ตอนที่ 2614 พี่หลัวสู้หรือไม่

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“ไม่มีทางน่า? หลี่โจวมันจะอ่อนแอได้ปานนี้ถึงขั้นกลัวจนตายลง?”

“มันก็ไม่ได้เกินจริงไปหรอก เพราะว่าคลื่นพลังจากตัวเย่หยวนแข็งแกร่งจนเกินรับจริง! หลี่โจวนั้นมันเคยถูกเย่หยวนจับหักขามาครั้งหนึ่ง และเย่หยวนยังเคยสังหารลู่จ้านหยวนนายเก่าของมันลง เวลานี้เขายังกลับออกมาจากแดนเนรเทศได้อย่างปลอดภัยมันย่อมทำให้ความกลัวแต่เก่าก่อนของหลี่โจวปะทุขึ้นมา! กอปรกับเรื่องที่ว่าหลี่โจวนั้นเป็นคนที่ชอบรังแกคนอ่อนแอแต่หวาดกลัวผู้แข็งแกร่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย แน่นอนว่ามันจะกลัวจนถึงขั้นตายลงได้!”

“ตั้งแต่ที่เข้านิกายมานั้นแต่ละเรื่องที่เย่หยวนทำมันเล็กๆ ที่ไหน! สังหารลู่จ้านหยวน ต่อสู้กับฉินชุนและกดหัวฉือเฟยหยู วางยาคนทั้งนิกายกลับรอดมาจากแดนเนรเทศได้ มีเรื่องไหนบ้างเล่าที่มันไม่เหลือเชื่อ? การเป็นศัตรูกับคนเช่นนี้นั้นคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดแล้ว!”

หลี่โจวกลัวเย่หยวนจนตายลงนั้นมันทำให้เกิดความแตกตื่นขึ้นทั้งยอดพันปักษา

การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของเขานี้มันทำให้คนทั้งนิกายสวรรค์ยุทธมั่นต่างต้องแตกตื่นไปตามๆ กัน

ตั้งแต่ที่เขาเข้านิกายสวรรค์ยุทธมั่นมานั้นแต่ละสิ่งที่เย่หยวนทำไว้มันย่อมมีแต่เรื่องเหลือจะเชื่อได้

เวลานี้เมื่อเขากลับมาอย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้แล้วมีหรือที่คนทั้งหลายจะยังอยู่นิ่งได้? พวกเขาต่างอยากจะรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

แน่นอนว่าสิ่งแรกที่เย่หยวนต้องรับมือย่อมเป็นความคับแค้นของคนทั้งนิกาย!

การถูกพันธมิตรโอสถคว่ำบาตรย่อมทำให้คนทั้งนิกายต่างไม่พอใจกันสิ้นทำให้เวลานี้เย่หยวนกลายเป็นศัตรูของคนแทบทั้งนิกายไป

หากเขาตายลงในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็คือว่าจบกันไป แต่เย่หยวนนั้นกลับมา!

เรื่องนี้มีหรือที่จะปล่อยผ่านไปได้?

แต่คนทั้งหลายต่างไม่มีใครจะเข้าข้างเขา

เพราะเรื่องนี้มันมิใช่สิ่งที่กำลังของคนผู้เดียวจะฝ่าฟันไปได้

ไม่ว่าเย่หยวนจะแข็งแกร่งแค่ไหนมันก็ไม่มีทางเทียบอำนาจกับพันธมิตรโอสถได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายปีมานี้ที่เหล่าคนนิกายสวรรค์ยุทธมั่นต่างได้รับรู้ถึงพลังอำนาจของพันธมิตรโอสถอย่างสุดล้ำ

ในเวลานี้เองที่มันได้มีคลื่นพลังรุนแรงสายหนึ่งพุ่งมายังยอดพันปักษา

เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นสีหน้าของพวกเขาก็ซีดขาวลง

“เย่หยวน ส่งชีวิตของเจ้ามาเสีย!” ฮั่นเฉียนหยุนนั้นร้องลั่นขึ้นมาอย่างคับแค้นสุดหัวใจจนดังลั่นไปทั้งยอดพันปักษา

นี่มันคือพลังแห่งความโกรธแค้นของยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำ

ตอนที่ฮั่นเฉียนหยุนได้สติขึ้นมานั้นเขาก็รู้สึกระบมไปทั้งหน้า

เขานั้นชักเอากระจกขึ้นมาส่องหน้าตัวเองและพบว่าบนใบหน้าของเขานั้นมันมีแต่รอยเท้าประทับอยู่ทุกจุด

ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังประทับรอยเท้าลงไปด้วยปราณเทวะทำให้มันไม่อาจจะลบให้หายไปได้ง่ายๆ

รอยเท้านี้มันมีแต่ต้องรอเวลาให้จางหายไปเอง!

ถูกเย่หยวนเหยียบหน้าเข้าเช่นนี้อีกตัวฮั่นเฉียนหยุนย่อมจะไม่อาจทนรับไว้ได้!

