เมื่อสัมผัสได้ถึงปราณดาบที่พุ่งทะลวงฟ้านั้นหลัวหยุนชิงก็ต้องก้มหน้าเงียบลง
เขารู้ดีว่าเย่หยวนหวังดีแต่ตัวเขานั้นจะยังเอาจิตใจที่ไหนมาต่อสู้ได้อีก?
เย่หยวนกลับมานั้นเขาจะก้าวข้ามทุกความยากเย็นไปได้หรือ?
หลัวหยุนชิงนั้นคิดแล้วคิดอีกแต่ก็ไม่เห็นถึงความเป็นไปได้ใดๆ
บางทีอีกสักพันปี เย่หยวนอาจจะก้าวขึ้นมานำให้นิกายสวรรค์ยุทธมั่นก้าวล้ำเหนือค่ายกำลังอื่นๆ ได้สิ้น
แต่ตัวเย่หยวนในตอนนี้ไม่อาจจะทำได้!
“พี่หลัว สู้หรือไม่!”
เย่หยวนนั้นถามขึ้นมาเป็นครั้งที่สามด้วยน้ำเสียงที่ดังลั่นราวกับสายฟ้าฟาดจากสวรรค์!
พร้อมๆ กันนั้นปราณดาบของเขามันก็ถูกรีดออกมาจนถึงที่สุด
คนทั้งหลายนั้นต่างหน้าซีดขาวลงเมื่อสัมผัสถึง
“ช่างเป็นปราณดาบที่รุนแรงนัก! ข้าแทบจะไม่อาจลืมตามองข้างหน้าได้เลยแม้แต่น้อย!”
“ดาบของเขาในตอนนี้มันเหนือล้ำกว่าตอนที่เขาสังหารลู่จ้านหยวนไปไม่รู้กี่เท่า! ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะกล้าท้าทายหลัวหยุนชิงเช่นนี้!”
…
ปราณดาบของเขานั้นมันทำให้ศิษย์นิกายสวรรค์ยุทธมั่นทั้งหลายต่างต้องถอยหลังออกไปตามๆ กัน
เวลานี้แม้แต่ตัวหลัวหยุนชิงเองก็ยังต้องตกตะลึง
เพราะว่าเวลานี้ปราณดาบของเขาเองมันก็ค่อยๆ ไหลออกมาจากร่างอย่างไม่อาจควบคุม
แม้ว่าพลังบ่มเพาะของเย่หยวนนั้นมันจะด้อยกว่าเขาไปมากแต่ปราณดาบนี้มันกลับรุนแรงจนทำให้เขาไม่อาจหลบเลี่ยงได้
เคร้ง!
ดาบนั้นตีกับปราณดาบที่ไหลออกมาจากร่างของหลัวหยุนชิง
เสียงของมันนั้นเหมือนราวกับนกที่กำลังจะขาดใจ เป็นเสียงที่เปี่ยมด้วยความสิ้นหวัง!
คนอื่นๆ นั้นอาจจะไม่เข้าใจแต่หลัวหยุนชิงนั้นรู้ดีอยู่แก่ใจถึงความเศร้าโศกอันนี้
เขานั้นหัวเราะขึ้นมาอย่างขื่นขม “ช่างเถอะ ข้าจะตอบสนองความต้องการของเจ้าและเข้าสู้ในสนามรบเป็นครั้งสุดท้าย! มาเถอะ สหาย!”
หลัวหยุนชิงยื่นมือออกมาเรียกดาบนั้นพุ่งเข้ามาหาทันที
เย่หยวนเองก็ยื่นมือออกมาเผยให้เห็นถึงต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ครอบ!
หลัวหยุนชิงหรี่ตาลงทันทีที่ได้เห็น “แปลงยอดเต๋า!”
ฟุบ!
เย่หยวนไม่คิดสนใจท่าทางของหลัวหยุนชิงและพุ่งตัวเข้าไปพร้อมด้วยเอกภพ สองดาบของเขาตัดลงฟันยังร่างของหลัวหยุนชิงทันที
หลัวหยุนชิงนั้นปลดปล่อยจิตต่อสู้สวนกลับมาและยกดาบขึ้นรับ!
