ตอนที่ 2613 ความหวาดกลัว

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตุบ ตุบ ตุบ!

เย่หยวนยกเท้าขึ้นเหยียบหน้าฮั่นเฉียนหยุนอย่างต่อเนื่องเพื่อระบายความไม่พอใจ

ฮั่นเฉียนหยุนปรากฏรอยเท้าประทับอยู่ทั่วทั้งหน้า

เย่หยวนได้เก็บโค่นสายลมฉบับปรับปรุงมาตั้งแต่ตอนที่ใช้ให้หวู่เฉิงเฉาหลอมครานั้น

และเขาก็ไม่นึกฝันว่าตัวเองจะได้เอามันออกมาใช้นอกแดนเนรเทศเช่นนี้

ตุบ ตุบ ตุบ!

แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเพราะตัวเหวินจิงซวนได้กระโดดขึ้นมาเหยียบหน้าฮั่นเฉียนหยุนตามไปอีกหลายครั้ง

ดูท่าความคับแค้นที่ผ่านมาหลายปีมันจะระเบิดออกมาเมื่อได้นางได้เห็นเย่หยวน

“แฮ่กๆ… ได้เหยียบมันเช่นนี้ช่างสะใจนัก!” เหวินจิงซวนกล่าวขึ้นมา

ได้เห็นสีหน้าโล่งใจของเหวินจิงซวน เย่หยวนกลับรู้สึกแปลกใจจนต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา

สัญชาตญาณของเขามันบอกชัดเจนว่าคงเกิดเรื่องกับนิกายสวรรค์ยุทธมั่นแล้ว

“จิงซวน มันเกิดอะไรขึ้นกับนิกาย?” เย่หยวนถามขึ้น

เหวินจิงซวนหันมาหาเย่หยวนด้วยสีหน้าเหมือนเด็กที่จะฟ้องเรื่องราวให้พ่อแม่ฟัง

เวลานี้ความคับแค้นโศกเศร้าในจิตใจของนางมันได้ปะทุขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุม น้ำตาหลั่งไหลนองหน้าไปทั่ว

พูดเล่าไปเหวินจิงซวนก็มีน้ำตานองหน้าตลอดเวลาจนทำให้เย่หยวนเองก็รู้สึกผิดขึ้นมาจับใจ

เขาไม่นึกฝันว่าพันธมิตรโอสถมันกลับจะทรงอำนาจถึงปานนี้ ถึงขั้นสามารถจัดการนิกายสวรรค์ยักษ์ใหญ่ลงเช่นนี้ได้

แท้จริงแล้วตัวเฟิงซวนยี่เองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน

พันธมิตรโอสถนั้นปกติเวลาแล้วพวกเขาจะไม่เป็นศัตรูกับใครและไม่มีใครคิดเป็นศัตรูกับพวกเขาทำให้พวกเขาแทบไม่เคยแสดงถึงพลังอำนาจออกมา

แต่เมื่อมันปะทุขึ้นมานั้นมันกลับเหนือล้ำความคาดหมาย

เรื่องของฉินชุนนั้นมันกลับทำให้พันธมิตรโอสถที่ซุ่มเงียบมาตลอดเดือดปะทุขึ้นใหญ่ล้ำขุนเขา

การแสดงพลังครั้งนี้ของพันธมิตรโอสถมันทำให้คนทั้งทวีปพิรุณใสต้องตกตะลึง!

เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาได้รู้ว่าพันธมิตรโอสถนั้นได้หยั่งรากลึกลงไปถึงแก่นของดินแดนสวรรค์ห้าแสงแล้ว

แม้แต่ยักษ์ใหญ่อย่างนิกายสวรรค์ยุทธมั่นเองก็ยังไม่อาจจะต้านทานและต้องยอมก้มหัวให้แก่พวกเขาไป

แต่จิตใจของเย่หยวนนั้นมันกลับรุ่มร้อนขึ้นมา

การโจมตีของพันธมิตรโอสถนั้นมันย่อมจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้

แต่การจะให้หลัวหยุนชิงไปก้มหัวเป็นตัวแทนขอโทษและส่งเหวินจิงซวนไปให้พวกมันใช้ตามใจชอบนั้นมันเกินรับไป!