เขาจึงพุ่งตัวมายังยอดพันปักษาตามคลื่นพลังของเย่หยวนอย่างบ้าคลั่ง

ในเวลานี้เย่หยวนกำลังรักษาบาดแผลต่างๆ ให้หลินหลานอยู่

หลินหลานนั้นมีบาดแผลเก่าใหม่ทับซ้อนกันมากล้น ทำให้เย่หยวนต้องใช้เวลาในการค่อยๆ แก้ไขแต่ละแผลไปเรื่อยๆ

ได้ยินเสียงร้องของฮั่นเฉียนหยุนนั้นเย่หยวนก็หันหน้ากลับไปเหลือบตามอง

สายตานี้มันทำให้ฮั่นเฉียนหยุนผงะถอยหลังไปทันที!

ฟุบ!

เขานั้นดีดตัวกลับไปอย่างรวดเร็วในทิศทางที่เขาพุ่งมา

เมื่อได้เห็นเช่นนั้นคนทั้งหลายต่างต้องอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เจ้ามาสังหารคนมิใช่หรือ?

แต่แค่ถูกเหลือบมองก็กลัวจนต้องถอยกลับหากจุกตูดแล้ว?

ขับไล่ศัตรูไปด้วยสายตานั้นมันย่อมจะเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อและอีกฝ่ายนั้นยังเป็นถึงผู้พิทักษ์ฮั่นเฉียนหยุน!

เรื่องนี้มันทำให้เย่หยวนยิ่งกลายเป็นตัวประหลาดในสายตาของผู้คน

มันราวกับว่าระดับพลังบ่มเพาะนั้นไร้ค่าใดๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่หยวน

“เจ้าอยากจะเอาชีวิตข้ามิใช่หรือ? ชีวิตข้าอยู่ตรงนี้ มาเอามันไปเสียสิ!” เย่หยวนกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงเย็นเยือก

หลี่โจวนั้นบอกก่อนตายไปว่าเขานั้นได้กราบฮั่นเฉียนหยุนเป็นอาจารย์

เช่นนั้นที่หลี่โจวกล้ามากลั่นแกล้งหลินหลานจนปางตายนี้ก็คงเพราะมีฮั่นเฉียนหยุนให้ท้ายแล้ว

หากรู้ว่าเรื่องมันเป็นเช่นนี้เขาคงฆ่าสังหารไปตั้งแต่บนยอดเมฆาเคลื่อนแล้ว!

แต่น่าเสียดายที่พิษโค่นสายลมฉบับปรับปรุงนั้นเขาใช้มันไปจนหมดแล้ว เวลานี้เขาจึงทำได้แค่ขู่หลอก

แต่ฮั่นเฉียนหยุนคนนั้นกลับเชื่อมัน

แน่นอนว่าที่ฮั่นเฉียนหยุนกลัวถึงขนาดนี้ก็เพราะแรงกดดันจากตัวของเย่หยวนนั้น เขานั้นมีนิสัยไม่ได้ต่างจากหลี่โจวมากมาย

เขานั้นมีแผลใจที่เคยพ่ายแพ้แก่เย่หยวนมาหลายครั้ง

“เจ้าอย่าได้ใจไป! ในเมื่อเจ้าออกมาแล้วเจ้าก็ต้องรับโทษที่ทำให้นิกายตกต่ำ! ข้าอยากจะรู้เหลือเกินว่าเจ้าจะผ่านมันไปได้อย่างไร!” ฮั่นเฉียนหยุนนั้นกล่าวขึ้น

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าไม่ต้องมากังวลแทนข้าหรอก เจ้าไปกังวลเรื่องของตัวเองเถอะ จิงซวน พาเขาไปพัก”

พูดจบเย่หยวนก็ลุกขึ้นเดินจากไป

ฮั่นเฉียนหยุนร้องขึ้นอย่างตกตะลึง “เจ้าคิดจะหนี!”

เย่หยวนที่ได้ยินต้องหัวเราะตอบกลับไป “หนี? ทำไมข้าต้องหนีด้วย? เรื่องจิงซวน เรื่องหลินลานและเรื่องผู้อาวุโสหลัวนั้นพวกเจ้าศิษย์อาจารย์คงมีส่วนร่วมไม่น้อย? เจ้าล้างคอรอความตายไว้เถอะ!”

พูดจบเขานั้นก็เดินลงเขาไปทันที

ฮั่นเฉียนหยุนนั้นคิดอยากจะลงไปหยุดแต่ก็ไม่กล้าพอ

แต่เย่หยวนนั้นกลับทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง

แน่นอนว่าเวลานี้คนทั้งหลายย่อมจะเดินลงเขาตามเขาไปเพราะอยากรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อ

แต่เป้าหมายที่เย่หยวนมุ่งหน้าไปนั้นมันกลับเป็นยอดปีกเที่ยง

ที่แห่งนี้มันคือเขาที่หลัวหยุนชิงพักอยู่

ในฐานะผู้อาวุโสของนิกายเขานั้นย่อมจะมีเขาส่วนตัว

แต่ว่าบนยอดเขาปีกเที่ยงนี้มันไม่มีบ้านเรือนที่พักหรูหราใดๆ และไม่มีศิษย์เดินทางผ่านไปมามากมายด้วย

