ตอนที่เย่เฉินมองไปที่ฉินเอ้าเสวี่ยน ฉินเอ้าเสวี่ยก็อายจนหน้าแดงก่ำไปหมดแล้ว

เดิมทีฉินเอ้าเสวี่ยนเป็นเด็กสาวประเภทที่ทะนงองอาจยิ่งนัก แถมยังร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้ด้วย แต่เดิมจึงไม่มีความอ่อนหวานเขินอายอยู่เลย

แต่เนื่องจากในหัวใจของสาวน้อยเปี่ยมไปด้วยความขวยเขินและตื่นเต้นที่ได้พบชายในดวงใจ เธอจึงเปลี่ยนท่าทีเป็นชวนให้คนรักถนอมขึ้นมาทันที

เย่เฉินยิ้มให้เธอแวบหนึ่ง เอ่ยว่า “เอ้าเสวี่ยนก็มาด้วยเหรอเนี่ย พักนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ?”

ฉินเอ้าเสวี่ยนตอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ “พักนี้…พักนี้สบายดีค่ะ ขอบคุณที่ปรมาจารย์เย่ห่วงใย…”

เย่เฉินพยักหน้านิดๆ เอ่ยกับทุกคน “ทุกคนล้วนไม่ได้พบปะกันมาสักพักแล้ว วันนี้เป็นวันเกิดของคุณหนูซ่งพอดี อีกเดี๋ยวทุกคนต้องดื่มกันหลายๆ จอกหน่อยแล้ว”

ทุกคนรีบตอบรับ “แน่นอนๆ! คืนนี้ต้องดื่มให้มากหน่อยแน่ๆ!”

ในตอนนี้เองซ่งหวั่นถิงเอ่ยอย่างรู้สึกผิดอยู่บ้าง “ปรมาจารย์เย่ รบกวนคุณรอฉันสักเดี๋ยวนะ ทางฉันยังต้องไปทักทายแขกอีกสองสามคนต่อ”

เย่เฉินพยักหน้า “คุณไปจัดการธุระเถอะ ไม่ต้องห่วงผม”

ซ่งหวั่นถิงเอ่ยขอตัวกับทุกคน ทุกคนจึงเชื้อเชิญให้เย่เฉินไปดื่มค็อกเทลภายในห้องจัดเลี้ยงก่อน

เย่เฉินตอบตกลงอย่างผ่อนคลาย โดยเหตุนี้เขาจึงไปยังฟากหนึ่งของห้องจัดเลี้ยงโดยมีทุกคนรายล้อมอยู่รอบข้าง

เนื่องจากเย่เฉินเป็นจุดสนใจของทุกคน ฉินเอ้าเสวี่ยนจึงรู้สึกว่าเอ่ยแทรกเข้าไปไม่ได้อยู่บ้าง เรื่องนี้ทำให้ในหัวใจของสาวน้อยรู้สึกกระสับกระส่ายอยู่บ้าง

เย่เฉินเห็นว่าฉินเอ้าเสวี่ยนคล้ายอยากจะพูดอะไรอยู่หลายครั้ง ถึงขั้นที่ยังไม่ทันได้เปิดปากก็ถูกคนอื่นตัดหน้าไปก่อนก้าวหนึ่งแล้ว จึงเอ่ยถามเธอด้วยรอยยิ้ม “เอ้าเสวี่ยน เธอมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมใช่ไหม?”

เมื่อฉินเอ้าเสวี่ยนได้ยินวาจานี้ ก็พยักหน้ารัวๆ อย่างมีความสุข เอ่ยขึ้นว่า “ปรมาจารย์เย่คะ เอ้าเสวี่ยนมีเรื่องจะคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีเวลาไหมคะ?”

พอพูดจบ นัยน์ตาโตคู่นั้นก็มองดูเย่เฉินอย่างคาดหวังและเว้าวอน

เย่เฉินยังค่อนข้างมีความรู้สึกดีต่อฉินเอ้าเสวี่ยนอยู่

อย่างแรกเป็นเพราะฉินเอ้าเสวี่ยนยืนหยัดพึ่งพาตัวเอง ไม่ได้มีนิสัยเสียแบบลูกคุณจากตระกูลใหญ่เลย

อย่างที่สองคือฉินเอ้าเสวี่ยนเป็นคุณหนูของตระกูลใหญ่ ไม่นึกเลยว่าจะฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากได้ นี่เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ยากมากจริงๆในบรรดาลูกหลานของตระกูลที่มั่งคั่ง

ด้วยเหตุนี้เย่เฉินจึงกล่าวกับเธอไปว่า “ถ้างั้นคุณตามผมออกไปเดินเล่หน่อยเถอะ”

เมื่อฉินเอ้าเสวี่ยนได้ยินเช่นนี้ ก็หยักหน้ารัวๆ อย่างตื่นเต้น

ฉินกังได้เห็นฉากนี้ ก็ยิ้มแป้นอย่างมีความสุข

เขาคาดหวังให้เย่เฉินพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกสาวของตัวเองเป็นพิเศษ จากที่เขาเห็น แม้ว่าการที่ฉินเอ้าเสวี่ยนได้กลายเป็นคนรักของเย่เฉินจะเป็นวาสนาของตระกูลฉิน แต่ก็เป็นวาสนาของฉินเอ้าเสวี่ยนด้วยเช่นกัน

เฉินเสี่ยวจาวเห็นฉินเอ้าเสวี่ยนเดินออกประตูไปพร้อมกับเย่เฉิน ในใจก็นึกหงุดหงิด ริษยาขึ้นมา

ในใจเธอจะไม่คิดมีปฏิสัมพันธ์กับเย่เฉินให้มากขึ้นได้อย่างไร? เพียงแต่ไม่มีโอกาสที่เหมาะสมมาโดยตลอด

อีกอย่าง ตนก็ไม่ได้ใจกล้าเหมือนฉินเอ้าเสวี่ยนด้วย ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ ก็ยังกล้าพูดกับปรมาจารย์เย่ไปตรงๆ

ตอนนี้ เย่เฉินพาฉินเอ้าเสวี่ยนก้าวออกประตู เดินมาถึงสวนของคฤหาสน์สกุลซ่งแล้ว

จากนั้นเขาก็หยุดฝีเท้า มองฉินเอ้าเสวี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางๆ “ว่ามาสิสาวน้อย ครั้งนี้มีเรื่องอะไรอีกล่ะ? คงไม่ใช่ว่าเพื่อนักเรียนในโรงเรียนถูกคนอื่นรังแกอีกแล้วมั้ง?”

ฉินเอ้าเสวี่ยนยิ้มอย่างขวยอาย เอ่ยตะกุกตะกัก “ปรมาจารย์เย่ ที่ครั้งนี้เอ้าเสวี่ยนมาหาคุณอันที่จริง…อันที่จริงคือ…”

————