เรื่องของเหวินจิงซวนนั้นหากนางถูกส่งไปให้ฉินชุนจริงๆ แล้วชะตาชีวิตของนางคงมีแต่ความฉิบหายรออยู่

ส่วนหลัวหยุนชิงนั้นหากเขาต้องไปก้มหัวทั้งๆ ที่ไม่ผิดแล้วผลลัพธ์มันก็ย่อมจะเหนือล้ำคำบรรยาย!

หลัวหยุนชิงนั้นเป็นนักดาบที่มีจิตเป็นหนึ่ง ตัวเขานั้นเกลียดชังความอยุติธรรมแค่ไหน? ตัวเขานั้นหัวรั้นดื้อด้านเพียงใด?

เย่หยวนนั้นมั่นใจเลยว่าหลังจากไปขอโทษในครั้งนี้แล้วหลัวหยุนชิงจะต้องบ่มเพาะช้าลงไปเกือบเท่าตัวหรืออาจจะหมดใจในเส้นทางนักยุทธไปเลย

วันหน้าเขาอาจจะหยุดอยู่แค่จุดที่เขายืนอยู่ตอนนี้เท่านั้น

นักดาบนั้นฆ่าได้หยามไม่ได้!

ใครที่คิดขวางต้องถูกฟันลง!

การก้มหัวนั้นมันก็เหมือนการหักดาบของตัวเองลง

และดาบที่หักลงแล้วนั้นมันจะยังมาบ่มเพาะฝึกฝนอะไรได้อีก?

หากหลัวหยุนชิงนั้นอยู่ตัวคนเดียวไม่ต้องสนใจใคร เขาคงบุกเข้าไปสังหารพันธมิตรโอสถจนหมดสิ้นแน่

แต่เพื่อนิกายแล้วเขาย่อมจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องก้มหัว!

แววตาของเย่หยวนนั้นมันแผ่ความเย็นเยือกก่อนจะกล่าวขึ้นมา “ไปกัน!”

เหวินจิงซวนนั้นผงะไปเล็กน้อยก่อนจะถามขึ้นมา “ไปที่ไหนหรือ?”

“ไปช่วยศิษย์พี่เจ้า!”

หลี่โจวนั้นรู้สึกภาคภูมิในความสำเร็จของตัวเองอย่างมาก

เวลานี้นอกจากเขาจะบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่มาได้แล้วจนกลายเป็นศิษย์ของนิกายนอกแล้วเขายังได้คนหนุนหลังที่ยิ่งใหญ่

ฮั่นเฉียนหยุนนั้นเห็นว่าหลี่โจวนั้นภักดีและเลือกเขาเข้าเป็นศิษย์

สำหรับศิษย์นิกายนอกแล้วการได้กราบผู้พิทักษ์เป็นอาจารย์นั้นมันนับได้ว่าเป็นเรื่องที่ทรงเกียรติอย่างมาก

นอกจากเรื่องทั้งสองนั้นแล้วการได้กลั่นแกล้งหลินหลานศิษย์ของเย่หยวนนั้นยังเป็นเรื่องที่เขาสนุกสะใจอย่างมาก

ปัง!

หลี่โจวนั้นเตะหลินหลานจนลอยลิ่วไปก่อนจะหัวเราะขึ้น “เจ้าเฒ่า คลานลอดขาข้าไปแล้ววันนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า! ไม่เช่นนั้นแล้วจะได้ไปนอนติดเตียงอีกหลายเดือนทีเดียว!”