มันมีเพียงแค่กระท่อมเล็กๆ ในสวนกลางป่า

ในสวนนั้นมันมีดาบหนึ่งห้อยอยู่อย่างเงียบงัน

หลัวหยุนชิงนั้นกำลังนั่งมองดาบนี้ด้วยความหนักใจ สีหน้าของเขานั้นเปี่ยมไปด้วยความลังเลอย่างยากจะเข้าใจ

หลังจากจ้องมองมันมานานเขาก็ค่อยๆ ยกนิ้วขึ้นลูบตัวดาบนั้น

เขาถอนใจยาวออกมา “ข้าขอโทษด้วยสหายข้า!”

“ผู้อาวุโสหลัว เย่ผู้นี้มาขอรับคำแนะนำ ท่านจะช่วยต่อสู้กับข้าได้หรือไม่?” ในเวลานั้นเองที่มันมีเสียงหนึ่งร้องดังขึ้นมาจากนอกกระท่อม

หลัวหยุนชิงหน้าเปลี่ยนสีผุดตัวลุกขึ้นอย่างดีใจ

เขานั้นพุ่งตัวออกมาดูในสวนและพบว่าเย่หยวนกำลังยืนมองหน้าเขาอยู่ตรงนั้น

“น้องเย่! เจ้ากลับมาแล้ว!” หลัวหยุนชิงยิ้มกว้างออกมา

เย่หยวนนั้นกล่าวถามขึ้นมาด้วยปราณดาบพุ่งพล่าน “พี่หลัว สู้หรือไม่?”

หลัวหยุนชิงนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายก่อนจะส่ายหัวตอบกลับมา “น้องเย่ จากวันนี้ไปข้าจะขอทิ้งดาบลงแล้ว!”

เย่หยวนนั้นเหมือนไม่ได้ยินคำตอบของเขาและกล่าวถามขึ้นอีกครั้ง “พี่หลัว สู้หรือไม่?!”

คลื่นพลังของเขานั้นมันพุ่งพล่านรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนทะลุฟ้า!

คลื่นพลังที่รุนแรงเช่นนี้มันย่อมจะกลายเป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้คนที่อยู่ไม่ไกลออกไป

แม้แต่หลัวหยุนชิงเองก็ยังตกตะลึง

คนที่เพิ่งบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่นั้นกลับจะมีปราณดาบที่เฉียบคมปานนี้ได้อย่างไร?

และราวกับว่ามันสัมผัสได้ถึงปราณดาบของเย่หยวน ดาบที่ห้อยอยู่นั้นมันกลับส่งเสียงสะท้อนออกมา!

หลัวหยุนชิงนั้นผสานเป็นหนึ่งกับดาบ เขาย่อมจะเข้าใจว่าสหายของเขาต้องการอะไร

มันต้องการต่อสู้!

ก่อนหน้านี้เย่หยวนสัมผัสได้ชัดเจนว่าหลัวหยุนชิงคิดจะหักดาบของตนลง

ทำเช่นนั้นความภาคภูมิใดๆ ของหลัวหยุนชิงก็จะหักลงไปด้วย

ไม่มีใครที่จะทำให้เขาก้มหัวลงได้นอกจากตัวเขาเอง!

หากไม่หักมันลง เขาก็จะไม่มีทางก้มหัวลงได้!

มีแต่ต้องหักดาบของตนลงและออกหน้าช่วยเหลือรับความผิดแทนนิกายสวรรค์ยุทธมั่นเท่านั้น

ในหมู่นักดาบนั้นมันมีความเชื่อหนึ่งอยู่ ‘หากเทพขวางก็ฟันเทพ หากพระโพธิสัตว์ขวางก็ฟันพระโพธิสัตว์’

แต่หากไม่มีดาบในมือแล้วพวกเขาก็จะไม่อาจก้าวเดินต่อไปได้แม้แต่ก้าวเดียว!

แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมจะไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเขาจึงไม่คิดจะกล่าวทักทายใดๆ และท้าหลัวหยุนชิงดวลทันที

เสียงของคนที่มองดูอยู่ห่างๆ นั้นต่างแตกออกเป็นหลายด้าน

พวกเขานั้นต่างตกตะลึงในการกระทำของเย่หยวนอย่างถึงที่สุด

“เขานั้นกลับคิดจะท้าหลัวหยุนชิงสู้! นี่เขาไม่รู้หรือว่าหลัวหยุนชิงนั้นเป็นยอดฝีมือแปลงยอดเต๋า?”

“เขาคิดจะช่วยให้หลัวหยุนชิงกลับมายืนได้อีกครั้ง!”

“เจ้านี่มันบ้าจริงๆ! หลัวหยุนชิงนั้นมิใช่ขยะอย่างลู่จ้านหยวน ต่อให้จะกดพลังบ่มเพาะลงมาเขาก็มีฝีมือพอจะสังหารลู่จ้านหยวนในกระบวนท่าเดียว!”

…………………………