เฉินคือเทพ เทพที่อยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง!

คนแรกสุดที่เดินเขาไปหาเย่เฉิน ก็คือเฉินจื๋อข่าย

เขารีบก้าวเข้าไปเย่เฉิน ถึงขั้นที่อยากจะคุกเข่าให้เย่เฉินก่อนสักครั้งใจแทบขาด

เนื่องจากวันนั้นที่ภูเขาฉางไบ เย่เฉินได้สร้างความตื่นตะลึงมหาศาลให้แก่เขา ล้มล้างโลกสาสน์ทั้งหมดของเขาไปอย่างสิ้นเชิงเพียงแต่เขายังคงทราบว่าต้องสำรวมท่าที เห็นเย่เฉินแล้วก็เพียงทำท่าทางเกรงอกเกรงใจ เรียกขานอย่างเคารพนบน้อบว่าปรมาจารย์เย่

ถ้าไม่รู้ว่าเขาเป็นคนของนายน้อยตระกูลเย่ คงหลงนึกว่าเฉินจื๋อข่ายก็อยากให้เขาช่วยดูฮวงจุ้ยหรือว่าอื่นใดให้เสียแล้ว

ที่ตามเข้ามาติดๆ เลย ก็คือหวังตงเสวี่ยนในชุดเดรสเซ็กซี่สีเงินยวง

ใรความทรงจำของเย่เฉิน หวังตงเสวี่ยนเป็นสาวสวยที่มีความเป็นมืออาชีพที่ค่อนข้างตัดขาดจากเรื่องทางโลกประเภทนั้น

แต่วันนี้หวังตงเสวี่ยนกลับแต่งตัวเซ็กซี่เย้ายวนอย่างยิ่ง แถมเอยังสลับบุคลิกได้ดีเป็นพิเศษด้วย ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้จักกัน หากว่าได้เห็นหวังตงเสวี่ยนในตอนนี้เข้า คงนึกว่าตัวตนดั้งเดิมของเธอก็เป็นเทพธิดาผู้เซ็กซี่คนหนึ่งอยู่แล้ว

หวังตงเสวี่ยนย่อมทราบถึงฐานะนายน้อยสกุลเย่ของเย่เฉิน แต่ฐานะปรมาจารย์เย่ของเย่เฉินเธอกลับรู้น้อยยิ่ง

อย่างไรก็ตาม ตัวตนของเธอก็ไม่ใช่คนของจากตระกูลใหญ่ของเมืองจินหลิงอันใดอยู่แล้ว และไม่ได้ข้องเกี่ยวคนในวงการซวนซวนพวกนั้นเลย ดังนั้นเรื่องเหล่านั้นที่เย่เฉินกระทำในฐานะปรมาจารย์เย่ สำหรับหวังตงเสวี่ยนแล้ว แทบจะเป็นโลกคนละใบอย่างสิ้นเชิงเลย

หวังตงเสวี่ยนอยากเรียกเขาว่านายน้อยสักคำยิ่งนัก แต่เนื่องด้วยที่นี่มีคนมากมายขนาดนี้ เลยได้แต่เอ่ยเรียกอย่างสุภาพว่า “คุณเย่”

เย่เฉินพยักหน้ายิ้มน้อยๆ ให้เธอแวบหนึ่ง กล่าวว่า “ประธานหวังวันนี้แต่งตัวสวยมากเลยนะครับ นึกไม่ถึงจริงๆ ว่ารองประธานของตี้เหากรุ๊ป ที่แท้ก็โฉมงามที่สวยหยาดเยิ้มขนาดนี้”

ใบหน้าสะสวยของหวังตงเสวี่ยนพลันแดงก่ำ เอ่ยอย่างเขินอาย “คุณเย่ชมเกินไปแล้วล่ะค่ะ”

ว่าไปแล้ว หวังตงเสวี่ยนก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “คุณเย่คะ ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่คุณจะมีเวลามานั่งเล่นที่ตี้เหากรุ๊ปบ้างละคะ?”

คำพูดของหวังตงเสวี่ยนทำเอาเย่เฉินหน้าแดงอยู่บ้าง

เขารู้ดีว่า ในฐานะประธานของตี้เหากรุ๊ป ตนค่อนข้างไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ

—–