แต่ว่าหลัวหยุนชิงนั้นก็ได้ลดพลังบ่มเพาะของตัวเองลงมาอยู่ที่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ขั้นต้นเช่นกัน
เพราะไม่ว่าจะอย่างไรเสียศักดิ์ศรีของเขาก็ทำให้เขาไม่อาจจะเอาเปรียบเย่หยวนได้
แต่วินาทีที่ได้ปะทะกันนั้นตัวเขากลับสัมผัสได้ว่ามันมีอะไรผิดปกติไป
แข็งแกร่ง!
ดาบสองขั้วเอกภพของเย่หยวนนั้นมันการโจมตีราวพายุที่โหมซัดไม่เปิดโอกาสให้ได้หายใจ
เป็นตอนนี้เองที่เขาได้เข้าใจว่าเย่หยวนพัฒนาไปมากแค่ไหนในแดนเนรเทศนั้น!
หลัวหยุนชิงนั้นแปลงยอดเต๋าเพียงแค่หนึ่งกฎ เขานั้นมีเพียงแค่เต๋าดาบในมือและไม่ได้ฝึกฝนวิชาอื่นใด
แต่ก็เพราะว่าเช่นนั้นที่ทำให้ดาบของเขามันหนักแน่นและแข็งแกร่งที่สุด เหนือล้ำกว่าใครๆ!
สิ่งที่เขาแปลงขึ้นมานั้นมันย่อมจะมิใช่สิ่งใดอื่นนอกจากดาบที่เขาถืออยู่ในมือนี้!
ดาบนี้มันอยู่กับเขา พัฒนามาพร้อมกับเขาจนถึงวันนี้
เพราะฉะนั้นทุกสิ่งอย่างในการแปลงของเขามันจึงถูกฝังลงในดาบนี้สิ้น
หลัวหยุนชิงนั้นฟูมฟักดาบนี้มาด้วยจิตวิญญาณของตนเอง!
เต๋าดาบของเย่หยวนนั้นมันคือการอยู่ร่วมกันของยอดเต๋าอย่างสมดุล
แต่เต๋าดาบของหลัวหยุนชิงนั้นมันคือจุดสูงสุด ขีดจำกัดของเต๋าดาบ
เส้นทางที่ทั้งสองเลือกเดินนั้นมันเป็นเต๋าดาบที่แตกต่างกันไปอย่างสุดขั้ว
แต่แปลงเต๋าดาบของหลัวหยุนชิงนั้นมันกลับไม่ได้อ่อนแอกว่าการแปลงสามยอดเต๋าทั่วๆ ไปเลย!
แต่คู่มือของเขานั้นกลับเป็นเย่หยวน!
กอปรกับเรื่องที่ว่าหลัวหยุนชิงนั้นหมดจิตใจจะต่อสู้มาตั้งแต่แรกแล้ว แน่นอนว่าเขาย่อมจะไม่ได้มีฝีมือเทียบเคียงกับหลัวหยุนชิงในอดีตเลยแม้แต่น้อย!
ศึกนี้มันทำให้คนทั้งนิกายสวรรค์ยุทธมั่นต้องอ้าปากค้าง
ไม่มีใครคิดฝันว่านักดาบอันดับหนึ่งแห่งนิกายสวรรค์ยุทธมั่นนั้นกลับจะถูกกดดันจนไร้หนทางตอบโต้เช่นนี้!
เวลาเดียวกันนั้นเองข่าวเรื่องการกลับมาของเย่หยวนมันก็ถูกรายงานขึ้นไปถึงเบื้องบนของนิกาย
เวลานี้เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายรวมไปถึงตัวฉือเฟยหยูจึงได้มุ่งหน้ามายังยอดปีกเที่ยงกันสิ้น
เมื่อพวกเขาได้เห็นแปลงยอดเต๋าของเย่หยวนนั้น เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายต่างก็ต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
คนทั้งหลายมีพลังบ่มเพาะสูงส่ง สายตาของพวกเขาจะต้องดีกว่าเหล่าศิษย์ทั้งหลายไปกี่เท่า?
แปลงยอดเต๋าของเย่หยวนนั้นมันกลับเป็นรูปร่างที่หนึ่งอันสมบูรณ์แล้ว
และยังมิใช่แค่นั้นเพราะว่าแปลงยอดเต๋าของเย่หยวนนี้มันกลับไม่มีจุดอ่อนให้เจาะทะลวงได้เลย!
เรียกได้ว่าในระดับเดียวกันนั้นมันคงไร้เทียมทาน!
ทีแรกเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายนั้นต่างคิดจะลงไปสู้กับเย่หยวนแทนหลัวหยุนชิง
แต่ไม่นานพวกเขาก็ต้องหยุดความคิดนั้นลง
เพราะพวกเขานั้นได้เห็นแล้วว่าหากอยู่ในพลังบ่มเพาะระดับเดียวกัน พวกเขาย่อมจะพ่ายแพ้แก่เย่หยวนอย่างย่อยยับแน่!
แท้จริงแล้วต่อให้พวกเขาจะกดพลังไปอยู่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ขั้นกลางพวกเขาก็คงยังไม่อาจจะเอาชนะเย่หยวนได้!
ก่อนนั้นตอนที่เย่หยวนสังหารลู่จ้านหยวนลงคนทั้งหลายต่างเห็นชัดว่าดาบของเขาไม่ได้น่ากลัวมากล้ำ
เรื่องนี้คนทั้งหลายได้เห็นมันมากับตา
แต่หลังจากเย่หยวนกลับออกมาจากแดนเนรเทศนั้นเขากลับเหมือนได้เกิดใหม่ขึ้น
เวลานี้แม้แต่หลัวหยุนชิงก็ยังไม่อาจจะเอาชนะเขาได้!
หลัวหยุนชิงนั้นคือใคร?
เขานั้นคือนักดาบอันดับหนึ่งแห่งนิกาย!
เขาคนนี้คือจอมดาบอย่างแท้จริง หัวใจของเขานั้นมุ่งมั่นแสวงแต่เต๋าดาบและไม่เคยจะสนใจเห็นใครอยู่ในสายตา!
ก่อนนั้นหลัวหยุนชิงที่เพิ่งบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนั้นกลับเสมอกับฉือเฟยหยูได้ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใช้งานแปลงยอดเต๋าออกมาเสียด้วยซ้ำ
ฝีมือของเขานั้นมันแข็งแกร่งแค่ไหนคงไม่ต้องสงสัยกัน!
แต่ว่าต่อหน้าเย่หยวนนั้นหลัวหยุนชิงกลับไร้ทางต่อต้านใด!
“นี่หรือคือยอดนักดาบอันดับหนึ่งแห่งนิกายสวรรค์ยุทธมั่น? ยอดนักดาบอันดับหนึ่งแห่งนิกายสวรรค์ยุทธมั่นมันกลายเป็นแค่เรื่องตลกไปแล้วหรือ?” คำพูดของเย่หยวนแต่ละคำนั้นมันบาดลึก
เขานั้นรู้ดีว่าหลัวหยุนชิงเก่งกาจกว่านี้มาก
แดนเนรเทศนั้นมันเป็นสถานที่ที่เหมาะสมแก่การฝึกฝนมาก แต่การต้องอยู่ท่ามกลางสิ่งล่อตาล่อใจมากมายของโลกภายนอกนั้นมันกลับยิ่งทำให้คนได้ฝึกฝนจิตใจฝักใฝ่เต๋าดาบได้มากกว่า
เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นของหลัวหยุนชิงต่อวิชาดาบ
เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงคาดเดาว่าในระดับเดียวกันหลัวหยุนชิงย่อมจะไม่ได้อ่อนแอกว่าฮันยี่ไปแม้แต่น้อย!
แต่สภาพของหลัวหยุนชิงในเวลานี้เขากลับมีฝีมือไม่ถึงหนึ่งในสิบของฮันยี่เสียด้วยซ้ำ
หลัวหยุนชิงหน้าเปลี่ยนสีตอบกลับมา “น้องเย่ อย่าได้บังคับข้าเลย! ไม่ว่าดาบของข้าจะแข็งแกร่งเพียงใดมันก็ไม่แกร่งกว่าพันธมิตรโอสถ!”
เย่หยวนตวาดกลับไป “นักดาบนั้นยอมหักไม่ยอมงอ! หากท่านหักดาบของตนลงแล้วมันก็เท่ากับยอมงอก้มหัวให้คนอื่น! ถึงเวลานั้นท่านจะยังมีค่ากับนิกาย มีค่ากับดาบของท่านอีกหรือ? หากเป็นข้า ข้าคงบุกเข้าไปสังหารพันธมิตรโอสถมันทั้งหมดแล้ว! ต่อให้ข้าจะตายข้าก็จะไม่ยอมให้ศัตรูมันได้มาหยามข้าเล่น!”
“เหลวไหล!”