หลินหลานนั้นถูกปลดลงมาเป็นแค่คนรับใช้และถูกผนึกพลังบ่มเพาะสิ้น เวลานี้เขาจึงเหลือพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยและไม่อาจจะต้านทานหลี่โจวใดๆ ได้

หลายปีมานี้หลี่โจวมักจะมาหาเรื่องทรมานหลินหลานเสมอ

หากมิใช่เพราะว่าหลัวหยุนชิงออกตัวปกป้องชีวิตหลินหลานแล้วเขาคงไม่เหลือชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้

แม้ว่าหลัวหยุนชิงนั้นจะเสียพลังอำนาจไปแต่จะอย่างไรพลังฝีมือของเขาก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม มันมิใช่สิ่งที่ศิษย์นิกายนอกอย่างหลี่โจวจะกล้าไปลบหลู่

หลินหลานถ่มน้ำลายออกมาอย่างไม่คิดยอม “สุนัขรับใช้อย่างเจ้าก็คิดจะให้เฒ่าคนนี้ไปก้มหัวลอดขาหรือ? ฝันไปเถอะ! มีปัญญาก็ฆ่าข้าเลยสิ!”

หลี่โจวนั้นเป็นคนรับใช้ที่ได้รับชีวิตใหม่ขึ้นมา คำว่าสุนัขรับใช้นั้นจึงเป็นเหมือนของแสลงของเขา

ได้ยินเช่นนั้นเขาก็พุ่งตัวเข้ามาเตะขาหลินหลานจนหักทันที

“สังหารเจ้า? เจ้าคิดจะยอมตายแล้วลากข้าลงนรกไปด้วยหรือ? หึๆ น่าเสียดายที่หากข้าสังหารเจ้าไปเสียข้าผู้นี้ก็คงจะไม่มีอะไรเล่นต่อไปน่ะสิ!” หลี่โจวหัวเราะเย้ย

หลินหลานนั้นย่อมคิดจะตายลงแล้ว

แต่ละครั้งที่หลี่โจวมานั้นเขามักจะลงมืออย่างหนักหน่วงเสมอๆ

หลินหลานต้องทนทำงานหนักทั้งๆ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่างกายของเขานั้นย่อมจะแทบไม่อาจทนรับไหว

แทนที่จะอยู่อย่างนี้ต่อไปสู้ตายๆ ไปให้จบเสียดีกว่า

หลินหลานไม่คิดว่าเย่หยวนจะตายลงในแดนเนรเทศ

เพราะเขาเห็นเย่หยวนสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมานับครั้งไม่ถ้วนกับตาตัวเอง

เพียงแค่ว่าเขาไม่อาจจะทนรอให้ถึงวันที่เย่หยวนกลับมาได้ไหว

สภาพเช่นนี้มันโหดร้ายเสียยิ่งกว่าความตาย!

วันพรุ่งนี้เหวินจิงซวนจะถูกส่งไปให้พันธมิตรโอสถและหลัวหยุนชิงก็ต้องทนแบกหน้าไปขอโทษอีกฝ่ายด้วย

เขาจึงคิดจะจบชีวิตตัวเองลงเสียเพราะไม่อยากทนเห็นเรื่องราวเช่นนั้น

และหากเขาสามารถลากสุนัขตรงหน้าเขานี้ลงนรกไปด้วยได้มันก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

แต่น่าเสียดายที่หลี่โจวนั้นไม่คิดติดกับ!

หลินหลานพ่นเลือดออกมาก่อนจะกัดฟันแน่น “หลี่โจว เจ้าอย่าได้ใจไป! หลังจากอาจารย์ท่านกลับออกมาเจ้าก็รอนับวันตายไปได้เลย!”

แต่เมื่อหลี่โจวได้ยินนั้นเขากลับหัวเราะลั่นขึ้นมาอย่างไม่คิดจะหยุด “ไอ้ผีตายโหงนั่นมันคงกลายเป็นปุ๋ยในแดนเนรเทศไปแล้ว! เจ้าคิดจะแช่งให้ผีตายโหงมันมาหักคอข้าหรืออย่างไร? ฮ่าๆๆ น่าขันนัก!”

หลี่โจวนั้นหัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งราวกับได้ยินเรื่องตลกที่สุดในชีวิตก็ไม่ปาน

แต่จู่ๆ วินาทีเดียวกันนั้นบรรยากาศโดยรอบมันก็เกิดความเงียบงันน่าขนลุกขึ้นมา

เมื่อเขาเหลือบตาไปมองนั้นร่างกายของเขากลับสะดุ้งตัวขึ้นทันที

เพราะว่าเวลานี้ผีตายโหงนั้นมันกำลังจ้องมองหน้าเขาอยู่

ภาพนี้มันทำให้ตัวเขานั้นแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาขนลุกทั้งร่าง

ตุบ!

หลี่โจวร่วงลงนั่งกับพื้นด้วยความกลัวอย่างสุดใจ

“จ-จ-เจ้า ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้! จ-เจ้าตายไปแล้วมิใช่หรือ?” หลี่โจวกล่าวขึ้นมาด้วยความกลัวสุดขีด

เย่หยวนนั้นมองดูเขาด้วยสายตาที่เย็นเยือกจนบาดหัวใจ

เวลานี้มิใช่แค่เขาเท่านั้นแต่คนทั้งหลายก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเอง

ก่อนนั้นตอนที่เย่หยวนเข้านิกายมาเขาสังหารลู่จ้านหยวนต่อหน้าคนทั้งนิกาย แน่นอนว่าเขาย่อมจะไม่เกรงกลัวใดๆ หลี่โจว

และภาพนี้เองมันก็เป็นการประกาศกับทุกคนว่าเขา เย่หยวนได้กลับมาแล้ว!

เย่หยวนนั้นไม่คิดพูดกล่าวใดๆ จ้องมองดูหลี่โจวอยู่อย่างนั้นก่อนจะค่อยๆ ก้าวเข้ามาใกล้

หลี่โจวนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยปากที่สั่นกลัวอย่างสุดขีด “จ-เจ้า! อย่าได้เข้ามา!”

เย่หยวนไม่คิดสนใจและยังค่อยๆ ก้าวเข้าไป

หลี่โจวนั้นกลัวจนตัวสั่น “ข้า… ข้าคือศิษย์ของผู้พิทักษ์ฮั่นเฉียนหยุน! จ-เจ้าจะฆ่าข้าไม่ได้!”

เย่หยวนไม่คิดสนใจและยังค่อยๆ ก้าวเข้าไป

แต่ละก้าวที่ย่ำเท้าลงนั้นมันเหมือนเป็นการย่ำลงบนหัวใจของหลี่โจว

ขาเขานั้นแทบไม่มีแรงเหลือจะหนีแล้วด้วยซ้ำ!

คนทั้งหลายนั้นสัมผัสได้ชัดเจนว่าเวลานี้เย่หยวนมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่แล้ว!

นึกย้อนกลับไปนั้นตอนที่เย่หยวนยังอยู่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยแม้แต่ตัวลู่จ้านหยวนยังไม่อาจเอาชนะเขาได้ แล้วมีหรือที่ขยะอย่างหลี่โจวมันจะทำอะไรได้?

เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่มีโอกาสจะชนะแน่!

หนึ่งก้าว สองก้าว

ยิ่งเย่หยวนใกล้เข้ามาลมหายใจของคนทั้งหลายก็ยิ่งติดขัด

“อัก… อือ!”

จู่ๆ หลี่โจวก็เงยหน้าขึ้นพร้อมด้วยเลือดที่ไหลออกจากหูตาจมูกปากอย่างไม่มีทีท่าจะหยุดลง

ปัง!

หลี่โจวร่วงลงไปนอนหงายหลังสิ้นใจลงตรงนั้นทันที!

เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นพวกเขาต่างได้แต่อ้าปากค้าง!

นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่คนหนึ่งกลับกลัวเย่หยวนจนตายลง?