ฉือเฟยหยูร้องลั่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “หลัวหยุนชิงนั้นยอมรับความผิดของตนก็เพราะเขานั้นคิดถึงสภาพโดยรวมของนิกาย! การไปโจมตีพันธมิตรโอสถนั้นมันจะมีแต่ทำให้ถูกตอบโต้กลับมารุนแรงกว่าเก่ามิใช่หรืออย่างไร? คนทรยศอย่างเจ้านั้นคิดจะมาปั่นหัวคนดีๆ หรือ? เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?!”
เย่หยวนจึงตวาดตอบกลับไป “เมื่อก่อนนั้นเราเหล่าผู้บรรลุสวรรค์ต่างเร่ร่อนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง! เรานั้นมีเพียงหัวใจที่ยึดมั่นเท่านั้นจนแยกตัวยึดดินแดนนี้ออกมาได้! ตอนที่สี่ดินแดนสวรรค์นั้นมันรวมตัวกันโจมตีโฉปู้ฉุนได้นำนิกายสวรรค์ยุทธมั่นเรานี้ต่อสู้สังหารศัตรูอย่างกล้าหาญ เรานั้นเคยมีครั้งไหนที่ต้องไปก้มหัวกราบขอโทษศัตรูกัน? เวลานี้เมื่อรากฐานถูกสร้างขึ้นมาแล้วพวกเจ้ากลับลืมความกล้าของตนไปหมดสิ้นหรือ? หากนิกายสวรรค์ยุทธมั่นของเรายอมก้มหัวให้พวกมันวันนี้ วันหน้าพวกเราก็จะไม่มีทางเชิดหน้ากลับขึ้นมาได้อีก! เจ้าเฒ่า คนที่คิดปั่นหัวคนอื่นนั้นมันคือเจ้าต่างหาก คิดให้นิกายต้องเสียหน้าและก้มหัวรับใช้คนอื่นไปตลอดชาติ! เจ้ามันชั่วช้าเหลือเกิน!”
เสียงของเย่หยวนนั้นมันดังลั่นเข้าหูของทุกผู้คนจนทำให้เหล่าผู้อาวุโสหลายคนต้องก้มหน้าลงอย่างละอายใจ
เวลาเดียวกันนั้นดวงตาของหลัวหยุนชิงก็ต้องเบิกกว้างขึ้นเมื่อได้ยิน
“เจ้า!”
ฉือเฟยหยูนั้นโกรธจนหน้าดำหน้าแดงแทบจะคลั่ง
แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดไร้สาระใดๆ ออกมา “เจ้าเฒ่า เจ้าไปพูดกรอกหูเจ้านิกายให้เขาเอาศิษย์ข้าไปขาย หากเรื่องนี้มันสำเร็จไปแล้วข้าอยากจะถามเหลือเกินว่าท่านเจ้านิกายจะยังเอาหน้าที่ไหนไปพบกับบรรพบุรุษได้? วันหน้านั้นหากพันธมิตรโอสถมันอยากได้วรยุทธบ่มเพาะหรือวิชาลับใดๆ ของนิกายเจ้าจะไม่เอามันถวายใส่พานให้หรือ? หรือว่าหากพวกมันอยากได้หัวเน่าๆ ของเจ้านั้นเล่า?”
เย่หยวนหันกลับมาหาหลัวหยุนชิง “วันนี้ท่าน หลัวหยุนชิงยอมหักดาบตัวเองลง! วันหน้าพันธมิตรโอสถมันจะยิ่งไม่ต้องเกรงนิกายเราแม้แต่น้อย! ท่านคิดดูให้ดีเถอะว่าอะไรสำคัญกว่ากัน! หากท่านคิดจะหักดาบตัวเองลงจริงๆ แล้วก็ตายไปด้วยดาบของเย่ผู้นี้เถอะ! ทำเช่นนั้นเย่ผู้นี้จะได้แบกรับเรื่องของพันธมิตรโอสถไว้เพียงแค่ผู้เดียว!”
พูดจบเย่หยวนก็ยกมือขึ้นฟันดาบลงมายังหัวของหลัวหยุนชิง!
ดาบนี้ของเย่หยวนมันไร้ความลังเล เป็นดาบสังหารที่แท้จริง!
เคร้ง!
เย่หยวนปลิวกลับออกมาแต่สีหน้าของหลัวหยุนชิงนั้นมันกลับมามีชีวิตขึ้นอีกครั้ง!
“ขอบคุณน้องเย่มาก! หลัวผู้นี้ลืมตาตื่นแล้ว!”
…………………………